ตอนที่แล้วตอนที่ 4 เล่าเรื่อง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 6 ทรราชในห้องแชท

ตอนที่ 5 ชายปริศนาผู้บ้าคลั่ง


ตอนที่ 5 ชายปริศนาผู้บ้าคลั่ง

ทันทีที่ฉินจิ่วเอ๋อร์หันไปมองคนที่เฉินเฟิงเรียก ดวงตาของเธอก็เบิกกว้าง!

"เป็นเขา?"

ลู่หยวนพูดอะไรไม่ออก กลายเป็นว่าผู้หญิงที่เขาเจอในมหาลัยเมื่อเช้าเป็นเพื่อนของเหอหมิน

"พวกเธอรู้จักกันอยู่แล้วเหรอ?"

เหอหมินรู้สึกแปลกใจ เธอไม่คิดว่าทั้งสองคนจะรู้จักกันมาก่อน

"แน่นอนล่ะ! เราเคยเจอกันมาก่อน" ฉินจิ่วเอ๋อร์กล่าว

"เขาก็คือคนที่ขโมยอาหารของฉันที่มหาวิทยาลัยเมื่อเช้ายังไงล่ะ!" ฉินจิ่วเอ๋อร์พูดด้วยน้ำเสียงกระแทก

“อะไรนะ!” ทุกคนพูดพร้อมกันอัตโนมัติ

ทุกคนตกตะลึง

ทุกอย่างเงียบไปครู่หนึ่ง

เหอหมินไม่รู้จะพูดอะไรต่อ

เธอคิดว่าไม่ควรพูดอะไรออกไปในตอนนี้

จางฮุยไม่ได้รู้สึกเขินอีกต่อไป เขาพูดกับลู่หยวนด้วยน้ำเสียงโกรธเคืองว่า "ลู่หยวนนายไม่มีเงินกินข้าว ทำไมไม่บอกพวกเรา นายไม่เห็นเราเป็นเพื่อนงั้นเหรอ?!"

"นั่นสิพี่ลู่ ทำไมถึงไม่เคยบอกเรื่องนี้กับพวกเราเลย" ซงชุนพูดเสริม

"นั่งก่อนสิลู่หยวน เธอคนนี้ชื่อว่าฉินจิ่วเอ๋อร์ น่าจะเคยเจอกันแล้วใช่ไหม?" เฉินเฟิงพยายามเปลี่ยนประเด็น

ลู่หยวนไม่ได้ตอบอะไรและนั่งลง

จากนั้นฉินจิ่วเอ๋อร์ก็ลุกขึ้นยืน

"โทษทีนะ พอดีฉันลืมไปว่ามีธุระด่วน ต้องไปเดี๋ยวนี้"

ฉินจิ่วเอ๋อร์คว้ากระเป๋าและเดินออกไป

ในความคิดของฉินจิ่วเอ๋อร์ เธอมาที่นี่ก็เพื่อที่จะมองหาผู้ชาย ยิ่งไปกว่านั้นเธอคาดหวังว่าจะได้เจอผู้ชายที่ร่ำรวยและหล่อเหลา มันจะดีมากถ้าหากว่าเธอได้มีแฟนแบบนั้น

เธอตั้งความหวังไว้ว่าเธอจะได้เจอกับผู้ชายแบบนั้น

อย่างไรก็ตามเธอไม่คาดคิดว่าเพื่อนอีกคนของเฉินเฟิงก็คือคนที่ขโมยอาหารของเธอเมื่อเช้า

เธออุส่าห์เฝ้ารอที่จะได้เจอกับเพื่อนคนสุดท้ายของเฉินเฟิง แต่กับไม่เป็นไปอย่างที่คิด

มันต่างจากที่เธอคิดเกินไป เธอจึงไม่มีอารมณ์ที่จะอยู่ต่อแล้ว

ฉินจิ่วเอ๋อร์รู้สึกผิดหวังอย่างมาก

เธอเดินออกไปได้ไม่กี่ก้าว จู่ๆ ก็มีผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาขวางเธอ

ผู้ชายคนนี้ตัวไม่สูงนัก การแต่งตัวดีมาก ที่ข้อมือของเขามีนาฬิกา Rolex

เขาเดินเข้ามาพร้อมกับถือไวน์สองแก้วไว้ในมือ

"คุณคนสวย ผมเดิมพันกับเพื่อนไว้ว่าผมจะสามารถชวนสาวสวยไปนั่งดื่มไวน์ได้ ช่วยไปดื่มกับผมหน่อยได้ไหม?"

น้ำเสียงของผู้ชายคนนี้ดูมั่นใจและท่าทางเขาค่อนข้างเป็นคนเหย่อหยิ่งอีกด้วย

ท่าทางผู้ชายคนนี้จะเป็นลูกของคนที่มีฐานะร่ำรวย

ถึงแม้ว่าฉินจิ่วเอ๋อร์จะชอบรุ่นที่สองที่ร่ำรวย แต่ตอนนี้เธอก็ไม่เต็มใจที่จะไปกับผู้ชายคนนี้

นอกจากนั้นเธอเองก็ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินและไม่อ่ะยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้เธอกำลังอารมณ์เสียเพราะเรื่องของลู่หยวน

“ไม่ค่ะ!” ฉินจิ่วเอ๋อร์ตอบอย่างเย็นชา

ใบหน้าที่มีรอยยิ้มในตอนแรกของผู้ชายที่เดินเข้ามาได้เปลี่ยนไปเป็นบึ้งตึงทันที

เขาคิดว่าฉินจิ่วเอ๋อร์จะต้องไปกับเขาแน่นอน แต่มันไม่เป็นไปอย่างที่คิด เธอปฏิเสธ!

แม้ว่าเขาจะบอกว่าได้พนันกับเพื่อนไว้ แต่ความจริงแล้วเขาต้องการที่จะเข้ามาจีบฉินจิ่วเอ๋อร์ต่างหาก

ในตอนนี้ท่าทีของฉินจิ่วเอ๋อร์ทำให้เขารู้สึกอับอายเป็นอย่างมาก

"เธอคิดว่าตัวเองสวยมากเหรอ?" เมื่อเห็นว่าฉินจิ่วเอ๋อร์กำลังจะเดินต่อไป เขาจึงเอื้อมมือไปคว้าแขนเธอไว้

ฉินจิ่วเอ๋อร์ตกใจ ไม่คาดคิดว่าผู้ชายคนนี้จะกระชากแขนเธอเอาไว้และมันยิ่งทำให้เธออารมณ์เสียมากขึ้นไปอีก

“เพี๊ยะ!”

เธอตบหน้าผู้ชายแปลกหน้าคนนั้นอย่างแรงและพูดขึ้น "ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!"

ชายแปลกหน้ามองฉินจิ่วเอ๋อร์ด้วยใบหน้าตกตะลึง

อีกด้านหนึ่งของร้าน เฉินเฟิง เหอหมินและคนอื่นๆ เพิ่งเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตอนที่พวกเขากำลังจะเดินเข้าไปช่วยนั้น ฉินจิ่วเอ๋อร์ก็ได้เดินจากไปแล้ว

หลังจากที่ฉินจิ่วเอ๋อร์เดินออกไป บรรยากาศก็กลายเป็นน่าอึดอัด ทุกคนนั่งเงียบกันหมด

ทั้งจางฮุย ซงชุนและเฉินเฟิงต้องการจะพูดอะไรบางอย่างกับลู่หยวน

แม้ว่าฉินจิ่วเอ๋อร์จะทำผิดจริง แต่พวกเขาก็คิดว่าไม่ควรจะนินทาเธอต่อหน้าเพื่อนๆของเธอ

และมันก็ไม่ใช่เรื่องดีที่จะพูดถึงเรื่องที่ลู่หยวนขโมยอาหารอีกครั้ง

แน่นอนว่าลู่หยวนก็สังเกตเห็นเรื่องนี้เช่นกัน เขาจึงหาข้ออ้างที่จะจากไป

เขารู้ว่าถ้าเขาอยู่ต่อจะยิ่งทำให้ทุกคนรู้สึกอึดอัด

เขาเดินกลับไปที่หอพักคนเดียวพลางคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้รวมถึงเรื่องของหลี่เมิ่งเหยา

สาเหตุทั้งหมดมาจากเรื่องเงิน

ถ้าหลี่เมิ่งเหยารู้ว่าจริงๆ แล้วเขานั้นรวยมาก เธอคงจะไม่ทิ้งเขาไป

จิ่วเอ๋อร์ก็ด้วยถ้าเธอรู้ว่าเขานั้นคือรุ่นที่สองที่ร่ำรวยก็คงไม่เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น

บางทีอาจถึงเวลาแล้ว ที่เขาจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกมา

แต่เรื่องนี้มันก็มีข้อดีอยู่

เพราะการที่เขาแสร้งทำเป็นคนยากจน จึงได้กลายเป็นเพื่อนกับจางฮุยและคนอื่นๆ

มิตรภาพนี้ไม่ได้แลกมาด้วยเงิน แต่เป็นมิตรภาพที่แท้จริง

ท้ายที่สุด จางฮุย ซงชุนและเฉินเฟิงต่างก็รู้ว่าเขานั้นยากจน แต่พวกเขาก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อลู่หยวน

การที่เขาแกล้งทำเป็นคนจน มันทำให้เขาได้พบกับความลำบากที่คนรวยไม่มีวันได้พบเจอ สิ่งนี้ได้สอนอะไรมากมายให้กับลู่หยวน ทำให้เขาได้เรียนรู้อะไรมากมายเกี่ยวกับชีวิต

ความจริงแล้วลู่หยวนนั้นไม่ชอบทำตัวเป็นคนเย่อยิ่งและใช้อำนาจเหนือใคร เขาชอบเป็นคนธรรมดาแบบนี้

และด้วยเหตุนี้ เขาจึงได้รู้ว่าใครที่หวังดีกับเขาจริงๆ

ตัวอย่างเช่นจางเซี่ย เพื่อนที่ดีที่สุดอีกคนหนึ่ง

แต่เขาคิดผิดเหรอ?

เขาควรจะทำตัวหยิ่งงั้นเหรอ?

ขณะที่เขากำลังคิดอยู่นั้น ประตูของห้องพักก็ถูกเปิดออก จางฮุยและซงชุนได้กลับมาถึงแล้ว

"เป็นไงบ้าง? สนุกมั้ย?" ลู่หยวนถาม

"เฮ้อออ แม้ว่ากู่นากับเฉินหมานจะไม่หยิ่งและเป็นกันเองไม่เหมือนฉินจิ่วเอ๋อร์ แต่พวกเธอก็ต่างจากเรา เธอพูดถึงแต่เรื่องการท่องท่องเที่ยว อาหารราคาแพงที่พวกเราไม่รู้จัก ทำให้พวกเราไม่รู้จะชวนคุยอะไรดี"

จางฮุยพูดอย่างน้อยใจและเปิดคอมพิวเตอร์เล่นเกม

"แต่ว่าเหอหมินเธอน่ารักดีนะ เธอพยายามที่จะพูดคุยกับเรา เราตกลงกันไว้ว่าสัปดาห์หน้าจะนัดกันไปทานข้าวเย็นอีกครั้ง" ซงชุนกล่าว

"ดีแล้ว" ลู่หยวนหวังว่าทั้งสองคนจะหาแฟนได้ "แต่ครั้งหน้าฉันไม่ไปนะ"

"ให้ตายเถอะ! ลู่หยวน ทำไมนายถึงไม่ไป เป็นเพราะฉินจิ่วเอ๋อร์เหรอ? อย่าไปสนใจเธอเลย" จางฮุยพูดขณะเล่นเกม

"นี่พี่ลู่ ผมพอจะมีเงินให้พี่ยืมได้อยู่นะ" ซงชุนพูดขณะที่ยืนมองจางฮุยเล่นเกมอยู่ด้านหลัง

"ไม่เป็นไร ขอบใจนายมากนะ"

ลู่หยวนไม่ชอบเล่นเกมเขาจึงหยิบโทรศัพท์ oppo ขึ้นมาเพื่อเริ่มหาอะไรดู

ถึงแม้ว่าหลี่เมิ่งเหยาจะไม่ชอบโทรศัพท์เครื่องนี้ แต่สำหรับลู่หยวนแล้วเขาไม่เคยได้ใช้โทรศัพท์ที่ดีขนาดนี้มาก่อน

เขาเข้าสู่ระบบ QQ

มีข้อความแจ้งเตือนมาจากแชทกลุ่มของชั้นเรียน

"เฮ้ทุกคน ตอนนี้ฉันกำลังจะ Live อย่าลืมเข้ามาดูกันนะ... "

ทันทีที่ข้อความนี้ถูกโพสต์ แชทก็ระเบิดทันที

"หยินยี่กำลังจะ Live เหรอ?"

จางฮุยรีบหยิบโทรศัพท์ของเขาขึ้นมาและตะโกน

"จริงดิ! เยี่ยมไปเลยยย"

ซงชุนหยุดมองจางฮุยเล่นเกมและรีบวิ่งไปหยิบโทรศัพท์

"ว้าว! ลู่หยวนนายมาดูนี่สิ" จางฮุยชักชวนลู่หยวนขณะที่จ้องมองไปที่โทรศัพท์

หยินยี่เป็นสาวฮ็อตของชั้นเรียน

เธอดูเด็กและน่ารักมาก หลายๆ คนที่เพิ่งเคยเห็นเธอเป็นครั้งแรกมักจะคิดว่าเธอเป็นเพียงสาวน้อยมัธยมปลาย

แถมเธอยังดูราวกับเป็นวัวนมที่ได้รับการเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดี

หน้าอกของเธอใหญ่จนเธอได้รับฉายาจากกลุ่มเด็กผู้ชายว่า 'แม่วัว'

เธอสนิทอยู่กับแค่กลุ่มของตัวเองเท่านั้น แม้ว่าลู่หยวนจะอยู่ชั้นเรียนเดียวกับเธอแต่เขาก็แทบจะไม่ได้คุยกับเธอเลย

"เธอ Live ด้วยเหรอ?"

ลู่หยวนสมัครสมาชิกแล้วคลิ๊กเข้าไปดู

หยินหยี่อยู่ในชุดเซ็กซี่ สวมหูแมวสองข้างทำหน้ามุ่ยดูน่ารักและน่ามองมาก

"สวัสดี ทุกคน!"

เธอโบกมือทักทายและพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน

"สวัสดีคร๊าบบบ!" ซงชุนยิ้มและโบกมือให้โทรศัพท์และแน่นอนว่าหยินยี่ไม่ได้ยินสิ่งที่เขาพูด

"นายคิดว่าเธอจะได้ยินเหรอ!" จางฮุยแซวซงชุน

หยินยี่ร้องเพลงพร้อมกับโยกตัวไปมาเบาๆ อย่างน่ารัก

ขณะนี้คนกำลังดู Live อยู่ 33 คน และส่วนใหญ่ก็น่าจะเป็นคนในชั้นเรียนด้วย

แถบแชทเด้งขึ้นไม่หยุด

[หยินยี่ ลองเดาดูสิว่าฉันคือใคร?]

[ฉันคืออาจารย์เหว่ย เธอทำการบ้านเสร็จแล้วหรือยัง?]

[เย้! ในที่สุดก็เริ่ม Live สักที ]

จากนั้นก็มีข้อความจากระบบแจ้งว่า กระดาษชำระ1แผ่นถูกแบนจากช่องแชท

"เชี่ย! ฉันถูกแบน!" ซงชุนโวยวาย (ซงชุนแกล้งเป็นอาจารย์)

"ขอของขวัญหน่อยสิ ขอของขวัญหน่อยสิ!"

หยินยี่ตะโกนใน Live

"เราเป็นเพื่อนรวมชั้นกัน ขอกุหลาบหน่อยไม่ได้เหรอ?" หยินยี่ทำหน้ามุ่ย

กุหลาบเป็นของขวัญราคาห้าหยวน

วิธีของเธอได้ผล ผู้คนในห้องแชทต่างส่งของขวัญดอกกุหลาบให้เธอรัวๆ

หลังจากนั้น

"ขอบคุณสำหรับดอกกุหลาบนะคะพี่เทียน"

"เสี่ยวซีขอบคุณสำหรับผ้าพันคอนะ"

"หยินยี่พี่ชื่อลี่เทียนนะ" พี่เทียนพิมพ์ในช่องแชท

"ขอบคุณนะคะ พี่ลี่เทียน" หยินยี่พูดพลางทำท่าทางน่ารัก

"ขอบคุณค่ะ เหว่ยหง"

"ขอบคุณนะคะ หวังห่าว"

“น้องเจิ้น ขอบคุณน้าาาา”

. . .

เธอขอบคุณอย่างต่อเนื่อง

ของขวัญส่วนใหญ่เป็นกุหลาบห้าดอก ไม่ก็ผ้าพันคอสิบผืน

"กระดาษชำระ1แผ่นส่งผ้าพันคอ!"

"อ่า กระดาษชำระ1แผ่นนี่เป็นใครกันนะ?" หยินยี่ปิดปากหัวเราะ

"ฉันเอง! นั่นคือฉันเอง!" ซงชุนกระวนกระวายราวกับมดบนกระทะร้อน

"ให้ตายเถอะจางฮุยนายช่วยฉันส่งข้อความไปบอกเธอหน่อยว่ากระดาษชำระ1แผ่นนั่นคือฉันเอง ฉันพิมพ์เองไม่ได้!" (ถูกแบนแชทอยู่)

[กระดาษชำระ1แผ่นคือซงชุน] จางฮุยมองซงชุนด้วยความรำคาญ

"ซงชุน ขอบคุณนะ" หยินยี่กล่าว

[แม้แต่ยาจกอย่างซงชุนยังให้ของขวัญกับเธอได้เลย ฉันคงยอมไม่ได้แล้ว] ในเวลานี้ผู้ใช้งานคนหนึ่งที่มีชื่อว่า'ปีศาจน้อยจินหลิง'ได้พิมพ์ในช่องแชท

เมื่ออ่านซงชุนก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นมา

ใช่ แม้ว่าเขานั้นจะจน แต่ก็ไม่มีใครรู้สึกดีที่โดนดูถูกกลาง Live แบบนี้

ยิ่งไปกว่านั้นคนส่วนใหญ่ในห้องสตรีมสดก็เป็นเพื่อนร่วมชั้นของเขาด้วย

[เฮ้ย! ให้เกียรติกันหน่อย!] จางฮุยยอมไม่ได้ที่เห็นเพื่อนโดนดูถูก

"ปีศาจน้อยจินหลิงส่งซุปเปอร์คาร์!" ระบบแจ้งเตือนขึ้นมา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด