ตอนที่ 15 วุ่นวาย
“คุณย่าหนูรู้ว่าคุณย่าลำเอียง แต่หนูไม่คิดว่าจะเป็นถึงขนาดนี้!”
หวังเสี่ยวหวู่ส่ายหัว เธอพูดด้วยสีหน้าเยือกเย็น
"ซือหยุ่นก่อตั้งโดยพ่อของหนู เดิมทีโครงการของ หรงติ่ง เป็นหนูได้ไปแต่คุณก็แย่งไป พอตอนนี้หนูไปเปิด บริษัท ใหม่ของตัวเองคุณก็ยังจะเอามันไปมอบให้กับหลานชายคุณอีก หนูอยากถามว่าหนู หวังเสี่ยวหวู่ เป็นหลานสาวคุณจริงหรือเปล่า?"
"เธอว่าไงนะ?"
หญิงชราตวาท "เธอ เธอกล้าพูดแบบนี้กับฉันหรอ?"
คนอื่น ๆ ต่างก็อดแปลกใจไม่ได้
แม้ว่า หวังเสี่ยวหวู่ จะมีนิสัยดื้อรั้น แต่เธอก็ไม่เคยพูดไม่ดีกับย่าของเธอ นี่เป็นครั้งแรก!
“ย่าหนูผิดหรอ หนูรู้ว่าคุณเป็นผู้อาวุโส และต้องการมอบตำแหน่งทายาทให้กับหลายชายไร้ความสามารถของคุณ!”
“แต่ยังไงก็ตาม บริษัท ที่หนูตั้งมาด้วยตัวเอง หนูไม่ยกให้ใคร!”
หวังเสี่ยวหวู่ ตะโกนเสียงดัง
เธอรู้สึกหดหู่ใจมานานแล้วกับตระกูลหวัง และวันนี้ในที่สุดเธอก็ระเบิดมันออกมา
"หวังเสี่ยวหวู่เธอบอกว่าใครไร้ความสามารถ?"
หวังซูโกรธมากและก้าวไปข้างหน้าง้างมือขึ้นมา แต่ทันใดนั้นเองตอนที่เขากำลังจะลงมือก็พลันมีมือมาจับข้อมือเขาไว้แน่น ด้วยแรงบีบจับของมือนั้นทำให้มือของ หวังซู หักงอทันที
หวังซู ส่งเสียงกรี๊ดร้องป่านหมูถูกเฉือด
เวลานั้นชายร่างสูงที่ยืนอยู่เบื้องหน้าของ หวังเสี่ยวหวู่ เขากวาดตาไปรอบๆด้วยสายตาที่เย็นชา
“วันนี้ฉันอยากเห็นนักว่าใครหน้าไหนในตระกูลหวังที่มันกล้ามารังแกภรรยาของฉัน เจียงเป่ยเฉิน!”
เสียงของเขาดังไปทั่วทั้งตระกูลหวัง
ชั่วขณะหนึ่งทั่วทั้งตระกูลหวังเงียบลงทันที
“เจียง เจียงเป่ยเฉิน?”
หวังเสี่ยวหวู่จ้องมองร่างที่อยู่เบื้องหน้าเธออย่างงุนงง แต่แล้วเธอก็ได้สติ
"นายมาที่นี่ทำไม"
“ทำไมฉันจะไม่มา จะให้ฉันปล่อยให้เธอโดนทำร้ายหรอ?”
เจียงเป่ยเฉิน ส่ายหัวจากนั้นก็ปล่อย หวังซู และเตะมันออกไป
หวังซู ล้มลงและกรีดร้องอยู่ที่พื้น
“เสี่ยวเอ๋อ!”
ดวงตาของหญิงชราเป็นสีแดงด้วยความโกรธ เธอลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เธอเกิดอาการวินเวียนและล้มลง เธอชี้นิ้วไปที่ทั้งสองคนและพูดว่า “เธอ เธอจะขัดขืนหรอ”
“ขัดขืน?”
"ใครขัดขืนกัน? "
เจียงเป่ยเฉินหัวเราะเยาะเชิดหน้าขึ้นและกล่าวอย่างเยาะเย้ยว่า: "ผมเห็นว่าคุณคนแก่และคนหนุ่มรวมหัวกันกลั่นแกล้งภรรยาของผม!"
"ถึงแม้ว่าหลายๆคนจะอาวุโสมากกว่า แต่ถ้าเกิดใครหน้าไหนมันกล้ารังแกเธอละก็…."
เจียงเป่ยเฉิน มองไปรอบ ๆ และกล่าวอย่างเย็นชา
ว้าว! ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าขยะที่กลับมาจากทหารจะกล้าที่จะพูดแบบนี้
แม้แต่ภายหัวใจของ หวังเสี่ยวหวู่ ก็อดที่จะรู้สึกตื่นเต้นและอบอุ่นไม่ได้
"ไม่เห็นหัวกันเลย! นี่มันไม่เห็นหัวกันเลย!! เสี่ยวหวู่, ดูสิ เธอลองดูสิ
นี่คือสามีที่ดีของเธอ! ตอนนี้เธอเห็นไหมว่าสามีของเธอกำลังข่มเหงย่าของเธอเห็มมั้ย? "
หญิงชราตระโกนเสียงแหบ
หวังเสี่ยวหวู่ เม้มปากของเธอและเงยหน้ารวบรวมความกล้าและพูดออกไปว่า: "คุณย่าพวกเราทำอะไรผิด?"
"หนูแค่อยากรักษาบริษัทที่พ่อของหนูก่อตั้ง และ บริษัท ของหนูเองก็เท่านั้น คุณตามใจหวังซูมากไป และคุณยังต้องการเอาทุกอย่างไปจากหนูครั้งแล้วครั้งเล่า"
"หนูไม่ผิด! "
ในเวลานี้หวังเสี่ยวหวู่รู้ว่าเธอจะไม่มีทางก้มหัวลงมิฉะนั้นแล้วทุกอย่างก็จะเป็นแบบเดิมถูกตระกูลหวังยึดไป
"เธอ เธอ.." หญิงชราหายใจเร็วราวกับว่าเธอกำลังจะตาย
เธอกลอกตาสองครั้งและล้มตัวลงไปด้านหลัง
"ย่า!"
“ยาย!”
คนในตระกูลคนอื่นวิ่งเขาไปหาเธออย่างรวดเร็ว แต่หญิงชรากลับไม่ตอบสนองเลย
"ทั้งหมดนี้มันเป็นความผิดเธอหวังเสี่ยวหวู่ ถ้าคุณย่าเป็นอะไรไปเธอจะต้องรับผิดชอบ!"
หวังซูตะโกน
"ใช่หวังเสี่ยวหวู่เด็กอกตัญญู บริษัท จะเทียบไรกับชีวิตคุณย่าได้?"
"เธอทำให้ย่าเป็นแบบนี้! "
"ตระกูลหวังของเราไม่มีหญิงอกตัญญูแบบเธอ!!"
ในขณะนั้นทุกคนในตระกูลหวังก็พากันก่นด่าเธอกันเสียงดัง เสียงด่าทอทั้งหมดหลั่งไหลเข้ามาในหูของ หวังเสี่ยวหวู่ น้ำตาของ หวังเสี่ยวหวู่ ไหลลง เธอยืนนิ่งและตัวสั่น เธอไม่คิดมาก่อนว่าคุณย่าจะมีอาการหนักแบบนี้ทำให้เธอรู้สึกผิดและเสียใจ
“ไม่ต้องกลัว ฉันอยู่ที่นี่. เธอไม่ใช่คนอกตัญญูในทางตรงกันข้ามเธอเป็นคนฉลาดเพราะงั้นนี้แหละคือความกตัญญู!”
เจียงเป่ยเฉิน เดิเข้ามาและตบไหล่เธอ
หากเป็นสถานการณ์ปกติหวังเสี่ยวหวู่คงจะปัดมือเขาทิ้ง แต่ตอนนี้ในหัวเธอว่างเปล่าเพราะถูกทุกคนกล่าวหาเธอ หากเขาไม่ปลอบใจเธอเธอคงจะล้มลงไปแล้ว
"หลีกทาง! หมอมาแล้วแล้ว!"
ในเวลานี้มีแม่บ้านพาหญิงสาวผู้หนึ่งเดินเข้ามาเธอมีรูปร่างที่ผอมบางและมีการแต่งตัวที่หรูหรา เธอคือ ฉินเสี่ยว เธอเป็นหลานสาวของ ฉินไฮลู่ ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์แผนจีนในหยุนไห่
ฉินเสี่ยว เธอเรียนแพทย์แผนจีนกับปู่ของเธอตั้งแต่เธอยังเด็กและเธอได้รับปริญญาเอกด้านการแพทย์แผนจีนเมื่ออายุ 22 ปี เป็นคนที่ค่อนข้างจะมีชื่อเสียง ตระกูลฉินเป็นเพื่อนกับตระกูลหวัง ฉินเสี่ยว เธอจึงถูกเชฺยมาเป็นแขกในวันนี้
หญิงชราชอบ ฉินเสี่ยว มากเธอต้องการให้ฉินเสี่ยวมาเป็นหลานสาวของเธอ แต่ฉินเสี่ยวไม่ตกลง
"โชคดีที่หมอฉินอยู่ที่นี่ ตอนนี้คุณย่ารอดแล้ว!"
"ใช่หมอฉินมีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมและเธอจะต้องรักษาคุณย่าได้อย่างแน่นอน!"
เมื่อเห็น ฉินเสี่ยว ทุกคนรู้สึกโล่งใจ
ทักษะทางการแพทย์ของ ฉินเสี่ยว นั้นทุกคนยอมรับว่าเธอมีฝีมือมาก มันสามารถช่วยชีวิตคุณย่าได้แน่นอน
หลังจากที่ ฉินเสี่ยว มาถึงเธอก็ไม่ได้เร่งรีบอะไร เธอเข้ามาจับแขนของหญิงชราและตรวจดูชีพจรของเธอ "วางเธอนอนลงกับพื้น!"
ทุกคนรีบวางหญิงชราราบกับพื้น ฉินเสี่ยว เปิดกระเป๋าถือสีน้ำเงินของเธอและดึงเข็มเงินออกมาจากกระเป๋าถือ จากนั้นเธอก็หยิบเข็มสีเงินออกมาสองสามเล่มและเริ่มฝังเข็มทันที
แต่หญิงชรายังคงไม่มีการตอบสนอง
ใบหน้าของทุกคนยังคงเต็มไปด้วยความกังวล
แต่เวลานี้ทุกคนไม่กล้าที่จะส่งเสียง เพราะกลัวว่าจะรบกวนการรักษาของ ฉินเสี่ยว
ในที่สุด ฉินเสี่ยว ก็หยิบเข็มเงินออกมาถือเข็มไว้ที่เหนือศรีษะของหญิงชราและสักพักเธอก็ลงเข็มทันที
ทุกคนอุทาน! “จุดไป่ฮุ่ย” ใครก็ตามที่รู้เรื่องแพทย์จีนจะรู้ดีว่าจุดนี้ยากมากหากไม่ไม่ความสามารถพออาจจะทำให้คนตายได้เลย อย่างไรก็ตามด้วยทักษะการแพทย์ของ ฉินเสี่ยว พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะเอ่ยอะไรออกมา
เห้ออ! ฉินเสี่ยว ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเช็ดเหงื่อออกจากหน้าผากของเธาและพูดกับทุกคนทันที: "สบายใจได้เธอโอเคแล้วอีกสักพักเธอก็จะรู้สึกตัว!"
"ขอบคุณหมอฉิน!"
"ขอบคุณที่เหนื่อย นี่น้ำดื่ม! "
หวังซูถือแก้วน้ำและส่งให้เธอ
ฉินเสี่ยว ขมวดคิ้ว แต่เธอก็ยังยื่นมือไปรับแก้วน้ำ
"จุดไป่ฮุ่ย ผิดพลาดต้องแก้ไขไม่งั้นเธอตายแน่!"
ในเวลานี้มีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลัง
แก้วในมือ ฉินเสี่ยว สั่นทำให้น้ำข้างในหกออกมาทันที เธอเงยหน้ามองดูชายผู้นั้นด้วยสายตาเย็นชา
“ เจียงเป่ยเฉินแกกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไร?
"แกกล้าพูดได้อย่างไรว่าเข็มของฉินเสี่ยวผิดพลาด?"
"แกจะแช่งคุณย่าให้ตายหรอ? "
ทันใดนั้นหวังซูก็ตะโกนใส่เจียงเป่ยเฉิน สมาชิกในตระกูลคนอื่นๆ ก็ต่างจ้องมองเขาด้วยความโกรธ ทุกคนเห็นว่าอาการของหญิงชราดีขึ้นแล้วและคนผู้นี้กำลังพูดเรื่องไร้สาระ
"เป่ยเฉินหุบปาก คุณย่าถูกรักษาแล้วนายอย่าพูดเรื่องไร้สาระ!"
หวังเสี่ยวหวู่ ตะโกนด่าเขา
โชคดีที่ย่าอาการดีขึ้น มิฉะนั้นเธอจะเป็นคนอกตัญญูทันที
"ขยะไร้ประโยชน์แกมาพูดแบบนี้ได้ยังไง"
“ปากอีกา!”
"ออกจากที่นี่ไปสะ!"
ผู้อาวุโสหลายคนดุด่าเขาและไล่ให้เจียงเป่ยเฉินออกไป
เจียงเป่ยเฉิน พยักหน้าและเดินตรงไปข้างนอก
“เหอะ นี่มันอะไรกัน นี่เขาเป็นสามีของ หวังเสี่ยวหวู่ จริงหรอ พล่ามอะไรไม่เข้าเรื่องไม่มีความรู้ก็ยังพูดออกมาส่งๆ โง่จริงๆ เธอไม่ต้องใส่ใจเขามากหรอก!”
หวังซู กล่าวกับ ฉินเสี่ยว ด้วยความประจบ
ฉินเสี่ยว มองไปยังแผ่นหลังของ เจียงเป่ยเฉิน อย่างดูถูกก่อนที่เธอจะหลับตาลง
ในเวลาต่อมา
เธอก็ตกตะลึงทันที เธอพบว่าร่างกายของหญิงชรากำลังสั่น และไม่เพียงแค่เธอเท่านั้นที่สักเกตุเห็นคนอื่ๆก็เห็นแล้วเหมือนกัน
ร่างกายของหญิงชราก็เริ่มสั่นมากขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นเธอก็ชักกระตุกอย่างรุนแรง และกระอักเลือดออกมาแล้วเธอก็แน่นิ่งไปราวกับว่าเธอได้ตายไปแล้ว