บทที่ 22 (อ่านฟรี วันที่ 14 พฤษภาคม 2564)
แปลค่อนข้างช้านะครับ หนึ่งตอนแปลยากพอสมควร ตอนไหนยาวๆจะแบ่งออกเป็น 2 ตอนย่อยนะครับ
ถ้ารอไม่ไหว นี้อิ้งครับ I Am Really Not The Son of Providence
และมีคน ib มาถาม ตอบเขาไปแล้วแต่อยากมาชี้แจง
1.เรื่องแปลผิด ขอบอกไว้เลยว่าตอนแรกๆจะมาจาก Eng แต่หลังๆจะแปลจากจีน
ผมอ่านของ Eng แล้วไปอ่านของจีน Eng แปลผิดค่อนข้างเยอะ บางอย่างก็ไม่ค่อยสำคัญอะไร แต่บางอย่างก็สำคัญ อย่าง ท่านพี่เซิ่น ทาง Eng จะเรียกว่า darling หรือที่รัก พอตอนถัดๆไป ที่ หลี่เหลียนเอ๋อร์เปลี่ยนคำเรียกจาก ท่านพี่เซิ่นกลายเป็นสามีเซิ่น ทางEngจะกลายเป็นจากที่รักเป็นพี่ชาย หรือ ตอนที่ ตัวประกอบ A บอกว่า ไปรู้จักกันตอนไหน ทาง Eng จะเขียนว่า ไปแต่งงานกัตอนไหน มีอีกหลายจุดที่ความหมายมันเพี้ยนมาก บางประโยคผมแปลผิดจาก Eng แต่ไม่ได้แปลผิดจากจีน และผมไม่ได้แปลถูก 100% ถ้าอยากอ่านแบบถูกต้องทุกคำ อ่านจากต้นฉบับดีที่สุด
2.เรื่องกลุ่มลับ ตอนนี้ยังไม่มี ถ้ามีจะประกาศอีกทีนะครับ
-----------------------------------------------------------------------------------------------
เซิ่นเทียนไม่รู้ว่าในสายตาของผู้คนเขากลายเป็นคนดังไปแล้ว
ในสายตาของคนอื่นเขากลายเป็นหนึ่งบุคคลที่อยู่ในสวนว่านหลิงที่ไม่สามารถยั่วยุได้
แต่ตอนนี้เขามีเพียงความคิดเดียว นั่นคือการได้นอนหลับสนิทมันสบายจริงๆ!
เมื่อวานเขาถูกบังคับให้แบกกระบี่หนัก 30 จินและเดินมากกว่าสิบสี้ เขาเหนื่อยจนเหมือนกระดูกของหลุดออกจากกัน
เพาเพิ่งหายป่วยเมื่อไม่นานมานี้เอง!
โชคดีที่เมื่อเขากลับไปที่ สวนว่านหลิง ขันทีกุ้ย และ ฉินเกาได้จองโรงแรมสำหรับเขาไว้แล้ว
หลังจากแช่อ่างน้ำร้อนและมองหาพนักงานนวด เขาก็รู้สึกสบายตัว
สิ่งเดียวที่ทำให้ เซิ่นเทียนไม่พอใจก็คือผู้หญิงที่นวดนั้นไม่เป็นมืออาชีพมากๆ
นางนวดจุดที่ที่ไม่ควรกดเสมอ
นางบอกว่าเขาหล่อมาก และเขาสามารถช่วยให้นางรู้สึกดีได้ไหม
เซิ่นเทียนโกรธมากที่และไล่นางออกไปทันที
ทักะนวดก็ไม่ดีและทัศนคติการบริการก็ยังแย่อีกด้วย
ข้าใช้เงินเพื่อให้เจ้ารับใช้ข้า
มันหมายความว่าอย่างไร ช่วยให้เจ้ารู้สึกดี?
เจ้าต้องการให้ฝ่าบาทคนนี้นวดให้เจ้า?
ย่ามันเถอะ สมองเจ้าผิดปกติเหรอ?
นอกจากนี้เจ้าจ่ายเงินข้าไหม?
...
ทักษะการนวดของขันทีกุ้ยเป็นของแท้และดีมาก
ในช่วง 16 ปีที่ผ่านมา ทักษะการส่งเสริมการไหลเวียนโลหิตและขจัดภาวะเลือดหยุดนิ่งของเจ้าชายสิบสามและคลอบคลุมไปถึงการจัดกระดูก
ในที่สุด เซิ่นเทียนก็หลับไปภายใต้แรงกดของขันทีกุ้ย
วันถัดม ดวงอาทิตย์ค่อยๆขึ้นมาจากขอบฟ้า
เซิ่นเทียนตื่นขึ้นจากการหลับใหลและรู้สึกสบายตัวเหมือนเกิดใหม่
ขันทีกุ้ยที่อยู่ข้างๆกล่าวด้วยความห่วงใย“ฝ่าบาท ท่านเหนื่อยมากจากเมื่อวาน ทำไมวันนี้ไม่พักผ่อนล่พพะยะค่ะ!”
“ไม่ คราวนี้ข้าอุส่าออกจากวังมาทั้งที ข้าจะหยุดเพราะความเหนื่อยล้าเล็กน้อยได้อย่างไร”
วงแหวนดำบ้านี้ ข้าต้องล้างออกโดยเร็วที่สุด!
เมื่อมองในกระจกและมองไปที่จุดสีขาวที่ปรากฏบนวงแหวนสีดำ เซิ่นเทียนก็รู้สึกเต็มไปด้วยจิตวิญญาณนักสู้
ข้าอาจแค่พบเจอโอกาสดีอีกสองสามครั้งก็น่าจะล้างออกไปหมด
ข้าจะเกียจคร้านในช่วงวิกฤตระหว่างความเป็นความตายนี้ได้อย่างไร.
“ลุงกุ่ยเก็บกระบี่เล่มนี้ไว้ให้ข้า!”
เซิ่นเทียนชี้ไปที่กระบี่วารีหยกที่หลี่เหลียนเอ๋อร์ทิ้งไว้ข้างหลังและกล่าวกับขันทีกุ้ย
"นี่คือสัญลักษณ์แห่งความรักที่เจ้าชายและพระสนมที่ฝากไว้ให้กับราชวงศ์ของพระองค์ ทาสชราไม่ควรเก็บมันไว้!"
(妃 นางสนม)
“ประการแรกนางไม่ใช่นางสนม ประการที่สองข้ายังไม่ได้เริ่มฝึกกระบี่ ประการที่สามกระบี่เล่มนี้หนักเกินกว่าที่ข้าจะแบกมันได้”
หลังจากแบกกระบี่เล่มนี้เดินกลับมาเมื่อวาน หลังของเขาแทบหัก!
การให้เขาพกกระบี่เล่มนี้ทุกวัน มันดีกว่าจะถ้าโชคของเขาเพิ่มขึ้นแม้จะแค่เล็ก ๆ น้อย ๆ แทน
ขันทีกุ้ยพูดอย่างหมดหนทาง: "ถ้าเช่นนั้น ทาสชราจะแบกมันให้ฝ่าบาท!"
เมื่อเจ้าชายพบกับพระสนมในอนาคต ทาสชราก็จะคืนกระบี่ให้กับฝ่าบาททันที มีนไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
หลังจากล้างใส่เสื้อคลุมและเคราปอมเรียบร้อย
เซิ่นเทียนหยิบป้ายขึ้นมาและเตรียมออกไปตั้งแผง
แต่พอคิดไปมา เขาก็หยุด
หยิบพู่กันเขียนอักษรหลังป้าย [สะสมคุณธรรมและทำความดี] และอักษรตัวใหญ่ๆอีกสี่คำ [ไมได้หาคนรัก]
( 谢绝道侣 แยกได้เป็น 谢绝=ปฏิเสธอย่างสุภาพ 道侣=คู่รักที่ฝึกตนด้วยกัน)
หลังจากนั้น เซิ่นเทียนก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกและเดินออกไปด้วยความมั่นใจ
...
ทั้งสามคนมาที่จุดที่ตั้งแผงก่อนหน้านี้อีกครั้ง แต่เห็นว่าสถานที่นั้นแน่นไปด้วยผู้คนเสียแล้ว
ผู้หญิงหลายคนถึงกับยกป้ายขึ้นและส่งเสียงเชียร์ทันทีเมื่อเห็น เซิ่นเทียน
"พี่ชายเซียน ข้ารักท่าน "
(仙师 ปรมาจารย์เซียน 哥哥 พี่ชาย รวมกันแล้วยังไงไม่รู้ ขอใช้ พี่ชายเซียน นะครับ)
"ท่านเป็นเซียนของข้า ข้าเป็นดอกไม้ของท่านและท่านเป็นพี่ชายเซียนของข้าที่ป็นห่วงมาตลอดชีวิต!"
"พี่ชายเซียน, ชะตากรรมเปรียบเสมือนสะพาน, เราจะข้ามภูเขามาพบกัน "
...
เมื่อมองไปที่แฟน ๆจำนวนมาก ที่กระตือรือร้น เซิ่นเทียน ชี้ไปที่แบนเนอร์
[สั่งสมคุณธรรมทำความดี ไม่ได้มาหาคนรัก]
ทันใดนั้นก็มีเสียงที่สะเทือนใจรอบ ๆ
เซิ่นเทียนโค้งมือของเขาและกล่าวว่า: "นักพรตเต๋าผู้น่าสงสารมาจากหุบเหวของถูเขาอากินะนามเซิ่นโอวเทียนศิษย์ใต้ที่นั่งของผู้นับเทียนจี้ มาที่นี่เพื่อสะสมคุณธรรมและทำความดีเท่านั้นและค้นหาผู้ที่มีชะตากรรมร่วมกัน”
"ข้าหวังว่าท่านหญิงทุกคนจะถามถึงโชคชะตาอย่างมีเหตุผลเพื่อไม่ให้กระทบต่อกฎของสวนหรือส่งผลกระทบต่อชีวิตปกติของตัวเอง"
"การดื่มน้ำร้อนมากขึ้นในวันธรรมดาและการไล่ตามดาราให้น้อยลงจะดีต่อสุขภาพกายและใจ"
ทันทีที่คำพูดของ เซิ่นเทียนจบลงผู้หญิงเหล่านั้นก็กรีดร้องอีกครั้งในทันที
"ว้าวพี่ชายเซียนอบอุ่นจัง!"
"เขาห่วงใยเราเขาอ่อนโยนจริงๆ"
"ข้าดูเหมือนจะมีความรัก ข้าหวังว่าข้าจะมีโชคชะตากับพี่ชายเซียน!"
!
เซิ่นเทียนยอมแพ้
แน่นอนว่าตราบใดที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขาหายไปสักวันก็จะไม่มีผู้หญิงรายล้อมเขา
ท้ายที่สุดแล้วคนเหล่านี้ที่อยู่นอกวังไม่รู้ว่าเขาโชคร้ายแค่ไหน
พูดตามตรงตอนนี้เขาคิดถึงบรรยากาศที่เงียบสงบในตำหนักหลานเล็กน้อย
ตอนนี้เขาถูกล้อมรอบด้วยคนมากมาย าแม้แต่พื้นที่ส่วนตัวของข้าก็หายไป แย่จริงๆ
"อย่าส่งเสียงดังโปรดเข้าแถวทีละคน"
"โปรดยืนทางซ้ายหากท่านมีชะตากรรมกับผู้น่าสงสาร ข้าจะพาท่านไปหาแร่วิญญาณและเปิดมันในภายหลัง"
"ส่วนผู้ที่ไม่มีโชคชะตาเกี่ยวข้องกับผู้น่าสงสารก็สามารถอยู่เพื่อดูความตื่นเต้นหรือจะเดินออกไป นักพรตผู้นี้ด็ไม่บังคับ"
ภายใต้การคุ้มกันของขันทีกุ้ยและฉินเกาและความร่วมมือจึงเกิดขึ้นจากผู้หญิงโดยรอบ
ในไม่ช้า แถวหน้าแผงก็เรียบร้อย
นักพนันหินที่หวังว่าจะโชคดีต่อแถวเรียงกันยาวอย่างเป็นธรรมชาติต่อหน้า เซิ่นเทียน
เซิ่นเทียนไม่รีบร้อนเขาตรวจสอบทุกคนอย่างรอบคอบก่อนปล่อยให้เขาจากไป
“อะไรนะข้ามีชะตากรรมพี่ชายเซียน เยี่ยม!”
"กรุณารอสักครู่แล้วนักพรตเต๋าจะพาท่นาไปตามหาแร่วิญญาณและ นอกจากนี้โปรดอย่าขยับมือหรือเท้าไปมา"
...
"ทำไมทำไมข้าถึงไม่มีโชคกับพี่ชายเซียน โอ้ ไม่!"
"ท่านไม่จำเป็นต้องท้อถอยโชคชะตาลึกลับและไม่อาจคาดเดาได้วันนี้ท่านอาจไม่มีโชคชะตากับผู้น่าสงสาร ไม่แน่พรุ่งนี้อาจมีก็ได้"
...
"ปรมาจารย์ ข้ามาที่นี่เพื่อถามชะตากรรมแทนลูกสาวของข้า ข้าสงสัยว่าปรมาจารย์มีคนรักหรือไม่?
"ท่านป้า ท่านไม่มีชะตากับนักพรตเต๋าผู้น่าสงสาร หากลูกสาวของท่านสนใจ นางสามารถมาถามโชคชะตาด้วยตัวเอง นอกจากนี้ยังมีการเขียนไว้บนปล้ายอยู่แล้ว ไม่ได้มาหาคนรัก ต่อไป!"
...
“เจ้าบอกว่าจินตันผู้สง่างามคนนี้ ไม่มีโชคชะตากับเจ้าหรือ ช่างกล้า!”
"ท่านบังคับมีนไม่ได้ ถ้าท่านต้องการที่จะลำบาก ท่านสามารถต่อนต้านกฎของสวนได้!"
"เจ้า! รอข้าก่อน ข้าจะกลับมาแน่นอน!"
...
ภายใต้การคัดกรองที่มีระเบียบวินัย
เซิ่นเทียนใช้เวลาเพียงครึ่งวันในการรวบรวม 20 คน ที่มีโชคชั้นดี
มีชายและหญิงที่มีฐานฝึกตนสูงและต่ำทั้งหมดยืนอยู่ข้างหลังเขา
"แค่คนเหล่านี้วันนี้!"
เซิ่นเทียนยิ้มเล็กน้อยและเริ่มจำแนกทุกคน: "หมายเลข 1 หมายเลข 3 หมายเลข 8 และหมายเลข 15 ท่านจัดกลุ่มไปที่ศาลานภา ส่วนคนอื่นๆทำอะไรก็ได้ตามต้องการ"
หลังจากพูดจบ เซิ่นเทียนได้นำบุคคลที่มีชะตา 4 คนที่มีโอกาสอยู่ใน ศาลานภา และเดินไปที่ ศาลานภา
เขาพูดอย่างนี้เพราะมันเป็นธรรมชาติของทุกคนที่จะชอบความตื่นเต้น
เมื่อเซิ่นเทียนรีบเดินไปที่ศาลานภา ทุกคนก็เดินตามเขาไป
ปรมาจารย์ผู้เป็นอมตะมีความสามารถที่น่าอัศจรรย์ในการค้นหาหินวิญญาณและเปิดเผยความจริง (เมล็ดน้ำเต้าเซียนเจ็ดสมบัติ)