Ep.867 - อ้อ นั่นคนกลุ่มผมเอง
2/5
Ep.867 - อ้อ นั่นคนกลุ่มผมเอง
ลูกรักของพระเจ้าอีกสามคน หนึ่งในนั้นเป็นคนรู้จักเก่าแก่ของฉินเฟิง
นายน้อยของผู้การรัฐแห่งรัฐฮั่นชวน --ฮั่นจุน
ถือว่าวันเกิดของฮั่นจุนค่อนข้างดี เพราะยังเหลือเวลาอีก 2 เดือน เขาจะก็มีอายุ 20 ปี ดังนั้นเลยสามารถเข้าร่วมงานประลองลูกรักของพระเจ้าได้อีกเป็นปีสุดท้าย
ปีที่แล้วอีกฝ่ายเคยถูกฉินเฟิงทุบตี แม้สามารถหายจากอาการบาดเจ็บ แต่สุดท้ายก็ปีนหอคอยไม่สำเร็จ ปีนี้เขากลับมาแก้ตัวอีกครั้ง แต่ความแข็งแกร่งยกระดับไปได้ไม่มากนัก ตอนนี้มาถึงเลเวล D5 เท่านั้น
แน่นอน ว่านั่นเพียงพอแล้วที่จะใช้ต่อกรกับอัจฉริยะของเมืองหลวงมังกร แต่เขาจะไปทันคิดได้อย่างไร ว่าพวกผิดปกติของกลุ่มเฟิงหลีในปีนี้ จะปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง ไม่น่าเชื่อเลยว่าพวกเขาจะเชี่ยวชาญในการบ่มเพาะลูกรักของพระเจ้าถึงขนาดนี้
แต่ในความเป็นจริง ไม่สามารถกล่าวได้ว่ากลุ่มเฟิงหลีมีความเชี่ยวชาญในการบ่มเพาะ แต่มันเป็นเพราะกลุ่มเฟิงหลี มั่งคั่งเกินไปต่างหาก!
เมื่อคุณได้รับการดูแลที่ดี บวกกับมีความพยายามในตัวเอง ได้รับทรัพยากรมหาศาล ตราบใดที่มีพรสวรรค์ การยกระดับอย่างก้าวกระโดดก็ไม่ใช่เรื่องยาก
นอกจากฮั่นจุนแล้ว ผู้ใช้พลังอีกสองคนไม่มีพื้นเพอะไร กล่าวได้ว่าเป็นม้ามืด ด้วยเหตุผลหลายประการ หนึ่งในนั้นคือโชคช่วย ทำให้ระหว่างการคัดเลือก ไม่ได้ปะทะกับกลุ่มเฟิงหลี ดังนั้นเลยได้มายืนอยู่ในจุดนี้
“ฉันเป็นหัวหน้าทีมในครั้งนี้ มีสกุลว่าฉิน ตำแหน่งปัจจุบันคือนายพลประจำภูมิภาคเหนือแห่งกลุ่มพันธมิตรมนุษย์ พวกนายสามารถเรียกฉันว่านายพลฉินได้!”
มีเพียงสองคนเท่านั้นที่ไม่คุ้นหน้าฉินเฟิง เมื่อครู่คนอื่นๆเอ่ยปากว่าประธานฉิน พวกเขาเองก็เกือบเรียกฉินเฟิงว่าท่านประธานแล้วเหมือนกัน
ฉินเฟิงกล่าวต่อ “ระหว่างเดินทาง ฉันจะรับผิดชอบพวกนายอย่างเต็มที่ ให้ข้อมูลในการเดินทางเข้าสู่เมืองหลวงมังกร ส่วนตอนนี้ขึ้นเรือเหาะก่อนเถอะ ถ้าคนไหนมีญาติ , ครอบครัว หรือคนดูแลที่ต้องการติดตาม ก็สามารถมาด้วยกันได้”
อีกสองคนเป็นม้ามืด ฉะนั้นไม่มีคนดูแลติดตามมาด้วย ทางด้านฮั่นจุนโบกมือ สั่งให้คนคุ้มครองเขาที่ซ่อนอยู่ในเงามืดปรากฏตัวขึ้น เดินขึ้นไปบนเรือเหาะ
จากนั้น เรือเหาะก็เริ่มสตาร์ทเครื่อง และทำการจั๊มป์ผ่านมิติ ปรากฏขึ้นในตำแหน่งตัวเชื่อมมิติของเมืองหลวงมังกร
เนื่องจากการพัฒนาการทางเทคโนโลยีของกลุ่มเฟิงหลีในปีที่ผ่านมา ทำให้หลายคนสามารถเป็นเจ้าของเรือเหาะ ดังนั้นเจ้าหน้าที่ที่ประจำการอยู่ในตำแหน่งตัวเชื่อมมิติเลยไม่ตกใจใดๆ อย่างไรก็ตาม เรือเหาะไม่สามารถเข้าสู่เมืองหลวงมังกรได้
ฉินเฟิงจอดเรือเหาะทิ้งไว้ข้างนอก หลังจบงานประลอง จะได้ใช้มันส่งลูกรักของพระเจ้ากลับไป
เขาบอกเล่ารายละเอียดต่างๆระหว่างทาง พาตัวแทนลูกรักของพระเจ้าของภูมิภาคเหนือเข้าพักในโรงแรม แต่เมื่อมาถึง ฉินเฟิงกลับหาเวลาว่างไม่ได้เลย เพราะต้องคอยรับหน้ากับพวกอาวุโสตระกูลของเมืองหลวงมังกร ได้รับคำเชื้อเชิญเป็นว่าเล่น ผู้คนนับไม่ถ้วนเดินทางมาหาฉินเฟิงด้วยตัวเอง เพื่อชวนเขาไปรับประทานอาหารทั้งมื้อเที่ยง มื้อเย็นร่วมกัน กระทั่งมื้อดึกก็ยังมี
“มิสเตอร์ฉิน ฉันไม่นึกฝันเลย ว่างานประลองลูกรักของพระเจ้าในปีนี้ กลุ่มเฟิงหลีของคุณ จะปรากฏผู้ใช้พลังเลเวล C ขึ้นอีกคนหนึ่ง ดูเหมือนครั้งนี้ทางคุณจะได้รับรางวัลใหญ่อีกครั้งแล้ว!”
“ประธานฉิน ขอแสดงความยินดีด้วย ไม่ทราบว่าครั้งนี้ คุณมีแผนจะเดินทางไปสู้ที่ไหนหรือไม่ สนใจเป็นพันธมิตรกันรึเปล่า?”
“มิสเตอร์ฉิน ตลอดปีที่ผ่านมา พวกเราร่วมมือกันด้วยดี ผลิตภัณฑ์ชิ้นอื่นที่จะได้ในปีนี้ คุณสนใจร่วมมือกับพวกเราอีกหรือไม่?”
เจอกันคราวก่อน คนพวกนี้ล้วนคิดข่มขู่ฉินเฟิงผ่านข้อตกลง ฉกฉวยผลประโยชน์ แต่ตอนนี้ ทั้งหมดกลับยอมก้มหัวให้เขา คาดหวังว่าฉินเฟิงจะยื่นมือออกมาสักเล็กน้อย ยอมปล่อยเศษอาหารลงมาให้
ฉินเฟิงหาแยแสไม่ แน่นอนเขาไม่คิดแบ่งผลประโยชน์กับคนเหล่านี้ ครั้งก่อนเนื่องด้วยเวลา สถานที่ และข้อจำกัดต่างๆ แต่ปัจจุบัน เขาแข็งแกร่งมากพอที่จะไม่ต้องเกรงกลัวสิ่งใดแล้ว
ดังนั้น คนเหล่านี้ไม่อาจสร้างภัยคุกคามใดๆแก่เขาได้
แม้ยังคงเป็นความลับ แต่บรรดาลูกรักของพระเจ้าที่ลงประลองในปีนี้ต่างได้รับข่าวว่าตัวแทนของภูมิภาคเหนือ มีเลเวล C อีกคนปรากฏขึ้น
“ปีที่แล้วภาคเหนือก็มีเลเวล C ปีนี้ดันมีอีกแล้วหรอ! แค่ฉินเฟิงก็น่าเหลือเชื่อพอแล้ว คราวนี้ยังมีโจวฮ่าวอีกคน นี่มันบ้าชัดๆ!”
“พูดก็พูดเถอะ เอาจริงๆดูเหมือนว่าฉินเฟิงก็เป็นตัวแทนลูกรักของพระเจ้าเช่นกัน”
“ต่อให้เขาเป็นลูกรักของพระเจ้า เขาก็ไม่ควรเข้าร่วมงานประลองนี้ แบบนั้นมันกลั่นแกล้งกันชัดๆ! อย่าลืมสิว่าเขาเป็นเลเวล B แล้ว!”
“ฉันได้ยินจากพ่อมา ว่าความแข็งแกร่งในปัจจุบันของฉินเฟิง สามารถเอาชนะเลเวล A ได้อย่างไม่ยากเย็น!”
“โชคดีที่เขาไม่เข้าแข่งด้วย ไม่อย่างนั้นทุกคนคงทำอะไรไม่ได้ นอกจากหมอบแทบเท้าเขา”
รุ่นเยาว์สนทนากัน แต่ก็อย่างที่รู้ ฉินเฟิงจะไม่ปีนหอคอยประตูมังกรพร้อมกับพวกเขา แต่จะอยู่ด้านบนสุดตั้งแต่แรก รอต้อนรับพวกเขา!
…
สองสามวันสำหรับการเตรียมตัวผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว จากนั้น หอคอยประตูมังกรก็เปิดให้รุ่นเยาว์ได้เข้าท้าทาย
ณ บนสุดของหอคอยประตูมังกร
ฉินเฟิงกับผู้พิทักษ์หอคอยกำลังสนทนากัน
เมื่อปีที่แล้ว ผู้พิทักษ์หอคอยยังวางตัวเป็นอาวุโส ชื่นชมฉินเฟิง พยายามโน้มน้าวให้เขาขายเทคโนโลยีให้อยู่เลย
แต่ตอนนี้ ทั้งสองนั่งอยู่ในฐานะที่เท่าเทียมกัน แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ว่าลูกรักของพระเจ้าในปีนี้ ใครจะสามารถขึ้นมาได้เป็นคนแรก และอนาคตของผู้ใดจะสดใส ไร้ขีดจำกัด
“ช่างร้ายกาจ! เลเวล C ที่ชื่อโจวฮ่าวก็มาจากกลุ่มเฟิงหลีของคุณด้วยใช่ไหม? ยอดเยี่ยมจริงๆ” ผู้พิทักษ์หอคอยกล่าว
ฉินเฟิงพยักหน้า “นั่นพี่น้องร่วมสาบานของผมเอง”
ผู้พิทักษ์ผงกหัว ก้มมองดูเหตุการณ์เบื้องหลัง แต่แล้วสายตาของเขาก็แปลกไป “สาวน้อยคนนี้ไม่เลวเลย สามารถใช้จักรกลได้อย่างเชี่ยวชาญ … ว่าแต่อาวุธปืนชิ้นนั้นมันคืออะไรกัน ทรงพลังมากเลย!”
ฉินเฟิงก้มมอง กล่าวเห็นด้วย “นั่นลู่เหมิง เธอพัฒนาไปอีกขั้นแล้ว”
“อ้าว คุณก็รู้จักเธอหรอ?”
“ครับ นั่นน้องสะใภ้ผมเอง”
ผู้พิทักษ์หอคอยรู้สึกทึ่งเล็กน้อยกับคำตอบ แต่ยังคงสังเกตต่อไป
“ลูกรักของพระเจ้าคนนั้นก็ใช้ได้เหมือนกัน อ๋า เขาก็มาจากภูมิภาคเหนืออีกแล้ว?”
“ครับ นั่นสมาชิกกลุ่มเฟิงหลีของผมเอง”
“ผู้ใช้อบิลิตี้คนนั้นน่าสนใจไม่เลว!”
“นั่นลูกชายของอาวุโสประจำกลุ่ม เขาก้าวหน้าไปมากทีเดียว!”
“คนนั้น …”
“ครับ มาจากกลุ่มเฟิงหลีเหมือนกัน …”
ผู้พิทักษ์หอคอยไม่อยากจะพูดอีกต่อไป เขาเอ่ยชมเชยรุ่นเยาว์ แต่สี่ในห้าคนดันมาจากเฟิงหลีได้อย่างไร? สรุปเฟิงหลีส่งตัวแทนมาที่นี่กี่คนกันแน่?
ฉินเฟิงเฉลยอย่างหมดเปลือก ว่าพวกเขาคือตัวแทนลูกรักของพระเจ้าของตน แต่กลุ่มเฟิงหลีเพิ่งก่อตั้งเพียงสองปีเท่านั้น แล้วสามารถสร้างอัจฉริยะมากพรสวรรค์เยอะขนาดนี้ขึ้นมาได้อย่างไร? เกรงว่าหากเป็นคนทั่วไปคงไม่มีทางจ่ายไหว
แน่นอน แม้คนนอกจะไม่รู้ แต่ทุกคนในกลุ่มเฟิงหลีต่างรู้ดี ว่าฉินเฟิงโคตรจะร่ำรวย!
ต่อให้เพาะสร้างอัจฉริยะเช่นนี้ ให้มากกว่าเดิมถึง 2 เท่า ฉินเฟิงก็ยังดูแลไหว
ไม่นาน อันดับหนึ่งที่สามารถขึ้นมายังชั้นสิบก็ปรากฏตัวขึ้น
ไม่ต้องสงสัยเลย มิใช่ใครอื่นนอกจากโจวฮ่าว!
“ห๊ะ? ไอ้บ้า! ทำไมนายถึงมาอยู่ที่นี่!” โจวฮ่าวมองฉินเฟิงด้วยความตกใจ
ฉินเฟิงกล่าว “พอดีว่าฉันได้รับเลือกเป็นพิเศษ และแน่นอนฉันจะไปมิติอื่นด้วย แต่ฉันไม่ได้มีส่วนร่วมในงานประลองของหอคอยประตูมังกร”
โจวฮ่าวพูดไม่ออก สักพักถึงค่อยเอ่ยได้ว่า “นั่นถูกแล้ว นายห้ามเข้าร่วมงานประลองในหอคอยประตูมังกรเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นจะเป็นการทำลายความมั่นใจของคนอื่นๆ และแบบนี้สิดี! เพราะฟังจากคำพูดนายแล้ว หมายความว่าฉันคืออันดับหนึ่งของงานประลองในครั้งนี้!!”
ผู้พิทักษ์หอคอยกระแอมสองสามครั้ง และกล่าว่วา “ลูกรักของพระเจ้า โจวฮ่าวแห่งภูมิภาคเหนือ ขอแสดงความยินดีด้วย เจ้าคืออันดับหนึ่งในงานประลองลูกรักของพระเจ้าในปีนี้!”
“ขอบพระคุณท่านอาวุโส! ถึงไม่ใช่คนแรกที่มาถึง แต่เป็นอันดับแรกก็พอแล้ว” โจวฮ่าวกล่าวพลางฉีกยิ้มกว้าง
เพราะท้ายที่สุดแล้ว คนแรกที่มาถึง ย่อมเป็นฉินเฟิง
จากนั้น รุ่นเยาว์คนอื่นๆก็ฝ่าฟันขึ้นมายังชั้นสูงของหอคอยประตูมังกร เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว มันมากจากเดิมเป็นเท่าตัว จำนวนคนที่ผ่านด่านในปีนี้ มีถึง 13 คน
แต่ลูกรักของพระเจ้าที่ฉินเฟิงเจอเมื่อปีที่แล้ว ครั้งนี้ไม่โผล่มาให้เห็นอีกเลย
แต่นี่ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะผู้ที่กลายเป็นลูกรักของพระเจ้า ไม่จำเป็นต้องสามารถทะลุชั้นสิบของหอคอยประตูมังกรเสมอไป ผู้ที่สามารถฟันฝ่า จำเป็นต้องมีความแข็งแกร่งในระดับราชันย์ขึ้นไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
คนพวกนี้ ในอนาคตจะกลายเป็นผู้ใช้พลังเลเวล A และคาดหวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าจะมีคนที่สามารถไปถึงเลเวล S !