Chapter 4
Chapter 4
ซอดฆ่าไปตามทาง
โรงงานแห่งนี้เป็นหนึ่งในโรงงานหลายๆแห่งของชาวเม็กซิกัน แม้ว่าโรงงานแห่งนี้จะตั้งอยู่ที่ชายแดนเท็กซัส แต่ก็ยังอยู่ในเขตเท็กซัสอยู่ดี แต่ที่นี่คือพรมแดนระหว่างสหรัฐฯ-แม็กซิโก มันเป็นเรื่องปกติที่จะมีชาวเม็กซิกันลอบเข้ามาที่นี่.
ท้ายที่สุดสำหรับแก๊งสกอเปี้ยนที่มีฐานใหญ่อยู่ที่แม็กซิโก แน่นอนว่าคนเหล่านี้รู้ว่าพวกเขาน่ากลัวแค่ไหนเพราะครอบครัวที่ยังอยู่ในแม็กซิโก ดังนั้นพวกเขาจึงถูกควบคุมได้ง่าย.
แก๊งสเกลตันพยายามจะทำลายโรงงานนี้หลายครั้ง แต่ก็ถูกแก๊งสกอเปี้ยนสวนกลับด้วยการโจมตีอย่างรุนแรง.
หลายวันที่ต้องเผชิญกับแดดที่รุนแรงในเท็กซัสทำให้ซอดไม่ต้องกลัวกระสุนขนาดเล็กและตอนนี้มีเพียงกระสุนใหญ่ๆเท่านั้นที่ทำให้เขาบาดเจ็บได้.
แต่เพื่อให้เสื้อผ้าของเขาไม่เป็นอะไร ซอดก็ยังเลือกที่จะหลบมัน.
เขาไม่อาจเดินไปรอบๆด้วยการสวมชุดเกราะตลอดเวลา.
เขาพุ่งเข้าหาอย่างรวดเร็วราวกับผีและสร้างความหวาดกลัวให้กับแก๊งสกอเปี้ยนที่ไม่รู้ว่าปืนของพวกเขาไม่อาจจัดกันซอดได้.
หลังจากที่พวกเขาเป็นคนธรรมดา และจู่ๆก็มีชายคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น มันเป็นเรื่องแปลกที่เขาไม่ตกใจหรือกลัว.
หลังจากหลบกระสุนระลอกแรกได้ง่ายๆ ซอดก็คว้าปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติที่ไม่รู้ว่าเป็นรุ่นอะไรยิงออกไป.
แรงถีบของไรเฟิลนี้ก็ไม่อาจทำอะไรกับซอดได้และความรู้สึกกับความแม่นยำของปืนของเขาก็อยู่ในระดับเดียวกับนักแม่นปืนด้วยความช่วยเหลือของสุดยอดประสาทสัมผัส.
คนของแก๊งสกอเปี้ยนส่วนใหญ่ถูกยิงและตายโดยน้ำมือของซอด การตอบโต้ทั้งหมดของพวกเขาล้มเหลว แก๊งสกอเปี้ยนทำได้เพียงทิ้งปืนและก็หนีตายไปเท่านั้น.
จากนั้นซอดก็เปลี่ยนเป็นการยิงพวกที่หลบหนี หลังจากที่จัดการทุกคนหมดแล้วเขาก็เริ่มค้นหา.
เขาโยนทุกอย่างที่ไม่ใช่เงินดอลลาร์ทิ้งไปและได้เงินราวๆ 20,000-30,000 ดอลลาร์ในรอบนี้.
"เงินเท่านี้ยังช้าเกินไป."
ซอดถอนหายใจ ถ้าเขาไม่ได้มีแค่เกาะรบเพียงอย่างเดียวที่อยู่กับเขา เขาจะสามารถแฮ็คเน็ตเวิร์กและมีเงินติดตัวมากมาย ดังนั้นเขาจะได้ไม่ต้องมาอยู่ที่นี่และหาเพียงนักเลงเพื่อหาเงิน.
โรงงานไม่ได้ถูกซอดทำลาย เขาไล่ชาวเม็กซิกันทั้งหมดในโรงงานออกไป สำหรับคนที่พูดอังกฤษได้เขาก็บอกให้แก๊งสกอเปี้ยนเตรียมเงินมา 10 ล้านดอลลาร์เพื่อมาเอาโรงงานไป ไม่อย่างนั้นออเดอร์ของมันจะถูกเขาแจกจ่ายเอง.
เพราะโรงงานมีความสำคัญกับแก๊งสกอเปี้ยนมาก พวกเขาจึงส่งมาอย่างรวดเร็ว.
คราวนี้มีคนเกือบสองร้อยคนพร้อมกับอาวุธครบมือและมันเกือบจะเป็นการทำสงคราม.
มีแม้กระทั่งปืนแมชชีนกัน.
เนื่องจากคำอธิบายของคนงานชาวเม็กซิกันนั้นไม่ชัดเจน ท้ายที่สุดซอดก็ใช้ปืนไรเฟิลในการสังหารหมู่ คนงานชาวเม็กซิกันคิดว่าเป็นคนมาจากแก็งสเกลตันหรือกองกำลังใหม่ที่กำลังหาเรื่องแก๊งสกอเปี้ยน.
"มีแค่นาย?"
จินเฟย เบอร์ 3 ของแก๊งสกอเปี้ยนมองไปที่ซอดและสงบนิ่ง.
"ฉันมีคนเดียวตลอด."
ซอดตอบแปลกๆ.
"บอกพวกเขาให้ออกมา!"
จินเฟยไม่เชื่ออย่างแน่นอน เขารู้สึกว่าซอดเป็นกองกำลังใหม่หรือแก๊งสเกลตันที่คอยหาข่าวให้อยู่เบื้องหลัง.
ซอดหยิบปืนขึ้นมาบนโต๊ะและอีกฝ่ายก็ไม่มีท่าทีใดๆ ก่อนที่ซอดจะยิงคนล้มลงไป 3 คน.
จินเฟยตกใจและรีบหลบไปซ่อนอยู่ด้านหลัง.
"ฆ่ามันซะ!"
แก๊งสกอเปี้ยนเปิดฉากยิงทันทีและซอดก็หยิบปืนไรเฟิลมาอีกสองกระบอกจากใต้โต๊ะ.
"ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!"
ในเวลาเดียวกันเสียงปืนมากมายก็ดังขึ้นและคนที่อยู่ตรงข้ามก็ล้มลงทีละคนๆ.
แก๊งสกอเปี้ยนให้ความสำคัญกับโรงงานแห่งนี้มาก ดังนั้นพวกเขาจึงเตรียมแม้แต่อาวุธขนาดใหญ่และอาวุธหนักให้ลูกน้องเอามา บังเกอร์ธรรมดาก็ไม่อาจกันกระสุนของปืนเหล่านี้ได้และก็ถูกเจาะทะลุทันที
ซอดยิงปืนราวกับไม่มีแรงถีบ เขาเหนียวไกและยิงกระสุนออกมาอย่างรวดเร็ว มันฆ่าคนไปเป็นจำนวนมาก.
แก๊งสกอเปี้ยนไม่กล้าใช้ระเบิดในโรงงาน.
เพราะยาไอซ์ที่ผลิตได้ในเดือนนนี้ยังไม่ได้ทำการจัดส่ง หากของหายแก๊งสกอเปี้ยนจะเสียรายได้เป็นจำนวนมหาศาล.
ซอดใช้ประโยชน์จากจุดนี้และฆ่าคนที่อยู่เป็นกลุ่มๆอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะวิ่งเข้าไปหยิบปืนจากคนของแก๊งสกอเปี้ยนมายิงต่อ.
หลังจากฆ่าทุกคนแล้ว ซอดก็จับจินเฟยได้.
จินเฟยตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวในเวลานี้ คนมากกว่า 200 คนตายโดยคนเพียงคนเดียว นี่มันเป็นโลกแบบไหนกันแน่เนี่ย?
"เร็วๆ รีบบอกเจ้านายของแกว่าให้ส่งเงินมา มีคนมากมายอยู่กับฉันและนายก็ถูกจับตัวแล้ว."
ซอดนั้นไม่ชอบความเสี่ยง มันจะดีกว่าปล่อยให้แก๊งสกอเปี้ยนมาหาที่โรงงาน แน่นอนว่าเขาสามารถจัดการพวกมันได้ทุกชุดที่ส่งมา.
จินเฟยรู้แผนของซอด แต่เขาไม่รู้ว่าเมื่อไหร่คนที่โหดเหี้ยมอย่างนี้ปรากฏตัวขึ้นมาและจัดการแก๊งสกอเปี้ยนเป็นแก๊งที่แรก.
"โมนิส ฉันทำไม่สำเร็จ ฉันถูกจับ ฝ่ายตรงข้ามมีเยอะเกินไป ฉันสู้พวกเขาไม่ได้!"
แต่เพื่อความอยู่รอด จินเฟยก็เลือกที่จะเชื่อฟัง.
"พวกเขาต้องการเงิน และสินค้าก็ยังอยู่ดี."
จินเฟยพูดได้ว่าซอดไม่รังเกียจหากว่าเขาจะบอกความเคลื่อนไหว มันเพราะเป็นไปไม่ได้ที่แก๊งสกอเปี้ยนจะยอมปล่อยให้สินค้าลอตใหญ่หายไป ไม่ต้องพูดว่าเป็นแค่สินค้าเพียงลอตเดียว หากไม่มีส่งมันก็จะไม่มีใครสั่ง นั่นก็เพราะแก๊งสเกลตันจับตามองงานนี้มานานแล้ว หากไม่มีใครดูแลลูกค้าเหล่านี้ก็ไม่คงจะไปหาแก็งจินนี่และแก๊งสเกลตันหรอกรึ?
คุณต้องรู้ว่ามีหลายแก็งที่จับมือกันกับมิสเกา พวกเขาได้ร่วมมือกันก็เพราะจินเฟย การที่จะได้ผงขาวที่มีความบริสุทธิ์สูง เขาสามารเลือกได้ว่าจะไปหาแก๊งสเกลตันหรือแก็งจินนี่.
ดังนั้นแม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่ามันอันตราย แต่แก็งสกอเปี้ยนที่อยู่ในช่วงสิ้นหวังก็จะมา.
าำหรับแก๊งสกอเปี้ยนก็เป็นไปตามที่ซอดคาดการณ์ไว้ พวกเขาไม่เต็มใจที่จะทิ้งโรงงานนี้ เนื่องจากจินเฟยบอกว่าอีกฝ่านต้องการเงินเท่านั้นแก๊งสกอเปี้ยนจึงไม่ใช่ว่าจะให้ไม่ได้.
คน 200 คนนั้นเป็นกองกำลังใหญ่สำหรับแก๊งสกอเปี้ยน แม้ว่าพวกเขาจะใช้แรงมากกว่าปืน แต่จินเฟยก็ได้บอกแล้วว่าอีกฝ่ายมีคนมากกว่า หากพวกเขาสูญเสียทั้งสองฝ่ายพวกเขาก็จะถูกแก๊งสเกลตันเอาเปรียบได้ หากว่ามันเกิดช่องหว่าระหว่างแก๊งทั้งสอง?
คราวนี้มีเพียงสิบคนที่มาจากแก๊งสกอเปี้ยนเท่านั้นและพวกเขาก็มาพร้อมกับเงิน.
แก๊งสกอเปี้ยนเลือกที่จะยอมถอยไปก้าวนึง.
"บอสจินเฟย!"
พวกเขาทั้งหมดมองไปที่ซากศพที่มีอยู่เกลื่อนพื้นและจินเฟยที่กำลังนับเงินให้ซอดที่กำลังดื่มวิสกี้อยู่และพวกเขาก็ไม่อาจทำความเข้าใจสถานการณ์ได้ชั่วขณะ.
"ไอ้โง่ อย่าลังเล เอาเงินมา!"
จินเฟยต้องมาพลิกศพเพื่อหาเงินและทำให้เอวของเขาเกือบจะเป็นอัมพาตจากความเหนื่อย.
"ขอบคุณ."
ซอดรับมันไปอย่างพอใจ แต่นี่คือเงินสิบล้านดอลลาร์ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพียงแบงค์เก่าๆและมีมูลค่าไม่เกิน 20 เหรียญ*.
10 ล้านเหรียญนั้นมีเงินมากมายมากกว่าที่ซอดจะจินตนาการและทำให้รถของเขารู้สึกว่าไม่อาจเก็บเงินพวกนี้ได้หมด.
หลังจากที่หารถที่ใหญ่กว่าและยัดเงินเข้าไป ซอดก็ขับรถออกไป.
"บอสจินเฟย กลับไปเร็วๆ บอสโมนิสต้องการู้ทุกอย่าง."
จูดลีย์ตกใจหลังจากที่ซอดกลับมา เพราะเมื่อตอนเขาออกและกลับมา มันไม่เพียงแต่เปลี่ยนรถใหม่เท่านั้น แต่ยังรวมกับเงินจำนวนมากอีกด้วย!
"นายทำอะไรลงไป?"
(*TL:เงินดอลลาร์ที่เห็นๆกันอยู่ไม่ว่าจะในหนังหรือชีวิตจริง คนส่วนใหญ่จะใช่ไม่เกิดแบงค์ 10 แม้ว่าจะมีแบงค์ 50 และ แบงค์ 100 ก็ตาม ขนาดไปซื้อของปกติถ้าจ่ายเป็นแบงค์ 20 ยังมีการตรวจสอบกันเลยมันเหมือนเป็นแบงค์ใหญ่สำหรับคนที่นั่นแล้วก็คนส่วนใหญ่จะไม่พกแบงค์ 50 หรือ 100 มา เพราะอย่างนั้นในเรื่องพยายามสื่อว่าแม้ว่าจะเรียกเงิน 10 ล้านดอร์ลาร์ มันก็ยังมีแค่แบงค์ 20 เท่านั้นที่ใหญ่ที่สุดซึ่งอาจจะมีความเป็นไปได้ว่ามีแบงค์ 1 แบงค์ 5 แบงค์ 10 ปนๆกันด้วยทำให้รถคันเดียวขนไม่พอนั่นเอง)