บทที่ 215: อมอสยังไม่ตาย? ครึ่งเทพวิญญาณมรณะ
บทที่ 215: อมอสยังไม่ตาย? ครึ่งเทพวิญญาณมรณะ
“ทิ้งความมั่งคั่งให้กับประชาชน” สำนวนนี้เป็นคำอธิบายที่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งกับสถานการณ์ของเกาะมังกรในตอนนี้
ความมั่งคั่งของมังกรยักษ์ธรรมดานั้นน้อยกว่าความมั่งคั่งของครึ่งเทพอย่างแน่นอน แต่พวกมันมีกี่ตัวกันล่ะ100 ตัว? 1,000 ตัว? 10,000 ตัว?
คำตอบนั้นชัดเจน!
ด้วยธาเนียล มังกรผู้ทรยศก็ได้นำทางเหมิงเหล่ยผู้ที่ได้กลายเป็นปีศาจไปแล้ว ออกปล้นพวกมัน,ออกขโมยของพวกมัน,และแย่งชิงของๆพวกมันทั้งหมดไป,
ยกเค้ารังมังกร!
คว้าทรัพย์สมบัติทั้งหมด!
เอาสมบัติทั้งหมดของพวกมันมา!
หลังจากปล้นสะดมได้ไม่นาน ค่าความมั่งคั่งของเหมิงเหล่ยก็เพิ่มขึ้นเป็น 13.57 ล้านผลึกปฐมกฎแห่งธรามชาติ!
นั่นเป็นตัวเลขที่น่าอัศจรรย์มากในขณะที่มันก็ยังมีสมบัติอีกมากมายนับไม่ถ้วนที่รอให้พวกเขาปล้นสะดมอยู่อีก
มันคงไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะบอกว่าการเดินทางไปยังเกาะมังกรในครั้งนี้นั้นมันทำให้เหมิงเหล่ยร่ำรวยขึ้นมากอย่างกะทันหัน และทำให้เขาอารมณ์ดีเป็นอย่างมาก
และด้วยอารมณ์ที่ดีนี้เอง มันจึงทำให้เขาสามารถคุยด้วยได้ง่ายขึ้น
แน่นอนว่ามันดีพอที่จะทำให้เหมิงเหล่ยยอมรับคำขอของธาเนียลโดยไม่ลังเล เขาตกลงที่จะไว้ชีวิตของมังกรยักษทั้งหมดไว้
ในตอนแรกเหมิงเหล่ยได้เคลียพื้นที่ว่างบางส่วนในหอคอยแห่งกาลเวลาไว้โดยเฉพาะ เพื่อให้มังกรยักษ์เหล่านี้ได้ไปอยู่อาศัยข้างในนั้น
ใช่ ข้าจะผสมพันธุ์พวกมันให้เหมือนหมู!
เหมิงเหล่ยคิดที่จะวางหอคอยแห่งกาลเวลาไว้ที่เมืองหลวงหลังจากสร้างจักรวรรดิของตัวเองเสร็จ
หลังจากนั้น เขาก็จะอนุญาตให้ผู้ที่มีความสามารถได้เข้าไปฝึกฝนข้างในนั้น และปล่อยให้มังกรผู้เย่อหยิ่งเหล่านี้ได้ลิ้มรสของการเป็นผู้ถูกล่า
“เราจะไปที่ไหนต่อกันดีนายท่าน?”
ธาเนียลจ้องมองไปที่เกาะมังกรที่ว่างเปล่า ตอนนี้เขาไม่รู้ว่าเขาควรที่จะร้องไห้หรือหัวเราะให้กับสถานการณ์นี้ดี
เขาไม่ต้องการให้เผ่าพันธุ์ของเขาถูกกำจัดไป และไม่ต้องพูดถึงการถูกผสมพันธุ์เหมือนหมูเลย!
“เจ้ารู้ไหมว่าสุสานมังกรนั้นอยู่ที่ไหน?” เหมิงเหล่ยถามในทันที
“สุสาน... มังกร?” การแสดงออกของธาเนียลเปลี่ยนไป “นายท่าน ท่านคงไม่ได้คิดที่จะปล่อยให้มังกรเหล่านั้นเหลือเพียงแต่ตัวใช่ไหม? สุสานของมังกรนั้นเป็นสถานที่สำคัญสำหรับฝังศพมังกรที่ตายนะ”
“เจ้าคิดอะไรอยู่กัน?” เหมิงเหล่ยตะคอกเล็กน้อยและกล่าวต่อไป “ข้าจะไปที่นั่นเพื่อขอขมาผู้อาวุโสก็เท่านั้น”
“ไม่มีอะไร! ข้าไม่ได้คิดอะไร!” ธาเนียลรู้สึกโล่งใจและกระพือปีกเพื่อพาเหมิงเหล่ยไปที่หลุมฝังศพมังกร
หลุมฝังศพของมังกรนั้นตั้งอยู่บนเกาะแห่งหนึ่ง
บนเกาะนั้นมีภูเขาหินตั้งสูงตระหง่านอยู่ด้านบนโดยมีหินรูปร่างแปลกประหลาดอยู่ด้านล่าง ท่ามกลางป่าหินก็มีหลุมศพที่มีมังกรยักษ์ฝังอยู่ข้างใต้ทีละตัว
ด้วยความรู้ความเข้าใจอันสูงส่งของเขาที่ครอบคลุมไปทั่วทั้งเกาะ เหมิงเหล่ยจึงเริ่มค้นหาสิ่งที่เขาต้องการ
อย่างไรก็ตาม แม้เวลาจะผ่านไปนานแล้วแต่เขาก็ยังไม่พบหลุมฝังศพของประธานอมอส
เหมิงเหล่ยขมวดคิ้ว
ผู้อาวุโสอาโมลินบอกว่าเธอจะฝังประธานอมอสไว้ในสุสานมังกรไม่ใช่หรอ? แต่ทำไมมันถึงไม่มีร่องรอยของเขาในสุสานเลยล่ะ?
ข้าต้องการคำอธิบาย!
เหมิงเหล่ยไปพบอาโมลิน แต่คำตอบที่เขาได้รับนั้นก็ทำให้เขาต้องตกตะลึง
“ท่านกำลังจะบอกว่า..ประธานอมอสยังไม่ตายอย่างงั้นหรอ?”
“วิญญาณหยกของพี่ใหญ่นั้นยังคงสมบูรณ์อยู่ ดังนั้นเขาจึงควรที่จะยังมีชีวิตอยู่”
อาโมลินหยิบหยกสีเลือดออกมาและพูดต่อด้วยความเศร้าโศกในดวงตาของเธอ “เมื่อมังกรถือกำเนิดขึ้น มันก็จะมีการสร้างวิญญาณหยก”
“หากหยกยังอยู่ในสภาพดีงั้นมันก็จะหมายความว่าเจ้าของของมันก็จะยังคงมีชีวิตอยู่เช่นกัน”
“และเมื่อหยกแตกออก มังกรก็จะตาย”
“ตลอดเวลาที่ผ่านมา ข้าก็เป็นคนที่เก็บวิญญาณหยกของพี่ใหญ่ไว้ และมันก็เป็นเวลากว่า 20,000 ปีแล้ว ดังนั้นข้าจึงเชื่อเสมอว่าพี่ใหญ่นั้นยังไม่ตาย!”
น้ำตาของอาโมลินเอ่อคลอ “แม้ว่าเขาจะเสียชีวิตไปแล้วพร้อมกับต้นไม้แห่งชีวิตในทวีปที่สาบสูญ แต่วิญญาณหยกของเขาก็ยังไม่แตกสลาย ดังนั้นข้าจึงมั่นใจว่าพี่ใหญ่นั้นยังไม่ตาย!”
“ยังไม่ตาย! ประธานอมอสยังไม่ตาย! เยี่ยมมากเยี่ยมมากๆ!” เหมิงเหล่ยเริ่มพูดไม่ปะติดปะต่อกันด้วยความตื่นเต้น “งั้นถ้าเขายังไม่ตาย แล้วเขาจะอยู่ที่ไหนล่ะ? ไม่ใช่ว่าเขาได้พินาศไปพร้อมกับต้นไม้แห่งชีวิตแล้วอย่างงั้นหรอ?”
“ในความคิดของข้า มันมีเพียงสองความน่าจะเป็นเท่านั้น” อาโมลินพูดอย่างเงียบๆ “อย่างแรกคือพี่ใหญ่นั้นมีร่างอวตารอื่นๆอยู่อีก หรือไม่เขาก็ยังคงถูกผนึกอยู่ในอาวุธเทวะของเจ้า”
“หอกสังหารเทพ?”
เหมิงเหล่ยหยิบหอกสังหารเทพของเขาออกมาและตรวจสอบมันด้วยความรู้ความเข้าใจอันสูงส่งของเขา อย่างไรก็ตามหลังจากการตรวจสอบโดยละเอียดแล้ว เขาก็ยังคงไม่พบสิ่งใด
“ประธานอมอสไม่ได้อยู่ในหอกสังหารเทพ....”
เหมิงเหล่ยรู้สึกผิดหวังอย่างถึงที่สุด
“ถ้าอย่างงั้นความน่าจะเป็นก็จะเหลือเพียงอย่างเดียว” อาโมลินกล่าว “พี่ใหญ่ยังมีร่างอวตารร่างอื่นอีก”
“ร่างอวตารร่างอื่นๆ?”
เหมิงเหล่ยขมวดคิ้ว “เนื่องจากมีร่างอวตารอื่นแล้ว งั้นทำไมเขาถึงไม่กลับมาหาท่านล่ะ มันไม่สมเหตุสมผลเลย!”
“ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน” อาโมลินพูดด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่น
“ประธานอมอส!”
เหมิงเหล่ยกำหมัดแน่น “ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหน ข้าก็จะตามหาเขา!”
“ถ้าเจ้าพบเขา ได้โปรดบอกเขาดเวยว่าฉข้ากำลังรอเขากลับมาอยู่ ได้โปรด!”
อาโมลินเช็ดน้ำตาของเธอ
“แน่นอน!”
เหมิงเหล่ยพยักหน้าเมื่อเสียงนกฮูกยามค่ำคืนดังขึ้น
“เจ้ากิ้งก่าน่าเกลียด! รอจนกว่าข้าจะได้ออกมาเถอะ และเมื่อเวลานั้นมาถึงเมื่อไหร่ ข้าก็จะเปลี่ยนพวกเจ้าทั้งหมดให้กลายเป็นอมรณาและข้าก็จะเผาวิญญาณของพวกเจ้าด้วยเพลิงเทวะ!”
“ฮู…ฮู…ฮู! เผาไหม้ในเปลวเพลิงนิรันดร์...และเจ้าจะไม่อยู่...หรือตาย...”
“นั่นมันเสียงอะไรกัน?”
คิ้วของเหมิงเหล่ยขมวดเข้าหากันเล็กน้อย
เสียงนั้นดังขึ้นมาจากใต้น้ำด้านล่างเกาะ จะว่าไปแล้วมันก็ไม่ใช่เสียงซะทีเดียว แต่มันเป็นออร่าจากความรู้ความเข้าใจอันสูงส่ง
“นายท่านนี่คือเสียงของปีศาจโบราณผู้ชั่วร้าย พูฮามาน” ธาเนียลตอบด้วยความเคารพ
“ปีศาจโบราณผู้ชั่วร้าย... พูฮามาน?”
แววตาเฉลียวฉลาดฉายผ่านดวงตาของเหมิงเหล่ยขณะที่เขาถามด้วยความสนใจ “บอกข้ามาอีกสิ”
“เมื่อพูดถึงพูฮามาน ทุกอย่างมันก็เริ่มต้นเมื่อ 50,000 ปีก่อน”
ธาเนียลพูดอย่างแผ่วเบา “เมื่อ 50,000 ปีที่แล้วพวกเราเหล่ามังกรได้ปกครองทวีปแดนสวรรค์ และเราก็เป็นนายเพียงคนเดียวของโลกใบนี้ แม้แต่สัตว์อสูร , ภูติ , ยักษาในยุคปัจจุบันเองก็ยังต้องซ่อนตัวอยู่ในบ้านเกิดของพวกเขาและใช้ชีวิตอย่างหลบๆซ่อนๆ ยิ่งไปกว่านั้นดินแดนรกร้างทางตอนเหนืออันไกลโพ้น,ป่านางฟ้าและที่ราบสูงยักษาของทั้งสามอาณาจักรเองก็เป็นเพียงสวนหลังบ้านของเราเท่านั้น!”
ดวงตาของธาเนียลเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ “ทวีปแดนสวรรค์นั้นเป็นทวีปของมังกรยักษ์อย่างแท้จริง! แต่น่าเสียดาย....”
ธาเนียลหัวเราะเบาๆ “ ในขณะที่เทพเจ้ามังกรออกจากทวีปแดนสวรรค์ไปพร้อมกับพลังการต่อสู้ระดับสูงของเขา จักรวรรดิเทพเจ้ามังกรของเราเองก็ตกอยู่ในอันตราย พวกสัตว์อสูรที่อาศัยอยู่ในราชสำนักจักรววดิครึ่งอสูร เหล่าภูติที่ซ่อนตัวอยู่ในริมทะเลสาปเทพธิดา ,ไททันส์ที่ซ่อนตัวอยู่ในเทือกเขาเซียร์ล่าและเผ่าพันธุ์ที่ชาญฉลาดเผ่าอื่นๆเช่น ก็อบลิน,คนแคระ,โทรลทั้งหมดก็ได้ปรากฏตัว แม้แต่พวกปีศาจทุกประเภทก็ยังพุ่งเข้ามาในที่โจมตีเรา!
“ในชั่วข้ามคืน จักรวรรดิเทพเจ้ามังกรของเราก็ล้มสลายไป เราไม่เพียงแต่จะสูญเสียดินแดนจำนวนมาก แต่ชนชั้นสูงของเราก็ยังต้องบาดเจ็บล้มตายลงอย่างหนักเช่นกัน และนั่นคือตอนที่ปีศาจโบราณผู้ชั่วร้ายพูฮามานปรากฏตัว ขึ้นมา และในฐานะที่มันเป็นครึ่งเทพวิญญาณมรณะ พลังทำลายล้างของพูฮามานนั้นจึงไม่น้อยไปกว่าทั้งสามจักรวรรดิ!”
“ครึ่งเทพวิญญาณมรณะ?”
ดวงตาของเหมิงเหล่ยสว่างขึ้น
“ใช่! ครึ่งเทพวิญญาณมรณะ!” ธาเนียลพยักหน้าเล็กน้อย “พูฮามานผู้ชั่วร้ายนั้นแม้ว่าเขาจะมีเพียงไม้เท้า แต่เขาก็ยังสามารถร่ายเวทย์วิญญาณมรณะเพื่อเรียกอมรณาทีชั่วร้ายออกมาจากยมโลกได้ กองทัพอมรณานั้นน่าเกรงขามและน่าสยดสยองอย่างแท้จริง ในทุกที่ที่พวกมันไปสิ่งมีชีวิตใดๆก็ตามที่อยู่ที่นั่นล้วนต่างก็ถูกฆ่าตายและนั่นคือเหตุผลที่ทำให้พูฮามานกลายมาเป็น.. วิญญาณมรณะ ในระยะสั้นๆพูฮามานก็ทำให้เราประสบกับความสูญเสียอย่างหนัก จักรวรรดิต้องส่งครึ่งเทพหลายคนออกไปเพื่อปราบปรามและปิดผนึกมันให้อยู่ห่างออกไป”
“ครึ่งเทพวิญญาณมรณะถูกผนึกไว้ที่นี่อย่างงั้นหรอ?” เหมิงเหล่ยสนใจมาก
“ใช่แล้วนายท่าน” ธาเนียลตอบ
“งั้นลงไปดูกันดีกว่า”
“นายท่าน นั่นเป็นความคิดที่ไม่ดีเอาซะเลย” ธาเนียลคัดค้านอย่างเร่งด่วน “พูฮามานนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่ชั่วร้ายมาก –”
เหมิงเหล่ยเหลือบมองเขาขณะที่เขาถามตอบ “ชั่วร้ายงั้นหรอ? เขาชั่วร้ายเหมือนข้ารึเปล่า?”
ธาเนียลหุบปากทันที
ชั่วร้าย? พูฮามานคงจะไร้เดียงสาเหมือนเด็กแรกเกิดไปเลยเมื่อเทียบกับเจ้า!
“ลงไปได้แล้ว”
เหมิงเหล่ยบินลงมาด้านล่างสุสานมังกร ธาเนียลไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเป็นผู้นำทางไปให้เขา
ในช่วงเวลาสั้นๆทั้งสองคนก็ลงไปในทะเลและเห็นถ้ำที่มีแสงสว่างจ้า
ถ้ำนั้นสะท้อนรัศมีแสงสีน้ำนมอ่อนๆออกมา
“ไปดูเลยดีกว่า”
แหมิงเหล่ยทเลพอร์ตไปข้างหน้าทางเข้าและเห็นได้ชัดว่าถ้ำแห่งนี้สว่างไสวเหมือนกับตอนกลางวัน ผนังของมันเองก็ถูกฝังไปด้วยผลึกธาตุแสงสีขาวนม
มันมีแท่นบูชาอยู่กลางถ้ำ
บนแท่นบูชานั้นมีเสาสิบต้นและเสาแต่ละต้นเองก็ถูกสร้างขึ้นโดยใช้ผลึกธาตุแสง พวกมันเชื่อมต่อกับโซ่โลหะสิบเส้นซึ่งทั้งหมดเชื่อมโยงกับร่างๆหนึ่งที่อยู่ตรงกลาง
มันผอมเหมือนกับกิ่งไม้ มีผมกระเซิง นอกจากนั้น ชั้นของผิวหนังก็ดูแห้งและเหี่ยวย่นและมันก็ไม่มีเนื้อส่วนเกินราวกับเป็นถุงใส่กระดูก
โซ่สิบเส้นพาดผ่านแขน,ซี่โครง,ท้อง,ขาและสะบัก โซ่เหล่านี้ได้ตรึงมันเอาไว้ตรงกลางแท่นบูชาอย่างน่ากลัว มันไม่สามารถนั่งหรือนอนบนพื้นได้ เขาทำได้แค่ยืนอยู่ตรงนั้น และนั่นก็ดูแย่ยิ่งกว่าการตาย
อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้ก็ไม่มีอะไรเทียบได้กับห่วงโซ่ที่อยู่ระหว่างดวงตาของมัน
โซ่นี้ปิดกั้นวิญญาณเทวะของมันซึ่งทำให้มันไม่สามารถใช้พลังเทวะได้และทำให้มันพิการโดยสิ้นเชิง
“ว้าวๆ มีคนมาที่นี่จริงๆด้วย! หายาก.. หายากมาก!”
ราวกับมันรับรู้การมาถึงของเหมิงเหล่ย ร่างโครงกระดูกก็ยกศีรษะของมันขึ้นอย่างช้าๆ ด้านหลังของผมที่ยุ่งเหยิงที่ทอดยาวไปจนถึงพื้นนั้นสามารถมองเห็นดวงตาสีเขียวคู่หนึ่งได้ พวกมันเหมือนดวงตาที่น่ากลัวของหมาป่า
“ครึ่งเทพวิญญาณมรณะพูฮามาน?” เหมิงเหล่ยปรับขนาดโครงกระดูกบนแท่นบูชา
“เจ้าไม่มีกลิ่นของพวกจิ้งจกที่น่ารังเกียจติดอยู่กับเจ้าเลย เจ้าเป็นใครกัน? เจ้ามาปรากฏตัวที่นี่ได้อย่างไร?”
โครงกระดูกจ้องมองด้วยดวงตาสีเขียวคู่นั้นและพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง
“ถ้าเจ้าเต็มใจ ข้าจะช่วยเจ้าก็ได้นะ” เหมิงเหล่ยพูดอย่างสบาย ๆ
“ช่วยข้า? เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใครกัน?”
พูฮามานหยุดชั่วคราวก่อนที่มันจะหัวเราะออกมาดังๆ “ถ้าจิ้งจกตัวเหม็นที่อยู่ข้างหลังเจ้าพูดแบบนั้นข้าก็คงจะเชื่ออยู่หรอก แต่เมื่อมันออกมาจากปากของเจ้า....”
“ พูฮามาน เจ้าเป็นครึ่งเทพวิญญาณมรณะที่ชั่วร้าย เจ้าควรระวังน้ำเสียงของเจ้าหน่อยจะดีกว่า!” ธาเนียลตอบอย่างโกรธๆ “ผู้ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเจ้าก็คือนายท่านผู้ยิ่งใหญ่ของข้า – ท่านเหมิงเหล่ยผู้สุงศักดิ์ ถ้าเจ้าทำให้เขาขุ่นเคืองอีก ข้าก็จะไม่แสดงความเมตตาใดๆ!”
“นายท่าน?”
พูฮามานตกตะลึงและมองไปที่ธาเนียลก่อนที่จะหันดวงตาสีเขียวของมันจ้องไปที่เหมิงเหล่ยและตรวจสอบเขาอีกครั้ง
“กิ้งก่าตัวนี้เป็นหนึ่งในครึ่งเทพของเกาะมังกร เจ้าปราบมันลงได้อย่างไรกัน?”
“ก็แค่จดการกับครึ่งเทพคนอื่นๆก่อน แล้วเดี๋ยวมันที่เหลือก็ยอมเองตามธรรมชาตินั่นแหละ” เหมิงเหล่ยยิ้มจางๆ “ตอนนี้ตอบข้าสิว่าเจ้าต้องการที่จะออกไปไหม?”
“เจ้าฆ่าครึ่งเทพมังกรยักษ์ที่เหลือแล้วอย่างงั้นหรอ?” พูฮามานผงะและส่ายหัวซ้ำๆ “ไม่... มันเป็นไปไม่ได้! กิ้งก่าเหม็นสาปเหล่านี้อาจเป็นที่น่ารังเกียจและต่ำช้าก็จริง แต่เจ้าจะฆ่าพวกมันทั้งหมดได้อย่างไร?” มันไม่มีทางแน่นอน!”
“บอกความจริงกับมันไป”
เหมิงเหล่ยมองไปที่ธาเนียล
ธาเนียลยิ้มกว้างและบอกมันถึงความสามารถในการฆ่ามังกรอันน่าทึ่งของเหมิงเหล่ยด้วยความสัตย์จริง
“....”
พูฮามานตกตะลึง
“ข้าจะถามเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย เจ้าต้องการที่จะออกไป..หรือไม่?” เหมิงเหล่ยเริ่มที่จะหมดความอดทน
“ เจ้าเต็มใจที่จะปล่อยข้าไปจริงๆหรอ?”
พูฮามานจ้องมองไปที่เหมิงเหล่ย
“แน่นอน!”
“แล้วอะไรกันที่เจ้าต้องการจากข้า?”
“ความภักดีของเจ้า!”