Chapter 41: เมอรี่คริสต์มาสต์! -5 (ส่วนที่หนึ่ง)
**
อาการบาดเจ็บที่แวมไพร์รู้สึกมันรุนแรงจนมันรู้สึกเหมือนกับวิญญาณของมันกำลังลุกไหม้ไป พลังศักดิ์สิทธิ์ได้ไหลเข้าไปทุกมุมของร่างกายอันใหญ่โตของมัน มันรู้สึกทรมานอย่างเจ็บปวดจนไม่สามารถจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดใดๆได้
-เจ้านักบวชตัวเหม็นเน่า!
ยังไงก็ตาม แต่มันก็ยังทนไหว อาการบาดเจ็บระดับนี้ยังทนได้อยู่
ระเบิดนั่นน่าจะทำให้เจ้านักบวชนั่นตกอยู่ในสภาพสะบักสะบอมด้วยเหมือนกัน แม้ว่ามันจะรอดชีวิตจากแรงระเบิดนั่นได้ มันคงจะไม่มีพลังเหลือพอที่จะรวบรวมพลังศักดิ์สิทธิ์อีกต่อไปแล้วละ
นี่คือสิ่งที่เคานต์แวมไพร์คิดตอนที่มันกำลังลุกขึ้น
“ข้าคือกองทัพ”
แต่ทันใดนั้นมันได้ยินเสียงคนพึมพำ ซึ่งสิ่งที่มันได้ยินเป็นคำที่น่าหวาดกลัวอย่างมาก สิ่งที่มันได้ยินทำให้ร่างกายของเจ้าแวมไพร์สะดุ้ง หลังจากนั้นร่างกายของมันตัวแข็งทื่อ
“และข้าคือผู้สืบทอดไกอา”
ทันใดนั้นเอง แรงกดดันมหาศาลก็ปรากฏขึ้น มันหนักมากพอที่จะบดขยี้ร่างกายทั้งร่างของแวมไพร์ไปได้เลย บรรยากาศรอบข้างยังคงหนักขึ้นและหนักขึ้นเรื่อยๆในทุกวินาทีที่ผ่านไป
ความเย็นยะเยือกไหลผ่านไปทั่วไขสันหลังของเจ้าสัตว์ประหลาด ร่างกายของมันนั้นต่างขนลุกไปทั่วตั้งแต่หัวจรดตีน สัญชาตญาณของร่างกายมันปฏิเสธที่จะเคลื่อนไหว
“นี่มันความรู้สึกอะไรกันเนี่ย?”
เคานต์แวมไพร์กลืนน้ำลายลงและหันกลับไปมองด้านหลังมัน
สัตว์ประหลาดลุกขึ้นยืนมาได้ ในขณะที่มันยืนจับดาบใหญ่ที่ปักลงอยู่บนพื้น
ร่างอีกร่างหนึ่งก็ยืนอยู่เช่นเดียวกัน แต่มันกลับมีดาบยาวพาดไว้บนสะโพกของมัน
ยิ่งไปกว่านั้น พวกมันยังมีตัวที่ถือธนูและหน้าไม้ รวมทั้งสะพายหอกไว้บนด้านหลังไหล่ของมันอีกด้วย
มันยังมีแม้แต่คทาและโล่ด้วยซ้ำไป...
มันมี ‘อันเดท’ กว่าสามสิบตัวที่มีอาวุธมากมายหลากหลายประเภท ยังไงก็ตาม แม้จะมองเพียงครั้งเดียวก็สามารถที่จะบอกได้เลยว่ามันไม่ใช่อันเดทธรรมดาทั่วไป
พวกมันทุกตัวต่างสวมชุดเกราะสีขาว พวกมันบางตัวได้ใช้เศษซากปรักหักพังจากการทำลายก่อนหน้านี้ไว้เป็นเก้าอี้ของพวกมัน ในขณะที่บางตัวยังคงยืนนิ่งอยู่
ลมหายใจที่พวกมันพ่นออกมานั้นเป็นควัน ดวงตาของพวกมันดูดุร้ายมากจนเหมือนยังมีชีวิตอยู่
พวกมันเปิดปากของพวกมันออก พูดให้ถูกแล้ว กระดูกตรงคางของมันขยับขึ้นขยับลง ฟันของมันกระทบเข้าใส่กันและกัน
-ฉันได้กลิ่นแห่งความตาย
เสียงพึมพำที่บรรจุไปด้วย ‘พลังศักดิ์สิทธิ์’ มันคือวาจาจิตวิญญาณซึ่งเป็นบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ใช่อันเดททั่วไปจะใช้มันได้
เจ้าพวกนี้ มันคือ ‘อัศวินศักดิ์สิทธิ์’ พวกมันต่างเหลือบตาไปมองเจ้าชาย
-เขาเป็นเจ้านายที่เป็นผู้สร้างของพวกเราใช่ไหม?
-ถ้าเป็นแบบนั้นแล้ว เป้าหมายของพวกเราคืออะไร?
-พวกเรามีเหตุผลอะไรที่ถูกสร้างขึ้นมากัน?
พวกมันต่างมี ‘สติ’ กันทั้งหมดและมีความสามารถในการ ‘คิด’
พวกมันหันกลับไป สายตาของมันจดจ้องไปยังแวมไพร์ แสงประกายในดวงตาของมันจดจ้องลงไปยังเจ้ายักษ์ที่ขยับตัวไม่ได้นั่น
-มันเป็นพวกนอกรีตที่ต่อต้านกฎของโลกใบนี้
-มันเป็นเหตุผลที่พวกเราถูกสร้างขึ้นงั้นเหรอ?
-สิ่งมีชีวิตที่ไม่ได้มากไปกว่าเชื้อโรคที่คอยดูแลสมดุลของโลกใบนี้ มันปรารถนาที่จะเลียนแบบสิ่งมีชีวิตงั้นเหรอ?
แวมไพร์ตัวแข็งทื่อทันทีที่ถูกพวกมันจ้องมอง
‘พวกมันคืออะไรกัน..?’
ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงเสียงกระซิบ แวมไพร์ก็ได้ยินคำพูดที่นักบวช ‘ประโยคใช้งาน’ ซึ่งสิ่งที่เขาเรียกนั้นไม่ได้เรียกเทพแห่งความตาย ยูได แต่มันกลับกลายเป็นเทพแห่งชีวิตไกอาแทน
ราชาเนโครแมนเซอร์เอม่อนนับถือเทพแห่งความตาย แต่การเรียกหาไกอา ในยามที่เรียกอันเดทผ่านหัวกะโหลกของราชาเอม่อนแบบนี้มัน?
-มัน...ไม่สมเหตุ...สมผลเลยสักนิด
แวมไพร์ก้าวถอยหลังไปก่อนที่จะปฏิเสธความจริงที่เกิดขึ้นตรงหน้าของมัน เรื่องนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ มันยอมไม่ให้เกิดขึ้นได้เช่นกัน
นักบวชมนุษย์อาจจะเรียก ‘ไกอา’ ออกมา แต่ว่าเธอเป็นเทพีแห่งชีวิต ซึ่งเธอไม่น่าจะมีความสามารถในการควบคุมเหล่าอันเดทได้
พวกมันต่างมีความพิลึกและไม่มีความเหมาะสมกัน แม้แต่เทพียังรู้สึกขยะแขยงกับตัวตนของพวกมันเลย
-มันเห็นได้เด่นชัดเลยว่าพวกเราถูกสร้างขึ้นมาเพราะเหตุอันใด
-เป็นไปตามที่ข้าคิดไว้ พวกเราจะต้องทำตามคำสั่งที่ได้รับมา
อัศวินอันเดทศักดิ์สิทธิ์ต่างรวมตัวกันและตั้งรูปแบบกันอย่างเป็นระเบียบ หลังจากนั้นพวกมันก็ยืนอยู่ด้านหน้าของเด็กหนุ่มที่สวมหัวกะโหลกแพะภูเขา พวกมันต่างคุกเข่าและก้มหัวลง
มันแตกต่างไปจากการคำนับต่อหน้าราชาของพวกเขา ไม่สิ มันเหมือนกับการเป็นผู้ศรัทธาที่มีความศรัทธาที่ไม่มีวันแตกสลาย กำลังรอคอยคำสั่งจากพระเจ้าของพวกมัน
-คำสั่ง....
เจ้านายของพวกมันไม่ได้พูดอะไรออกมา เมื่อพวกอันเดทศักดิ์สิทธิ์ถามขึ้น เขาแสดงมันด้วยการกระทำของตัวเองแทน
นักบวชที่สวมหัวแพะยกมือขึ้นและชี้ไปที่แวมไพร์ หลังจากนั้นเขาก็ชี้นิ้วลงกับพื้น
มันเป็นสัญญาณธรรมดาทั่วไป ซึ่งเป็นสัญญาณที่ไม่มีใครบนโลกนี้เข้าใจ แต่ว่าเจ้าอัศวินอันเดทศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ต่างเชื่อมต่อกับเจ้านายของพวกมัน พวกมันต่างเข้าใจเกี่ยวกับคำสั่งของพวกมันอย่างชัดเจน
พวกมันลุกขึ้นยืน
พวกมันสะบัดหัวไปอีกด้านหนึ่ง
และหลังจากนั้นพวกมันต่างจดจ้องไปที่แวมไพร์
-พวกเรา...
ดวงตาสีน้ำเงินของมันส่องประกายออกมา
-....รังเกียจพวกคนตาย
ใบหน้าของแวมไพร์นั้นย้อมไปด้วยความหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด
-คุ โอววว!
ทันทีที่อัศวินอันเดทศักดิ์สิทธิ์คำรามออกมา ออร่าศักดิ์สิทธิ์ได้พวยพุ่งออกมาจากช่องว่างของเกราะสีขาวของพวกมัน
เคานต์แวมไพร์รีบปิดหูอย่างเร่งรีบ มันถูกโจมตีโดยวาจาจิตวิญญาณที่แฝงไปด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ เสียงคำรามของพวกมันทรงพลังมากจนหูของอันเดทระเบิดออกและแม้แต่วิญญาณของมันยังสั่นสะท้านไปจนถึงแก่น
อัศวินอันเดทศักดิ์สิทธิ์ก้มตัวลงพร้อมกับยกอาวุธของพวกเขาขึ้น พวกมันต่างกระทืบลงไปบนพื้นและพุ่งเข้าใส่แวมไพร์
-เจ้า เจ้าสัตว์ประหลาด…!
สีหน้าของแวมไพร์ซีดลงทันที
อันเดทที่มีพลังศักดิ์สิทธิ์...?!
ไอ้พวกลูกผสมนี่มันมาจากไหนกัน?
มันเป็นสภาพที่พิเศษอย่างแน่นอน
อัศวินเหล่านี้เรียกแวมไพร์ว่า ‘นอกรีต’ ซึ่งเป็นพวกที่ต่อต้านกฎของโลกใบนี้ แต่ตัวตนของพวกมันต่างหากที่แตกต่างไปอย่างแท้จริง! เนื่องจากว่าพวกมันเป็นตัวตนที่ไม่เป็นไปตามกฎของโลกใบนี้
เจ้าพวกนี้มันทำลายสามัญสำนึกธรรมดาทั่วไปของโลกใบนี้ลง
-ไอ้พวกอัศวินอันเดทต้องคำสาป...! พวกแกต่างหากที่เป็นพวกนอกรีตที่ดูถูกความปรารถนาของเทพแห่งความตาย ยูได!
เจ้าแวมไพร์ได้ใช้ความแข็งแกร่งและพลังมารทั้งหมดที่มันรวบรวมได้ มันทุบลงไปกับพื้นพร้อมกับพลังสีแดง พื้นเบื้องล่างของมันพังทลายลงและตัวอักขระรูนขนาดใหญ่ก็ถูกสร้างขึ้น ฝูงอันเดทก็เคลือบคลานขึ้นมาจากก้นบึ้งของนรก
ซอมบี้ โครงกระดูก กูลและแม้แต่ดูลลาฮาน – พวกมันนับสองร้อยตัวต่างคลืบคลานออกมา พวกมันกรีดร้องต่อสวรรค์เบื้องบน
-ไปกำจัดเจ้าพวกนอกรีตที่ทรยศต่อความปรารถนาของยูไดซะ!
แวมไพร์โบกมือของมัน
กลุ่มของพวกอันเดทขู่ออกมาและพุ่งเข้าใส่อัศวินศักดิ์สิทธิ์
อัศวินที่ถือดาบใหญ่กระทืบเท้าลงบนพื้น พื้นด้านล่างของมันแตกหักและมันเหวี่ยงดาบใหญ่ด้วยมือทั้งสองด้านของมัน
-หลับไปตลอดกาลซะ เจ้าอันเดท....
ด้วยการเหวี่ยงดาบเพียงครั้งเดียว อันเดทหลายต่อหลายตัวกระเด็นขึ้นกลางอากาศจนเปลี่ยนกลายเป็นเถ้าฝุ่นและพัดกระจายออกไป
-คำอวยพรของไกอา ผู้ที่มอบชีวิตให้กับทุกสรรพสิ่ง...
อัศวินศักดิ์สิทธิ์ถือหน้าไม้และธนูต่างยิงออกไป แสงสีขาวแทงทะลุเหล่าอันเดทหลายต่อหลายตัวในทันที
-พวกเราคือหอกและโล่ของไกอา
อัศวินศักดิ์สิทธิ์ตั้งโล่ขึ้นจนกลายเป็นกำแพงเหล็กที่ไม่มีวันเจาะทะลุได้ อัศวินที่ถือหอกแทงอาวุธของพวกมันออกไปด้านหลังโล่
อันเดททุกตัวที่ปะทะเข้ากับโล่นั้นต่างลุกไหม้กันทั้งหมดโดยไม่มีข้อยกเว้น และพวกที่ถูกแทงโดยหอกก็โป่งพองเหมือนกับบอลลูนที่ระเบิดออก และพวกมันก็ถูกกำจัดในทันที
อันเดทสองร้อยกว่าตัวต่อสู้กันกับอัศวินศักดิ์สิทธิ์สามสิบตัว ฝั่งแวมไพร์นั้นได้เปรียบในด้านกำลังพลก็จริง แต่มันก็ไม่สามารถที่จะสร้างรอยขีดข่วนแม้แต่รอยเดียวบนเกราะของอัศวินอันเดทศักดิ์สิทธิ์
-อ๊า อ้าก อ๊า!
แวมไพร์นั้นก้าวข้ามความหวาดกลัวได้อีกแล้ว
มันรู้ดีว่าถ้ามันถูกเจ้าพวกสิ่งนี้จับตัวไป มันจะถูกชำระล้างอย่างแน่นอน ชีวิตของมันที่ดิ้นรนอย่างยากลำบากมาตลอดห้าสิบปีจะหายไปอย่างรวดเร็ว!
-อ้ากกก!
เคานต์แวมไพร์ตะโกนออกมา แต่มันก็รีบปิดปากลงทันที
ท้องของมันพองขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ไอ้จุดที่พองตัวของมันนั้นเคลื่อนไหวตั้งแต่ท้องไปจนถึงคอของมัน ก่อนที่มันจะพุ่งผ่านขึ้นไปบนลำคอของมันและไปยังปาก พลังมารของมันนั้นไหลรั่วออกมาจากเนื้อที่ถูกฉีกกระชากในปากของมัน
และด้วยพลังทั้งหมดของมัน แวมไพร์พ่นลมหายใจแห่งความตายออกมาอีกครั้งหนึ่ง ไม่สิ มันพยายามที่จะพ่นออกมาต่างหาก
-คุโอวววว!
อัศวินอันเดทศักดิ์สิทธิ์เหวี่ยงดาบใหญ่ขึ้น มันฟันตั้งแต่ท้องที่พองตัวของแวมไพร์ไปจนถึงปากของมัน พลังมารนั้นไหลเวียนออกมาจากเนื้อของสัตว์ประหลาดและเปลี่ยนกลายเป็นขี้เถ้า
ลูกธนูและลูกหน้าไม้ที่ติดโซ่ออกไปลอยแทงทะลุเข้าไปยังร่างกายของแวมไพร์ ห่าลูกธนูเหล่านี้ต่างปักลงไปบนตัวมันจนเหมือนกับเม่น โซที่เชื่อมต่อกับลูกธนูของมันนั้นมีหน้าที่ในการทำลายอิสระของเจ้าสัตว์ประหลาดตนนี้
ร่างกายที่ใหญ่โตของแวมไพร์ถูกลากลง หน้าของมันกระแทกลงกับผืนดิน อัศวินอันเดทศักดิ์สิทธิ์กระทืบมันลงบนพื้นและบดขยี้ขาทั้งสองข้างมันด้วยโล่
-อ๊ากกก!
หอกหลายต่อหลายเล่มแทงผ่านทะลุคอของแวมไพร์ออกไป