บทที่ 60 โทร์วแมนริงส์ (5)
ใบหน้าของอองตวนสั่นสะท้านขณะที่เขาตะโกน
“นี่…! แกใช้กลอุบายอะไร?”
“กลอุบายหรือ?”
เฟรย์หัวเราะกับคำพูดที่ไร้สาระ
“ก็พวกนายไม่จริงจังเองนิ”
“ถ้าไม่ใช่อย่างนั้นก็ไม่มีทางที่พ่อมดที่เก่งที่สุดคนหนึ่งในเซอร์เคิลของเราจะแพ้โดยที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย”
“ลองมาต่อสู้ด้วยตัวเองดูสิ อย่าลืมว่าเรลลิคแบทเทิลมีได้ถึงสามครั้งในหนึ่งวัน พวกนายยังมีโอกาสอีก 1 ครั้ง”
“…เชอะ!”
อองตวนตระหนักว่าเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องก้าวออกไปเอง
เขายกไม้เท้าขึ้นและจ้องมองเฟรย์
“ฉันไม่รู้ว่าแกใช้กลอุบายอะไร แต่แกหลอกไม่เท้าอันนี้ไม่ได้หรอก!”
อองตวนเล็งไม้เท้าของเขาซึ่งมีอัญมณีรูปดวงตาอยู่ที่ด้านบนสุดไปที่เฟรย์
[ดวงตาแห่งความจริง] เป็นไม้เท้าที่สามารถทะลุม่านเวทมนตร์ลวงตาได้ทุกชนิด แน่นอนประโยชน์ของไม้เท้านี้ไม่ต้องพูดก็เข้าใจได้ทันที
อองตวนเหลือบมองไปที่ผู้ตัดสิน
ภาพนี้ทำให้กรรมการกลืนน้ำลายลงคอเพื่อช่วยคอที่แห้งก่อนจะตะโกน
“เริ่มได้!”
อองตวนรู้สึกว่ามีบางอย่างยิงมาทางเขาทันทีที่เขาได้ยินเสียงของกรรมการ
"ฉันป้องกันไม่ได้!"
เขาไม่สามารถหยุดมันได้
อองตวนตระหนักดีว่าด้วยทักษะที่เขามีเขาจะไม่สามารถป้องกันการโจมตีของเฟรย์ได้เขาจึงร่ายคาถาบลิ้งเพื่อหลบทันที
เวทมนตร์ที่ไม่ต้องร่าย!
นี่เป็นทักษะที่มีเพียงพ่อมดระดับ 5 ดาวขึ้นไปเท่านั้นที่ทำได้
อองตวนยังคงเฝ้าระวัง
ความแข็งแกร่งที่เฟรย์แสดงออกมานั้นเหนือความคาดหมายของเขามาก
“ลูกธนู ฟะ ไฟ?”
ปากของอองตวนกว้างขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ
ต่อหน้าดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำตาของเขาอยู่ตอนนี้ เขาเห็นลูกศรน้ำแข็งจำนวนมาก จำนวนที่เกินหนึ่งร้อยเป็นอย่างน้อย
“นี่ไม่สมเหตุสมผลเลย มันไม่ใช่…เวทมนตร์อาร์เคนหรอ?”
“เวทมนตร์อาร์เคน? นี้หรือ?”
เฟรย์ยิ้มและสัมผัสลูกศรน้ำแข็งด้วยนิ้วชี้ของเขา
“อย่างที่นายเห็นพวกมันคือลูกศรน้ำแข็ง”
“นั่นเป็นไปไม่ได้! ลูกศรน้ำแข็งไม่สามารถสร้างความเสียหายได้มากขนาดนั้น”
“ทำได้อยู่แล้ว”
“นอกจากนี้ เวทมนตร์ที่ไม่ต้องร่าย…แถมต้องสร้างทั้งหมดนี้โดยไม่ต้องเตรียมการ…”
อองตวนตระหนักได้ว่าภาพตรงหน้าเขาช่างแปลกใจเพียงใด
ใบหน้าที่ว่างเปล่าของเขากลายเป็นสีแดงอย่างรวดเร็ว
“ฆะ - ฆ่า…! ฆ่ามัน!”
เมื่อสมาชิกในเซอร์เคิลมองเขาด้วยสีหน้าว่างเปล่าอองตวนก็ตะโกนใส่พวกเขาอย่างโกรธเกรี้ยว
"พวกแกกำลังทำอะไร!? พวกแกจะปล่อยให้มันเอาสิ่งประดิษฐ์ทั้งหมดของเราไปหรือ!”
“แต่…”
“ทำตามคำสั่งของฉัน! ไม่ว่ามันจะแข็งแกร่งแค่ไหนมันก็ไม่สามารถเอาชนะจำนวนที่เรามีได้!”
“ใช่ใช่!”
“ไฟเออร์บอล!”
“แมกมา!”
“วินคันเตอร์!”
สมาชิกในเซอร์เคิลรีบร่ายคาถาและเริ่มโจมตีใส่เฟรย์
คาถาหลายสิบอย่างพุ่งเข้าหาเฟรย์ซึ่งมันสร้างฉากที่สวยงามมาก
ตูม!
ตูม!
ครู่หนึ่งเสียงระเบิดดังขึ้นอย่างต่อเนื่องในถ้ำ
หากไม่ใช่สำหรับอาร์เรย์ป้องกันที่อยู่ในถ้ำแล้ว ถ้ำทั้งถ้ำอาจจะพังทลายลงจากความปั่นป่วน
มันเป็นพลังทำลายล้างอย่างไม่น่าเชื่อแต่อองตวนกลับไม่รู้สึกผ่อนคลายเลย
ความวิตกกังวลเริ่มคืบคลานเข้ามา
สามัญสำนึกบอกว่าคงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีคนรอดจากพลังทำลายล้างที่แท้จริงของการระดมยิงเวทย์มนตร์นั้น
และเนื่องจากมีเวทย์มนตร์มากมายจึงไม่สามารถหลีกเลี่ยงหรือถูกลบล้างได้เนื่องจากองค์ประกอบที่แตกต่างกันหลายอย่างระเบิดในเวลาเดียวกัน
แล้วทำไมเขาถึงยังรู้สึกไม่สบายใจ?
เสียงแตก
เปลวไฟลดลงและที่ยืนอยู่ที่นั่นโดยไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วนคือเฟรย์
สิ่งเดียวที่เปลี่ยนไปคือรอยยิ้มเย็นชาจากริมฝีปากของเขา
หัวใจของอองตวนสั่น
“นับจากนี้ไปจะถือว่าเป็นการป้องกันตัวได้ไหม?”
“นี่ไม่สมเหตุสมผลเลย แกรอดมาได้อย่างไร…”
“ฉันไม่มีเจตนาที่จะฆ่าพวกนายทุกคน ไปเรียกเซอร์เคิลมาสเคอร์ของพวกนายมา การพิพากษาของพวกนายจะถูกตัดสินหลังจากการสนทนาของฉันกับเธอ”
นั่นเป็นไปไม่ได้
อองตวนกัดริมฝีปากของเขา
ถ้าเซอร์เคิลมาสเตอร์เฟลิกซ์รู้เรื่องนี้ตำแหน่งของเขาจะตกอยู่ในอันตราย
ตอนนี้เขาพึ่งเคยได้บินหลังจากคลานอยู่บนพื้นมาตลอดชีวิต แม้ว่าเขาจะต้องตายเขาก็ไม่ยอมให้ใครพรากมันไป
“นั่นมันไร้สาระ! แกคิดว่าแกเอาชนะเราไปแล้วยังงั้นหรือ? ไร้สาระ!”
เฟรย์ชี้ไปที่อองตวน
“แกสามารถปลุกใจสมาชิกในกลุ่มได้ดี แต่ในกรณีฉุกเฉินแกกลับผลักคนของแกไปข้างหน้าเพื่อทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันและคิดถึงแต่ตัวเองเท่านั้น”
เขาสามารถอธิบายได้ว่าอองตวนเป็นขยะที่แย่กว่าดูเกนจาร์เสียอีก
ความจริงแล้วเฟรย์ไม่ได้คิดร้ายกับดูเกนจาร์จนเกินไป
ปัญหาเดียวของเขาคือความหยิ่งผยองและไม่เข้าใจว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า
แต่ชายคนนี้แตกต่างออกไป
เขาเป็นมนุษย์ที่น่ารังเกลียดมากจนเฟรย์เกลียดความจริงที่ว่าเขาถูกมองว่าเป็นพ่อมดเช่นเดียวกับเขา
“ฉันอยากจะฆ่าแกทิ้งตอนนี้เลย...”
เฟรย์ส่ายหัว
เขาต้องคิดให้ดีก่อนที่จะเอาชีวิตพ่อมดอีกคน
นี่เป็นคำขอที่ชไวเซอร์ทำกับเขา
“…แต่ฉันจะคิดใหม่หลังจากจำคำพูดของเพื่อนเก่าได้ แต่ถ้าแกเปิดปากอีกครั้ง…”
“หุบปาก! แกเป็น..”
หลุด
“…!?”
เส้นสีแดงบางๆปรากฏขึ้นบนคอของอองตวน
เขาเอื้อมมือไปที่คอของเขาขณะที่โฟกัสในดวงตาของเขาหายไป
และเหมือนผลไม้ที่ถูกตัดอย่างสะอาดจากต้นไม้ศีรษะของเขาตกลงไปที่พื้น
“ท่านรองอองตวน!”
“นี่ไม่สมเหตุสมผลเลย!”
เวทย์วินคันเตอร์ปรากฏขึ้นจากมือของเฟรย์และตัดคอของอองตวนก่อนที่ใครจะรู้ตัว
แม้แต่อองตวนซึ่งถูกตัดคอก็ยังไม่รู้ว่าเขาเสียชีวิตได้อย่างไร
“เซอร์เคิลมาสเตอร์…เรียกเธอมาเดียว..”
เฟรย์ยังพูดไม่จบประโยคที่เหลือ
นี่เป็นเพราะเขาเห็นใครบางคนเดินเข้ามาจากปลายถ้ำ
เธอเป็นหญิงวัยกลางคน
เธอสวมหมวกแม่มดและใบหน้าของเธอถูกปกปิดด้วยเครื่องสำอางมากมาย
เฟรย์มองไปที่เธอแล้วพูด
“คุณเป็นมาสเตอร์เซอร์เคิลของบาซิลิสก์เทลหรือเปล่า?”
หญิงสาวพยักหน้าด้วยใบหน้านิ่ง
"…ถูกตัอง คุณคือใคร?"
เฟรย์ไม่สนใจคำถามของเธอและพูดต่อ
“ฉันเพิ่งท้าประลองเรลลิคแบทเทิลกับเซอร์เคิลของคุณมา”
เฟลิกซ์หัวหน้าเซอร์เคิลของบาซิลิสก์เทลกัดริมฝีปากของเธอเมื่อเธอตระหนักว่าเธอไม่สามารถพูดอะไรกับเขาได้อย่างเต็มที่
เฟรย์หันกลับไปมองร่างที่ไร้หัวของอองตวน
เลือดจากคอของเขาได้กลายเป็นแอ่งน้ำแล้ว
'ราวเดอร์หน้าอองตวน อย่างง่ายดาย ... '
เธอไม่รู้ว่าพ่อมดหนุ่มคนนี้เป็นใครแต่เธอมั่นใจในสิ่งหนึ่ง
เขาอยู่ในระดับ 7 ดาวเป็นอย่างน้อย
อาร์ชเมจ!
อาร์ชเมจซึ่งหาได้ยากแม้แต่ในกลุ่มบิ๊กทรีมาที่แห่งนี้
“…พูดต่อเถอะ”
“ฉันต่อสู้ทั้งหมดสามครั้งและชนะทุกครั้ง”
การต่อสู้ครั้งสุดท้ายถือได้ว่าเขาชนะบายเนื่องจากอองตวนได้ยุยงให้คนของเขาโจมตีก่อนที่การต่อสู้จะสิ้นสุดลง
“แต่ผู้ชายคนนั้น ราวเดอร์อองตวน เขายุยงคนของเขาและพยายามจะฆ่าฉัน”
“เขาก็เลย…”
“ฉันฆ่าเขา ฉันให้โอกาสเขาครั้งหนึ่งแล้ว อองตวนไม่เชื่อฟังคำแนะนำของฉันและไม่มีโอกาสครั้งที่สอง ฉันหวังว่าคุณจะไม่เหมือนเขา”
เฟลิกซ์กลืนน้ำลายโดยไม่ได้ตั้งใจเมือได้ยินคำพูดเหล่านั้น
เธอได้ยินความจริงใจในน้ำเสียงที่สงบของเฟรย์
"คุณชื่ออะไร?"
“เฟลิกซ์โอเวียตค่ะ”
“มาสเตอร์เฟลิกซ์บอกฉันทีจุดประสงค์ของเซอร์เคิลคืออะไร?”
"หา?"
เฟรย์มองไปที่เฟลิกซ์อย่างเงียบๆ
เฟลิกซ์จำคำพูดของเขาได้อย่างรวดเร็วด้วยความกลัว
“เพื่อหลุดพ้นจากเงื้อมมือของเหล่าเดมิก็อด”
“คุณรู้ไหมว่าพวกเขาเป็นใคร?”
“แน่นอนพวกเขาเป็นสิ่งมีชีวิตที่เหนือกว่าความเข้าใจของมนุษย์และสามารถทำลายเมืองทั้งเมืองได้ด้วยเพียงนิ้วเดียว”
“คุณรู้ดี ใช่…คุณรู้ดี”
เฟรย์ก้าวไปข้างหน้า
“แต่ดูเหมือนว่าคุณจะสูญเสียการควบคุมตัวเองหลังจากเริ่มมีอำนาจ”
ตึง!
แผ่นดินใต้เท้าของเขาเริ่มแข็งตัว
สมาชิกในเซอร์เคิลพยายามขยับเท้าเพื่อหลบน้ำแข็ง แต่มันกลับกระจายและแข็งตัวในทันที
"ฮึ!"
“ฉันขยับไม่ได้!”
แม้แต่เซอร์เคิลมาสเตอร์เฟลิกซ์เองยังไม่สามารถหลบหนีระยะของมันได้
‘นี่…ไม่ใช่เรื่องที่เราสามารถจัดการได้’
หลังจากตัดสินสถานการณ์แล้วเฟลิกซ์ได้แจ้งให้สมาชิกของเธอทราบโดยด่วน
“ทุกคนอย่าพยายามหนี! ถ้าพวกคุณทำผลาดพวกคุณอาจตาย!”
“ฉันไม่คิดว่าคุณจะมีเวลากังวลเรื่องคนอื่นหรอกนะ”
ความโกรธที่เฟรย์มีต่อเซอร์เคิลดูเหมือนจะระเบิดออกมาทั้งหมดในคราวเดียว
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่ทรงพลังอย่างเดมิก็อด คนที่น่าสมเพชเช่นนี้ไม่เพียงแต่ไม่ยอมรวมพลังกัน แต่พวกเขายังแก่งแย่งซึ่งกันและกันอีกด้วย!
จุดประสงค์ของพวกเขาไม่ได้ต้องการโค่นล้มเดมิก็อด
พวกเขามุ่งเน้นไปที่การฉกสิ่งประดิษฐ์และใช้โทร์วแมนริงส์เพื่อเพิ่มอำนาจและชื่อเสี่ยงของตนเอง
เป้าหมายของพวกเขาชัดเจน
เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจและความมั่งคั่ง
บูม
ดวงตาของเฟรย์เต็มไปด้วยความโกรธ
ความโกรธของเขากลายเป็นโมเมนตัมและโมเมนตัมนี้กลายเป็นแรงกดดันที่พุ่งเป้าไปที่เฟลิกซ์
"อัก…"
เฟลิกซ์รู้สึกกดดันราวกับว่ามีใครกำลังบีบหัวใจเธอ
การหายใจกลายเป็นเรื่องยากและเหงื่อเริ่มไหลลงตามร่างกายของเธอ
เธอจ้องมองเฟรย์ด้วยฟันที่กระทบกันโดยตระหนักว่าเธอเป็นคนเดียวที่ไม่ถูกแช่แข็ง
การตัดสินอย่างรวดเร็วเธอทรุดตัวลงคุกเข่า
“ได้โปรดไว้ชิวิตพวกเราด้วย”
“…”
“บอกฉันสิว่าคุณต้องการอะไร ฉันจะทำตามคำสั่งของคุณ ได้โปรด…โปรดอย่าทำลายเซอร์เคิลของเรา”
“แม้ว่าฉันจะขอให้คุณชดใช้ด้วยชีวิตของคุณเอง?”
“…!”
ดวงตาที่ไร้หัวใจของเฟรย์จ้องมองไปที่เฟลิกซ์
เธอตกใจครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าด้วยความมุ่งมั่น
“ถ้าคุณสามารถสัญญาได้ว่าคุณจะไม่ทำลายเซอร์เคิลและคนของเรา ดิฉันก็ยินดี”
“มาสเตอร์เฟลิกซ์!”
“อย่า!”
สมาชิกในเซอร์เคิลทุกคนเริ่มระบายความโกรธออกมาดังๆ
เฟรย์ยกมือขึ้นช้าๆ
ที่นั่นมานาสีแดงเริ่มไหลและในไม่ช้าเปลวไฟที่ร้อนแรงอย่างไม่น่าเชื่อก็ปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของเขา
“…”
เฟลิกซ์หลับตาลงและรอคอยวาระสุดท้ายของชิวิตเธอ
แต่เธอกลับได้ยินเสียงของเฟรย์ซึ่งเต็มไปด้วยความชื่นชม
“ยอดเยี่ยม”
แตก
ในขณะเดียวกันน้ำแข็งที่แช่แข็งร่างของสมาชิกก็หายไปอย่างรวดเร็ว
เฟลิกซ์มองไปรอบๆอย่างสับสน
“นำสิ่งประดิษฐ์ทั้งหมดที่คุณเอามาจากโทร์วแมนริงส์มาเดียวนี่”
“อ่า..เข้าใจแล้ว”
หลังจากนั้นเฟลิกซ์ก็รีบไปที่บ้านของเธอซึ่งเธอนำสิ่งประดิษฐ์กลับมาและส่งมอบให้กับเฟรย์
เฟรย์มองพวกเขาด้วยสายตาที่ซับซ้อน
หนึ่งในนั้นคือแหวนสีม่วง
แหวนที่เขาทำขึ้น
อีกอันเป็นถุงมือสีน้ำเงินคู่หนึ่งแต่นี่เป็นครั้งแรกที่เฟรย์เห็นพวกมัน
น่าจะเป็นไอเท็มของวีรบุรุษที่มาหลังเขา
“บอกตำแหน่งของเซอร์เคิลขนาดกลางและเล็กทั้งหมดที่อยู่รอบๆที่นี่โดยไม่มีข้อยกเว้น”
“นั่น…”
“บอกไม่ได้เหรอ?”
“…”
โดยพื้นฐานแล้วมันเป็นการแทงข้างหลังสมาชิกของพันธมิตรแต่เฟลิกซ์ส่ายหัว
นี่ไม่ใช่เวลาที่จะปิดบัง
“ไม่”
มันช่วยไม่ได้
เฟลิกซ์ไม่สามารถต้านทานชายตรงหน้าเธอได้
และพันธมิตรก็ก่อตั้งขึ้นเพื่อแสวงหาผลกำไรเท่านั่น
พวกเขาไม่มีความผูกพันระหว่างกันมากนัก
ดังนั้นเฟลิกซ์จึงระงับความรู้สึกผิดที่อ่อนแอของเธอและเริ่มพูด
“นอกจากเราแล้วยังมีเซอร์เคิลขนาดกลางและขนาดเล็กทั้งหมดห้าเซอร์เคิลอยู่ใกล้ๆ ที่ใกล้ตัวเราที่สุดคือ…”
เฟรย์ขอเพียงตำแหน่งของพวกเขาแต่เฟลิกซ์กลับบอกเขาทุกอย่างที่เธอรู้ คุณสมบัติ ตัวเลขและจุดที่ต้องระวังอย่างละเอียด
มันเป็นการทรยศที่ชัดเจน แต่ยิ่งเธออธิบายเธอก็ยิ่งตระหนักมากขึ้น
ไม่มีเซอร์เคิลใดในบริเวณนี้ที่ที่สามารถต้านทานชายคนนี้ได้
โดยทั่วไปนั่นคือสถานะของพ่อมดระดับ 7 ดาว
เฟลิกซ์ถอนหายใจ
การเสียชีวิตของอองตวนเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ แต่เทียบไม่ได้กับสิ่งที่เกือบจะเกิดขึ้นในคืนนั้น
"ฉันหวังว่าเซอร์เคิลของเราจะไม่ได้รับความเสียหายใด ๆ ฉันขอให้คุณรับปาก"
เฟลิกซ์หวังเป็นอย่างยิ่ง
และตามที่เธอคาดไว้ก่อนรุ่งสางเซอร์เคิลขนาดเล็กและขนาดกลางหกเซอร์เคิลรวมถึงบาซิลิสก์เทลได้พ่ายแพ้ให้กับชายเพียงคนเดียว
(แปลโดย สปอย Novel)