ตอนที่แล้วตอนที่ 5 - หัวหน้าคนใหม่ (2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 6 - เปลี่ยนร่าง

ตอนที่ 5 - พระเจ้าสรรค์สร้าง (3)


*ก่อนจะอ่านนิยาย โปรดตรวจสอบว่าท่านได้อยู่ในสถานที่ที่มีแสงเพียงพอ หรือถ้าท่านอ่านในความมืดก็อย่าลืมเปิด Night Mode หรือจอส้ม เพื่อป้องกันการปวดหัวและสายตาสั้นด้วยนะครับ*

--------------------------------------------------------------------------------------------

เธอต้องรีบไปถามเจ้าดาร์คเอล์ฟว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่และถ้ามีคนเห็นเธอจริงๆ เธอก็จะต้องเตรียมรับมือไว้.

 

เธอรีบเปิดประตูแล้วเข้าไปข้างในแล้วปิดประตูให้สนิทอย่างรวดเร็ว. ห้องใต้ดินนั้นก็มืดดังเดิม มีเพียงแค่เทียนเล่มเดียวเท่านั้นที่ส่องแสงอยู่กลางห้อง.

 

เจ้าเอล์ฟตัวน้อยนอนขดตัวอยู่บนเตียง. ตาของเขาปิดอยู่ราวกับว่ากำลังหลับลึก ขนตายาวๆของเขานั้นทอดเงาออกมาจากแสงเทียน.

 

เอมิเลียไปนั่งอยู่ท้ายเตียงแล้วสำนวจแผลของเจ้าเอล์ฟ. ความสามารถในการรักษาของสิ่งมีชีวิตมายานั้นยอดเยี่ยมเกินคำบรรยายจริงๆ. แค่ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง แผลที่เปิดอยู่ก็เริ่มจะปิดสนิทและเริ่มหายอย่างช้าๆ.

 

เอมิเลียยื่นมือออกไปจับผ้าพันแผลด้วยความอยากสัมผัสตัวแต่จู่ๆเจ้าเอล์ฟก็สะดุ้งตื่นขึ้นมา.

 

“อย่ามาแตะข้า!” เจ้าเอล์ฟพูดพร้อมลุกขึ้นนั่งบนเตียงด้วยสีหน้าดุร้าย. สีหน้านิ่งๆของเอมิเลียตะกี้เปลี่ยนไปทันที.

 

เจ้าเอล์ฟดูเหมือนจะฟื้นตัวจากการเสียเลือดก่อนหน้าแล้ว เพราะตอนนี้เขาดูดีขึ้นกว่าตอนเช้ามาก.

 

เขาแยกเขี้ยวออกอย่างกับหมาเป็นโรค.

 

เอมิเลียรู้สึกว่าเจ้าเอล์ฟดูน่ารักแม้จะทำสีหน้าดุร้ายอยู่ก็ตาม. เอมิเลียมองลงมาพร้อมหุบยิ้มก่อนจะประชดว่า “โทดนะ? ใครอยากจะแตะนายกัน? ชั้นแค่จะมาถามอะไรนิดหน่อย. ได้คำตอบแล้วจะไป”

 

เธอลุกขึ้นจากเตียงแล้วไปนั่งที่เก้าอี้ห่างจากเขาไม่กี่เมตร.

 

พอเอมิเลียไปนั่งห่างๆเขา เจ้าเอล์ฟก็รู้สึกสงบลงหน่อยๆ ดูไม่ก้าวร้าวเหมือนเมื่อกี้.

 

เขาพยายามเคลื่อนตัวบนเตียงไปพิงหลังที่กำแพง. เขามองมาที่เอมิเลียแล้วรอให้เธอพูดต่อ.

 

“จำได้มั้ยว่าทำไมนายถึงหมดสติไป? มีคนอื่นเห็นนายรึป่าว? มีคนเห็นนายไปที่ตรอกนั่นมั้ย?” เอมิเลียยิงคำถามรัวๆ.

 

เจ้าเอล์ฟปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามใดๆของเธอเลย.

 

ราวกับเวลาระเบิดกำลังเดินอยู่ เอมิเลียรู้สึกว่าชีวิตของเธอเริ่มสั้นลงๆทุกที เพราะเจ้านี่กำลังทำให้เธอปวดหัว.

 

เธอถอนหายใจออกมาเสียงดังแล้วกุมมือไว้ก่อนจะพูดต่อ “นี่เป็นเรื่องคอขาดบาดตายนะ เรื่องของนายด้วยซ้ำ. นายไม่อยากให้ครอบครัวนายรู้หรอว่านายยังไม่ตาย?”

 

เจ้าเอล์ฟเล่นนิ้วตัวเองแล้วมองต่ำลงมาที่มือ. เขาเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น.

 

สิ่งที่เขาจำได้ก็มีแค่ยัยผู้หญิงบ้านี่กับห้องแคบๆตอนที่ตื่นมา. เขาจำอย่างอื่นไม่ได้อีกเลย.

 

เจ้าเอล์ฟรู้สึกไม่สบายใจและก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับความทรงจำที่หายไปนี่ดี. เขาอยากจะถามผู้หญิงตรงหน้าเขาแต่ก็ยังระแวงเธออยู่. เขาเตือนตัวเองอยู่ตลอดว่าอย่าประมาทโดยเฉพาะตอนนี้ที่เขายังไม่แข็งแรงนัก.

 

ตอนที่เอมิเลียออกไปเมื่อกี้ เจ้าเอล์ฟก็ยังถ่างตาอยู่ตลอด. เขาพยายามไม่หลับด้วยความหวาดระแวงว่าตัวเองกำลังอยู่ในที่ที่ไม่คุ้นและถูกผู้หญิงที่ไม่รู้จักช่วยไว้. ความง่วงจากอาการเสียเลือดมากเกินไปเกือบทำให้เขาสลบแต่ก็พยายามอดทนไว้ได้.

 

ด้วยสายตาทื่เริ่มพร่ามัวและหัวที่ตื้อไปหมด เขาเริ่มรู้สึกง่วงซึมๆขึ้นมาแล้ว. แต่เขาก็พยายามนั่งตัวตรงไว้ด้วยแรงใจของเขาล้วนๆ. ถ้ามาสลบต่อหน้าผู้หญิงคนนี้คงจะไม่ดีเท่าไหร่.

 

เอมิเลียกำลังนั่งรอให้เขาตอบอยู่ เธอเริ่มหมดความอดทนแล้ว.

 

หลังจากผ่านไปพักหนึ่ง เจ้าเอล์ฟก็พึมพำออกมาเบาๆ “ไม่”

เอมิเลียกะพริบตา เธอประหลาดใจกับคำตอบที่สุขุมของเจ้าเอล์ฟมาก. เธอจ้องไปที่เขาสองสามวินาทีก่อนจะถาม “นายเห็นคนอื่นอีกรึป่าวตอนที่อยู่ตรงนั้น?”

 

เจ้าเอล์ฟส่ายหัว.

 

อาจจะมีคนตามล่าเจ้าหนูนี่อยู่ก็ได้. เอมิเลียหน้าผากยู่ เธอเป็นห่วงเจ้าดาร์คเอล์ฟที่อยู่ตรงหน้าเธอนี่ขณะที่เอานิ้วนวดหน้าผากให้ความปวดมันหายไป.

 

ปกติแล้วเธอไม่ค่อยสนใจความรู้สึกคนรอบๆเธอนัก แต่ตอนนี้เป็นครั้งแรกที่เธอสนและรู้สึกว่าตัวเองกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ยุ่งยาก - สถานการณ์ที่มีสิ่งมีชีวิตแห่งความมืดมาเกี่ยวด้วยเต็มๆ.

 

แม้เธอจะรู้ว่าเจ้าเอล์ฟนี่เป็นสิ่งมีชีวิตแห่งความมืด แต่เธอก็ไม่คิดว่าเขาจะหลอกเธอ. เธอเดาว่าร่องรอยที่อัศวินพบเข้านั้นน่าจะเป็นฝีมือของพวกจอมเวทย์แห่งความมืดที่ทิ้งไว้หลอกแน่ๆ.

 

ทางหนีจริงๆน่าจะไม่ใช่ถนนนั่น. พวกอัศวินน่าจะตามรอยไปผิดทางแต่เธอจะพูดเรื่องนี้ให้หัวหน้าอัศวินฟังไม่ได้เด็ดขาด. เพราะเธออธิบายไม่ได้แน่ว่าไปเอาข้อมูลมาจากไหน. ถ้าเธอพูดไปล่ะก็จะต้องมีคนสงสัยแน่.

 

เธอลุกขึ้นจากเก้าอี้ “ชั้นจะออกไปแล้ว. นายควรพักซะ”

 

เจ้าเอล์ฟก้มหัวลงพยายามปิดหน้าไว้ไม่ให้เห็น. เอมิเลียไม่มั่นใจว่าเจ้าเอล์ฟกำลังคิดอะไรอยู่.

 

เอมิเลียไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นตอนเช้ากันแน่และเธอก็ไม่อยากถามกดดันเจ้าเอล์ฟต่อ. ตอนที่เธอกำลังจะปิดประตูเธอก็ได้ยินเสียงครางเบาๆออกมาจากด้านใน.

 

มือเธอที่จับวงเหล็กอยู่ชะงักไป เธอชะโงกหน้าเข้าไปดูด้านใน.

 

ที่หน้าผากของเจ้าเอล์ฟนั้นเหงื่อแตกพลั่กไปหมด มันไหลย้อนลงมาบนผิวสีน้ำผึ้งเขา. เขาหมดสติไปในท่าขดตัวบนเตียง หลังของเขาสั่นเล็กน้อย. เอมิเลียสามารถมองเห็นได้เลยว่ากระดูกในร่างของเขากำลังถ่างผิวหนังเขาออก.

 

เอมิเลียรีบเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็วแล้วไปคุกเข่าต่อหน้าเขา “เป็นอะไรไป? เจ็บรึป่าว?”

 

เธออยากจะใช้พลังรักษาของเธอซะเดี๋ยวนี้เลย ถ้าเขารับพลังได้นะ.

 

คิ้วของเจ้าเอล์ฟขมวดแรงมากๆและเขากำลังกัดฟันอย่างแน่นด้วย. ดูจากสีหน้าแล้วดูเหมือนว่าเขากำลังอดทนกับความเจ็บปวดมหาศาลอยู่ขณะที่เขาหายใจหอบอย่างรุนแรง.

 

สิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนั้นเหมือนกับฝันในสายตาของเอมิเลียเลย.

 

ผมของเจ้าเอล์ฟยืดยาวออกแล้วสะบัดขึ้นไปบนอากาศราวกับว่าโดนลมพัดอยู่. ใบหน้าของเขาเปลี่ยนจากเด็กทารกเป็นชายรูปงามที่หาคำเปรียบไม่ได้.

 

ผ้าพันแผลที่พันรอบๆตัวเขานั้นก็เริ่มคลายออกจนเห็นกล้ามเนื้อแน่นๆด้านใน ดูราวกับรูปปั้นของกรีกก็ไม่ปาน. ขาของเขายืดออกไปพาดปลายเตียงแต่ก็ยังอยู่ในท่าขดตัวเช่นเดิม.

 

เอมิเลียงุนงงมากขณะที่มองดูความอัศจรรย์นี่และเธอก็นึกออกว่าทำไมพวกเอล์ฟถึงถูกกล่าวขานว่าเป็นสิ่งมีชีวิตของพระเป็นเจ้า. เธอจำได้ว่าเดิมทีพวกเขานั้นถูกสร้างมาให้มีทั้งความงดงามและพลังไว้ในครอบครอง. พวกเขาถูกพระเจ้าสรรค์สร้างมาอย่างงดงามมากๆ.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด