Chapter 31: เดินทางออกจากบ้านเพื่อไปฝึกตน
“พี่เฉิน ไม่ใช่พี่พบว่ามันเป็นเรื่องแปลกหรืออย่างไร กับการที่มีเห็ดหลินจือขนาดยักษ์อยู่ตรงเนินเขาในภูเขามังกรน้อยแบบนั้น? ตามคำบอกเล่าของพ่อข้า ถ้าใครไปขายเห็ดหลินจือขนาดเท่านี้ในเมืองหลวงแล้ว บุคคลนั้นสามารถที่จะซื้อตระกูลจางได้หลายตระกูลรวมกันเลยละ”
จางจียิ่งตื่นเต้นขึ้นเรื่อยๆกับสิ่งที่เขาพูดออกมา ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ เหมือนกับว่าเขาไม่รู้ถึงโชคของเขาเลยว่ามันดีเพียงใด
เฉินเฉินระงับความอยากที่จะทุบตีเขาก่อนและตอบกลับไป “แน่ละ แต่เจ้ายังจะมอบของล้ำค่าแบบนี้ให้กับข้าอีกนี่มัน…”
“พี่เฉิน ถ้าไม่ใช่เพราะแรงบันดาลใจจากพี่แล้ว ข้าจะหาสมบัติแบบนี้พบได้ยังไงกัน? ท่านสมควรได้รับมันชิ้นนึงจริงๆ อีกอย่างหนึ่ง เจ้าเห็ดหลินจือนี่ก็ไม่มีค่ามากพอกับสายสัมพันธ์พี่น้องของพวกเราหรอก”
รอยยิ้มของจางจีหายไป เหลือเพียงแต่ความจริงใจเอาไว้
เฉินเฉินรู้สึกช่วยไม่ได้อะไรกับเรื่องนี้ เขาคาดว่าถ้าเขาไปขายจางจีในสักวันหนึ่ง จางจีคงยังนั่งนับเงินที่เขาขายได้ให้กับเขาอยู่ดี
เขารู้สึกผิด
เขาจะต้องทำอะไรสักอย่างให้กับชายที่น่าสงสารอย่างมากคนนี้แล้วละ
เมื่อคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว เขาคุยกับจางจีอย่างจริงจัง
“น้องชาย เจ้าไม่ควรทำเรื่องอันตรายอย่างกระโดดลงหน้าผานะ มันไม่มีความจำเป็นเลย”
หัวของจางจีตกลง เมื่อเขาได้ยินมัน เขาถอนหายใจและตอบกลับ “ข้าเข้าใจแล้วครับ ข้ามีคุณสมบัติเพียงเล็กน้อยเท่านั้น การฝึกฝนบางประเภทนั้นมันเป็นไปได้สำหรับพี่เฉิน แต่มันไม่ใช่สำหรับข้า การเลียนแบบอย่างโง่เขลานั้นจะไม่ก่อให้เกิดสิ่งที่ดีตามมาเลย”
เฉินเฉินไม่รู้จะพูดอะไรดี เจ้าบ้านี้มันคิดเอาเองไปซะทั้งหมด
“ค่อยพูดเรื่องนี้ทีหลังละกัน เป้าหมายหลักของพวกเราตอนนี้คือการไปฝึกตน พวกเราจะไปจากมณฑลเสฉวนนี้ในอีกไม่กี่วัน ดังนั้นมันจำเป็นต้องเตรียมตัวก่อน”
“ครับ ข้าจะทำตามทุกคำแนะนำจากพี่เฉินครับ”
หลังจากนั้น ทั้งสองคนก็เดินเข้าไปในบ้าน ก่อนที่จะพูดคุยกันเรื่องการเดินทางไปยังจี๋โจว
...
หลายวันต่อมา วันที่นัดหมายก็มาถึง
ในช่วงหลายวันก่อนหน้านี้ ข่าวเกี่ยวกับเซียนที่อยู่ในภายในตระกูลเฉินได้แพร่กระจายไปทั่วมณฑลเสฉวน
นอกจากนี้แล้ว ตระกูลจางและเฉินต่างจับมือกันเป็นพันธมิตรจนทำให้มณฑลที่วุ่นวายภายในสงบนิ่งกันขึ้นในทันที
ทุกคนต่างให้ความเคารพนับถือกับตระกูลใหม่ที่เติบโตขึ้นเป็นอย่างสูง
สุดท้ายแล้ว เซียนก็อยู่เหนือกว่าโจรขี่ม้า
มีข่าวลือที่ว่าตระกูลเจาที่ส่งกองกำลังทั้งหมดได้ถูกบดขยี้โดยไม่มีความสามารถในการต้านทานเลยสักนิด เมื่อพวกเขาอยู่ต่อหน้าเซียนของตระกูลเฉิน พวกเขาต่างถูกกำจัดจนหายไปโดยไร้ร่องรอย
แต่ในวันนี้ ซึ่งเป็นวันนัดหมาย บนถนนด้านนอกมณฑลเสฉวนได้มีรถเกวียนที่เตรียมพร้อมไว้เป็นอย่างดีหลายคัน รถเกวียนเหล่านี้ต่างเตรียมที่จะออกเดินทาง
“ท่านพ่อ ท่านแม่ ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับข้าเลย ด้วยการฝึกตนอีกสักหน่อย ข้าก็สามารถที่จะบินกลับมาบ้านในทุกเมื่อ ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน เมื่อไหร่ ข้าก็สามารถบินกลับมาได้ตามใจข้าต้องการเลย” เฉินเฉินพูดออกมาอย่างภาคภูมิใจต่อหน้าพ่อแม่ของเขา พวกเขาทั้งสองต่างกำลังออกมาส่งเขาออกเดินทาง
ในวันนี้ เขาและจางจีกำลังจะออกเดินทางไปยังเมืองจี๋โจว
“ลูกเฉิน เจ้าต้องดูแลตัวเองดีๆนะ” ใบหน้าของฉินโหลวเต็มไปด้วยความกังวลใจ แน่นอนว่าแม่ทุกคนต่างกังวลเกี่ยวกับลูกที่ออกเดินทางกันทั้งหมดนั่นแหละ
“แม่ไม่มั่นใจเกี่ยวกับวิธีการที่ข้าทำงั้นเหรอ? ใช่ อีกอย่างหนึ่ง ดูแลเจ้าเหลาเฮยดีๆละ ท่านพ่อ ท่านแม่ บางทีมันอาจจะมีความเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้น แต่อย่าตื่นตระหนกกับการเปลี่ยนแปลงของมันนะครับ”
เฉินเฉินทำให้เฉินชานและฉินโหลวสบายใจมากที่สุดด้วยใบหน้าที่สนุกสนานและอารมณ์ที่ดี
ในอีกด้านหนึ่ง จางจีร้องไห้ออกมาเหมือนกับว่ามันเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะพบกับพ่อ
เกือบสิบห้านาทีต่อมา จางจีก็เดินกลับมาเข้าร่วมกลุ่มดังเดิม
ภายในกลุ่มนั้นแบ่งออกมาเป็นรถเกวียนสามคัน รถเกวียนคันหนึ่งเตรียมไปด้วยของที่จำเป็นในการเดินทาง ส่วนอีกสองคันที่เหลือต่างว่างเปล่า
นอกจากนี้แล้ว มันยังมีคนรับใช้อีกสามคนและสองบอดี้การ์ด พวกเขามีคนทั้งหมดจำนวน 7 คน
“พี่เฉิน ไปกันเถอะ ข้าสงสัยเหลือเกินว่าข้าจะกลับมายังบ้านได้อีกไหม”
ดวงตาของจางจีแดงฉาน ซึ่งมันเกิดมาจากการร้องไห้อย่างต่อเนื่องของเขา เขาปีนขึ้นไปบนม้า ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกังวล เนื่องจากการเดินทางไกลที่กำลังจะเกิดขึ้น
เฉินเฉินยิ้มแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา เมื่อคิดถึงโชคของจางจีแล้ว เขามั่นใจมากว่า ถ้าตัวเขาเองไม่สามารถกลับบ้านได้ เจ้านี้ก็สามารถที่จะกลับมาบ้านได้อย่างแน่นอน
หลังจากที่ทุกคนอยู่บนม้าแล้ว เฉินเฉินก็บอกลาครอบครัวของเขา
“ท่านพ่อ ท่านแม่ ข้าไปก่อนนะ ดูแลตัวเองด้วยนะครับ!”
“โชคดีนะ! เจ้าพาภรรยากลับมาได้นะ!”
“ฮ่าๆ! พวกเราอาจจะพาเซียนกลับมาก็ได้นะครับ” เฉินเฉินตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม เขาเตรียมตัวที่จะตบตูดม้า คุณนายจางก็พูดกับเขา
“ท่านเฉิน ลูกชายของข้าจีเป็นคนที่ค่อนข้างทื่อด้าน เขาอาจจะต้องได้รับความใส่ใจเป็นพิเศษจากท่านนะคะ ได้โปรดคอยช่วยเหลือเขาไว้ด้วย ขอบคุณมากเลยค่ะ”
ใบหน้าของจางจีแดงขึ้นทันที ในความคิดเห็นของเขาแล้ว เมื่อเขาอยู่ห่างจากเฉินเฉิน เขาก็เป็นชายที่มันสมอง ซึ่งเขาสามารถจดจำทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านในสายตาของเขา เขาจะทื่อด้านตามที่แม่ของเขาบอกได้อย่างไร?
เขาทื่อด้านตรงไหนกัน?
“คุณนายจาง ได้โปรดสบายใจได้เลยครับ จางจีคือน้องชายของข้าและข้าจะดูแลเขาเอง” เฉินเฉินสัญญาพร้อมกับรอยยิ้ม
...
หลังจากที่บอกลากันอย่างยาวนาน เฉินเฉินและจางจีต่างออกมาจากมณฑลเสฉวน พวกเขาต่างมุ่งหน้าไปยังจี๋โจว
ระหว่างทางไปยังมณฑลเสฉซน เฉินเฉินก็ฮัมเพลงออกมา
ด้านนอกของโลกแตกต่างไปจากมณฑลเสฉวนอย่างมาก ฟากฟ้าที่สดใส ทะเลที่กว้างใหญ่ ทรัพย์สมบัติมากมายนับไม่ถ้วนและโชคลาภมากมายต่างรอคอยพวกเขากันอยู่
ภายในหัวใจของเขา ความคาดหวังเหล่านี้นั้นได้บดบังความกังวลจากการเดินทางไปจนมิด
เขาปรารถนาที่จะพัฒนาการฝึกตนของตัวเองอย่างก้าวกระโดดไว้นานแล้ว
“พี่เฉิน ทำไมท่านถึงเตรียมรถเกวียนที่ว่างเปล่าไว้สองคันทำไมกันครับ? พวกเราจะไปพบกับใครงั้นเหรอครับ?”
หลังจากขี่ม้าไปสักพักหนึ่ง จางจีก็ถามคำถามที่เขาสงสัยออกมา
เฉินเฉินตอบกลับ “พวกเราจะผ่านสถานที่หลายแห่งกัน ดังนั้นพวกเราจำเป็นต้องไปซื้อของที่จำเป็นหลายอย่าง”
“ครับ” จางจีพึมพำ เขากำลังครุ่นคิดกับคำตอบ
ในเวลาเดียวกัน เฉินเฉินก็หันหน้าไป เขากระโดดลงจากม้าและวิ่งไปยังพุ่มหญ้าข้างถนน เพียงเวลาไม่นาน เขาก็กลับมาพร้อมกับหญ้าปริศนา เขาก็โยนมันเข้าไปในรถเกวียนที่ว่างเปล่า
รถเกวียนทั้งสองรถต่างเหลือทิ้งไว้เก็บของ พวกมันไม่ได้เก็บของที่ซื้อไว้ แต่มันเป็นรถม้าที่เก็บของที่เขาหาพบจากการใช้ระบบต่างหาก
การเดินทางจากมณฑลเสฉวนไปยังเมืองจี๋โจวนั้นมันห่างไกลนับหลายพันกิโลเมตร – พวกเขาจะพบของล้ำค่ามากมายขนาดไหนกัน?
ถ้าเขาไม่ได้กังวลเกี่ยวกับความน่าสงสัยแล้ว เฉินเฉินคงจะพารถเกวียนมาหลายสิบคันเลยละ
“ยินดีด้วยค่ะ สำหรับการใช้ระบบค้นหาสิ่งของพบเป็นจำนวนหนึ่งร้อยครั้ง ระยะของระบบได้เพิ่มขึ้นมา 5 เมตร ตอนนี้มีระยะค้นหา 20 เมตรค่ะ”
หลังจากที่ใส่หญ้าลงไปในรถเกวียน ระบบก็แจ้งขึ้นมาในหัวของเขา
รอยยิ้มของเฉินเฉินกว้างมากขึ้นไปอีก เมื่อเขาได้ยินมัน
พร้อมกับระยะการค้นหาที่เพิ่มขึ้นมา 5 เมตร ระยะการค้นหาของมันก็เพิ่มขึ้นมาเกือบจะสองเท่าเลยทีเดียว
พร้อมกับการพาตัวนำโชคอย่างจางจีมากับเขาแล้ว จางจีก็คาดว่าสมบัติธรรมดาทั่วไปคงไม่มีค่ามากพอที่จะอยู่ในรถเกวียนของเขา
“พี่เฉิน หญ้านั่นคืออะไรกันครับ?” จางจีถามอย่างสงสัย
“มันเป็นหญ้าพิเศษที่ไว้ใช้แก้พิษ ซึ่งมันสามารถที่จะแก้พิษได้ทุกประเภท” เฉินเฉินอธิบายกับเขา เมื่อเขาปีนขึ้นมาบนรถม้า
“พี่เฉิน ท่านมีความรู้เกี่ยวกับด้านการแพทย์ด้วยหรอครับ?” จางจีตั้งคำถาม เขาดูสับสนอย่างมาก
วิชาด้านการแพทย์เป็นบางสิ่งบางอย่างที่จำเป็นต้องได้รับสืบทอดมา เขาได้ใช้เวลาหลายวันในการทำความเข้าใจเกี่ยวกับประวัติของครอบครัวเฉินเฉินมาก่อน ในประวัติก่อนหน้านี้ มันไม่มีอะไรที่พูดถึงความรู้เกี่ยวกับด้านการแพทย์กับพ่อแม่ของเขาเลย
“วิชาด้านการแพทย์”
เฉินเฉินก็มึนงงไปชั่วขณะ
เขาไม่รู้วิชาด้านการแพทย์เลยสักนิด เจ้าหญ้าที่ไว้ใช้แก้พิษนี่มันได้รับการบอกมาจากระบบต่างหาก
เขาสามารถที่จะเข้าไปยังร้านขายยาและถามระบบเกี่ยวกับยาที่จำเป็นต้องใช้ในการรักษาโรคได้ก็จริง
ถ้ายาที่ใช้ในการรักษาอยู่ในร้านขายยาแล้ว ระบบก็จะหามันพบอย่างแน่นอน
เขาอาจจะกลายเป็นหมอจอมปลอมก็ได้!
แต่เขาไม่รู้ว่าระบบจะสามารถจัดการค้นหาเป้าหมายได้หลายอย่างพร้อมกันหรือเปล่าเนี่ยสิ
“วิชาทางการแพทย์... ข้ารู้เพียงนิดหน่อยเท่านั้นแหละ”
หลังจากครุ่นคิดออกมา เฉินเฉินก็ตอบกลับ
ตาของจางจีแสดงให้เห็นถึงความเคารพต่อเฉินเฉิน เขาชื่นชม “ข้าไม่เคยคาดคิดเลยว่าพี่เฉินจะใช้เวลาว่างในการเรียนวิชาทางการแพทย์ พร้อมกับฝึกฝนอย่างหนักหน่วงแบบนี้ พี่เฉินจะต้องเป็นอัจฉริยะของยุคสมัยนี้อย่างแน่นอนเลยครับ!”