WS บทที่ 50 การต่อสู้ของนักเวทย์ PART 1
เลห์แมนก้าวเดินไปข้างหน้า เขาจ้องมองไปที่ออกัสติน
ทางด้านออกัสตินเงยหน้าขึ้นมามองเลห์แมน เขาแสดงสีหน้าที่หดหู่ขึ้นมาและพูดว่า
“วิลสันข้าไม่ใช่ คุณต่อสู้ของท่าน”
ออกัสตินเห็นว่าเลห์แมนนั้นสามารถจัดการบารอนวิงกูลได้ด้วยดาบเดียวดังนั้นแค่เขาคนเดียวคงจะทำอะไรไม่ได้มากนัก
*ตุบ ตุบ*
ทันใดนั้นเอง ก็มีเสียงฝีเท้ามาจากด้านนอก พวกเขาเป็นอัศวินเกราะเหล็กที่เลห์แมนนำเข้ามา ยังมีอัศวินเกราะเหล็กบางส่วนยังคงต่อสู้กับอัศวินกองกำลังป้องกันเมืองที่ด้านนอก
พวกอัศวินเดินมาทางเลห์แมนอย่างรวดเร็วและรายงานว่า
“ท่านบารอน ตอนนี้ทางอัศวินป้องกันเมืองยังคงมีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ พวกเราควรออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด”
เลห์แมนพยักหน้า เขาเข้าใจดีว่าปราสาทคาสเทลแลนนั้นไม่ใช่สถานที่ที่จะอยู่ได้นาน ๆ แต่ยังไงก็ตามเขาก็ไม่อาจจะปล่อยออกัสตินไปได้ง่าย ๆ
“ออกัสติน ท่านได้สมรู้ร่วมคิดกับทางศาสนจักรในการที่จะเอาชีวิตของข้า ข้าจะให้โอกาสท่าน หยิบดาบขึ้นมาซะและประลองกับข้า หากท่านชนะข้าจะไว้ชีวิตท่าน” เลห์แมนกล่าว
ออกัสตินกับเลห์แมนนั้นถูกกล่าวขานว่าเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองแบล็กวอเตอร์ แต่ยังไงก็ตามพวกเขาไม่เคยประลองกันมาก่อนแต่ถึงอย่างนั้นทางด้านโอลดืก็มั่นใจในเรื่องนี้อย่างเต็มที่
ออกัสตินเหลือบไปมองเลห์แมนและพูดอย่างเย็นชาว่า “ท่านวิลสัน หากท่านไม่ออกไปตอนนี้ ข้าเกรงว่าท่านจะไม่มีโอกาสออกไปได้อีกแล้ว”
“ฮ่า ๆ ออกัสติน ใครกันที่จะมาหยุดข้าได้ ท่านหรือกองกำลังป้องกันเมืองของท่านล่ะ” หลังจากเลห์แมนพูดจบ ออร่าของเขาก็ได้เพิ่มขึ้น ตัวดาบของเขาเปล่งประกายด้วยเปลวเพลิง
“หยิบดาบของท่านออกมา!!!”
ร่างกายที่เต็มได้ด้วยกล้ามเนื้อ ยืนอยู่ตรงหน้าออกัสติน เลห์แมนได้พุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและเฟวี่ยงดาบฟันไปยังคู่ต่อสู้ของเขา
เปลวเพลิงอันพิโรธได้เสียดสีกับอากาศทำให้เกิดเสียงดังขึ้นมา การเคลื่อนไหวของเขานั้นช่างน่ากลัวยิ่งหนัก
ออกัสตินหน้าซีดเล็กน้อย เมื่ออีกฝ่ายบุกเข้ามา เขาคงไม่มีทางเลือก เขาได้หยิบดาบและมีประกายไฟออกมาจากดาบของเขา
ตัวเขานั้นเป็นนักดาบเพลิงเช่นเดียวกับเลห์แมน
*แกร๊ง!!*
แรงปะทะดาบผู้ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดในเมือง ส่งผลให้เปลวไฟกระจายออกไปโดนรอบ
ด้วยแรงปะทะนี้ ทำให้ออกัสตินถอยหลังไปสองสาวก้าวและดาบในมือได้แตกกระจาย ไม่สามารถใช้ต่อสู้ได้อีกต่อไป
ส่วนเลห์แมนยืนอยู่นิ่งไปขยับไปไหน เนื่องจากผลการตัดสินได้ประกาศออกมาแล้ว
“ออกัสติน ท่านช่างอ่อนแอเหลือเกิน...ย้อนกลับในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ท่านเต็มเปี่ยมไปด้วยความกระตือรือร้นไร้ขีดกำจัด แต่หลังจากที่ท่านเข้ารับตำแหน่ง ท่านได้ทิ้งการฝึกฝนไปนั่นทำให้ข้ารู้สึกผิดหวังอย่างมาก” เลห์แมนกล่าวพลางส่ายหัว
ในช่วงนั้น ทั้งสองคนได้รับการขนานนามว่าแข็งแกร่งอย่างเท่าเทียมกัน แต่อย่างไรก็ตามด้วยเวลาที่ผ่านไป ตอนนี้ออกัสตินไม่มีทางสู้เลห์แมน วิลสันได้เลย
“ตายซะ”
เลห์แมนไม่มีทางปล่อยออกัสตินไป เขาได้ยกดาบที่เต็มไปด้วยเปลวไฟขึ้นสูง อุณหภูมิที่ร้อนแรงของเปลวเพลิงทำให้อัศวินที่อยู่ไม่ไกลต่างรู้สึกถึงมันได้
ออกัสตินไม่มีทางหลบการโจมตีนี้ได้แน่นอน
ดาบพุ่งลงมาอย่างรวดเร็ว ด้วยออร่าของโอดล์ที่กดดันออกัสตินด้วยจึงทำให้เขาไม่กล้าแม้แต่จะยกดาบขึ้นมาป้องกัน เขาทำให้แต่หลับตาและรอรับความตาบที่กำลังมาถึง
*ปัง*
ทันใดนั้นเอง ได้มีแสงลึบลับพุ่งมาทางเขา ทำให้เขาจำเป็นต้องชักดาบกลับมาป้องกันแทน
แสงนั่นได้ทำให้เขาถอยหลังไปหลายเมตร ชุดเกราะสีดำของเขาเริ่มปริแตก ดูเหมือนว่ามันจะได้รับผลกระทบจากพลังนั่นมากเกินไป
“นั่นใคร?”
เลห์แมนจ้องไปเยบื้องหน้าด้วยความตื่นตัว เขาได้เห็นชายวัยกลางคนปรากฏตัวออกมา เขาสวมเสื้อคลุมสีขาวที่มีไม่กางเขนสีเงินประดับอยู่กลางอก
“พ่อมดเจสัน!!”
ออกัสตินกล่าวออกมาอย่างโล่งอก ตัวเขาลืมไปแล้วว่าพ่อมดเจสันอยู่ไม่ไกลจากที่นี่
แม้เขาจะไม่รู้จักกับเจสันเป็นการส่วนตัว แต่เขาพอจะรู้ว่าเขามีพลังวิเศษที่สามารถเอาชนะนักดาบธาตุได้อย่างง่ายดาย
‘แม้แต่คนนอกรีตผู้ชั่วร้ายที่ปรากฏตัวในตอนนั้น ยังไม่สามารถเอาชนะพ่อมดเจสันได้เลย ดังนั้นเขาต้องจัดการเลห์แมนได้อย่างแน่นอน’
“พ่อมดจากหน่วยสอบสวน?” เลห์แมนกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง
เมื่อตอนที่เขาเข้าร่วมสงครามครั้งใหญ่ เขาค่อนข้างคุ้นเคยชุดของชายวันกลางคนเบื้องหน้า โดยคนที่สวมชุดเหล่านี้เป็นพ่อมดจากหน่วยสืบสวน โดยหน่วยงานนี้เป็นหน่วยงานที่ลึกลับที่สุดในโบสถ์เทพแห่งแสง
“บารอนวิลสัน คนที่เอาชีวิตรอดจากสงครามครั้งใหญ่ที่เรียกว่า ‘โรงเชือด’ มาได้สินะ ท่านคงตระหนักถึงพลังอันยิ่งใหญ่ของพวกเราโบสถ์เทพแห่งแสง ดังนั้นท่านควรวางอาวุธลงแล้วทางเราจะไม่ว่าอะไรท่าน” เจสันกล่าวด้วยท่าทีอันสงบนิ่ง บรรยากาศของเขาดูเป็นมิตรและให้ความรู้สึกถึงความจริงใจ
“หากเทพแห่งแสงมีจริง ท่านคงไม่สั่งให้พวกท่านกระทำการอันโง่เขลาเช่นนี้”
เลห์แมนได้ยกดาบขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับออร่าที่แข็งแกร่งขึ้น เปลวไฟที่โหมกระหน่ำได้ลุกโชนอย่างรุนแรง ดูเหมือนว่าจะมาอยู่ในจุดสูงสุดของนักดาบธาตุระดับสองแล้วและเขาสามารถไประดับสามได้ตลอดเวลา
เจสันส่ายหัวเล็กน้อยกับท่าทีของเลห์แมนและพูดด้วยน้ำเสียงอันเฉยเมยอย่างใจเย็นว่า
“ท่านวิลสัน วิญญาณของท่านได้หลงผิดไปไกลแล้ว หากท่านกระทำการต่อต้านพระเจ้า วิญญาณของท่านจะไม่มีทางดับขันธ์อย่างสงบสุข”
จากนั้นพ่อมดเจสันได้เอื้อมมืออันซีดเซียวมาเบื้องหน้าและแสงสีขาวได้ปรากฏขึ้นมา จากการที่เขาสวดภาวนาเบา ๆ
*หวู่ม*
กลุ่มแสงได้พุ่งเข้าหาเลห์แมนด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ
เลห์แมนไม่สามารถหลบมันได้เลย ยิ่งไปกว่านั้นชุดเกราะของเขาก็ไม่สามารถทนรับการโจมตีได้ หากโดนการโจมตีอีก มันก็จะพังทลายทันทีและร่างเนื้อของเขาก็ไม่สามารถทนรับการโจมตีจากเวทมนต์คาถาของเจสันได้
เพียงชั่วพริบตาที่พ่อมดเจสันได้เข้าร่วมในสนามต่อสู้ จากที่เลห์แมนได้เปรียบก่อนหน้าที่ กลับอยู่ในสภาพที่แพ้หมดรูปอย่างรวดเร็ว