Ep.870 - โลกใต้ดิน
5/5
Ep.870 - โลกใต้ดิน
เจ้าพวกนี้ ทั้งหมดล้วนเป็นหุ่นยนต์ที่สวมชุดเกราะศักดิ์สิทธิ์ชั้นรอง
เมื่อร่างของฉินเฟิงปรากฏขึ้น หุ่นยนต์ทั้งหมดยกแขนล็อคเป้ามายังเขา
หึ่ง ..!
กลางฝ่ามือของหุ่นยนต์ ผุดพลังงานแสงก่อตัวกันเป็นทรงกลม สุดท้ายบอลแสงถูกกระตุ้นยิง แปรเปลี่ยนเป็นลำแสงเส้นตรง ในพริบตาเดียว ลำแสงหลายร้อยดวง ยิงจากทุกทิศทาง โดยมีเป้าเดียวเป็นร่างของฉินเฟิง
ณ จุดนี้ ต่อให้คิดหลบยังไงก็คงไม่พ้น!
ตำแหน่งที่หุ่นยนต์เหล่านี้ยืนอยู่ มันครอบคลุมทั้งหน้าและหลัง ปิดกั้นทุกมุม ฉินเฟิงคิดเลี่ยงไปทางใด สุดท้ายก็ถูกต้อนรับด้วยลำแสงพลังงานอยู่ดี
โล่ปราณกำลังภายในของฉินเฟิงกางออก ย่อตัวลงข้างล่าง
ตูม ตูม ตูมมม!
ฉินเฟิงรับประทานลำแสงพลังงานมากกว่าสิบจุดในลมหายใจเดียว ส่วนลำแสงที่เหลือ เนื่องจากเขาย่อตัวหลบ ทำให้สามารถเลี่ยงพวกมันมาได้
อย่างไรก็ตาม แม้โดนยิงเพียงน้อย ทว่าโล่ปราณกำลังภายในของฉินเฟิงกลับบางลงถึง 1/10 ส่วน!
ต้องรู้นะว่า ปัจจุบันกำลังภายในของฉินเฟิงอยู่ในรูปแบบมหาสมุทรแล้ว ดังนั้นความหนาแน่นของมันเมื่อเทียบกับกำลังภายในรูปแบบทะเลสาบ ถือว่าเข้มข้นกว่าไม่รู้ตั้งกี่เท่า แต่ไม่อยากจะเชื่อเลย ว่าแค่ถูกโจมตีโดยลำแสงพลังงาน มันกลับลดทอนอำนาจป้องกันลง แบบนี้หากถูกหุ่นยนต์นับร้อยระดมยิงแบบเข้าเป้าพร้อมกัน โล่ปราณกำลังภายในของฉินเฟิงไม่พ้นถูกทำลาย และตัวเขาคงพรุนเป็นรังผึ้ง!
“ไม่เลวนี่!”
ปีที่แล้วฉินเฟิงเคยได้ครอบครองถุงมือเกราะศักดิ์สิทธิ์ชั้นรองมาก่อน ถึงสุดท้ายมอบให้ไป๋หลีก็ตาม
แต่ช่วงเวลาสั้นๆก็มากพอให้ศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับมัน เลยตระหนักได้ว่า เกราะศักดิ์สิทธิ์ชั้นรองที่อยู่ตรงหน้าเขา เมื่อโจมตีเต็มกำลัง มันเทียบเท่าได้เลยกับการโจมตีเต็มรูปแบบของจักรพรรดิสัตว์ร้ายเลเวล C !
เมื่อครู่คือการโจมตีแบบเต็มกำลัง หากเปรียบกับการโจมตีแบบธรรมดาแล้ว มันเท่ากับการโจมตีธรรมดาถึงสิบครั้งซ้อน!
นี่คือผลลัพธ์ของการถูกโจมตีเต็มกำลังนับสิบจุดในคราเดียว ฉะนั้นไม่ต้องกล่าวถึงร้อยจุดว่าจะจบลงแบบใด
เมื่ออันตรายถึงขนาดนี้ ฉินเฟิงย่อมไม่อนุญาตให้พวกมันโจมตีอีกต่อไป
ฉินเฟิงคว้ามีดกษัตริย์ครามออกจากอุปกรณ์รูน
ต้องรีบจบการต่อสู้ในครั้งนี้ให้เร็วที่สุด!
“กระบวนท่าวิญญาณสะบั้น!”
ใบมีดกษัตริย์ครามถูกชักออกจากฝัก บังเกิดเสียงร้องฉวัดเฉวียนลากยาว สั่นสะเทือนไปถึงจิตวิญญาณ
“ทักษะหมื่นภูติ!”
ฉินเฟิงแยกร่าง เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว พริบตาเดียวประชิดถึงเบื้องหน้าหุ่นยนต์เกราะศักดิ์สิทธิ์ชั้นรอง
หุ่นยนต์เกราะศักดิ์สิทธิ์ชั้นรองมีขนาดใหญ่โตมาก ขณะที่เกราะศักดิ์สิทธิ์ชั้นรองแม้สามารถยืดขยาย แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นครอบคลุมทั้งร่างของมัน
กำลังภายในอัดฉีดลงบนมีดกษัตริย์คราม จ้วงแทงไปยังจุดบอดของเกราะศักดิ์สิทธิ์ชั้นรองทันที และตำแหน่งที่ว่าอยู่บริเวณรอยต่อตรงคอของหุ่นยนต์พอดิบพอดี
เปรี๊ยะ!
คอของหุ่นยนต์หักพับ ไม่เพียงแค่นั้น แต่เกราะศักดิ์สิทธิ์บนร่างมันยังกระพริบแสงและแผ่วจางลง
ฉินเฟิงสามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจน ว่ากระแสของพลังงานชนิดหนึ่ง ถูกดูดซับลงในมีดกษัตริย์คราม นี่เองคือสาเหตุที่ทำให้หุ่นยนต์เกราะศักดิ์สิทธิ์ชั้นรองหยุดการเคลื่อนไหวลง
“ที่แท้มันก็ถูกวิญญาณควบคุมอยู่!”
ในดินแดนล่มสลายของเผ่าวิญญาณ ทุกหนแห่งเต็มไปด้วยจิตวิญญาณที่ซุกซ่อนในเครื่องจักร ดังนั้นที่ควบคุมหุ่นยนต์ตัวนี้ ก็น่าจะเป็นวิญญาณเช่นกัน
และมีดกษัตริย์ครามก็ดันบังเอิญมีความสามารถในการดูดซับวิญญาณพอดี กรณีนี้นำไปสู่สถานการณ์ที่ว่า แม้เกราะศักดิ์สิทธิ์ชั้นรองจะเปี่ยมไปด้วยพลังป้องกัน แต่มันล้มเหลวในการต่อต้านการโจมตีเพียงครั้งเดียว
ฉินเฟิงสามารถสรุปความเข้าใจถึงเหตุผลของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ทันที อย่างไรก็ตาม หุ่นยนต์เหล่านี้ พวกมันไม่ถูกทำให้สับสนโดยร่างเงาปลอมของฉินเฟิงเลย ทั้งหมดล็อคเป้ามายังร่างจริงของฉินเฟิงทันที ลำแสงพลังงานจากเกราะชั้นรอง เล็งยิงใส่ฉินเฟิงอีกครั้ง
หึ่ง หึ่ง!
ปืนใหญ่พลังงานระเบิดลำแสงอีกคราว
“ท่าวิญญาณสะบั้น : ร้อยสับสังหาร!”
ฉินเฟิงตวัดมีดกษัตริย์คราม เอี้ยวบิดร่างกาย วิญญาณที่ถูกขังอยู่ภายในมีด ก่อตัวเป็นวงแหวน กรีดร้องโหยหวน ทะยานโจมตีออกไปในระยะไกล
“ฮู้มมมม …”
ท่ามกลางเสียงโหยหวนฟังไม่เป็นภาษา วิญญาณสัตว์ร้ายนับไม่ถ้วนโห่ร้อง ปรี่เข้าหากองทัพหุ่นยนต์
ฉินเฟิงยั้งมือเอาไว้แล้ว กำลังภายในที่ปลดปล่อยออกมา อยู่ในระดับแค่สามารถทะลวงการป้องกันของชุดเกราะศักดิ์สิทธิ์ได้เล็กน้อย แต่ไม่ถึงขั้นสร้างความเสียหายร้ายแรง ขณะที่จิตวิญญาณภายในหุ่นยนต์ จะถูกโจมตีโดยท่าสะบั้นวิญญาณ
หากกระบวนท่านี้ใช้กับสัตว์ร้ายธรรมดาหรือมนุษย์ ผลกระทบคงไม่ร้ายแรงนัก อย่างมากทะลวงการป้องกันทางกายภาพ แต่หากที่ถูกท่าวิญญาณสะบั้นเป็นจิตวิญญาณ ผลลัพธ์จะต่างออกไป
ซี่ ซี่ ซี่ ซี่ …
ตามร่างของหุ่นยนต์ ปรากฏพลังงานสว่างวาบและจืดจางลง ก่อนหุ่นทั้งตัวกลายเป็นอัมพาตไป
บ่งบอกว่าสิ่งที่ใช้ควบคุมหุ่นยนต์เหล่านี้ ได้จากไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ จากหุ่นยนต์ตัวแรกที่ถูกฉินเฟิงจ้วงคอ จู่ๆพลังงานอันทรงประสิทธิภาพก็เริ่มเอ่อล้นออกมา
นี่คือพลังงานของเกราะศักดิ์สิทธิ์ชั้นรอง
เกราะศักดิ์สิทธิ์เดิมมีความสามารถในการกักเก็บพลังงาน แต่หากถูกสับเปลี่ยนเจ้าของ พลังงานที่กักเก็บไว้จะถูกปลดปล่อยออกมา ต้องรอจนกว่าเจ้าของคนใหม่ปรากฏตัวขึ้น มันถึงค่อยเริ่มดูดซับ กักเก็บพลังงานได้อีกครั้ง
และตอนนี้ หุ่นยนต์หลายตัวได้สูญเสียจิตวิญญาณที่คอยควบคุมไปแล้ว พลังงานจากเกราะศักดิ์สิทธิ์ชั้นรอง เลยมิอาจกักเก็บ เริ่มเอ่อล้นออกมา
พลังงานนี้ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อปะทะเข้ากับร่างกายของฉินเฟิง พวกมันกลับถูกดูดซับ กลายเป็นตัวช่วยในการเสริมความแข็งแกร่งทางกายภาพไป
ร่างกายอันแข็งแกร่งของฉินเฟิงในปัจจุบัน ทำให้สามารถดูดซับพลังงานเหล่านี้ได้ จนพวกมันไม่ถึงขั้นเกิดการระเบิดอีกต่อไป
แต่ในตอนนั้นเอง เสียงเคลื่อนไหวของจักรกลนับไม่ถ้วนสะท้อนเข้ามา
ตามเส้นทางเดินที่ไกลออกไป กลุ่มกองทัพหุ่นยนต์ ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง
“ตรวจพบผู้บุกรุก เตรียมการกำจัด”
“ตรวจพบผู้บุกรุก เตรียมการกำจัด”
“ตรวจพบผู้บุกรุก เตรียมการกำจัด”
กองทัพหุ่นยนต์บุกเข้ามาใหม่ แสดงออกชัดว่าต้องกำจัดฉินเฟิงให้จงได้
ฉินเฟิงมีประสบการณ์ต่อสู้กับพวกมันมาแล้ว ดังนั้นในครั้งนี้ เขาไม่คิดอยู่เฉย แต่ชิงโจมตีก่อนทันที
“ท่าวิญญาณสะบั้น!”
กำลังภายในกระตุ้นจิตวิญญาณสัตว์ร้าย ตัดกวาดออกไป หุ่นยนต์มากกว่า 20 ตัว แข็งค้างกลายเป็นอัมพาตทันใด
อย่างไรก็ตาม ทุกครั้งที่ฉินเฟิงโจมตี จะมีหุ่นยนต์ตรงเข้ามารุมล้อมมากขึ้นเรื่อยๆ
ฉินเฟิงยิ่งฆ่าไปเท่าไหร่ หุ่นยนต์ก็ยิ่งออกมาเสริมมากขึ้นเท่านั้น
เมื่อสังหารไปถึง 100 ตัว ฉินเฟิงก็ไม่สนใจสูบพลังงานจากเกราะศักดิ์สิทธิ์ชั้นรองทีละครั้งอีกต่อไป
เฝ้ารอจนกระทั่งสังหารไปมากถึง 200 ตัว ฉินเฟิงถึงค่อยเปิดใช้งานพลังพิเศษดูดกลืน ดูดซับพวกมันเข้ามาในคราวเดียว
กระนั้น ภายในระยะเวลาอันสั้น ฉินเฟิงสามารถสังหารพวกมันได้มากเกินไป ฆ่าได้มากถึง 500 ตัว เมื่อถึงจุดนี้ ฉินเฟิงไม่เหลือเซลล์ที่สามารถใช้ดูดซับพลังงานอีกต่อไป หากยังฝืนเก็บมันไว้โดยไม่ทำอะไร ร่างกายคงรับไม่ไหว!
แต่เนื่องจากหุ่นยนต์มีขนาดใหญ่โตมาก และบริเวณโดยรอบก็ถูกรุมล้อมไปด้วยกระแสกองทัพของพวกมัน ดังนั้นสถานการณ์นี้ช่วยอำนวยความสะดวกให้ฉินเฟิงไม่น้อย เขาเลือกซ่อนตัวอยู่เบื้องหลังซากหุ่นยนต์กองพะเนิน ตัดสินใจใช้เทคนิคเดิมปิดกั้นไม่ให้พวกมันก้าวเข้ามา!
“จงตื่นขึ้น!”
พลังสมาธิของฉินเฟิงตรงเข้าควบคุมหุ่นยนต์เกราะศักดิ์สิทธิ์ชั้นรองทั้ง 500 ตัว เส้นทางที่นำมาสู่เขา ถูกปิดกั้นอย่างสมบูรณ์ ป้องกันไม่ให้ถูกลำแสงจากเกราะศักดิ์สิทธิ์โจมตี
ยังไม่พอ เมื่อต่อสู้นานเข้า ฉินเฟิงก็เริ่มสังเกตเห็น ว่าลำแสงจากเกราะชั้นรองเหล่านี้ กำลังหลีกเลี่ยงไม่ให้โดนสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ใต้ดิน
อาคารเหล่านั้นมีความสูงโดยเฉลี่ยมากกว่า 50 ชั้น ไม่ต่างจากป่าคอนกรีตในเมืองใหญ่ ทำให้ลำแสงของเกราะศักดิ์สิทธิ์ ดูเล็กลงไปถนัดตา ด้วยการปกป้องจากหุ่นยนต์ที่ตายไปแล้ว ทำให้ฉินเฟิงพอมีเวลาพักหายใจได้เล็กน้อย
พลังงานที่เขาสูบเข้ามาเริ่มล้นออก ไม่สามารถหล่อเลี้ยงเซลล์ในร่างกายได้อีกต่อไป ดังนั้นฉินเฟิงเลยตัดสินใจทำเหมือนเมื่อปีก่อน ถ่ายโอนพลังงานเหล่านี้ แปรสภาพพวกมันเป็นกำลังภายในบริสุทธิ์
ภายในตันเถียน กำลังภายในเริ่มเพิ่มพูนอย่างต่อเนื่อง
“ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด! เริ่มกำหนดแผนเส้นทางการโจมตีใหม่!”
หุ่นยนต์ถ่ายทอดน้ำเสียงผ่านพลังสมาธิ ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งวินาที กองทัพหุ่นยักษ์ที่ถูกขวางทางอยู่ด้านนอก ทั้งหมดทะยานบินขึ้นเบื้องบนอย่างกะทันหัน
“ไอ้บ้าเอ๊ย!”
และคำนวณด้วยสายตาคร่าวๆ หุ่นยนต์ที่บินขึ้นมา มีอย่างน้อย 500 ตัว หลังลอยขึ้นกลางอากาศ หุ่นยนต์พวกนี้ก็กระจายตำแหน่ง ไปดักอยู่ทั่วทุกมุม หากมองในทิวทัศน์สามมิติ จะพบว่าไม่มีจุดใดให้ฉินเฟิงหลบหนีได้เลย
ลำแสงพลังงานสีขาว เริ่มจับตัวเป็นก้อน
“เป็นพวกแกเองนะที่บังคับฉัน!” ฉินเฟิงกัดฟัน กระชับมีดกษัตริย์ครามในมือ
เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่เช่นนี้ ตัวเลือกเดียวคือพาตนเองออกจากสถานการณ์ตอนนี้ให้จงได้ ส่วนหลังจากนั้นจะดูดซับพลังงานทั้งหมดได้หรือไม่ ก็ไม่สนแล้ว!
“ท่าวิญญาณสะบั้น : หมื่นสับสังหาร!”
คมมีดเชือดเฉือน ตัดกวาดทั่วผืนฟ้า!