Chapter 5
Chapter 5
จูดลีย์ได้ยินมาว่าซอดไปยั่วโมโหแก๊งสกอเปี้ยน ไม่เพียงแต่เขาจะไม่เป็นอะไร เขายังมีเงินกลับมากกว่า 10 ล้านดอลลาร์ เขารู้สึกเจ็บปวดจากความอิจฉาอย่างมาก.
ท้ายที่สุดเขารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับแก๊งสกอเปี้ยนและแก๊งสเกลตัน.
"นี่คือค่าอาหาร นายสามารถซื้อโคเนื้อมาไว้ในฟาร์มของนายได้."
ซอดพูด.
"นี่นับเป็นการซื้อฟาร์มของฉันหรือเปล่า?"
จูดลีย์พูดไม่ออก.
แต่ฟาร์มที่เสียหายของเขานั้นไม่ได้มีค่ามากขนาดนี้.
พื้นที่ฟาร์มของจูดลีย์ทั้งหมดนี้มีแค่ 1,253 เอเคอร์ ซึ่งเป็นสวนไม้ผล 32 เอเคอร์ที่ส่วนใหญ่เป็นส้ม สวนผัก 45 เอเคอร์และยังเป็นผักทุกชนิดที่ปลูกได้ ที่เหลือก็เป็นข้าวโพดและถั่วเหลือง.
ก่อนหน้านี้จูดลีย์เคยคิดที่จะขายฟาร์มแห่ง จากการต่อรองราคาอีกฝ่ายก็เสนอเงินให้เขาเพียง 3 ล้านดอลลาร์เท่านั้น.
ซอดขอให้จูดลีย์เปลี่ยนจากฟาร์มผักเป็นฟาร์มเนื้อ จูดลีย์มองว่าซอดซื้อฟาร์มของเขาไปแล้ว ตอนนี้เขาเป็นได้แค่....พนักงาน.
"บอส เราไม่อาจมั่นใจได้."
จูดลีย์พูดตรงๆ.
ฟาร์มก่อนหน้านี้แทบจะไม่อาจดูแลได้ ท้ายที่สุดยังมีเครื่องจักรช่วย แต่ทุ่งหญ้านั้นแตกต่างกัน.
แถมยังใกล้ทะเลทรายอีกด้วย....ยังไม่รู้เลยว่าจะเลี้ยงโคเนื้อได้ดีแค่ไหน.
"ถ้ามันยังขาด งั้นก็ต้องเป็นขาดคนป่ะ?"
ซอดถามแปลกๆ เงินสิบล้านมันจะหาได้ง่ายๆขนาดนี้ได้อย่างไง?
"คนงานในเท็กซัสนั้นแพงมาก ฉันแค่ต้องไปหาคนงานชาวเม็กซิกัน."
จูดลีย์ไม่รู้ว่าซอดเลือกปฏิบัติกับชาวเม็กซิกันหรือไม่.
"คนเถื่อน?"
ซอดคิดว่าจูดลีย์กังวลเกี่ยวกับปัญหานี้.
"นี่คือชายแดนสหรัฐฯ-แม็กซิโก มีแรงงานเม็กซิกันมากมายที่ลอบมาที่นี่."
จูดลีย์พยักหน้า.
"งั้นก็ไปหาพวกเขา."
ซอดไม่สนใจเรื่องคนเถื่อน มีอาชญากรรมมากมายโดยเฉพาะที่นี่ ถ้าคุณสนใจจริงๆ ตำรวจเท็กซัสก็ไม่อาจวิ่งหนีด้วยขาของพวกเขาได้.
สองวันต่อมา รถบรรทุกขนาดใหญ่มาจอดที่หน้าประตูฟาร์ม มันมาส่งโคเนื้อตามคำสั่งซื้อของจูดลีย์.
ฟาร์มในเวลานี้ได้รับการปรับปรุงใหม่ทั้งหมด ข้าวโพดและถั่วเหลืองที่ปลูกในพื้นที่เดิมได้รับการเก็บกวาดและแม้กระทั้งการปรับระดับดิน.
สวนผลไม้ที่ถูกละเลยไม่ดูและก็กลับมาเขียวชอุ่มอีกครั้งและยังมีการปลูกผักหลากสีเป็นแถวอย่างเรียบร้อยในสวนผัก.
จูดลีย์ซื้อวัวพันธุ์ออกัสมากกว่าหนึ่งร้อยตัวจากเกษตกรที่เขาพบ วัวเหล่านี้มีคุณภาพสูงและเสิร์ฟเฉพาะร้านอาหารระดับไฮเอนด์หลายแห่งในนิวยอร์ก,วอชิงตันและลอสแองเจลิส.
แค่นั้นเขาก็ไม่รู้ว่าที่นี่จะเพิ่มขึ้นหรือเปล่า.
จูดลีย์ขอให้คนงานชาวเม็กซิกันคนใหม่นวดโคเนื้อ ทุ่งหญ้าแต่เดิมนี้ก็เป็นจุดประสงค์เพื่อใช้ในการเลี้ยงวัวโดยตรง ข้าวโพดและถั่วเหลืองที่บดแล้วยังเป็นอาหารสำหรับวัวแองกัส.
ซอดพบว่าคนงานเม็กซิกันเหล่านี้ทำงานหนักมาและค่าจ้างของพวกเขาก็ไม่สูงนัก
สองสามวันนี้เขาได้รับแสงแดดและพบว่าความก้าวหน้าของเขายังช้าเกิน.
คริปโตเนียนที่พัฒนาเต็มที่โดยธรรมชาติและจะไม่เติบโตเร็วเท่านายพลซอด แต่การขาดจุดอ่อนก็เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด.
ซอดรู้ว่าตอนนี้เขากำลังวางรากฐานดังนั้นแม้ว่าเขาจะกังวล แต่ก็ไม่มีทางเลย.
คริปโตเนี่ยนไม่จำเป็นต้องออกกำลังเหมือนกับชาวไซย่าและพวกเขาไม่ต้องการห้องแรงโน้มถ่วง นอกจากแสงแดดที่มากขึ้น.
เมื่อเขาบินได้ในอนาคต เขาต้องบินไปที่สูงเพื่อดูดซับพลังงานแสงอาทิตย์มากขึ้น.
แถมแก๊งสกอเปี้ยนจะไม่ปล่อยมันไปอย่างนั้นแน่นอนเพราะมันคือสิบล้าน.
แต่หลังจากที่พวกเขาได้ยินสิ่งที่จินเฟยพูดพวกเขาก็รู้สึกว่าซอดควรจะเป็นสุดยอดนักฆ่า,สุดยอดทหารหรืออย่างพวกมนุษย์สุดขั้ว ไม่น่าเป็นปลาสวยงามกระจอกๆได้ และมันก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่เหล่าปลากินเนื้อกลุ่มนี้จะมาฆ่าด้วยเอง พวกเขาจึงกัดฟันและจ้างนักฆ่า.
เย็นนี้ซอดนอนอาบแดดอยู่ข้างนอก ท้ายที่สุดแล้วแสงจันทร์ก็เป็นแสงแดดที่หักเหได้เช่นกันแม้ว่ามันจะจางเล็กน้อยก็ตาม.
ในฟาร์มก็มียุงไม่มาก แต่การป้องกันทางผิวหนังของซอดนั้นไกลเกินกว่าที่มันจะเจาะเข้าได้ ดังนั้นส่วนใหญ่แล้วมันทำได้แค่ส่งเสียง หึ่งๆ ข้างๆไม่มีทางทำอะไรซอดได้.
นักฆ่าทั้งห้าคนเข้ามา แต่พวกเขาไม่รู้อย่างแน่ชัดเมื่ออยู่ต่อหน้าซอดที่มีสุดยอดสัมผัส.
เนื่องจากคนงานชาวเม็กซิกันได้กลับหอพักผ่อนแล้ว.
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาถือปืนและอาวุธหนัก หลังจากมองผ่านสายตาพวกเขาและยืนยันตัวตนของศัตรูแล้ว ซอดก็เคลื่อนที่ผ่านพวกเขาด้วยความเร็วสูงมากและจัดการให้เขาหมดสติ.
นักฆ่าธรรมดาทั้งห้าไม่ทันได้ตอบสนองในระหว่างกระบวนการทั้งหมดและตอนนี้ความเร็วของซอดก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ.
หลังจากจัดการพวกเขาหมดแล้ว ซอดก็พาพวกเขาไปในบ้านและมัดเพื่อทรมานพวกเขา หลังจากลงไม้ลงมือนิดหน่อยแล้วกลุ่มมือสังหารก็ไม่อาจหุบปากได้อีก พวกเขาจึงพูดออกมา
พวกเขาพูดว่าพวกเขารับเงินจากนายจ้างเพื่อมาจัดการกับเขา.
เมื่อพวกเขาพูดอย่างนั้น ซอดก็รู้ได้ทันทีเลยว่านายจ้างของพวกเขาเป็นใคร สิ่งแรกที่แว่บเข้ามาในหัวเลยคือแก๊งสกอเปี้ยน ตอนแรกเขาจะปล่อยไป แต่ตอนนี้เขาอยากฆ่ามันซะแล้ว.
"จะเป็นนักฆ่าได้ยังไง?"
ซอดถามอย่างตื่นเต้น เขาขาดเงินที่จะใช้และเขาก็ไม่รู้ว่าจะหาเงินมาจากที่ไหน.
นักฆ่าก็ผงะเช่นกัน อาจเป็นครั้งแรกที่พวกเขาพบสิ่งแปลกๆที่เป็นปัญหาแบบนี้ในภารกิจ.
แต่ด้วยความสามารถของฝ่ายตรงข้ามมันสามารถแก้ได้ง่าย จึงไม่แปลกใจที่อยากจะเป็นนักฆ่า เพราะยังมีช่องว่ามากมาย.
"ถ้านายต้องการเป็นนักฆ่า นายก็แค่ไปที่ มิดไนท์โฮลเตล(Midnight Hotel)เพื่อลงนามภายใต้ชื่อ เดอะ แบล็กลิส."
นักฆ่าพูดอย่างรวดเร็ว.
"เดอะ แบล็กลิส?"
นี่เป็นครั้งแรกที่ซอดได้รู้เกี่ยวกับวงการนักฆ่า ดังนั้นเขาจึงอยากรู้มาก.
จากคำพูดของนักฆ่าทั้งหมด เขาก็รู้ว่าบัญชีดำหมายถึงอะไร.
องค์กรนักฆ่าที่ใกญ่ที่สุดในโลก เมื่อองค์กรนักฆ่า เดอะ แบล็กลิส ปรากฏขึ้น แต่เดิมมันเป็นแค่องค์กรส่วนตัวหรือกลุ่มเท่านั้น แต่ก็มีคนสงสัยว่า เดอะ แบล็กลิส นั้นเป็นการร่วมมือระหว่าง 5 ประเทศหลัก ซึ่งเดอะ แบล็กลิสไม่เคยปรากฏตัวมาก่อน ผู้นำระดับสูงของทั้ง 5 ประเทศหลักจะสามารถรับรู้ได้และแน่นอนว่าพวกเขาอาจจะกลัวหากเกิดติดต่อกันโดยตรง.
มิดไนท์โฮลเตลเป็นสถานที่ๆ เดอะ แบล็กลิสใช้ในการติดต่อนักฆ่า หากคุณต้องการที่จะเป็นนักฆ่า คุณก็สามารถไปได้ที่มิดไนท์โฮลเตลเท่านั้น เดอะ แบล็กลิสมีมาเกือบ 70 ปีแล้วและไม่มีใครรู้ว่ามันปรากฏขึ้นได้อย่างไร.
มิดไนท์โฮลเตลเป็นสถานที่ที่ใช้ลงนามกับเดอะ แบล็กลิส หากคุณต้องการเป็นนักฆ่า คุณก็ต้องไปที่มิดไนท์โฮลเตลเท่านั้น.
หลังจากที่ซอดฝากข้อความบอกจูดลีย์ว่าเขาจะออกไปทำธุระ เขาก็ขับรถอกไปพร้อมกับนักฆ่าในคืนนั้นเลยเพื่อที่เขาจะไปลงนามเป็นนักฆ่า.
เพราะเขาไม่มีเอกสารใดๆ เขาอาจไม่สามารถเดินทางออกจากเท็กซัสได้ด้วยตัวเอง.
พวกนักฆ่ามีช่องทางของพวกเขา พวกเขาพาซฮดไปเจอกับคนผิวดำและออกจากเท็กซัสก่อนที่จะตรงไปที่ มิดไนท์โฮลเตล ในวอชิงตัน.
มิดไนท์โฮลเตลในวอชิงตันเป็นสถานที่ๆเดอะ แบล็กลิสติดต่อนักฆ่าจำนวนมาก แม้ว่าจะมีมิดไนท์โฮลเตลหลายแห่งในนิวยอร์ก แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นคนใหม่ๆ.
และอย่ามองไปที่นักฆ่าทั้งห้าที่ดูเหมือนจะเข้าใจมากนัก พวกเขาต้องทำการทดสอบจากเดอะ แบล็กลิสก่อนที่พวกเขาจะกลายเป็นนักฆ่า.
อย่างเช่นด้านอาวุธ หนึ่งคนล้มศัตรูห้าคนนี่ถือว่าเป็นพื้นฐาน.
"เรายินดีพานายมาแล้ว อย่างนั้นก็อย่าฆ่าพวกเราเลย ได้ไหม?"
หัวหน้านักฆ่าพูดกับซอด.