ตอนที่ 420 พึ่งพา Hubby
เฉียวเมียนเมียนรู้สึกว่าเรื่องแค่นี้ไม่จำเป็นต้องสร้างปัญหาให้กับเขา
ทว่าเหมาเยซื่อดูเหมือนจะไม่ค่อยพอใจกับการตัดสินใจที่รอบคอบของเธอ
เขาขมวดคิ้วและหยุดชั่วขณะแล้วพูดว่า
“เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ คุณไม่คิดจะโทรบอกผมเป็นคนแรกและขอความช่วยเหลือจากผมเหรอ แต่คุณกลับไปเล่าให้น้องชายของคุณฟังแทน? แล้วขอให้เขาช่วยเหลือ”
เฉียวเมียนเมียน “เอ่อ..”
ทำไมเหมาเยซื่อถึงดูไม่ค่อยมีความสุขกับมันเลยล่ะ?
“ฉันแค่รู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องสร้างปัญหาให้กับคุณทุกเรื่อง คุณยุ่งกับงานที่บริษัทมากพออยู่แล้ว อีกอย่างนี่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่โตอะไรมากนัก ดังนั้น...”
“เพราะงั้น เลยไม่จำเป็นต้องบอกให้ผมรู้งั้นเหรอ”
“..ค่ะ”
เธอคิดแบบนั้น
เหมาเยซื่อเงียบไปสองสามวินาที
“ทุกอย่างที่เกี่ยวกับคุณ เป็นเรื่องใหญ่สำหรับผม มันสำคัญมากกว่างานของผมอีก”
เฉียวเมียนเมียนมองไปที่เขา หัวใจของเธอเริ่มเต้นเร็วขึ้น
"นอกจากนี้ ผมไม่เคยลำบากเลย”
อัตราการเต้นของหัวใจของเธอเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว...
มันเร็วมาก กระทั่งเฉียวเมียนเมียนต้องวางมือบนหน้าอกของเธอ หัวใจจะระเบิดออกมาจริง ๆ เสียแล้ว
อ่า
ทำไมเหมาเยซื่อถึงทำให้เธอรู้สึกดีได้ขนาดนี้
จริง ๆ เลย หลายครั้งที่เธอไม่สามารถจัดการกับเรื่องนี้ได้
เธอกำลังสูญเสียความเป็นตัวเองไป
หัวใจของเธอเต้นเร็วมาก เธออยากจะดูว่ามันสบายดีอยู่หรือไม่
ใครจะไปเชื่อว่า...
ผู้ชายที่ดูเย็นชาและห่างเหิน อาจเป็นคนดีเมื่อพูดออกไปด้วยความรัก
“คุณเฉียว โปรดให้โอกาสผู้ชายคนนี้ได้รู้เรื่องของคุณด้วยเถอะ ส่งลิงก์มาให้ผมตอนนี้ ผมจะแก้ปัญหานี้ให้คุณเอง”
นี่เป็นเรื่องของภรรยา ทำไมเขาถึงต้องการให้น้องเขยแก้ไขให้นะ
เขากำลังจะพิสูจน์ด้วยการกระทำของเขาว่าสามีของเธอเป็นคนที่น่าเชื่อถือและไว้ใจได้มากที่สุดสำหรับเธอ
เขาต้องการให้เธอคุ้นเคยกับการมองหาสามีทุกครั้งที่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับเธอ
ไม่ใช่คนอื่น.
เหมาเยซื่อรู้สึกว่าพวกเขายังมีเวลาอีกมาก และเธอจะเริ่มชินได้อย่างช้า ๆ ถึงเวลาแล้วที่จะต้องเริ่มปลูกฝังนิสัยนี้ให้กับเธอ ‘คิดถึงฮับบี้ทุกครั้งที่เกิดอะไรขึ้นกับเธอ’
*
ในที่สุดเฉียวเมียนเมียนส่งลิงค์ให้กับเหมาเยซื่อ
เมื่อคิดถึงความชอบของเหมาเยซื่อแล้ว เธอจึงเลือกร้านอาหารฝรั่งเศสที่อยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยนัก ใช้เวลาเดินทางเพียง 10 นาที
พวกเขาลงจากรถ
เหมาเยซื่อนำแล็ปท็อปของเขาติดไปด้วย
เฉียวเมียนเมียนคิดว่าเขายุ่งอยู่กับงานและพูดว่า
“ยุ่งพออยู่แล้ว ยังจะแบ่งเวลาออกมาทานข้าวอีก วันนี้คุณยุ่งมากหรือเปล่าคะ? คุณไม่น่ามาทานข้าวกับฉันเลย”
เธอไม่ใช่ผู้หญิงประเภทที่ต้องการเป็นธุระของผู้ชายอยู่ตลอดเวลา
ถ้าเขามีงานก็อยากให้เขาทำให้เสร็จเสียก่อน เขาแค่บอกให้เธอรู้ เธอเข้าใจดี
ยิ่งไปกว่านั้นเธอไม่ชอบที่จะตัวติดอยู่กับเขาทุกเวลา
อยู่ใกล้ที่สุดเท่าที่จะทำได้ก็พอแล้ว พวกเขาต้องการพื้นที่ส่วนตัวของตัวเอง
เธอรู้สึกว่าการจัดสรรเวลาของเธอค่อนข้างจะดี ใช้เวลาในวันธรรมดาในมหาวิทยาลัย และอยู่กับเหมาเยซื่อในวันหยุดสุดสัปดาห์
หากพวกเขาอาศัยอยู่บ้านเดียวกันก็จะไม่รู้สึกลึกลับอีกต่อไป และมันออกจะน่าเบื่อไปสักหน่อย
เหมาเยซื่อไม่ได้พูดตอบสนองเธอแต่อย่างใด
หลังจากที่พวกเขาเข้ามานั่งในร้านอาหาร เขาพูดว่า “ผมไม่ได้ยุ่งขนาดนั้น ผมยังมีเวลาทานข้าวกับคุณหรอกน่า”