82 - วันสอบ
82 - วันสอบ
การสอบศิลปะการต่อสู้สำหรับมณฑลทั้งหมดในแคว้นผิงซีคือวันที่ 21 ของเดือนจันทรคติที่หก
ในวันนี้เอี้ยนลี่เฉียงยังคงตื่นขึ้นมาในเวลาปกติของเขา เขาฝึกฝนคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นเป็นประจำจากนั้นเขาก็อาบน้ำล้างหน้าและเปลี่ยนเป็นเสื้อคลุมที่สะอาดชุดใหม่
หลังจากรับประทานอาหารเช้าเขาก็อำลาพ่อและคนอื่นๆก่อนที่เขาจะออกไปจากบ้านพร้อมกับม้าแรดของตัวเอง เขามาพร้อมกับผู้คุ้มกันจากตระกูลลู่
งูจงอางตายไปหกวันแล้ว แต่เอี้ยนลี่เฉียงไม่สามารถบอกความลับนี้กับใครได้ เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ตระกูลหง ตระกูลลู่จึงกลัวว่างูจงอางอาจสร้างปัญหาให้กับเอี้ยนลี่เฉียง
ไม่เพียงแต่พ่อบ้านลู่และผู้คุมได้รับคำสั่งให้อยู่ที่บ้านตระกูลเอี้ยนต่อไป แต่ตระกูลลู่ก็ส่งผู้คุ้มกันมาเพิ่มอีกสองคนในวันรุ่งขึ้นหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตระกูลหง
องครักษ์ใหม่ทั้งสองมีความสงบและดวงตาที่สดใส ทั้งสองคนถือกระเป๋าธนูและและสะพายซองธนูไว้ด้านหลัง เพียงมองแว๊บเดียวก็สามารถรู้ได้ว่าพวกเขาเป็นผู้ชำนาญในการยิงธนู
เอี้ยนลี่เฉียงไม่สามารถพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ ยิ่งไม่มีทางที่เขาจะบอกตระกูลลู่ว่าเขายิงสังหารงูจงอางพร้อมกับฝังลงหลุมไปแล้ว
ไม่กี่วันที่ผ่านมาผู้บังคับใช้กฎหมายและเจ้าหน้าที่หลายกลุ่มมาที่เมืองหลิวเหอมากมาย พวกเขาทั้งหมดมาเพื่อตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ตระกูลหงในขณะเดียวกันก็ออกล่างูจงอาง
สิ่งที่งูจงอางทำที่คฤหาสน์ตระกูลหงในคืนนั้นมีผู้พิทักษ์ของของตระกูลหงสองสามคนเห็นใบหน้าของเขาอย่างชัดเจน
ด้วยคำให้การของพยานและ 'คำแก้ตัว' ของเอี้ยนลี่เฉียงในคืนนั้นหลักฐานในคดีฆาตกรรมของตระกูลหงก็หักล้างไม่ได้ โดยธรรมชาติแล้วงูจงอางถือเป็นผู้กระทำความผิดในคดีนี้
เมื่อเอี้ยนลี่เฉียงเดินผ่านจัตุรัสสาธารณะของเมืองหลิวเหอเขาก็มองเห็นหงต๋า
ในเวลาเพียงไม่กี่วันเอี้ยนลี่เฉียงแทบจำเขาไม่ได้
ผมของหงต๋ายุ่งเหยิงและเขายังคงสวมชุดเดิมที่เขาสวมในคืนนั้น ยกเว้นว่าตอนนี้มันสกปรกมากและฉีกขาดไปหมด
ในตอนนี้เขายืนเท้าเปล่าในจัตุรัสสาธารณะใจกลางเมือง ดวงตาของเขาไม่มีความจดจ่ออยู่ต่อไปเขาหัวเราะและร้องไห้สลับกันไปมา เห็นได้ชัดว่าเขาเสียสติไปแล้ว
หงต๋านั่งอยู่บนพื้นในจัตุรัสสาธารณะ แต่เมื่อเขาเห็นเอี้ยนลี่เฉียงและผู้พิทักษ์ตระกูลลู่บนม้าแรด เขาก็เงยหน้าขึ้นและอุทานเสียงดังขณะที่เขาชี้ไปที่เอี้ยนลี่เฉียงด้วยความหวาดผวา
เอี้ยนลี่เฉียงส่ายหัวและถอนหายใจ
ในคืนนั้นเขาได้ตระหนักแล้วว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องกับหงต๋าเขาจึงได้ไว้ชีวิตอีกฝ่าย เขาคิดว่าถ้าหงต๋าสามารถผ่านพ้นคืนนั้นไปได้ก็มีโอกาสที่หงต๋าจะก้าวขึ้นเป็นนักรบในอนาคต
แต่เอี้ยนลี่เฉียงไม่ได้คาดหวังว่าหงต๋าจะบอบช้ำทางจิตใจจากการเห็นการสังหารหมู่ในคืนนั้นจนทำให้เขาเสียสติไป
บางทีไม่ใช่ทุกคนที่มีความเข้มแข็งทางจิตใจที่จะสามารถลืมเหตุการณ์ร้ายได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นครอบครัวของตัวเองตายต่อหน้าพวกเขาจะได้รับผลกระทบไม่มากก็น้อย
เมื่อเห็นหงต๋าอยู่ตรงหน้าเอี้ยนลี่เฉียงก็ความสับสนเล็กน้อย แต่แล้วเมื่อเขาระลึกถึงพฤติกรรมการกระทำและแผนการชั่วร้ายทั้งหมดของตระกูลหงความสับสนในใจของเขาก็หายไปในพริบตา
ตระกูลหงรนหาที่เอง เขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้จากมุมมองอื่น ถ้าเขาไม่ได้กลับชาติมาเกิดและไม่ได้ฝึกฝนการคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น เขาและพ่อคงเป็นคนที่ต้องตายแทน
ภายในเวลาเพียงไม่ถึงสัปดาห์ตระกูลหงที่เคยมีอิทธิพลของเมืองหลิวเหอได้หายไปในควันไฟ
ผู้มีอำนาจทั้งหมดในตระกูลหงเสียชีวิตในคืนนั้น วันรุ่งขึ้นก็มีคนพบศพของหงอานในป่าเชิงเขาร้อยจางพ่อบ้านและคนรับใช้มากมายของตระกูลหงก็หนีหายไปพร้อมกับทรัพย์สมบัติจำนวนมากของพวกเขา
หลังจากการตายของคนในตระกูลหงผ่านไปเจ็ดวัน ก่อนที่จะมีการต่อสู้ของญาติๆตระกูลหงเพื่อแย่งชิงสมบัติที่เหลืออยู่
ลูกสาวสองคนของหงเฉิงโจวและตระกูลของสามีของพวกนางใช้ข้ออ้างในการมาเคารพศพจากนั้นก็ลงมือแย่งชิงสมบัติกัน
แม้กระทั่งตอนนี้ในบริเวณที่เกิดไฟไหม้อยู่ก็ยังมีผู้คนมากมายพยายามค้นหาทรัพย์สมบัติที่ถูกฝังดินไว้ของตระกูลหง
พวกเขาต่อสู้กันจนเกิดการฟ้องร้องขึ้นที่ศาลในเมืองหลิวเหอ แทบตลอดทั้งสัปดาห์
ตระกูลหงจบสิ้นลงเช่นนี้
ภาพวาดและประกาศจับใหม่เอี่ยมของงูจงอางถูกติดไว้ทั่วเมือง คราวนี้ภาพวาดของเขาไม่ได้มีลักษณะคล้ายกับภาพวาดของวินเซนต์แวนโก๊ะอีกต่อไป
แต่ตอนนี้ภาพของงูจงอางมีรายละเอียดมากขึ้น ดวงตารูปสามเหลี่ยมของเขาและไฝที่แก้มซ้ายของเขาถูกแสดงออกมาอย่างโดดเด่น
หงติงเป็นเจ้าหน้าที่ประจำเมืองของเมืองหลิวเหอและยังเป็นสมาชิกของสำนักงานบังคับใช้กฎหมายในมณฑลชิงไห่ แม้ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ระดับล่าง แต่การที่เขาถูกสังหารนั้นถือเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง
ตระกูลหงเหลือเพียงเด็กกำพร้าและหญิงม่าย ผู้คนที่มีอำนาจทั้งหลายของตระกูลก็ตายหมดแล้ว ชื่อเสียงของตระกูลหงมัวหมองไปแล้วและพวกเขาก็สูญเสียผู้สนับสนุน ดังนั้นจึงมีผู้คนมากมายสวมรอยเป็นเจ้าหนี้ของพวกเขาไปรีดไถเงิน
เอี้ยนลี่เฉียงเคยเห็นเหตุการณ์ที่คล้ายกันในชีวิตที่ผ่านมาของเขา การเคลื่อนไหวปกตินี้ไม่ได้แตกต่างไปจากที่เขาเคยเห็นในชีวิตก่อนหน้านี้ ...
อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเขาอีกต่อไป ...
หลังจากนั้นไม่นานเขาก็มาถึงมณฑลชิงไห่แม้ว่าจะมาถึงที่นี่แล้วแต่ประกาศจับงูจงอางยังคงติดไว้ทุกที่ ทหารที่ยืนรักษาการณ์อยู่ที่ประตูกำลังตรวจใบหน้าของทุกคนหากมีใครสวมหมวกพวกเขาก็จะถูกบังคับให้ถอดออก
มีฝูงชนจำนวนมากรวมตัวขึ้นนอกสถาบันศิลปะการต่อสู้ประจำมณฑล
คล้ายกับภาพที่เขาเคยเห็นในตอนที่สอบเข้าวิทยาลัยในชีวิตที่ผ่านมา เมื่อใดก็ตามที่ลูกหลานของพวกเขาต้องเข้าสอบพ่อแม่และผู้ปกครองจำนวนนับไม่ถ้วนจะรออย่างใจจดใจจ่อที่ด้านนอกของโรงเรียน
การสอบประจำปีของมณฑลไม่แตกต่างจากการสอบเข้าวิทยาลัยส่วนใหญ่ ในความเป็นจริงมันสำคัญกว่าการสอบเข้าวิทยาลัยด้วยซ้ำเพราะสำหรับคนทั่วไปสิ่งนี้จะเป็นโอกาสให้ครอบครัวที่มีสถานะต่ำต้อยได้เปลี่ยนแปลงสภาพครอบครัวของตัวเอง