ตอนที่ 432 ทั้งหมดที่เธอทำคือการแสดง
ยิ่งผู้ช่วยของเธอคร่ำครวญและดูน่าสงสารเท่าไหร่ เธอยิ่งรู้สึกอยากตบเธออีกครั้งเพื่อสอนบทเรียนให้กับเธอ
เฉียวเมียนเมียน ดีแต่ทำตัวน่าสมเพชทั้งวันเพื่อให้ได้รับความเห็นใจจากผู้ชาย
“เธอกลัวว่าจะรบกวนฉันน่ะเหรอ?” ท่าทางของเฉียวอันซินมืดลงในขณะที่เธอเดินไปหาผู้ช่วยของเธอ
เมื่อมองไปที่ใบหน้างดงามและอ้วนของเธอ เธอบีบใบหน้าของผู้ช่วยอย่างแรง เธอขูดเล็บยาวลงบนผิวหนังเพื่อระบายความโกรธของตนเอง “เธอแค่หวังให้ฉันล้มเหลวและถูกทำลายไม่ใช่เหรอ? ฉันรู้ว่าเธอกำลังดีใจอยู่ลึก ๆ”
เล็บของเธอแทงทะลุเนื้อของเธอและสร้างรอยแผลเป็น มีเลือดไหลออกมาจากใบหน้าของเธอ
“พี่อันซิน ฉันไม่กล้าทำแบบนั้น” ผู้ช่วยกลัวเกินกว่าที่จะพูดอะไร เธอสั่นสะท้านจากความกลัวพร้อมกับน้ำตาแห่งความเจ็บที่กลิ้งลงมาบนใบหน้าของเธอ
“เธอไม่กล้าเหรอ? ฉันพนันได้เลยว่าเธอกล้า!”
“เธอมันก็แค่ของประดับชิ้นเล็ก ๆ แต่มันดันแย่เกินไปที่ไม่มีผู้ชายอยู่แถวนี้ แล้วจะยังไง ถ้าเธอแสร้งทำตัวน่าสงสาร? เธอคิดว่าจะมีผู้ชายสักคนกำลังมาช่วยและมาปลอบใจเธองั้นเหรอ? หรือเธอพยายามบอกให้ทุกคนรู้ว่าฉันกลั่นแกล้งเธอด้วยการร้องไห้ที่นี่น่ะ”
“พี่อันซิน ฉัน...ฉันไม่ได้ตั้งใจทำแบบนั้นจริง ๆ”
ผู้ช่วยของเธอส่ายหน้าอย่างโกรธเกรี้ยวขณะที่น้ำตาของเธอไหลริน
เธอถูกเฉียวอันซินข่มขวัญอย่างสมบูรณ์
เฉียวอันซินนึกถึงเฉียวเมียนเมียนอีกครั้ง ขณะที่เธอมองไปที่ผู้ช่วยของตนเอง เธอยกมือขึ้นขณะที่ความโกรธของเธอเพิ่มขึ้น ต้องการจะตบเธออีกครั้ง
ทว่าทีมงานคนหนึ่งเดินออกมาจากถ่ายทำ
เขาแข็งทื่อเมื่อเห็นฉากนี้
เฉียวอันซินสังเกตเห็นทีมงานจากมุมหางตาของเธอ จึงหยุดนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง เธอเปลี่ยนท่าทางการแสดงออกอย่างรวดเร็วในเวลาถัดไป
มือที่ยื่นออกมาของเธอเช็ดน้ำตาให้กับผู้ช่วยทันที
ท่าทางดุร้ายและข่มขู่ของเธอเปลี่ยนน้องสาวที่อบอุ่นและห่วยใย ในขณะที่เธอพูดอย่างอ่อนโยน
“เสี่ยวเค่ออย่าร้องไห้อีกต่อไปเลย หากเธอรู้ว่าเธอมีปัญหา เธอบอกฉันได้นี่ ฉันจะช่วยเธอจัดการทุกเรื่องอย่างแน่นอน”
“เธอทำงานใกล้ชิดกับฉันมาหลายปีแล้ว ฉันปฏิบัติกับเธอเหมือนน้องสาวของตัวเองอย่างสม่ำเสมอ เธอไม่ต้องรู้สึกเกรงใจที่จะขอความช่วยเหลือจากฉันหรอก”
ผู้ช่วยอึ้ง
เมื่อเธอรู้ว่าทีมงานกำลังจ้องมองพวกเขา เธอจึงยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาของตัวเองและกัดริมฝีปากของเธออย่างหนัก ขณะที่เธอพยายามเล่นตามบทของเฉียวอันซิน
“ขอบคุณค่ะพี่อันซิน ไม่มีอะไรหรอกค่ะ คุณไม่ต้องเป็นกังวล ฉันสามารถจัดการได้ค่ะ”
เฉียวอันซินยิ้มขณะที่เธอเช็ดน้ำตาอีกครั้ง
“ดีแล้วล่ะ หากมันเกินกำลัง โปรดอย่าลังเลที่จะบอกฉันได้ตลอดเวลาเลยนะ”
“เอาล่ะ ฉัน..ฉันจะ”
ทีมงานรู้สึกงงงวยอย่างมากขณะที่เขาเห็นฉากนี้ต่อหน้าต่อตาของเขา
เมื่อกี้เขาตาฝาดไปงั้นหรือ?
เฉียวอันซินพยายามปลอบใจผู้ช่วยของเธอ แทนที่กำลังกลั่นแกล้งเธองั้นเหรอ?
......
เฉียวอันซินออกจากห้องถ่ายทำอย่างปลอดภัย ด้วยความช่วยเหลือจากทีมงานที่พาเธอออกมาทางอื่น
เธอนั่งรถกลับไปที่สำนักงาน
ที่หน้าทางเข้าด้านหน้าบริษัท มีผู้สื่อข่าวหลายคนจับจ้องรอเธออยู่ที่นั่นอยู่แล้ว
บอดี้การ์ดของบริษัทถูกจัดให้ออกไปรับเธอ เฉียวอันซินหยุดที่ทางเข้า มีบอดี้การ์ดเข้ามาปกป้องและพาเธอเข้าไป
ผู้สื่อข่าวทุกคนรีบไปข้างหน้าทันทีที่เห็นเธอ
บางคนถืออุปกรณ์บันทึกเสียง บางคนมีไมโครโฟน และบางคนมีกล้อง หากไม่ได้รับการคุ้มครองจากบอดี้การ์ด เธอคงถูกนักข่าวทั้งหมดกู่เข้ามา
ผู้สื่อข่าวหลายคนวิ่งไปข้างหน้าพยายามฝ่าวงล้อมของเหล่าบอดี้การ์ด
“เฉียวอันซิน คุณช่วยบอกเกี่ยวกับโพสต์ที่เกี่ยวกับคุณได้หรือไม่? คุณเป็นมือที่สามจริง ๆ หรือเปล่า? ซูเจ๋อเป็นคู่หมั้นของพี่สาวของคุณจริง ๆ ใช่ไหม?”
“เฉียวอันซินมีข่าวว่า เดิมที่ซูเจ๋อหมั้นอยู่กับพี่สาวของคุณ และทั้งคู่เกือบจะแต่งงานกันแล้วใช่ไหม?”