07 NEVER MIND
07
NEVER MIND
ทั้งสองไม่มีบทสนทนาใดๆอีกตลอดทาง ไม่มีการแวะหาข้าวทานเหมือนที่เคยคุยกันไว้เมื่อตอนแรก ดินทำเพียงแค่ส่งเบบี๋หน้าหอแล้วขับรถออกไปเลยในทันที เขาในตอนนี้ยังไม่พร้อมจะฟังอะไรทั้งนั้น รู้สึกกลัวกับคำพูดหนึ่งคำ หากเบบี๋บอกว่ารับไม่ได้ที่เขาเป็นคนแบบนั้นเหมือนที่ไอ้เก้ามันบอก
เขาคงรู้สึกว่างเปล่ายังไงชอบกล...
ไม่ใช่ว่าเขาเป็นเด็กขาดความอบอุ่นต้องโหยหาความรักตลอดเวลา เพราะว่าเขาได้รับความอบอุ่นจากครอบครัวมากไปต่างหาก มันถึงเคยตัวต้องการความรักมากขึ้นเรื่อย เพราะม๊ากับป๊าให้เขาไม่ได้ตลอด น้องๆก็โตมากขึ้นไม่ได้อยู่ด้วยกันเหมือนแต่ก่อน มันยิ่งทำให้ตัวเขารู้สึกเหมือนอยู่คนเดียว
ดินทิ้งตัวลงนอนบนเตียงใหญ่ ตะแคงตัวมองกระจกสะท้อนภาพของเขา
คนตัวใหญ่ หน้าโหด มีแผลเป็นเต็มตัว ใครจะมาสนใจ ต่างจากอีกคนหน้าสวย ตัวเล็กนิสัยดี ใครก็ขนานนามว่าเป็นนางฟ้า มองยังไงมันก็ดูไม่เข้ากับยมทูตอย่างเขาเลยสักนิดเดียว
"เบบี๋..."
อยากพูดชื่อนี้ซ้ำๆ เรียกซ้ำๆให้ไปถึงเจ้าของชื่อ ความรู้สึกแบบเมื่อสองวันก่อนเริ่มกลับมา รู้สึกว่าจะไม่ได้เจอแมวตัวน้อยอีก สองครั้งแล้วนะที่เขาไม่อยากตื่นเช้าแล้วพบว่ามันคือความจริงที่หลังจากนี้จะไม่ได้เจอหรือคุยกับคนตัวเล็กอีก จะว่าไปเขาควรจะชินได้แล้ว
ไม่ชินจริงๆ
ถ้าเป็นไปได้ขออยากให้มันเป็นแบบวันนี้อีกที่เบบี๋มาขอโทษซื้อกาแฟกันขนมมาให้เขาถึงหน้าคณะ แล้วถ้าไม่ละ...
เขาควรจะทำใจไว้บา้งก็ดีสินะ
ดินนอนเอามือก่ายหน้าผาก คิดแต่เรื่องเบบี๋ซ้ำไปซ้ำมาจนเผลอหลับไป
รุ่งเช้าของอีกวัน ที่เขาไม่อยากตื่นแต่เวลาเราไม่สามารถยื้อมันได้ แสงตะวันที่สาดส่องผ่านผ้าม่านสีขาวตกกระทบผ่านม่านตา ดินรู้สึกตัวค่อยๆลืมตาขึ้นปรับแสง เขานอนนิ่งอยู่สักพักบนเตียงนอน หัวสมองเริ่มทำงานและมันก็สั่งการให้เขาจำว่าวันนี้เป็นวันต่อไปแล้ว
มือหนาเอื้อมหยิบโทรศัพท์เช็คความเคลื่อนไหวต่างๆ
ตาคมเบิกกว้างอย่างตกใจ แอพพิเคชั่นตัวสีฟ้าขึ้นว่ามีข้อความเข้าทั้งหมด 12 ข้อความ และชื่อก็เป็นคนที่เขานั้นคิดไม่ถึงด้วย
สุทธิรัก
ดินถึงบ้านยัง...
ดินเป็นอะไรหรือป่าวไม่ตอบเลย
ดินโอเคใช่ไหม
หรือว่าหลับ
ถ้าดินไม่โอเคก็โทรมานะ
สารพัดข้อความจากเมสเซนเจอร์ ดินไล่อ่านมันหมดทุกข้อความ เขารู้สึกว่าเช้านี้ไม่ใช่เช้าที่ไม่อยากตื่นอีกต่อไป มันคือเช้าที่สดใสจนรอยยิ้มผุดขึ้นเต็มใบหน้า มีแต่ความเป็นห่วงมากมายจนมันล้นออกมาจากหน้าจอ
ดินเลือกที่จะไม่ตอบข้อความพวกนั้นแต่กลับลุกขึ้นอาบน้ำแทน วันนี้เขาไม่มีเรียนแต่มีเรื่องมากมายที่จะต้องทำ อย่างเช่นตอบคำถามทุกคำถามที่คนตัวเล็กถามมาให้หมด
ต่อหน้า!
เขาโทรหาเบอร์น้องเล็กสอบถามว่าวันนี้เบบี๋มีตารางเรียนอะไรบ้างและมันก็ได้เรื่องจริงๆ เบบี๋มีเวลาเรียนตอนบ่ายสอง และเขาจะต้องไปให้ทันก่อนที่เจ้าตัวจะขึ้นเรียน
ความรู้สึกแปลกๆวิ่งผ่านไปผ่านมาอยู่ในหัวใจตั้งแต่เมื่อคืนที่เขายืนมองดินขับรถออกไปแบบไม่ล่ำลา มือเล็กนั่งจ้องมือถือตัวเองมาสักพักใหญ่ ข้อความที่เขาส่งไปถูกเปิดอ่านแต่ไม่มีการตอบกลับ แค่คิดว่าเขาจะไม่ได้เจอดินอีกทำไมมันรู้สึกใจหายแปลกๆ ความรู้สึกบ้าบอพวกนี้มันคืออะไร ดินกำลังมาป่วนในใจเขาหรือป่าวนะ
ปอนด์กับอ้อมใจนั่งมองเพื่อนสุดที่รักเขี่ยข้าวไปมา มือนึงก็ถือโทรศัพท์อย่างกับว่ารอสายจากใครสักคน พักนี้ไอ้บี๋มันทำตัวแปลกๆ หน้าตาดูคิดมากตลอดเวลา
"มึงเป็นอะไร? หรือคนที่มึงไปขอโทษเขาเมื่อว่าเขาไม่คุยกับมึง" ปอนด์เริ่มเอ่ยปากถามก่อน ทั้งอยากรู้แล้วก็ห่วงเพื่อนนัยๆ เบบี๋ไม่ค่อยเป็นแบบนี้เรียกได้ว่าไม่เคยเป็นเลยดีกว่า พอพักหลังอาทิตย์นี้มันดูเหม่อๆ พูดถึงบุคคลที่สามอยู่บ่อยๆว่าควรทำไง
"มึงชอบใครใช่ไหมอีบี๋!!" อ้อมใจโพล่งขึ้นเขาพยามคิดว่าอาการแบบนี้มันคืออะไร จนได้ข้อสรุปมันคืออาการที่เราชอบใครสักคนแล้วเขาไม่ชอบกลับจนตัวเองต้องมานั่งคิดมาก
"ปะ ป่าว"
"อย่ามาปิด อาการมึงมันฟ้องหมด เหม่อลอย พูดถึงใครอีกคน นั่งมองโทรศัพท์ บอกกูมามึงชอบใครอีบี๋!"
"ใจเย็นๆไอ้อ้อม บี๋มันตอบไม่ทัน"
"กูอยากรู้ไงอีปอนด์มันเป็นแบบนี้มานานแล้วนะเว้ย!"
"ป่าวเราไม่เป็นอะไรจริงๆ เราก็แค่.." เบบี๋เงียบเมื่อคิดถึงเรื่องเดิม
แมวน้อยเงียบไม่ตอบคำถามเพื่อนเลื่อนจานข้าวที่ยังมีข้าวอยู่เต็มจานออก นอนฟุบกับโต๊ะหลับตาลงช้าๆ กอดกระเป๋าตัวเอง
"เงียบใส่กูเพื่อ!"
"มึงอ่ะเงียบไอ้อ้อม ปล่อยมันไปถ้ามันอยากเล่ามันคงเล่าเอง"
"กูห่วงมันไง"
"กูก็ห่วงแต่เรื่องบางเรื่องเราต้องรอดูเว้ย เข้าใจกูป่ะถ้าอะไรมันไม่มากไปอย่างพึ่งเข้าไปยุ่ง"
เบบี๋นอนฟังเพื่อทั้งสองสนทนากัน เขาเข้าใจที่เพื่อนเป็นห่วง แต่ตัวเขายังไม่พร้อมที่นะบอกอะไรตอนนี้เพราะตัวเองก็ยังไม่เข้าใจ แค่รู้สึกไม่ดีที่ดินไม่ตอบเขา รู้สึกไม่ดีที่ดินขับรถออกไปไม่ล่ำลาแบบนั้น รู้สึกไม่ดีเลยสักนิดอ่ะ
"พี่บี๋ครับ" เบบี๋เงยหน้าขึ้นมองเสียเรียกชื่อ
"หือ? อ้าวเมฆ"
"สวัสดีครับพี่ๆ" เมฆยกมือไหว้สวัสดีพี่ๆทั้งสามก่อนจะหันมาส่งยิ้มทะเล้นใส่พี่สายรหัสสุดน่ารัก วันนี้ที่เขามาไม่ได้เพราะจะมากวนประสาท เขาได้รับหมายศาลให้มาส่งต่างหาก
"พี่บี๋ไปกับผมสักแปปได้ไหมครับ"
"ไปไหนหรอ? นานไหมพี่มีเรียนบ่ายสองนะ"
"ผมขอเวลาแต่สิบนาทีครับ"
"ก็พอได้ ปอนด์กับอ้อมขึ้นไปก่อนก็ได้เดี๋ยวเราตามไปไม่สายหรอก"
"อืมได้ ซื้อชาเขียวไปให้กูสองคนด้วย" ปอนด์ว่า
"โอเคจ้า"
อ้อมใจเบะปากใส่ก่อนจะลุกเดินออกไปพร้อมกับปอนด์ เบบี๋หันมองน้องสายรหัสและลุกเดินตามไปด้วยเช่นกัน
เมฆเดินยิ้มกริ่มพาพี่สายรหัสมาทางลับ มันเป็นทางลับที่ไม่ค่อยมีใครผ่านเข้ามา มันคือที่ลับของพวกเขาที่เอาไว้พักผ่อนหย่อนใจเวลาที่เรียนหนักมากๆหรือเวลามีกิจกรรมที่ต้องกลับดึกเขามักจะมาพักสายตากันที่นี้ มันคือสวนย่อมหลังมหา'ลัยที่ป๊าเป็นคนทำเอาไว้
อ่ะๆ อย่ามองว่าพวกเขาใช้เส้นสาย ที่ตรงนี้ไม่ได้ใช้และเขาก็ให้ป๊ามาขออนุญาตกับอธิการบดีเรียบร้อยแล้วด้วย ในสัญญาที่พวกเขาเซ็นก็คือที่ตรงนี้จะมอบให้มหา'ลัยทันที่เมื่อพวกเขาทั้งห้าเรียนจบออกไปนั้นคือเขาคนสุดท้ายเรียนจบนั้นเอง
"มีที่แบบนี้ด้วยหรอ?" เบบี๋ทำหน้างง อยู่ที่นี้มาสามปีไม่เคยเห็นที่ตรงนี้เหมือนกัน
"มีครับ มันเป็นที่ส่วนบุคคล" เบบี๋พยักหน้ารับเดินต่อไปกับเมฆ
เมฆพาคนตัวเล็กมาหยุดอยู่หน้าแม่น้ำ กดข้อความส่งหาคนที่เขาตั้งใจพาพี่สายรหัสมาหาก่อนจะขอตัวพี่รหัสไปเข้าห้องน้ำ ทิ้งให้เบบี๋ยืนงงอยู่พักใหญ่
แกร๊ก!!
เบบี๋เงยหน้ามองเสียงเท้าที่เหยีบกิ้งไม้ คนตัวสูงที่ทำให้เขาคิดมากมาทั้งคืนยืนอยู่หน้าเขา
"ดะ ดิน"
"ฉันถึงบ้านตั้งแต่สองทุ่ม ฉันคิดมากเรื่องเธอฉันไม่โอเค กลัวเธอไม่คุยกับฉัน ฉันนอนคิดเรื่องเธอจนหลับไป ไม่ได้กินข้าวด้วย"
"อืม... ดินบอกเราทำไม"
"ฉันอยากตอบคำถามพวกนี้กับเธอต่อหน้า" เรารู้สึกชอบดินแบบเดิมมากกว่าดินตอนนี้สะแล้วสิ พาใจสั่นหน้าร้อนผ่าวทำตัวไม่ถูก
"ฉันตอบคำถามเธอหมดแล้ว เธอจะตอบคำถามฉันได้บ้างไหม"
"คะ คำถามอะไร"
"รังเกียจกันไหม" ดูเหมือนเป็นคำถามที่ไร้สาระแต่มันสำคัญสำหรับคนอย่างเขามากกว่าคำอื่นๆ
"รังเกียจไหมที่ฉันเป็นแบบนั้น"
"ไม่เคยรังเกียจ"
"ถึงฉันจะ-"
"เราไม่เคยรังเกียจดิน! กลับรู้สึกว่าดินน่าเป็นห่วงมากกว่า เรามองตาดินเมื่อว่านแล้วดินไม่โอเคเลย เรา..." ดินยืนรอฟังคำต่อไปจากคนตัวเล็กตรงหน้า แต่เหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่กล้าพูดจนเขาต้องถามย้ำ
"เราอะไรเบบี๋"
"เรา... เราเป็นห่วงดินมากเลยนะ!!" แมวน้อยตอบออกมาเต็มเสียง
เขาน่ะอยากจะวิ่งหนีออกไปจากตรงนี้ สะให้ได้เลย
เขินจัง...
"หน้าแดงหมดแล้วรู้ตัวไหม" ดินว่าออกไปขำๆ เข้าแมวน้อยจมูกแดง แก้มแดงมันช่างน่ารักสะเหลือเกิน
"รู้แล้วไม่ต้องพูดสิ"
"น่ารัก..."
"ดินน~ เราไปเรียนแล้ว" เบบี๋เตรียมตัวจะหมุนกลับแต่ถูกคนตัวใหญ่คว้าข้อมือเอาไว้สะก่อน
"ดินเราต้องไปเรียน"
"ไม่ให้ไปได้ไหม" ดินทำเสียงอ่อนลง ส่งเสียงอ้อนใส่คนตัวเล็กแทน
ไอ้ลำพังแค่นี้เขาก็เขินไม่รู้จะทำตัวยังไงแล้ว ยังจะมาทำเสียงอ้อนใส่อีกแบบนี้เขาก็ตายเลยน่ะสิ "เบบี๋... หันหน้ามาหน่อย"
"ไม่เอาหรอกเดี๋ยวดินแกล้ง"
"ไม่แกล้งจริงๆสัญญา"
แค่เสียงอ้อนกับคำสัญญาผ่านปากเปล่าคนตัวเล็กก็ยอมหันกลับไปโดยง่ายดาย ทั้งคู่สบตากันเพื่อสื่อความหายอะไรบางอย่าง
เบบี๋จะรู้ไหนว่าตัวเองกำลังทำให้คนตัวใหญ่แต่หัวใจบอบบางคนนี้หลงจนโงหัวไม่ขึ้น
อยากได้ลูกแมวมาเป็นของตัวเองชะมัด!
"อย่างมองแบบนั้นสิดิน"
"มองแบบไหน"
"แบบเขิน"
"ฉันว่าแบบนี้เขินกว่านะ" ดินยืนหน้าเข้าไปไกล มือทั้งสองจับบ่าเล็กไว้ไม่ให้ลูกแมวขนปุยขาวตรงหน้าหนีไปได้เด็ดขาด
ไอ้บ้าดิน!
เบบี๋กดด่าในใจ ใบหน้าร้อนผ่าวราวกับโดนไฟรน ตัวนี้แข็งถือไปไหนก็ถูก สายตาคมนั้นที่มองมาทางเขามันไม่ได้มีความน่ากลัวเหมือนกับร่างกายเลย มันดูอ่อนโยนสะจนเขาเกือบจะละลายเป็นน้ำลงไปอยู่กับพื้นสะให้ได้
"ดินเราต้องไปเรียน"
"ไม่ให้ไปครับ"
งื้ออออ... ตายแน่วันนี้เบบี๋ได้ละลายแน่นอน อย่ามาพูดครับพร้อมยิ้มแฉ่งขนาดนั้นสิ หัวใจบอบบางหมดแล้ว
"ดินหิวข้าวจัง"
"ดะ ดินก็กินสิ"
"ไม่มีเพื่อนไปกินด้วย บี๋ไปเป็นเพื่อนดินหน่อยได้ไหม"
"ก็ได้... แต่ดินช่วยออกไปก่อนคือเรา" เราเขินจนตัวจะแตกอยู่แล้ว ทั้งสรรพนาม คำพูดคำลงท้ายใครไม่เขินก็บ้าแล้ว
ดินยอมผละออกเพราะดูท่าแล้วลูกแมวตัวนี้จะเขินจนทนไม่ไหววิ่งหนีเขาไปสะก่อน
"ไปกินข้าวกัน" ดินว่าแล้วคว้ามืออีกคนมาจับ
เบบี๋เดินตามอย่างเงียบๆ มองมือตัวเองที่ถูกมือใหญ่ๆกุมเอาไว้จนมิด คำพูดของอ้อมใจเมื่อไม่นานลอยเขาไม่ในหัวสะดื้อๆ
มึงชอบใคร...
ถ้าตอนนี้คนที่เขาใกล้ชิดมาที่สุดคงจะเป็นดิน รู้สึกเป็นห่วงดินตลอดเวลา ตอนที่ทำอะไรก็คิดถึงแต่ว่าดินจะเป็นยังไง อย่าบอกนะว่า...
คนที่อ้อมใจถาม
คำตอบมันคือ... "ดิน" เขาชอบดินอย่างนั้นหรอ ชอบตอนไหน ตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมเขาไม่รู้ตัว เขาพึ่งเจอกับดินเองนะจะชอบได้เลยหรอ โอ๊ยยยย!! ทำไมซับซ้อนไม่เข้าใจตัวเองแบบนี้
"เป็นอะไร..."
"ปะ เปล่า"
"แน่ใจ"
"แน่ใจ...ดินหิวข้าวไม่ใช่หรอ ไปกินสิเดี๋ยวเราต้องไปเรียนอีกนะ"
"ใครบอกว่าจะให้ไป ดินไม่ให้ไป"
"แต่เรา-"
"นะครับบี๋"
เปลี่ยนสรรพนามพูดแบบนี้เขาก็ใจเต้นแรงไม่หยุดเลยน่ะสิ เรียกฉันๆเธอๆแบบเดิมยังจะดีสะกว่าอีก ดินคนเดิมไปไหน เขาต้องการดินปากร้าย ดินนิสัยงอแง อ้อนเก่งแบบนี้เขารับไม่ไหว ตั้งตัวไม่ทัน
"ก็... ก็ได้" หน้าคมคลี่ยิ้มกว้างออกมาเมื่อคนตัวเล็กตอบรับ
เรียกได้ว่าเกือบจะทุกสายตาที่จ้องอมองเขาในตอนนี้ ก็ไม่รู้ว่าพวกเขามีอะไรน่าสนใจนักหนาถึงได้มองกันตั้งแต่เดินเข้ามา ดินยืนซ้อนหลังคนตัวเล็กที่ยืนรอข้าวไม่รู้เรื่องรู้ราวต่างกันกับเขาที่กวาดสายตามองไปทั่วบริเวณโรงอาหารของคณะ พอเข้าใจว่าเบบี๋เป็นคนน่ารัก แต่มันหงุดหงิดที่เห็นคนมองแบบนี้มันพาลอารมณ์เสียไปด้วย จากที่อารมณ์ดีๆในตอนแรก
ปึก!
"อ่ะ!" ลูกแมวน้อยหันหน้ากลับมาหวังจะถามอีกคนว่าจะนั่งตรงไหนกันดี แต่ดันชนเข้ากับอกกว้างๆสะได้ เบบี๋ลูบจมูกป่อยๆ ยู่หน้าใสคนตัวโตกว่า
"ไม่ระวังอีกแล้ว"
"ก็ดินยืนใก้ล" เสียงองแงเอ่ยออกมา
ดินเอื้อมมือจับจมูกลูบมันเบาๆเหมือนกับทุกๆครั้งที่เขาทำ เบบี๋มองการกระทำแล้วหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาสะดื้อๆ ดินก็ทำแบบนี้มาสองรอบแล้วทำไมรอบนี้เขารู้สึกว่าเขินกว่าทุกครั้งได้ล้ะ
"หายเจ็บยัง"
"อืม..." เขิน เขาเขินจนจะตายอยู่แล้ว
"ชนแค่จมูกแต่ทำไมแก้มแดง" ดินว่าขำๆแกล้งคนตัวเล็ก
"ดินนนน" เขินจะตาย เขินจนจะเป็นบ้า คนบ้า ดินบ้า!
"ไม่แกล้งแล้ว ข้าวได้แล้วนั่นจะนั่งไหน"
"ตรงนั้นก็ได้ใกล้ร้านน้ำดีเราจะได้ไม่ต้องเดินไกลด้วย"
"เธอถือจานข้าวไปนั่งรอก่อน ฉันซื้อน้ำและเดี๋ยวตามไป"
เบบี๋พยักหน้าตอบถือจานข้าวผัดสองจานไปหาโต๊ะนั่ง ดินยืนมองตามเห็นว่าคนตัวเล็กนั้นนั่งที่เรียบร้อยจึงเดินไปซื้อน้ำ
'เสียดายเบบี๋ว่ะ ไม่น่าคบกับไอดินเลยเสียของชิบ'
'มึงก็พูดไป ดินมันอาจจะบังคับอะไรเขาหรือป่าวถึงได้มาด้วย'
'เออว่ะ หรือบางที่ของไอดินอาจจะใหญ่ เบบี๋เลยติดใจ'
'555 จริงว่ะ'
ดินยืนฟังบทสนทนาของชายทั้งสอง ที่คุยกันเรื่องของเขากับแมวน้อยอย่างสนุกปาก มันจะรู้บ้างไหมว่าอีกไม่นานปากของมันจะใช้การไม่ได้อยู่แล้วเพราะเขาจะใช้กำปั้นตัวเองกระแทกเข้าไปที่หน้าของมันด้วยความแรงแบบเต็มสูบไม่มีออมมือใดๆทั้งสิ้น
คนร่างสูงใหญ่สะกิดหัวไหล่คนที่มันกำลังหัวเราะร่าเพราะมันคิดว่แมวน้อยถูกเขาปู้ยี้ปู้ยำไปแล้ว
"ใครสะกิ-"
ผลัวะ!!
ไม่รอให้จบประโยคเขาปล่อยหมัดใสหน้ามันไปในทันที คนอย่างเขาไม่ชอบคนพูดเยอะ มันน่ารำคาญ
ตุบ!!
คนปากเสียเบอร์หนึ่งล่วงลงพื้นไปในหมัดเดียว ดินไม่รอช้าแตะซ้ำเข้าไปที่ปลายคาง ไหนๆทำแล้วต้องทำให้สุด ไม่ใช่อวดเก่งแต่ปาก
เบบี๋เริ่มสังเกตุเห็นความผิดปกติคนมากมายยืนมุงกันอยู่เต็มร้านน้ำ เสียงเอะอะโวยวายเริ่มดังขึ้นเรื่อย เขารูสึกว่าดินกำลังมีปัญหารีบลุกขึ้นสาวเท้าเข้าไปในวงล้อม แมวน้อยเบิกตากว้างยกมือขึ้นปิดปาก ด้วยท่าทีตกใจ ผู้ชายสองคนนอนจมกองเลือดอยู่กับพื้นโดยที่ดินยังยืนนิ่งไม่เป็นอะไรเลยสักนิด
"อย่าพูดจาเหี้ยๆแบบนั้นใส่คนของกูพวกมึงก็ด้วยถ้ากูได้ยินใครพูดถึงบี๋ในทางเสียหายอีกนะกูจะกระทืบล้างโครต บี๋กับกูไม่เคยมีอะไรกันกูขอบอกพวกมึงตรงนี้"
...ซุบซิบ
เสียงซุบซิบขึ้นทันทีที่ดินพูดจบ คนตัวใหญ่หันมองแมวน้อย เจ้าแมวตัวน้อยคงกลัวเขามาเลยสินะ สภาพเขาตอนนี้คงเหมือนปีศาจเต็มที รอบนี้เขาคงต้องยอมรับจริงๆแล้วว่าเบบี๋จะไม่คุยกับเขาอีกต่อไป
"ดิน..." เบบี๋เดินแทรกกลางเข้ามาหาเขา "บี๋อยากกินข้าวข้างนอกจัง ดินพาไปได้ไหม"
"อืม...ได้..."
"งั้นเราไปกันเนอะ