มังกร1000ปี : ตอนที่33 ลอบสังหาร
ตอนที่33 ลอบสังหาร
เมื่อมองไปที่ดวงตาที่เย็นชาของจางเผิง เหงื่อก็ไหลออกมาที่หลังของเขา “เสี่ยวเผิง พอแล้วหยุดเถอะ!” ในเวลานี้เสียงลึกลับดังขึ้น ต่อมาความรู้สึกกดดันเมื่อกี้ก็หายไป เจียงซานรู้สึกว่าเขาสามารถเคลื่อนไหวได้อีกครั้งและโจมตีด้วยฝ่ามือไปที่จางเผิงโดยตรง แต่จางเผิงที่อยู่ตรงหน้า เขาไม่ได้ทำอะไรเลย
“ฮึ่ม! แม้ว่าคุณจะแข็งแกร่ง แต่ฝ่ามือนี้ถ้าโดนคุณอย่างรุนแรงคุณไม่สามารถต้านมันได้” แต่ฉากที่เจียงซานไม่เคยคาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อหลิงเว่ยไหลไปถึงมือของเขามันก็หายไปทันทีโดยไม่มีสัญญาณใด ๆ
จากนั้นเสียงลึกลับดังขึ้นอีกครั้ง “เจียงซานคุณก็พอแล้ว” มีร่องรอยของความโกรธในเสียงนี้ เจียงซานที่ได้ยินแบบนั้นก็ตกตะลึง
“นี่คือโรงเรียนไม่ใช่สนามรบและไม่อนุญาตให้มีการต่อสู้”
“รุ่นพี่ แต่ลูกชายของผม... ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนตอนนี้เขาไม่สามารถดูแลตัวเองได้ คุณจะพูดนิ่งนอนใจงั้นหรอ?”
จางเผิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่เห็นว่าเจียงซานยังมีความมั่นใจเช่นนี้หลังจากได้เห็นความน่ากลัวของรุ่นพี่คนนี้
“ผมรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับลูกชายของคุณ แต่นี่คือโรงเรียน อย่าลงมือกับนักเรียนของผม” เสียงลึกลับดังขึ้นอีกครั้ง
“โอเค รุ่นพี่ ผมเข้าใจแล้ว งั้นผมจะขอตัวไปก่อนล้ะกัน” เจียงซานหันหลังและเดินออกจากห้องทำงานพร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปากอย่างโหดร้าย ‘ลงมือในโรงเรียนไม่ได้ แต่ถ้าออกไปข้างนอก ก็คงไม่สนใจแล้วสินะ... ความทุกข์ที่ลูกชายผมได้รับ ผมจะต้องเอาคืนให้เป็นสองเท่า’
เจียงซานเข้าใจถึงความหมายแอบแฝงของเสียงที่ลึกลับนี้ แน่นอนว่าจางเผิงสามารถได้ยินได้เช่นกัน
“อัจฉริยะสามารถเติบโตได้จากอุปสรรคเท่านั้น” หลังจากประโยคนี้ก็ไม่มีเสียงใด ๆ ออกมาอีก จางเผิงทำได้เพียงแค่ยิ้มแห้ง ดูเหมือนว่าเขาจะต้องดูแลหลิงฉวนมากกว่านี้ สำหรับเขาแล้วตระกูลเจียงยังคงใหญ่ไปสำหรับเขาที่จะไปมีเรื่องด้วย
“หลิงฉวน หลิงฉวน เลิกเรียนแล้ว รีบไปกันเถอะ” ท่ามกลางเสียงเรียกของอันหนิง
หลิงฉวนค่อยๆลืมตามองไปรอบ ๆ และพบว่าอันหนิงยืนอยู่ข้างๆเขา “อืม? เลิกเรียนแล้วเหรอ? งั้นเราไปทานอาหารเย็นกันเถอะ?” หลิงฉวนถามอันหนิง
ก่อนหน้านี้ทั้งสองตกลงกันแล้ว และหลิงฉวนก็ตัดสินใจที่จะสารภาพกับอันหนิงในคืนนี้เพื่อให้เธอเป็นแฟนของเขา
“ฉันจะกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน นายเองก็กลับไปก่อน เราค่อยรวมตัวกันในตอนเย็น!” เสียงของอันหนิงดังขึ้นและเธอก็ออกไปทันทีหลังจากพูดจบ
จากท่าทีและการกระทำของอันหนิงสามารถแสดงอารมณ์ที่มีความสุขออกมาได้อย่างชัดเจน หลิงฉวนมองไปที่อันหนิงและรอยยิ้มที่มีความสุขก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหลิงฉวน
‘ก็ดีที่เขาสามารถกลับบ้านและเปลี่ยนเป็นชุดที่หล่อเหลามากขึ้น จะเสียหน้าไม่ได้!’
...
ณ ตระกูลเจียง
“พ่อเป็นยังไงบ้าง? ไปเก็บไอ้เลวหลิงฉวนได้แล้วใช่ไหม?” เมื่อเห็นเจียงซานเดินเข้ามาในบ้าน เจียงเหอก็ถาม
เจียงซานดูครึ้มอกครึ้มใจและพูดว่า "เรื่องนี้ลูกไม่ต้องสนใจแล้ว พ่อจะจัดการเอง ในโรงเรียนไห่เทียน ลูกก็เลิกเป็นศัตรูมัน พ่อยังไม่สามารถแทรกแซงได้ในตอนนี้ ไม่อย่างงั้นคนที่จะเสียเปรียบคือลูก" หลังจากพูดจบ เจียงซานก็เดินเข้าไปในห้องหนังสือด้วยใบหน้าที่เศร้าหมอง
‘ผมคิดว่าวันนี้จะสามารถแก้ไขปัญหาได้ แต่คาดไม่ถึงว่าจางเผิงจะเป็นผู้เชี่ยวชาญ’
และทันใดนั้นยังมีเงาดำก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเจียงซาน และเขาก็แสดงความเคารพต่อเจียงซาน “หัวหน้าจะให้เราจัดการเรื่องนี้ให้ไหม?” เจียงซานมองเงาดำตรงหน้าเขาครุ่นคิดสักพักและส่ายหัว “นี่เป็นเรื่องเล็กน้อย สิ่งที่คุณต้องทำสำคัญกว่านี้ ตระกูลเจียงของเราต้องการเป็นหนึ่งในเก้าตระกูล ต้องพึ่งพาคุณ”
หลังจากได้ยิน เงาดำก็พยักหน้าและร่างนั้นก็หายไปในพริบตา เจียงซานปรบมือของเขา และมีอีกคนหนึ่งเดินเข้ามา...
...
ระหว่างทางที่หลิงฉวนกลับบ้าน ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงคนผมสีแดงและผมสีม่วงที่เขาพบที่นี่ได้ คนผมแดงบอกว่าเขามีบางอย่างจะบอก ราวกับว่าพ่อก็รู้จักคนคนนี้เหมือนกัน ซึ่งหลิงฉวนไม่รู้ว่าสองคนนี้คือใคร? เขาควรกลับไปถามพ่อ
ทันใดนั้นหลิงฉวนก็รู้สึกเย็นที่หลังของเขา หลิงเว่ยส่งไปที่เท้าและกลิ้งไปในพื้นหญ้าด้านข้าง เมื่อเขามองกลับไปที่ที่เขายืนอยู่ก็เหลือเพียงรูเล็ก ๆ อยู่ที่เดิมเท่านั้น หลิงฉวนตกใจมากและอุทานออกมา “ปืน!”
ปืน สิ่งนี้ไม่ได้ใช้มานานแล้วเนื่องจากผู้คนสัมผัสถึงหลิงเว่ยได้ พวกที่สัมผัสหลิงเว่ยได้จะมีความสามารถในการเตือนภัยพิเศษ ทำให้เวลาอาวุธปืนถูกชักออกมาจึงไม่สามารถโจมตีพวกปรมจารย์หลิงเว่ยได้ เพราะเคลื่อนไหวของปรมาจารย์หลิงซือว่องไวยิ่งกว่ามาก
และหลิงฉวนก็เห็นสิ่งนี้ที่เรียกว่า ‘ปืน’ ในชั้นเรียนประวัติศาสตร์เท่านั้น เขาไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นมันในวันนี้และมันยังเล็งเป้ามาที่เขาอีกด้วย