Ep.856 - เลอะเลือน
1/5
Ep.856 - เลอะเลือน
ในสุสานเทพสงคราม ฉินเฟิงยังคงกังวลเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บของไป๋หลี เขาถึงขั้นนำสมุนไพรล้ำค่านับไม่ถ้วนออกมา บดมันจนละเอียด แล้วนำไปป้ายบาดแผลของไป๋หลีโดยไม่เสียดาย
ผ่านการชุลมุน ต่างฝ่ายต่างถกเถียงว่าไม่เป็นไร อาการบาดเจ็บของไป๋หลีค่อยทุเลาลง คาดว่าพักฟื้นสักหนึ่งสัปดาห์ ก็น่าจะหายดี
“ฉินเฟิง คุณมีแผนอะไรรึยัง? เราจะปล่อยเหอเทียนสิงไปแบบนี้ไม่ได้!” ตอนนี้ไป๋หลีไม่พอใจเช่นกัน ในฐานะสัตว์เทวะ ศักดิ์ศรีที่มีทำให้เธอไม่ยอมรับความพ่ายแพ้
“ไม่ปล่อยไปแน่นอน พวกเราจะฆ่าเขา!” ฉินเฟิงกล่าวเฉียบขาด
เจ้าตัวนั่งขัดสมาธิ ภายในสมอง ผุดความคิดบ้าๆวาบผ่านเข้ามา
เรื่องสังหารเหอเทียนสิง ไม่อาจล่าช้าได้
ในทางทฤษฎี ถ้าฉินเฟิงสามารถไปถึงเลเวล A และใช้วิธีการลอบสังหารที่เรียนมาจากกวนจินฮ่าว เขาย่อมสามารถสังหารเลเวล S ได้ เพราะท้ายที่สุดแล้ว กวนจินฮ่าวยังประสบความสำเร็จ แบบนี้ฉินเฟิงจะไม่สำเร็จได้อย่างไร?
แน่นอน กวนจินฮ่าวเชี่ยวชาญในเรื่องนี้พิเศษ ในขณะที่ฉินเฟิงมีวิธีซ่อนเร้นตัวตนมากกว่าอีกฝ่าย แข็งแกร่งก็มากกว่า ขาดเพียงประสบการณ์ลอบสังหารที่น้อยกว่าเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ประสบการณ์ที่ว่า สามารถทดแทนกันได้ด้วยความแข็งแกร่ง
ตอนนี้ หากให้เขาขึ้นเป็นเลเวล S ในเร็ววัน มันคงเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าให้ยกระดับเป็นเลเวล A ใช่ว่าจะทำไม่ได้ซะทีเดียว
ฉินเฟิงมองเข้าไปในตันเถียนเขา เนื่องจากการต่อสู้ ทำให้กำลังภายในตันเถียนเหือดแห้ง แต่สำหรับด้านความจุกำลังภายใน ยังคงมีอยู่ถึง 500 ทะเลสาบ
เงื่อนไขในการตัดผ่าน ยังเหลืออีกครึ่ง การจะสะสมส่วนต่างที่เหลือ ไม่ใช่เรื่องง่าย
วิธีที่เร็วที่สุด คือการฆ่าคน
ว่าแต่ก็แล้วต้องฆ่าเท่าไหร่เล่าถึงจะพอ?
คำนวณคร่าวๆ ถ้าเป็นผู้ใช้วรยุทธโบราณที่เลเวลสูงกว่า B5 ก็น่าจะซักต้องฆ่าซัก 300 คน
ยังไงก็ตาม หากสังหารผู้ใช้วรยุทธโบราณที่เลเวลสูงกว่า A5 ขึ้นไป ฉินเฟิงสังหารแค่ 30 คนก็พอแล้ว!
และสถานการณ์ในปัจจุบัน ไม่ถือเป็นโอกาสทองหรอกหรอ?
มิติธารโลหิตปรากฏขึ้น ตัวตนทรงอำนาจเลเวล S คนแล้วคนเล่าปรากฏกาย และเลเวล S คนหนึ่ง บางคนมีผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นเลเวล A ถึง 10 คน
ในมิติธารโลหิต หากคิดหาเหยื่อเหล่านั้น ไม่ต้องกล่าวถึง 30 กระทั่ง 300 หรือ 3,000 ก็ยังเป็นไปได้!
แน่นอน ฉินเฟิงจะไม่ฆ่าผู้บริสุทธิ์ตามอำเภอใจ แต่เพ่งเล็งพวกคนขององค์กรมืด โดยเฉพาะลูกน้องของไอซานกับเหอเทียนสิง อย่าได้ฝันเลยว่าจากนี้จะได้มีช่วงเวลาดีๆ!
ตราบใดที่ฉินเฟิงไปถึงเลเวล A กำลังภายในจะเปลี่ยนรูปเป็นมหาสมุทร ถึงเวลานั้นเขาจะไม่ลังเลเลเลยที่จะบุกเข้าสังหารเหอเทียนสิง
ฉินเฟิงบอกแผนการของเขา ไป๋หลีเตรียมพร้อมลงมือทันที
“ไม่ต้องรีบร้อน พวกเรารออีกสักวันสองวันเถอะ เอาไว้อาการบาดเจ็บของเธอดีขึ้น ค่อยว่ากันอีกที” ฉินเฟิงกล่าว
“ฉันสามารถเข้าไปพักฟื้นในมิติเร่งเวลาได้” ไป๋หลีขัดทันที
“กล่าวกันว่าสุภาพบุรุษแก้แค้นสิบปีก็ยังไม่สาย แต่สำหรับสาวน้อย เมื่อโกรธแล้วก็ต้องล้างแค้นทันทีในวันถัดมา!”
ฉินเฟิงรู้สึกขบขันกับคำพูดของไป๋หลี
“ฟังดูไม่ค่อยมีเหตุผลเท่าไหร่นะ ไปฟังคำเล่นลิ้นพวกนี้มาจากที่ไหนกัน?”
“ฉันแค่กำลังโกรธแบบสุดๆ!”
“เอาล่ะๆ อย่าเพิ่งรีบร้อนไป” สีหน้าของฉินเฟิงเปลี่ยนเป็นเย็นชาและฟุ้งไปด้วยเจตนาฆ่า
“ต่อให้เธอคิดฆ่าเหอเทียนสิงตอนนี้ แต่ก็ต้องปัดกวาดหินที่คอยขวางตามรายทางอยู่ดี”
ขณะกล่าว ฉินเฟิงเปิดเครือข่ายนักล่าเงินรางวัล
แต่ครั้งนี้ ฉินเฟิงเข้าไปในดูส่วนเครือข่ายระหว่างประเทศ
เครือข่ายนักล่าเงินรางวัล เลเวล S เป็นคนก่อตั้งขึ้น ประกาศจับจะอ้างอิงจากความแข็งแกร่งของพื้นที่ อย่างเช่นในเมืองนุ่ยเหมิง จะไม่มีประกาศจับในส่วนของเลเวล C ขึ้นไป แต่หากเป็นในระหว่างประเทศ ต่อให้เป็นเลเวล S ก็สามารถถูกออกหมายจับ ปรากฏชื่อในรายการล่าหัวได้เช่นกัน
ไม่อย่างนั้นทำไมกวนจินฮ่าวถึงลอบสังหารเลเวล S เล่า? แค่เพราะชื่อเสียงงั้นหรอ? ไม่ใช่! ยังเพราะเรื่องรางวัลหลังจากสังหารด้วย มันมหาศาลล่อลวงใจ
ดังนั้นตอนนี้ ฉินเฟิงเลยคิดทำแบบเดียวกับกวนจินฮ่าว
ฉินเฟิงเริ่มค้นหาตามความทรงจำของเขา เข้าถึงข้อมูลส่วนลึกของประกาศจับในเครือข่าวนักล่าเงินรางวัล ไม่นานก็ระบุเป้าหมายทั้ง 30 คนได้อย่างรวดเร็ว
เลเวล A ทั้ง 30 คนยังไม่ทราบว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นกับตน แต่ที่แน่ๆปัจจุบันพวกเขามีความสุขมาก การได้ติดตามตัวตนทรงอำนาจเลเวล S เข้าสำรวจมิติธารโลหิต และได้สมบัติมาครอง เป็นอะไรที่คุ้มค่าสุดๆ
แน่นอน มีบางคนสังเกตเห็นแล้วเช่นกัน ว่ากลุ่มเฟิงหลีกำลังระส่ำอย่างหนัก
ข้อมูลเรื่องนี้ ได้ถูกส่งออกไปอย่างลับๆ กระจายเป็นวงกว้าง
“นายได้ยินเรื่องกลุ่มเฟิงหลีถอนตัวจากมิติธารโลหิตไหม?”
“ได้ยิน ดูเหมือนพวกเขาจะไปสร้างความไม่พอใจให้กับเลเวล S”
“อะไรนะ!? ทำแบบนั้นมันเหมือนคว้าโทษประหารให้ตัวเองชัดๆ”
“ฉินเฟิงคนนี้ เส้นทางที่ผ่านมาของเขาเป็นไปอย่างราบรื่น แต่ตอนนี้ถึงเวลาที่เขาจะสะดุดล้มบ้างแล้ว”
“ถูกต้อง มาดูกันดีกว่าว่าเขาจะเอาตัวรอดไปได้ไหม ถ้าไม่ พวกเราก็แค่ …”
มีคนมากมาย เริ่มจับจ้องไปยังเนื้อฉ่ำมันอย่างกลุ่มเฟิงหลีที่ฉินเฟิงเป็นคนสร้างขึ้น
ราวกับว่า ฉินเฟิงกำลังจะตายในไม่ช้า
….
ขณะเดียวกัน บนชั้นสูงสุดของเมืองหลวงมังกร เสียงของผู้หญิงที่ฟังดูสง่าผ่าเผย แต่แฝงไปด้วยความไม่พอใจอย่างไม่น่าเชื่อดังขึ้น
“สำหรับเรื่องนี้ พวกคุณจัดการได้แย่มาก!”
ผู้หญิงคนนี้ ด้านหลังเธอเป็นภาพสามมิติของภูเขาและลำธาร เธอแต่งกายด้วยเครื่องแบบทางทหาร ตราบนหน้าหน้าอก สลักเป็นรูปมังกรทองกำลังร่ายรำ
แต่สิ่งที่ดึงดูดผู้คนมากที่สุดก็คือ ตัวอักษรและตัวเลขบนตราของเธอ!
เลเวล S8!
ในปัจจุบัน นี่ถือเป็นความแข็งแกร่งที่สุดในหัวเซี่ย
ผู้ใช้วรยุทธโบราณเลเวล S8 เจ้าเมืองของเมืองหลวงมังกร อันดับหนึ่งแห่งหัวเซี่ย หลงถิง!
รูปลักษณ์ของหลงถิงเปี่ยมไปด้วยศักดิ์ศรี ใบหน้าของเธอยังดูเหมือนผู้หญิงในวัย 30 ปี ไม่ปรากฏซักริ้วรอยบนจุดใด งดงามมาก แต่ก็ไม่ดูเด็กจนเกินไป
ดวงตาของเธอเฉียบคม กวาดอ่านข้อมูลคร่าวๆอย่างรวดเร็ว ขณะที่ผู้ส่งข้อมูลแสดงสีหน้าเหมือนกับยอมแพ้
เสียงของหลงถิงดังขึ้นอีกครั้ง
“สิ่งที่ฉินเฟิงทำในครั้งนี้ สามารถช่วยชีวิตหูซานเอาไว้ได้ แต่พวกคุณไม่เพียงไม่สนับสนุนเขา แต่ยังบอกให้กลุ่มของเขาละทิ้งโอกาสอันยิ่งใหญ่ในมิติธารโลหิตไป แล้วแบบนี้พวกเราจะสู้หน้าคนอื่นได้ยังไง? พวกเขาจะไม่บอกว่าพวกเราปอดแหกหรอ? กับอีแค่ผู้นำองค์กรมืดคนหนึ่ง พวกคุณไม่ใช่ขุมพลังที่แข็งแกร่งที่สุดในพันธมิตรมนุษย์รึไง ทำไมปล่อยให้เหอเทียนสิงทำแบบนี้ได้ อย่างน้อยพวกคุณควรขัดขวางเขา!”
“ไม่อยากจะเชื่อเลย ว่าจะบอกให้ฉินเฟิงจากไป ให้เขามุดหัวอย่าเปล่งประกายเนี่ยนะ?”
“ไม่คิดเลยหรือว่า ทำแบบนั้นฉินเฟิงจะเสียใจ!”
“พวกคุณกำลังคิดบ้าอะไรอยู่? เขาเป็นสมาชิกพันธมิตรหัวเซี่ย แต่พอเขาถูกรังแก ได้รับบาดเจ็บสาหัส กลับไม่มีใครสนับสนุน แค่มอบของปลอบใจเล็กๆน้อยๆ แล้วปล่อยไป แบบนี้ได้หรอ?”
หลงถิงยิ่งพูดก็ยิ่งโกรธ
ฉินเฟิงเป็นแชมป์ลูกรักของพระเจ้าเมื่อปีที่แล้ว ดังนั้นเป็นธรรมดาที่การดำรงอยู่ของเขาจะได้รับความสนใจจากทุกคน เจ้าหนูนี่ผิดแผกจากคนอื่นๆจริงๆ เพราะท้ายที่สุดแล้ว ไม่เคยมีใครที่อายุต่ำกว่า 20 ปี แต่สามารถไปถึงเลเวล C ได้มาก่อนเลย
อย่างไรก็ตาม ฉินเฟิงประสบความสำเร็จ สามารถทำได้จริงๆ
ต่อมา พันธมิตรหัวเซี่ยเริ่มเริ่มจับตาดูฉินเฟิง บางครั้งหลงถิงก็ได้ข่าวของฉินเฟิง แต่ไม่ใส่ใจมากนัก
ทว่าครั้งนี้ เธอตกใจจริงๆ!
ภายใต้เงาดาบของเหอเทียนสิง แต่ฉินเฟิงกลับรอดชีวิตมาได้ การดำรงอยู่เช่นนี้ ถ้ายังไม่คุ้มค่าให้สนใจ เช่นนั้นอนาคตของพันธมิตรหัวเซี่ยจะฝากไว้กับใคร?
“หูซานแก่จนเลอะเลือน แต่พวกคุณจะเลอะเลือนเหมือนเขาไม่ได้!” หลงถิงตำหนิด้วยความโกรธอีกครั้ง
แน่นอน ปกติหลงถิงเคารพผู้อาวุโส อย่างไรก็ตามประเด็นนี้สำคัญมาก ฉะนั้นไม่จริงจังคงไม่ได้
ปลายสายอุปกรณ์สื่อสาร หลงเยว่กับหลงหยุนอี้อับจนหนทางกับคำพูดของหลงถิง
ในความเป็นจริงแล้วหลงถิงอายุน้อยกว่าพวกเขามาก แต่เธอแกร่งกว่าพวกเขา ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ว่าตระกูลๆหนึ่ง จำเป็นต้องมีผู้นำ
บางคนเกิดความพร้อมพรสวรรค์ในการตัดสินใจ พรสวรรค์ที่ว่าไม่ใช่ของหลงหยุนอี้ที่รักสบาย มิใช่คนที่ทำตัวเหมือนคนทั่วไปอย่างหลงเยว่
แต่เป็นหลงถิง การตัดสินใจทุกครั้งของเธอ ถูกต้องอย่างไม่น่าเชื่อ เป็นเพราะการดำรงอยู่ของเธอ ทำให้ตระกูลหลงสามารถอยู่ยงมาได้ถึงทุกวันนี้
“ก็แล้วตอนนี้จะให้ทำยังไง?” หลงหยุนอี้กล่าวอึกอัก
หลานสาวของเขา จะดุร้ายเกินไปแล้ว
“เวลานี้เหมาะพอดี ฉันกับกลุ่มเฟิงหลีจะร่วมมือกัน และในครั้งนี้ ฉันจะเดินทางด้วยตัวเอง … จะเป็นคนส่งกลุ่มเฟิงหลีกลับไปยังมิติธารโลหิต!”
หลงถิงตัดสินใจแล้ว และนี่ยังแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจของเธอด้วย
เธอต้องการเดินทางด้วยตัวเอง!
ประโยคนี้ สร้างความประหลาดใจให้ทั้งสองที่อยู่ปลายสาย อึ้งทึ่งไปอย่างสมบูณณ์
ต้องรู้นะว่า เป็นเวลากว่า 8 ปีแล้ว ที่หลงถิงไม่ได้ออกจากเมืองหลวงมังกร!