Ep.873 - ดาราเก้าแถว

3/5

Ep.873 - ดาราเก้าแถว

เมื่อตัดสินใจได้ ภายใต้การรับรู้ของฉินเฟิง เสมือนปรากฏมือขนาดใหญ่ เอื้อมลงมาคว้าจับมหาสมุทรกำลังภายในกลุ่มสุดท้าย

ในครั้งแรกที่คิดทำการบีบอัด มือที่ปรากฏขึ้นของฉินเฟิงไม่ต่างจากมือของทารก เมื่อคว้าจับกลุ่มก้อนมหาสมุทร พวกมันกลับไหลย้อยออกมาตามรอยแยกของนิ้วมือ

แต่ตอนนี้ หลังผ่านประสบการณ์หลายครั้ง สองมือของเขากลายเป็นใหญ่ยักษ์ เอื้อมคว้าเป้าหมาย ปลดปล่อยแรงกดดันรุนแรง บีบบี้มหาสมุทรกำลังภายในจนกลายเป็นดวงดาราได้อย่างไม่ยากเย็น

ดาราดวงที่เก้า ฉินเฟิงสามารถสร้างมันได้สำเร็จโดยไม่ต้องอาศัยตัวช่วย!

เก้าดาราเชื่อมโยงกันเป็นหนึ่งเดียว โคจรอยู่ภายในตันเถียน ในสภาวะนี้ ฉินเฟิงไม่จำเป็นต้องเปิดใช้งาน ดวงดาราก็สามารถดูดซับพลังงานระหว่างสวรรค์และปฐพีได้ เริ่มเติบโตอย่างต่อเนื่อง

“แบบนี้ก็หมายความว่าฉันกลายเป็นผู้ใช้วรยุทธโบราณเลเวล S9 แล้วใช่ไหม?” ฉินเฟิงถอนการรับรู้ของตนออกจากตันเถียน มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย เผยรอยยิ้มผ่อนคลายและปิติยินดี

ห้วงอารมณ์ปิติยินดีนี้ ดำเนินต่อไปอีกสักพัก

ไม่นาน ฉินเฟิงผุดลุกจากพื้น กวาดมองหุ่นยนต์เกราะศักดิ์สิทธิ์ชั้นรองที่นอนแน่นิ่งอยู่ทั้งเหนือใต้ออกตก ไม่ว่าจะเป็นเกราศักดิ์สิทธิ์ชั้นรอง หรือหุ่นยนต์ ล้วนเป็นสมบัติล้ำค่า

“รวบรวม!”

พลังสมาธิของฉินเฟิงควบคุมสินสงครามให้ลอยขึ้น จากนั้นจัดแจงส่งพวกเขาเข้าสู่อุปกรณ์รูนมิติ

ครั้งนี้ไป๋หลีไม่ได้ติดตามมาด้วย ดังนั้นฉินเฟิงจึงพกพากระเป๋าเป้สนาม ซึ่งภายในเต็มไปด้วยอุปกรณ์รูนมิติ

สิ่งของต่างๆในดินแดนล่มสลายของเผ่าวิญญาณ ส่วนใหญ่แล้วเป็นเครื่องจักรขนาดใหญ่ ดังนั้นต้องการพื้นที่มาก

ช่วงเวลานี้ ฉินเฟิงถึงค่อยมีเวลาได้สำรวจเมืองใต้ดินเบื้องหน้าเขา

เรียกมันว่าเมือง ไม่ถือเป็นเรื่องเกินจริงแต่อย่างใด พลังสมาธิของฉินเฟิงกวาดออกไป ค้นพบอาคารสูงนับไม่ถ้วนโผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน กลิ่นอายของสุดยอดเทคโนโลยีฟุ้งกระจายไปทั่ว กระทั่งบางชิ้นฉินเฟิงยังไม่รู้จักมัน ไม่ทราบว่ามีไว้ใช้ทำอะไร

อย่างไรก็ตาม ด้วยพลังสมาธิของฉินเฟิง ยังไม่สามารถกวาดไปถึงชายขอบของตัวเมือง คุณสามารถจินตนาการได้ว่าเมืองนี้ใหญ่โตแค่ไหน

แต่เมืองทั้งเมือง ตึกที่โดดเด่นที่สุด คือหอคอยที่ฉินเฟิงเพิ่งโจมตีก่อนหน้านี้

ยิ่งไปกว่านั้น เสียงครั้งสุดท้าย ยังถ่ายทอดออกมาจากหอคอยนี้เช่นกัน

พลังสมาธิของฉินเฟิงกวาดออกไป ช่วงเวลาต่อมา คล้ายกับว่าถูกตรวจพบ พลังสมาธิที่ถ่ายทอดเสียงก่อนหน้านี้ ประกาศออกมาอีกครั้ง

“ปรับใช้ระดับการป้องกันขั้นสูง กำจัดศัตรู!”

ในพริบตา ร่างเก้าร่างพุ่งตัวออกมาจากตัวอาคาร ร่างทั้งเก้าไม่ได้ใหญ่โต พวกมันมีรูปลักษณ์คล้ายคลึงกับมนุษย์ เอาจริงๆพวกมันเหมือนมนุษย์มากทีเดียว บนร่างกายของพวกมัน สวมทับไว้ด้วยเกาะรบสีทองสะท้อนประกายแสงสีขาวน้ำนม

เห็นฉากนี้ ฉินเฟิงถึงขั้นตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะ ก่อนได้สติและนึกออกทันทีว่าพวกมันคืออะไร!

“นี่มันชุดเกราะศักดิ์สิทธิ์!”

ถูกต้อง มิใช่เกราะศักดิ์สิทธิ์ชั้นรอง แต่เป็นชุดเกราะศักดิ์สิทธิ์จริงๆ

ในตอนฉินเฟิงได้รับเกราะศักดิ์สิทธิ์ เนื่องจากแสงบนชุดเด่นชัดเกินไป เขาเลยยัดมันลงในรูบิควิเศษ เพื่อเปลี่ยนรูปลักษณ์ของมัน ทำให้แว่บแรกเกือบจำไม่ได้ว่าชุดเกราะศักดิ์สิทธิ์แบบดั้งเดิมนั้นมีลักษณะเป็นอย่างไร!

ยังไงก็ตาม เขายังคงจดจำกลิ่นอายของชุดเกราะศักดิ์สิทธิ์ได้!

และตอนนี้ สิ่งที่ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าฉินเฟิง กลับเป็นชุดเกราะศักดิ์สิทธิ์มากถึง 9 ชุดอย่างไม่คาดฝัน!

ว่ากันว่า เผ่าวิญญาณรังสรรค์ชุดเกราะศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาทั้งหมด 10 ชุด หากเป็นเช่นนั้น เกรงว่านี่คงเป็น 9 ชุดที่เหลือ

ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่กำลังใช้งานพวกมัน ดันเป็นหุ่นยนต์ที่ขับเคลื่อนโดยจิตวิญญาณ!

นี่ไม่ต่างจากนำพายเนื้อหวานฉ่ำมาเสิร์ฟถึงหน้าฉินเฟิง

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ฉินเฟิงก็ไม่ลังเล เริ่มเคลื่อนไหวทันที

ชุดเกราะศักดิ์สิทธิ์ทั้งเก้าล็อคเป้าฉินเฟิง แขนหุ่นยนต์เหยียดออก กางฝ่ามือสาดแสงจรัส

รวบรวมลำแสงศักดิ์สิทธิ์อันทรงพลานุภาพ เตรียมยิงใส่ฉินเฟิง

พวกมันถึงขั้นคำนวณวิถีการเคลื่อนที่ของฉินเฟิงเอาไว้ล่วงหน้า ระเบิดลำแสงทั้งเก้าออกไป ยิงถูกฉินเฟิงในคราวเดียว

แต่ฉินเฟิงในเวลานี้ กับฉินเฟิงเมื่อครู่ ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว เขาต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

หึ่ง หึ่ง!

ด้านหลังของฉินเฟิง ดาราทั้งเก้าปรากฏขึ้น

หากฉากหลังกำลังภายในของเลเวล S อย่างเหอเทียนสิงกับหลงเยว่ เป็นเฉกเช่นเดียวกับจันทราสว่างไสว ทั้งสองสะท้อนแสงสีขาวนวลตา แต่ในความเป็นจริง กำลังภายในที่บริสุทธิ์ถึงขีดสุด ควรจะเป็นสีโปร่งใส

แต่พวกเขาไม่สามารถครอบครองมันได้ เทคนิคฝึกยุทธของพวกเขา ไม่สามารถดูดซับกำลังภายในที่บริสุทธิ์ถึงขนาดนั้น และเพื่อก้าวสู่เลเวล S ต่างฝ่ายต่างใช้งานสมบัติฟ้าดินเป็นจำนวนมาก ด้วยเหตุนี้เอง ดารากำลังภายในของพวกเขา เลยมีสีขาวเหมือนจันทรา

ดารากำลังภายใน ยิ่งโปร่งใสมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งหมายถึงพลังงานที่บริสุทธิ์มากเท่านั้น! อย่างไรก็ตาม ยังไม่เคยมีใครพบเห็นดารากำลังภายในที่บริสุทธิ์ถึงขีดสุดมาก่อนเลย

ฉินเฟิงปลดปล่อยดวงดาราทั้งเก้าไว้เบื้องหลังเขา ฉากนี้ไม่ต่างจากนกยูงรำแพน ตามมาติดๆด้วยกระจกใสที่แข็งแกร่งสุดๆ

โล่ปราณกำลังภายโปร่งใสปรากฏขึ้น  มันเหมือนเป็นชั้กระจก แต่มีความหนาพอๆกับฝ่ามือ ไม่เหมือนกับชั้นกระจกบางๆก่อนหน้านี้ แค่เพ่งมองเฉพาะพื้นผิวในปัจจุบันของมัน ก็พอแล้วที่จะระบุความแข็งแกร่งของฉินเฟิง

เวลานี้โล่ของเขาหนา หนากว่าเดิมสุดๆ!

ตูม ตูม ตูมมมม!

ลำแสงโจมตีโล่ปราณกำลังภายในของฉินเฟิง ทว่าชั้นกระจกของโล่ปราณ กลับไม่สั่นไหวแม้แต่น้อย ไม่มีกระทั่งรอยปริร้าว! สะอาดเอี่ยมเหมือนของใหม่ ร่างของฉินเฟิงที่อยู่ข้างใน ไม่รู้สึกถึงแรงกระเทือนแม้แต่นิดเดียว

แม้ลำแสงของชุดเกราะศักดิ์สิทธิ์จะแข็งแกร่ง แต่สุดท้ายมันเป็นแค่สมบัติเทวะเลเวล B ไม่มีทางทำร้ายฉินเฟิงในตอนนี้ได้

ร่างของฉินเฟิง ภายใต้การอัดฉีดกำลังภายใน ความเร็วของเขาพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์

วูซซซ!

พริบตาเดียว ฉินเฟิงโฉบกายปรากฏตัวเบื้องหลังหุ่นยนต์เกราะศักดิ์สิทธิ์

“ท่าวิญญาณสะบั้น!”

มีดกษัตริย์ครามสับเฉือน ลากยาวจากบนลงร่าง เพียงฉับเดียว ไม่มากพอที่จะทำลายชุดเกราะศักดิ์สิทธิ์ได้ อย่างไรก็ตาม ปรากฏกระแสพลังงานสายหนึ่งขึ้นในอากาศ  ผุดออกมาจากตัวหุ่นยนต์

หรือให้พูดอีกอย่างก็คือ ศิลาตรึงวิญญาณบนมีดกษัตริย์คราม ได้ทำหน้าที่ของมัน ดูดซับจิตวิญญาณที่สิงอยู่ในหุ่ยนต์ตัวนั้นเรียบร้อยแล้ว

ฝีเท้าของฉินเฟิงวูบไหว

หนึ่งก้าว , สองก้าว … เจ็ดก้าว และแปดก้าว!

หนึ่งก้าวหนึ่งคมมีด หลังจากเดินครบแปดก้าว หุ่นยนต์ชุดเกราะศักดิ์สิทธิ์ทั้งแปดตัว ที่กำลังรวบรวมพลังงาน จนสะท้อนแสบตาฉินเฟิง พลันสั่นไหว สุดท้ายนิ่งงัน ลำแสงริบหรี่ลงเรื่อยๆ ก่อนดับวูบลงอย่างสิ้นเชิง

คลิก!

ความเร็วของแต่ละก้าว ใช้เวลาเพียง 0.1 วินาที ดังนั้นพอครบ 1 วินาที หุ่นยนต์ทุกตัวก็ถูกจัดการ

หุ่นยนต์ร่วงตกจากฟ้า กระแทกกับพื้น จากนั้นพลังงานมหาศาลเริ่มเอ่อล้นออกมา

แต่ตอนนี้ ฉินเฟิงไม่จำเป็นต้องใช้พลังพิเศษดูดกลืนในการดูดซับพวกมันอีกต่อไป ณ ใจกลางตันเถียน ดวงดาราเริ่มหมุนวน ปล้นชิงพลังงานเหล่านี้ด้วยความเร็วสูง

สังเกตเห็นได้ว่า หนึ่งในดวงมีขนาดใหญ่ขึ้น แต่ดาราทั้งเก้าดวงของฉินเฟิงเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน ดังนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะมีเส้นผ่านศูนย์กลางถึงสองเท่า ดังนั้น ฉินเฟิงเลยไม่รู้สึกว่าตนสามารถยกระดับไปอีกขั้น

ภายใต้การเข้าควบคุมโดยพลังสมาธิของฉินเฟิง หุ่นยนต์เหล่านี้ถูกส่งเข้าไปในอุปกรณ์รูนมิติ

“คิดหนีตอนนี้ มันไม่สายไปหน่อยหรอ?”

น้ำเสียงเย็นยะเยือกของฉินเฟิงดังขึ้น กายเขาวูบไหวดั่งภูติผี พริบตาเดียวข้ามตึก มาหยุดยืนอยู่เบื้องหน้าหุ่นยนต์ตัวหนึ่ง

มันเป็นแค่หุ่นยนต์ขนาดเล็ก หากไม่ใช่เพราะไม่รู้สึกถึงกลิ่นอายของอีกฝ่าย ฉินเฟิงคงคิดจริงๆ ว่านี่เป็นสัตว์ มิใช่หุ่นยนต์

เบื้องหน้าฉินเฟิง ลูกหมาขนยาวปุกปุยหยุดฝีเท้ากะทันหัน ดวงตาของมันแดงก่ำ

เมื่อเห็นฉินเฟิงอยู่ตรงหน้า ลูกหมาเห่าคำหนึ่ง ก่อนหันหลังวิ่งไปอีกทาง

วินาทีต่อมา มีดกษัตริย์ครามคล้ายเทเลพอร์ตได้ วางแนบลงบนตัวของลูกหมาที่คิดหลบหนี

“อย่า! อย่าฆ่าฉัน!”

เสียงเดียวกันกับที่ถ่ายทอดผ่านพลังสมาธิก่อนหน้านี้ ถูกส่งออกมา

ยิ่งไปกว่านั้น พลังสมาธินี้ไม่ให้ความรู้สึกเชิงกลในทำนองแข็งกร้าวอีกต่อไป แต่มันเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ของสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญา--

--เป็นวิญญาณต่างมิติที่ไม่เหมือนตัวอื่นๆ!