Chapter 44: เจ้าชายกำลังกลับบ้าน – 1 (ส่วนที่2)
“มันก็ชัดเจนอยู่แล้วนี่ ทำไมเจ้าถึงถามอีกกันละ?”
รวนเอียงคอ เขาไม่เข้าใจถึงเจตนาที่อยู่ด้านหลังคำถามนี้
ฮาร์แมนพูดต่อ “ถ้าเจ้าชายองค์ที่เจ็ดแอบซ่อนตัวตนที่แท้จริงของเขาไว้อยู่ตลอดกันละ? ถ้าเขายอมรับชะตากรรมตัวเองที่ถูกปฏิบัติเหมือนกับเป็นขยะ เพื่อท่านหญิงยูริเซียกันละ? ถ้าเขาทำมันเพื่อทำให้ตัวเองได้พัฒนาความแข็งแกร่งของตัวเองกันละ เขา...แสร้งทำตัวเป็นคนที่ย่ำแย่และ...เขายังตั้งใจที่จะโดนขับไล่กันละครับ...”
เจ้าชายมองไปที่ฮาร์แมนด้วยดวงตาที่ดูสงสารและสมเพช “มันเหมือนกับว่าการที่เจ้าไปดูแลเจ้าโง่นั่นเป็นเวลานานนั้นทำให้ความคิดของเจ้าแปดเปื้อนไปด้วยสินะ ฮาร์แมน”
“...”
“เส้นทางที่เจ้าเดินทางมามันคงยาวและเหนื่อยเกินไปสินะ เจ้าคงจะเหนื่อยจากเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่ต้องพูดถึงการรับมือกับเจ้าโง่นั่นมันก็น่าเหนื่อยใจเหมือนกัน เจ้าควรไปพักผ่อนซะนะ”
มันเป็นไปเหมือนกับที่ฮาร์แมนคิด ไม่มีใครเชื่อในคำพูดของเขาเลย เอาเถอะ สิ่งที่เจ้าชายองค์ที่เจ็ดทำมันเกินกว่าที่คนอื่นจะรับได้
ยังไงก็ตาม เขายังคงไม่ยอมแพ้
เจ้าชายองค์ที่เจ็ดลับคมมีดเพื่อที่จะล้างแค้นอยู่ในตอนนี้ ไม่สำคัญว่าเขาจะมีพละกำลังมากเพียงใด มันก็จะล่มสลายลงอย่างง่ายดาย ถ้าไม่มีใครคอยเป็นเสาหลักสนับสนุนเขา
เสาหลัก มันจำเป็นสำหรับเด็กหนุ่ม
ฮาร์แมนถอนหายใจออกมา
เขาวางแผนใหม่อีกครั้งหนึ่งและรีบกลับไปยังดินแดนวิญญาณแห่งความตาย
**
หลายสัปดาห์ผ่านพ้นไป ตั้งแต่วันที่สิ้นสุดลงของ ‘คลื่นแห่งความตาย’ แต่ว่าปราสาทโรเนียยังคงไม่ได้กลับมาสู่สถานะปกติ
กริลขมวดคิ้วแน่น เขากำลังจัดระเบียบศพที่ฝังอยู่ใต้น้ำแข็ง
“ฉันจะต้องทำแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนกัน?”
เขาเป็นชาวนา ไม่ใช่คนที่คอยดูแลศพซักหน่อย ยังไงก็ตาม เขาไม่ได้บ่นออกมาดังเท่าไหร่ มันเป็นเพราะว่า...
“ฟู่ววว..”
เจ้าเมืองโรเนียลงมาดูงานด้วยตาของเขาเอง รวมทั้งอัศวินด้วย
“คนแบบเขาถูกลดตำแหน่งลงมาที่แบบนี้ได้ยังไงกันเนี่ย?”
กริลเดาะลิ้นอย่างไม่พอใจ ในขณะที่เขาทำแบบนั้น เพื่อนบ้านของเขา ฮานส์ซึ่งเป็นนักล่าก็ลอบเข้ามาใกล้เขา
“กริล เร็วเข้า รับนี่ไป…!”
ฮานส์หยิบกระดาษออกมาจากกระเป๋าเสื้อและใส่เข้าไปในกระเป๋าของกริล
“นี่คืออะไร?”
“มันเป็นบางสิ่งบางอย่างที่มาจากอันเดท รีบไปก่อนที่ยามจะถาม”
“อะไรวะเนี่ย...”
ฮานส์เหมือนจะเก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อของตัวเองด้วยเหมือนกัน เมื่อกระเป๋าของเขามันตุงเหมือนกัน
“ฉันกำลังจะบอกเจ้าว่ามันมีของล้ำค่ามากมายถูกพบที่นี่...”
“...”
กริลเหลือบมองทหารที่กำลังทำหน้าที่ของพวกเขา ก่อนที่จะดูกระดาษที่ฮานส์มอบมาให้กับเขา เมื่อเขาไม่เคยถูกสอนการอ่านหนังสือมาก่อน เขาจึงไม่รู้เจ้าสิ่งนี้มันคืออะไร แต่ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม กระดาษมันเป็นของล้ำค่าที่ชนชั้นสูงชอบใช้กัน
มันดูเก่าแก่จากการที่กระดาษมันฉีกขาดออกและมันมีหมึกดำลงไว้ในนั้น ซึ่งมันดูล้ำค่ายิ่งกว่าเดิม
กริลรีบใส่แผ่นกระดาษลงในกระเป๋าเสื้ออย่างระมัดระวัง
เขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่เขาควรจะให้ชาร์ลอตต์ไปถามเจ้าชายว่าเจ้าสิ่งนี้มันคืออะไร
และมันคงจะดีกว่านี้ ถ้าของชิ้นนี้มันทำเงินให้กับเขาบ้าง
กริลยิ้มออกมาอย่างตื่นเต้นและกลับไปทำหน้าที่จัดการศพต่อ
**
(มุมมองอัลเลน)
“เป็นไปตามที่ฉันคิดเลย มันรสชาติดีจริงด้วย!”
ฉันนั่งอยู่ตรงขอบเตียงและจ้องมื้ออาหารที่อยู่บนโต๊ะ
สิ่งแรกที่ฉันทำคือการใช้ช้อนตักชิมน้ำซุปและตัดเนื้อชิ้นเนื้ออย่างช้าๆ ด้วยวิชาการใช้มีดมือสมัครเล่นของฉัน ก่อนที่จะตักมันเข้าปาก
อา ฉันโคตรมีความสุขเลย
นี่มันเป็นความพึงพอใจที่ฉันคาดหวังอยู่ตลอด!
นี่สินะสัมผัสของความสุข! มันเป็นบางสิ่งบางอย่างที่ฉันไม่มีทางรู้สึกถึงตอนที่ฉันทำงานเป็นคนดูแลสุสาน
“....การไม่ได้เคลื่อนไหวไปไหนอย่างอิสระมันก็ค่อนข้างดูเป็นคนขี้เกียจอยู่แหะ”
ฉันก้มมองร่างกายของตัวเอง ในตอนนี้ แขน ขา ร่างกายทั้งร่างของฉัน รวมทั้งหัวด้วยต่างถูกพันด้วยผ้าพันแผลกันทั้งหมด
มันดูเหมือนกับมัมมี่เลย
ตามคำพูดของนักบวชที่ดูแลฉัน ฉันตกอยู่ในสภาพโคม่าเป็นเวลาถึงสามสัปดาห์หรือมากกว่านั้น
มันเป็นเพราะการใช้พลังศักดิ์สิทธิ์จนเหือดแห้ง มันมากถึงขนาดที่คนธรรมดาทั่วไปจะกลายเป็นคนพิการเลย แต่....มันเหมือนกับว่าเขาอยู่ในสภาพที่โอเคดีแล้วตอนนี้
ฉันถูกป้อนน้ำศักดิ์สิทธิ์และยามากมายในช่วงการพักผ่อนสามสัปดาห์ แม้ว่าจะเป็นแบบนั้น กระดูกของฉันยังคงไม่ได้ฟื้นตัวดีเลยสักนิด มันยังมีร่องรอยของความเหนื่อยล้าทางจิตใจของฉันอีกด้วยเช่นกัน นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมฉันต้องการพักผ่อนให้นานกว่านี้ นี่คือสิ่งที่ฉันถูกบอกมา
ไม่ว่ามันจะเป็นแบบไหนก็ตาม มันหมายความว่าฉันไม่จำเป็นต้องมีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดการในสถานการณ์ทั่วไปของปราสาทโรเนีย
บอกได้เลยว่ามันเป็นผลลัพธ์ที่ดี
“ท่านมีความสุขกับรสชาติของมันไหมคะ?”
ฉันเหลือบตามองไปที่ด้านข้าง หลังจากที่ได้ยินคำถามนี้
ชาร์ลอตต์ที่ยืนอยู่ข้างเตียงจ้องมาที่ฉัน ใบหน้าของเธอยังคงไร้ความรู้สึกอยู่แช่นเดิม แต่ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความคาดหวัง
สำหรับฉันแล้ว มันเหมือนกับว่าเธอกำลังรอฟังความรู้สึกของฉันต่อมื้ออาหารที่เธอตั้งใจทำ
ฉันโบกช้อนและตอบกลับ “มันโคตรอร่อยเลยละ”
“..ขอบคุณค่ะ.
ชาร์ลอตต์ยิ้มบางๆ
เมื่อมองเห็นเธออีกครั้งหนึ่ง ฉันก็ขมวดคิ้ว
เจ้าเด็กคนนี้ ไม่ว่าฉันจะดูยังไง เธอก็ดูไม่เหมือนคนธรรมดาเลยสักนิด
ถ้าเจ้าแม่มดที่ชื่อมอร์กาน่ามันอ่อนแอ เพราะเธอใช้พลังมารจนหมดตัว ถ้ามันเป็นแบบนั้นแล้ว ตอนที่สู้กับแวมไพร์มันจะกลายเป็นอีกเรื่องหนึ่งเลย
การป้องกันการโจมตีจากลมหายใจของเคานต์แวมไพร์ได้โดยโล่โลหะแบบนั้น มันเป็นภาพที่เหมือนกับฮีโร่อย่างมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่พบเห็นได้จากเรื่องเล่าในตำนานเท่านั้น
แน่นอนว่าทั้งกริลและฉันคอยช่วยเธอไว้ แต่ว่าความแข็งแกร่งที่เธอใช้ในการยืนทนการโจมตีนั้นหลายต่อหลายวินาที ด้วยตัวของเธอเอง มันก็ไม่ใช่สิ่งที่เด็กหญิงธรรมดาทั่วไปที่อายุเท่าเธอจะทำได้
...ฝ่าบาท ท่านรู้จักเด็กหญิงคนนี้ไหมครับ?
นักบวชนับไม่ถ้วน หมอยาและหมอต่างถูกส่งมาที่ปราสาทโรเนีย การดูแลรักษาของฉันรวมทั้งชาร์ลอตต์ต่างถูกรักษาโดยหมอที่เก่งที่สุด ซึ่งถูกส่งมาจากราชวงศ์
เด็กคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปค่ะ ฝ่าบาท มันเป็นเรื่องที่ยากที่จะพิจารณาว่าร่างกายของเธอเป็นมนุษย์ค่ะ
นี่คือข้อสรุปของหมอหลังจากที่ตรวจร่างกายของชาร์ลอตต์ไป เธอไม่ได้เป็นคนธรรมดาทั่วไปก็จริง แต่มันยังยากที่จะพิจารณาว่าเธอเป็นมนุษย์อีก?
แต่ว่าเธอเป็นแบบนั้นเพราะพลังศักดิ์สิทธิ์และพลังมารได้ทำปฏิกิริยากัน?
ใช่ มันเกิดขึ้นมาก่อน
ชาร์ลอตต์ถูกกินโดยซอมบี้หนูในหมู่บ้านของเธอและมีพลังมารได้แฝงตัวเข้าไปในร่างกายของเธอ หลังจากนั้นเธอก็ถูกโยนลงไปในบ่อน้ำที่สร้างขึ้นด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์
ถ้ามันเป็นแบบนั้นแล้ว ปกติแล้วคนที่โดนแบบนั้นจะตาย ไม่ก็กลายเป็นคนพิการไปเลย แต่ว่ากรณีแบบนั้นเคยเกิดขึ้นมาก่อน มันเกิดขึ้นเมื่อห้าสิบปีก่อน เมื่อองค์จักรพรรดิต่อสู้กับราชาเนโครแมนเซอร์เอม่อนและเขาตกอยู่ในสภาพโคม่าหลังจากนั้น
ฉันตักซุปกินและนึกถึงสิ่งที่หมอพูดกับฉันต่อ
ตอนนั้น องค์จักรพรรดิได้ก้าวข้ามข้อจำกัดของมนุษย์ไป การปะทะกันระหว่างพลังมารและพลังศักดิ์สิทธิ์ได้ทำลายร่างกายของเขาและได้สร้างร่างกายของเขาขึ้นมาใหม่ มันเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดมาก มันเหมือนกับว่าร่างกายของเขาผ่านการวิวัฒนาการไป
เมื่อโดนพลังมารเข้าไป จักรพรรดิได้รับประสบการณ์ที่เหมือนตายไปและได้รับการฟื้นคืนชีพโดยพลังศักดิ์สิทธิ์ กระดูกของเขาถูกบดขยี้และผิวหนังของเขาเน่าเปื่อยไป ก่อนที่จะถูกเสริมสร้างขึ้นใหม่ เขาอ้วกเลือดที่เสียออกไปและสร้างเลือดใหม่ขึ้นมาแทน
แม้ว่าร่างกายภายนอกของเขาจะเป็นเหมือนกับพวกเรา เขาได้กลายเป็นสุดยอดมนุษย์ที่ก้าวข้ามขีดจำกัดของร่างกายมนุษย์ธรรมดาทั่วไป นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมฝ่าบาทถึงสามารถจัดการเนโครแมนเซอร์ลงได้ มันเป็นเพราะว่าเขาได้รับความแข็งแกร่งเช่นนั้นมา
พูดตามตรงแล้ว มหาวีรบุรุษ เคลต์ ออโฟเซ่คือซูเปอร์แมน
ฉันจ้องไปที่ชาร์ลอตต์ก่อนที่จะใช้ ‘เนตรจิต’
[ชื่อ : ชาร์ลอตต์
อายุ : 16
ความสามารถ : ทำอาหาร ขยันขันแข็ง มีสมาธิที่สุดยอดมาก มีวิชาดาบที่ย่ำแย่ ร่างกายเหนือมนุษย์ มีศักยภาพหลายอย่าง
ฉันจะทำงานให้หนัก เพื่อที่จะช่วยเหลือเขาให้ได้!]
“...?”
ชาร์ลอตต์เอียงคอและแตะบนหน้าของเธอเอง เธอคงกำลังครุ่นคิดอยู่ว่า ‘มีอะไรติดอยู่บนใบหน้าของฉันหรือเปล่ากันนะ?’
“..การเกิดใหม่ที่ลึกลับที่เกิดในนิยายกำลังภายในก็เกิดขึ้นในโลกใบนี้เหมือนกันด้วยแหะ”
มันเหมือนกับว่าเด็กหญิงคนนี้มีชะตาที่จะกลายเป็นฮีโร่หรืออะไรแบบนั้น
เพียงแค่ฉันกำลังจะกลับไปกินสเต็กของฉันต่อ ใครบางคนก็เคาะประตูและเดินเข้ามา
“ขอโทษที่รุกล้ำเข้ามาครับ ฝ่าบาท”
พาลาดินฮาร์แมนเดินเข้ามาข้างใน เขาดูมีมารยาทอย่างมาก ซึ่งมันแตกต่างไปกับก่อนหน้านี้ ฉันเอาแต่สงสัยว่าเขาหายไปไหนมาหลายวัน แต่เขาก็ปรากฏตัวขึ้นแล้ว
“โอเค เอาละ? มีอะไร?”
ไม่ใช่ว่าเขากำลังจะบอกฉันให้กลับไปยังโบสถ์และทำหน้าที่เดิมนะ หรือว่าฉันจะต้องคอยทำหน้าที่ดูแลปราสาทโรเนียต่อ แม้ว่าฉันกำลังจะฟื้นตัวอยู่ก็ตาม?
ฉันคงจะปฏิเสธคำเชิญชวนแบบนั้นอย่างแน่นอน
เอาเถอะ เขาคงไม่บังคับผู้ป่วยที่เต็มไปด้วยผ้าพันแผลแบบฉันไปใช้แรงงานหรอกนะ
ยังไงก็ตาม สิ่งที่ฮาร์แมนพูดมันเกินกว่าที่ฉันคาดคิดไปมาก
“องค์จักรพรรดิ องค์จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อัญเชิญท่านครับ ฝ่าบาท”
“อะไรนะ…?”
“ฝ่าบาท จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ เคลต์ ออโฟเซ่ได้ออกคำสั่งให้ท่านกลับพระราชวังทันทีครับ ฝ่าบาท”
ฉันทำส้อมในมือตกลงกับพื้น หลังจากที่เขาพูดซ้ำออกมาอีกครั้งหนึ่ง