ตอนที่แล้วตอนที่ 7 นองเลือด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 9 ผู้ติดตามของซีโนเบีย

ตอนที่ 8 ผู้บุกรุก


[เผ่าพันธุ์] ก็อบลิน

[เลเวล] 32

[คลาส] ชั้นสูง, หัวหน้ากลุ่ม

[ทักษะ] <<สั่งการ>> <<ปฏิปักษ์>> <<คำรามอย่างรุนแรง>> <<ความชำนาญการใช้ดาบ C->> <<ละโมบ>><<การจ้องมองจากปีศาจ>>

[การคุ้มครองจากพระเจ้า] เทพธิดาแห่งนรก อัลทีเซีย

[แอตทริบิวต์] ความมืด, ความตาย

◇◆◇

ยังมีความเสี่ยงอีกมากที่เรายังรับมือไม่ได้ ผมจึงวางแผนจะสำรวจ

ตอนนี้เราได้เสบียงมากพอและมีแหล่งน้ำจากทะเลสาบใกล้ๆ

แต่ยังติดปัญหาเรื่องการล่า

ความฝันของผมยังไกลเกินเอื้อม แม้จะประกาศว่าตัวเองเป็นราชา แต่จำนวนก็อบลินยังไม่เพียงพอ…

ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองอยู่ส่วนไหนของโลก

แต่ถ้ามีมนุษย์อาศัยอยู่ ก็ควรจะมีเผ่าอื่นๆ นอกจากที่นี่

ไม่ว่าจะเป็นมังกร เอลฟ์ หรือเผ่าอื่นๆ

สิ่งแรกที่จำเป็นคือการรู้ภูมิศาสตร์โดยรอบ

ป่าแห่งนี้กว้างแค่ไหน? มีอะไรอยู่ข้างนอก? จุดไหนเป็นพื้นที่อันตราย?

เพื่อรวบรวมข้อมูลดังกล่าว ผมสอนความรู้พื้นฐานให้กับก็อบลิน

ผมสั่งให้พวกมันฝึกการทำงาน กลุ่มละสามตัวในการออกล่า

ทั้งสามจะฝึกการล่าและสร้างกับดักด้วยกัน สำหรับกลุ่มที่ประสบความสำเร็จ ผมจะอนุญาตให้พวกเขามีเซ็กส์กับก็อบลินตัวเมียได้

อาจเพราะผมเคยเป็นมนุษย์มาก่อน จึงไม่รู้สึกสงสารมากนัก

หลังจากออกคำสั่งให้กิกูวและกิก้า ผมก็ออกไปสำรวจ

เมื่อพูดถึงสถานที่ที่ยังไม่ได้สำรวจ ที่แรกที่นึกถึงคือบริเวณทะเลสาบ

ระยะห่างจากหมู่บ้านไปยังทะเลสาบ ใช้เวลาครึ่งวัน สำหรับอุปกรณ์ที่ผมมี ตอนนี้คือเกราะเหล็ก กริชและดาบยาวสองเล่ม

ผมให้สิ่งที่เหลือให้กับก็อบลินและออกสำรวจทะเลสาบด้วยตัวเอง

โดยซ่อนไปตามพุ่มไม้ข้างๆ ผมพยายามมองหาศัตรู

อาจจะมีมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่ง เหมือนพวกแมงมุมยักษ์และออร์ค

มีสิ่งที่ติดค้างในใจตอนนี้ คือ ผมยังไม่ไว้ใจก็อบลิน

พูดอีกอย่าง …ผมกลัวการถูกหักหลัง

พวกมันเป็นมอนสเตอร์ แม้จะมีบางส่วนที่เหมือนกับมนุษย์ แต่พวกมันไม่ใช่มนุษย์

เหมือนตอนที่ผมสู้กับออร์ค… แม้แต่ผมยังไม่หลุดจากสัญชาตญาณของมอนสเตอร์

ความรู้สึกอันน่าขยะแขยง

มันเป็นเรื่องไร้สาระ ผมต้องแก้ไขมัน!

เพื่อที่จะปกครองเหล่ามอนสเตอร์!

เพื่อจะยึดครองเหล่ามนุษย์!

◇◆◇

ขณะความคิดวนเวียนอยู่ในหัว ผมสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง

มีกระต่ายสีน้ำเงินที่ปกคลุมด้วยเกราะ 5 ตัวกำลังกินหญ้าอยู่

เห็นอย่างนั้น ผมค่อยๆ ลดระยะห่าง…

ผมที่กำลังคืบคลานไปอย่างเงียบๆ …จู่ๆ หูของมันก็ตวัด

–––– พวกมันสังเกตเห็นผม!

ทันใดนั้นผมพุ่งตัวไปหามัน

ราวกับรู้ว่าดาบจะมา พวกมันหนีไปในทิศทางต่างๆ

ขณะที่กระต่ายกำลังจะหนี ผมฟันไปอย่างสุดกำลังจนคอของมันกระเด็นขึ้นไป

ผมคว้าร่างที่ไม่มีชีวิต ก่อนจะกัดเข้าไปที่เกราะของมัน …แต่ฟันไม่สามารถเจาะทะลุเข้าไปได้

ถ้าฝืนเขี้ยวของผมอาจจะแตกแทน ผมจึงใช้กริชเพื่อเลาะเอาเกราะออกและกินเฉพาะเนื้อ

เนื้อละลายทันทีเข้าไปในปาก …อร่อยแฮะ

ผมลองใช้ดาบแทงไปที่เกราะ

ดูเหมือนผมค่อนข้างโชคดี ถ้าผมโจมตีไปที่เกราะของมัน ดาบของผมอาจจะหักแทน

ผมสงสัยว่าจะใช้มันเป็นเกราะได้ไหม ถ้าเป็นแบบนั้นผมต้องการคนที่มีความเชี่ยวชาญในการตัดเย็บหรือสร้างสิ่งของ

ผมตัดส่วนที่ไม่จำเป็นออกด้วยกริช แต่ไม่ค่อยดีนัก พวกงานที่ละเอียดอ่อนไม่เหมาะกับก็อบลิน

ผมตัดสินใจเอามันกลับไปด้วยเพราะอาจจะมีประโยชน์ในภายหลัง

ผมใช้เชือกที่ทำจากเถาวัลย์ขึงและแบกมันไว้บนหลัง

──เอาล่ะ กลับหมู่บ้าน

เดินผ่านพุ่มไม้ ผมได้เดินสำรวจบริเวณทะเลสาบจนกระทั่งพระอาทิตย์ตกดิน

เสบียงที่ผมได้มาในวันนี้มีเพียงจระเข้ที่มีปีกและกระต่ายเกราะสามตัว

◇◆◆

ตอนกลับมาที่หมู่บ้าน มีความวุ่นวายเกิดขึ้น

ผมขมวดคิ้วและตะโกนถาม

“เกิดอะไรขึ้น?”

“ราชัน!”

ก็อบลินอาวุโสคำนับ มันอยู่ในสภาพที่หวาดกลัว

“มีมนุษย์เข้ามาในป่า!!”

มันเป็นปัญหาจริงๆ

“พวกเขามากันเท่าไหร่?”

กิก้าพูดว่า

“มนุษย์ 6 คน มีสองคนใช้ขวาน สองคนใช้ดาบ …ในนั้นมีผู้หญิง 2 คน”

ผมรู้ว่าสักวันผมต้องสู้กับมนุษย์ …แต่นี่มันเร็วเกินไป

นอกจากนี้ผมไม่รู้ว่าเป้าหมายของเขาคืออะไร

ทำไมพวกเขามาที่นี่? มาเพื่อล่า? …ไม่ มันคงไม่ใช่อย่างนั้น

แต่เมื่อผมนึกถึงผู้หญิงที่ถูกลักพาตัว

ถ้านั่นเป็นเป้าหมาย…พวกเขาก็เป็นศัตรู

เป็นไปได้มั้ย ที่เขาแค่มาตรวจสอบ

ทำไงดี?

ถึงครั้งนี้ผมอาจจะซ่อนตัวไว้ได้ แต่ถ้าพวกเขายังมาอีก …สิ่งที่เป็นปัญหาที่สุด คือการโจมตีที่ไม่มีวันจบสิ้นของมนุษย์

ผมเคยเป็นมนุษย์เลยรู้ ถ้ามนุษย์ถูกผลักดันด้วยความเกลียดชัง พวกเขาจะทำตามความเป้าหมายอย่างไม่ลดละ

หรือผมควรจะหนี? หาสถานที่เงียบๆ หนีไปได้พร้อมกับก็อบลิน? แต่มอนสเตอร์ที่เคลื่อนไหวในตอนกลางคืนอย่างแมงมุมยักษ์อาจโจมตีเราแทน

ทำยังไงดี?

ผมมองลงไป ผมไม่สามารถทิ้งพวกเขาได้

“ไปหาพวกเขา?”

ก็อบลินอาวุโสพูดด้วยหน้าตาหื่นกาม

“ไม่ได้ พวกเขารู้ว่ามีมนุษย์จำนวนมากหายไป”

ถ้าผมซื้อเวลาได้อีกสักพัก ผมน่าจะแข็งแกร่งได้มากกว่านี้

“เราจะโจมตี กิก้าออกไปตรวจสอบก่อน เราจะวางแผนขั้นต่อไป”

ผมพาก็อบลิน 40 ตัวเข้าไปในป่า

ภายใต้ความมืด เราเคลื่อนไหวให้ระมัดระวังที่สุดเท่าที่จะทำได้

ก่อนจะเจอมนุษย์ที่ถือคบเพลิงในมือเดินลาดตระเวน

ยืนยันสถานการณ์อีกครั้ง ผมสั่งให้ก็อบลินเงียบเพื่อฟัง

“ฟินร่า ได้ยินไหม”

“คุณอยู่ที่ไหน!?”

ดูเหมือนพวกเขากำลังหาใครสักคน

ชายสองคนที่ถือขวาน พวกเขาน่าจะเป็นนักรบ ตรงกันข้ามมีนักดาบชายที่มีออร่าอันตรายแผ่ออกมา

แต่สิ่งที่ผมไม่เข้าใจคือคนที่อยู่ตรงกลาง คู่หญิงชายที่ใส่ชุดนักบวช?

ผมไม่เห็นออร่าความแข็งแกร่งจากพวกเขา แต่สัญชาตญาณบอกผมว่าพวกเขาสองคนนี้อันตรายที่สุด

ตอนแรกผมไม่ได้กระตือรือร้นนัก แต่จากเหยื่อที่อยู่ตรงหน้า …มันช่วยไม่ได้ที่รอยยิ้มจะปรากฏบนบนหน้า

ผมเลือกที่จะปรากฏตัวต่อหน้ามนุษย์ทั้งหก

“มนุษย์เจ้ามาทำอะไร?”

ขณะถาม ผมใช้ทักษะ <<คำรามอย่างรุนแรง>> ในเวลาเดียวกัน

ชายสองคนคว้าขวานเพื่อเตรียมสู้

แต่นักบวชหญิงและนักดาบชายไม่แสดงปฏิกิริยาใด ๆ

“ทำไมก็อบลินชั้นสูงถึงอยู่ที่นี่!?”

“ดูจากที่มันพูดภาษามนุษย์ได้ …ระดับของมันน่าจะสูงมาก ระวังตัวไว้ด้วยล่ะ!”

เขาก้าวไปข้างหน้าเพื่อปกป้องนักบวช

ผมก็เฝ้าระวังการเคลื่อนไหวของพวกเขา

“อืม… ถ้าเราคุยกันได้ ทำไมเราไม่ลองคุยกันดูล่ะ–––”

ขณะที่หูได้ยินเสียงกระซิบของนักบวชหญิง นักบวชชายก็แทรกเข้ามา

“มันเป็นไปไม่ได้ นั่นมันมอนสเตอร์ คุณก็รู้!”

เมื่อถูกกดดัน นักบวชหญิงจึงถูกบังคับให้ถอย ผมคิดว่าเธอคือจุดอ่อนของกลุ่ม

“ไคเฟน นายจัดการไหวมั้ย?”

ด้วยการตอบสนองต่อคำถามของนักบวช นักดาบชายก้าวมาข้างหน้าด้วยกลิ่นอายที่น่ากดดัน …ชายคนนี้ดูเหมือนจะเป็นนักดาบที่มีประสบการณ์ แต่เขาดูมีอายุประมาณ 20 ปี

ชายคนนั้นถือดาบใหญ่ด้วยมือเดียว

“อย่าเศร้าไปเลย นี่คือโชคชะตา!”

ขณะที่ชายคนนั้นพาดดาบไว้บนบ่า เขาพุ่งเข้ามาและลดระยะระหว่างเรา 10 ก้าวทันที

── แย่แล้ว!

ทันใดนั้นผมก็ขว้างกริชและถอยกลับไปด้านหลัง

ดาบฟาดฟันไปโดนจุดที่ผมเคยอยู่ ทำให้เกิดหลุมขนาดใหญ่บนพื้น

── นี่คือพลังของมนุษย์?

กริชที่ผมโยนถูกผ่าออกเป็นสองซีก ขณะที่นักบวชชายพึมพำอะไรบางอย่างจากข้างหลัง

ไม่มีทางเลือกอื่น ผมต้องสู้กับสัตว์ประหลาดตัวนี้ แต่ถ้าเป็นแบบนี้ …ผมก็มีวิธีที่เหมาะสมอยู่

“จัดการ”

ผมตะโกนด้วยทักษะ <<คำรามอย่างรุนแรง>> เพื่อสั่งให้ก็อบลินขว้างก้อนหิน

แม้จะเป็นเพียงก้อนหินธรรมดา แต่หินขนาดใหญ่พอ ๆ กับกำปั้นถูกโยนออกจากพุ่มไม้ทั้งสองข้างพร้อมกัน

ก้อนหินที่ถูกขว้างไปทำให้ชายสองคนที่ใช้ขวานบาดเจ็บสาหัส

“คุณชินอส!”

“คุณแมนติส!? แย่แล้ว!”

นักบวชชายและนักดาบหญิงได้รับบาดเจ็บจากการปกป้องนักบวช ขณะที่นักดาบชายเพียงแค่สูญเสียจังหวะเล็กน้อย

อย่างไรก็ตามผมไม่ได้พลาดช่องว่างเล็ก ๆ นี่

ผมวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดและฟันดาบลงมาในพริบตา

ดาบของผมกดลงไปในเนื้อก่อนจะหยุดลง ผมใช้ขากระแทกพื้นเพื่อเสริมแรงเหวี่ยงและฟันดาบไปที่คอของเขา

“ก…การอวยพรของพระเจ้า”

มีกำแพงครึ่งวงกลมสีใสที่ปรากฏขึ้น นี่อาจจะเป็นสิ่งที่เรียกว่าเวทมนตร์ แต่การตอบสนองของเขาช้าเกินไป

ร่างของนักดาบล้มลงกับพื้นอย่างช้า ๆ

ผมมองไปยังนักบวชที่อยู่อีกทาง

“ลิลลี่ รีบพาเรเชียหนีไปซะ!”

มีลูกไฟเกิดขึ้นที่ฝ่ามือของนักบวช

“ไฟร์บอล”

ลูกไฟขนาดเท่ากำปั้นพุ่งเข้ามาและผมก็เอี้ยวตัวหลบในเวลาเดียวกัน ก่อนที่จะวิ่งไปหานักบวชและฟันดาบอย่างไม่ลังเล

“แก ไอ้มอนสเตอร์…”

แรงจากการฟันทำให้เครื่องในทะลักออกมาจากท้อง เขาสาปแช่งขณะที่เลือดไหลออกจากปาก

“เราเป็นสาวกของพระเจ้า สักวันกรรมจะต้องตามสนองพวกแก ไอ้ปีศาจ”

ผมแทงนักบวชด้วยดาบอีกครั้ง

นักบวชกรีดร้องราวกับวิญญาณถูกดึงออกจากร่าง

ก่อนที่จะพรากวิญญาณของเขาไป ผมเข้าไปกระซิบที่ด้วยเสียงดังพอที่จะให้เขาได้ยิน

“เจ้ารู้ไหม เด็กสาวที่น่ารักที่กำลังดูพวกเราอยู่? หลังจากฆ่าเจ้าเสร็จ ข้าจะทำอะไรกับพวกเธอ?”

เขาเบิกตากว้างด้วยความตกใจ

ส่วนผมสงสัยว่าผู้หญิงคนไหนที่เขาคิดถึง

ผมดึงดาบออกจากนักบวชและสะบัดเลือดที่เกาะอยู่ …ทำให้มันกระเด็นไปยังใบหน้าของนักดาบหญิง

เธอพยายามชี้ดาบมาที่ผมด้วยมืออันสั่นเทา

เมื่อเห็นดังนั้น ใบหน้าของผมก็บิดเป็นรอยยิ้ม

◆◇◇◆◆◇◇◆

สิ่งของที่ได้รับ : ดาบใหญ่

[เลเวล] 32 -> 43

[ทักษะ] ความชำนาญการใช้ดาบ C- → C+

ผู้แปล : คลาสจากราชาของกลุ่ม → หัวหน้ากลุ่ม (แก้ตามเว็บ)

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด