ตอนที่แล้วEp.857 - หลงถิงมาเยือน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.859 - ความโกรธของเหอเทียนสิง

Ep.858 - กลับมาแล้ว


3/5

Ep.858 - กลับมาแล้ว

เวลาคนฉลาดคุยกัน ไม่จำเป็นต้องมีคำอธิบายเพิ่มเติมใดๆ

ฉินเฟิงมองตาหลงถิง เอ่ยปากทันที “ในเมื่อเป็นแบบนั้น งั้นผมจะกลับไปที่นั่นอีกครั้ง!”

หลงถิงกล่าว “และขอให้วางใจ ว่าเหอเทียนสิงจะไม่สามารถแตะต้องคุณได้ ไอซานก็เช่นกัน เจ้าสองตัวนี้ ฉันจะจับพวกมันโยนออกจากมิติธารโลหิตให้เอง!”

วาจาของผู้นำสูงสุดแห่งหัวเซี่ย ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น

หากหลงถิงเอ่ยปากเช่นนั้น ก็หมายความว่าเธอจะใช้พลังที่มี กดดันเหอเทียนสิง ขับไล่อีกฝ่ายออกไปจริงๆ

ในหลายๆครั้ง เลเวล S มักเป็นผู้เข้าถึงทรัพยากรสูงสุด แต่หากเป็นเรื่องการกระจายทรัพยากร พวกเขาจำเป็นต้องมีคนไว้ใช้สอย เมื่อไหร่ที่หลงถิงเอ่ยปาก เธอสามารถระดมพลปิดล้อมกองกำลังของเหอเทียนสิงกับไอซานได้ในพริบตา เว้นแต่ว่าทั้งสองจะลงมือเข่นฆ่าไม่หยุด มิฉะนั้นคงไม่สามารถหยั่งเท้าหยุดยืนอยู่นิ่งๆได้

หากอยากจบปัญหา ก็อาจมีสองทาง หนึ่งคือถอยไปให้ไกลในที่ๆแทบไม่มีทรัพยากร ไม่อย่างนั้นก็ต้องออกจากมิติธารโลหิตไป

คำพูดของหลงถิง เป็นสัญญาแก่ฉินเฟิง

“ผมจะเข้าร่วมทีมเก็บกวาดด้วย เพราะยังไงซะ นี่คือความขัดแย้งที่ผมเป็นคนก่อ!” ฉินเฟิงกล่าว

หลงถิงไม่สนใจว่าฉินเฟิงต้องการทำอะไร เธอมองไปยังฉินเฟิงด้วยความชื่นชม

“มีคุณอยู่ด้วย ฉันเชื่อว่าภารกิจจะสำเร็จในเร็ววัน”

ทั้งสองแลกเปลี่ยนความคิด การสนทนาดำเนินไปอย่างดีในช่วงบ่าย หลงถิงรั้งอยู่เพียงสามชั่วโมง ก่อนกลับไปยังเมืองหลวงมังกร

ทิ้งเรือมังกรไว้เบื้องหลัง ให้กลุ่มเฟิงหลีดัดแปลง อัพเกรดเป็นลำใหม่

เพียงแต่ว่า การปรากฏตัวของหลงถิง ทำให้โลกภายนอกเกิดความปั่นป่วน!

“ข่าวถูกต้องรึเปล่า? หลงถิงเดินทางไปเมืองเฟิงหลีจริงๆหรือ?”

“ว่าไงนะ? เธออยู่ในเมืองเฟิงหลีสามชั่วโมงเลยงั้นหรอ? หลิงถิง ผู้หญิงคนนั้น ได้ยินมาว่าเธอไม่ได้ออกจากเมืองหลวงมังกรมาหลายปีแล้ว แต่ครั้งนี้ถึงขั้นออกมาด้วยตัวเอง”

“ดูเหมือนท่านผู้นำสูงสุดหลง จะคิดให้การสนับสนุนฉินเฟิง”

“แล้วแบบนี้จะเอายังไงกันต่อดี?”

ข่าวลือเริ่มกระจายเป็นวงกว้าง กลายเป็นที่ถกเถียงของผู้คน

ส่วนฉินเฟิง เขาไม่ได้ทำอะไรเลย แค่ปล่อยให้ข่าวลือลุกลามออกไป ทุกคนที่ได้ฟัง ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าตัวตนทรงอำนาจอย่างหลงถิง จะเลือกยืนอยู่ข้างฉินเฟิง

เรื่องนี้ไม่เคยมีใครคาดคิดมาก่อน!

หลายคนจิตใจเหม่อลอย แต่ก็พยายามตั้งสติอย่างรวดเร็ว พวกเขาไม่กล้ามีความคิดที่จะโจมตีกลุ่มเฟิงหลีอีกต่อไป

พายุยังไม่ได้เริ่มต้นด้วยซ้ำ ก็จบลงซะแล้ว

ฉินเฟิงที่ดูเหมือนยากจะฝ่าพายุร้ายในครั้งนี้ไปได้ ทั้งยังได้รับบาดเจ็บและกำลังพักฟื้นตัว ปัจจุบัน สามารถพลิกสถานการณ์จากหน้ามือเป็นหลังมือได้สำเร็จ!

สองวันต่อมา

นอกแม่น้ำสติกซ์ กองกำลังมากมาย ถูกขวางทางเอาไว้ หากไม่ใช่กลุ่มที่มีเลเวล S เป็นผู้นำทีม ล้วนไม่สามารถเข้าสู่มิติธารโลหิตได้ ต่อให้ผู้มาเยือนจะเป็นผู้ใช้พลังเลเวล A ก็ตาม สุดท้ายก็ถูกหยุดไว้โดยคนของสหภาพสาธารณรัฐแอฟริกาเหนือ

คลิฟส์ยึดทางเข้าสู่แม่น้ำสติกซ์เอาไว้ รวมกลุ่มกันกับเลเวล A นับสิบ เบื้องหน้าเขา ปรากฏอีกกลุ่ม เป็นผู้ใช้พลังเลเวล A ประมาณ7 - 8 คน

ทั้งสองกลุ่มตั้งท่าเตรียมโจมตี พร้อมต่อสู้กันตลอดเวลา

“คลิฟส์! อย่าโลภเกินไปนัก ที่นี่ไม่ใช่เขตแดนลับของแก!”

“ทางเข้าแม่น้ำสติกซ์ เป็นของตระกูลฉัน แกไม่พอใจแล้วจะทำอะไรได้? นี่เป็นอาณาเขตของฉัน ถ้าเป็นท่านผู้ใหญ่เลเวล S ต้องการเข้าไป ฉันยังยอมได้ แต่แกนับเป็นตัวอะไร? ทำไมฉันถึงต้องยอมให้เข้าไปด้วย!” คลิฟส์กล่าวน้ำเสียงเย็นชา

เขานำคนจากจากแอฟริกาเหนือ มาช่วยกันปิดทางเข้าสถานที่แห่งนี้

สิ่งต่างๆที่อยู่ในมิติธารโลหิต เป็นสมบัติล่อใจชิ้นใหญ่ แม้การปิดกั้นนี้จะไม่สามารถหยุดทุกคนให้เข้ามาได้ แต่อย่างน้อยมันสามารถป้องกันไม่ให้พวกผู้ใช้พลังระดับต่ำแห่กันมา ต้องรู้นะว่าสมบัติข้างในยิ่งคนเข้าไปมากส่วนแบ่งก็ยิ่งน้อยลง

จริงอยู่ ว่าตอนนี้มีคนที่เข้าไปแล้วเยอะพอสมควร

แต่ยังไงซะคลิฟส์ย่อมเป็นฝ่ายได้ประโยชน์จากจุดนี้ สำหรับสมาชิกของแอฟริกาเหนือที่ส่งคนมาช่วยปิดกั้นที่นี่ กลุ่มของพวกเขาจะไม่มีการถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมใดๆ ในขณะที่หากเป็นคนจากที่อื่น พวกเขาจะไม่ยอมเปิดทาง หรือยินยอมให้เข้าไป

พฤติกรรมผูดขาดเช่นนี้ สร้างความโกรธแค้นแก่ผู้คน

ระหว่างนั้นเอง ท่ามกลางความมืดมิดที่ไม่มีใครสังเกตเห็น ชายคนหนึ่งในชุดคลุมดำ บนคอห้อยจี้รูปเขี้ยว ได้แสยะรอยยิ้มกระหายเลือดออกมา

เป็นหอกเขี้ยวสังหาร! นี่คือหนึ่งในสมาชิกองค์กรมืดอันดับต้นๆแห่งดินแดนสาธารณรัฐแอฟริกาเหนือ แม้แต่เจ้านายก็ยังเป็นผู้ใช้วรยุทธโบราณเลเวล S หรือให้พูดอีกอย่างก็คือ คนๆนี้แข็งแกร่งไปด้อยไปกว่าลูกน้องของไอซาน

“เตรียมตัวให้พร้อม นี่แหละโอกาสดีของพวกเรา!”

ชายคนนั้นแลบลิ้น ลามเลียไปตามซี่ฟันของเขา เผยสีหน้าน่าหวาดกลัว จากนั้น พลังงานในตันเถียนของเขาก็เริ่มอัดฉีดเข้าสู่หอกในมือ ระเบิดการโจมตีในฉับพลัน

ระหว่างการโจมตี ชายคนนี้ร้องคำรามในเวลาเดียวกัน กำลังภายในสั่นสะเทือนเป็นคลื่น เสียงก้องกังวาลไปทุกทิศทาง ทำให้ผู้คนไม่ทราบว่าเป็นเสียงจากฝ่ายใด

“ไม่ต้องเสียเวลาพูดไร้สาระแล้ว ฆ่าพวกมัน!”

หวือออ!

หอกบินออกจากความมืดมิด พุ่งแหวกอากาศ ตกลงไปในรอยแยกมิติ พุ่งเข้าใส่คลิฟส์และคนอื่นๆ

การโจมตีนี้ ไม่ต่างจากการแหย่รังแตน คลิฟส์ร้องคำราม “ไอ้ลูกสำส่อน! กล้าดียังไงถึงโจมตีพวกเรา!”

ผู้ใช้พลังที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับพวกเขา จับต้นชนปลายไม่ถูกกับเหตุการณ์พลิกผันอย่างกะทันหันนี้ แต่เมื่อคลิฟส์โจมตีมา พวกเขาก็ต้องโจมตีสวนเป็นธรรมดา

ทันใดนั้นเอง ฉากตะลุมบอลบังเกิด ต่างฝ่ายต่างสู้กัน ความโกลาหลลุกลามหยุดไม่อยู่

หอกที่ซ่อนอยู่ในเงามืด ค่อยๆหาจังหวะขว้างออกไปทีละเล่ม เพียงครู่ หน้าทางเข้าแม่น้ำสติกซ์เต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย

แต่ในเวลานั้นเอง บนท้องฟ้า ช่องว่างมิติสีดำปรากฏขึ้น

ช่องว่างนี้ขยายออกไปในพริบตา ดูยิ่งใหญ่อย่างไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อน

อย่างไรก็ตาม ช่องว่างมิติเช่นนี้ อันที่จริง หลายคนในที่นี้เคยเห็นมันมาก่อนแล้ว

เพราะว่ามีหลายคนจากประเทศหัวเซี่ยที่เป็นเจ้าของเรือเหาะ และฟังก์ชั่นดังกล่าว เขาเคยเห็นคนพวกนั้นใช้มาแล้ว คลิฟส์เริ่มรู้สึกปวดหัว

แต่ตอนนี้ คลิฟส์ไม่มีเวลาใส่ใจมัน!

กระนั้น หลังจากช่องว่างมิติปรากฏขึ้น ลำแรกที่ออกมากลับไม่ใช่ทรงวงรีของหัวเรือเหาะเหมือนทุกครั้ง แต่เป็นเรือมังกรสีทองสดใส

เรือมังกร สำหรับผู้ใช้พลังระดับต่ำ พวกเขาย่อมไม่ทราบว่ามันหมายถึงอะไร แต่สำหรับผู้ใช้พลังเลเวล A หรือสูงกว่า ทุกคนต่างรู้ดี

เพียงพริบตา สีหน้าของพวกเขาก็แปรเปลี่ยนไป

เรือมังกร!

นั่นคือเรือมังกรที่แสดงถึงความแข็งแกร่งที่สุดในหัวเซี่ย

อย่างไรก็ตาม ที่ออกมายังไม่ใช่ทั้งหมด!

หลังจากเรือมังกรแล่นออกมา ช่องว่างมิติยังไม่ปิดในทันที เรือเหาะอีกลำหนึ่งบินตามช่องว่างมิติ

ลำแรกผ่านไป ลำที่สอง ที่สามค่อยๆผ่านไป .. มีทั้งสิ้นเจ็ดลำ!

แต่ประเด็นก็คือ เรือเหาะพวกนั้น ทั้งหมดล้วนติดตราสัญลักษณ์ว่าเป็นกลุ่มเดียวกัน

และทุกคนจดจำมันได้ดี เนื่องจากในช่วงวันแรกๆ นี่คือเรือเหาะที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามในมิติธารโลหิต--

“--กลุ่มเฟิงหลี!”

คลิฟส์แหงนหน้ามองเรือเหาะ ดวงตาของเขาเบิกกว้าง

‘นี่มันเรื่องอะไรกัน? ฉินเฟิงกลับมา? เขากล้าถึงขนาดนี้ได้ยังไง’

อย่างไรก็ตาม ในเวลานั้นเอง ปรากฏมนุษย์ผู้หนึ่งกระโจนลงมา

“ทักษะหมื่นภูติ!”

เงาร่างนับไม่ถ้วนร่อนลงบนพื้นดิน วิ่งแยกกระจัดกระจายออกไปอย่างรวดเร็ว

“อ๊ากกก!!!”

“นี่มันอะไรกัน!!”

“แกเป็นใคร??”

ฝูงชนตื่นตระหนก แต่พริบตาเดียว คมมีดอันแหลมคมอย่างหาที่ใดเปรียบ แทงทะลุโล่ปราณกำลังภายในของพวกเขา

จากนั้น กลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัว ระเบิดท่วมท้นร่างของผู้คน

“ทักษะลับกลืนดารา!”

ในบรรดาเจ็ดคน มีสี่คนเป็นผู้ใช้วรยุทธโบราณ ตันเถียนของพวกเขาราวกับมีรูรั่ว ถูกดูดซับกำลังภายในออกไปอย่างบ้าคลั่ง

ในชั่วพริบตา ทั้งสี่คนกลายเป็นอ่อนปวกเปียก สิ้นเรี่ยวแรงล้มลงกับพื้น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด