ตอนที่ 7 คลาส (1)
ผมไม่ใช่คนใจบุญ
มันตรงกันข้ามกับสิ่งที่ลีจีฮเยกำลังคิด
ผู้คนพยักหน้าให้กับเราอย่างยินดีที่มีนักรบสองคนเข้าร่วม
‘มันไม่ถูกต้อง…’
ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ผมจะกลายเป็นโล่เนื้อ
“ถึงฉันจะบอกว่า ฉันจะพาคุณไปยังจุดพัก แต่จริง ๆ แล้วมันไม่มีอะไรมากนัก ที่นี่มีเพียงสองส่วนค่ะ หนึ่งส่วนสำหรับผู้ชายและอีกส่วนสำหรับผู้หญิงที่จะอยู่แยกกัน”
" แค่นี้ก็เพียงพอแล้วครับ”
“ขอบคุณที่พูดแบบนั้นนะคะ ตอนแรกฉันกังวลเล็กน้อย…”
“ไม่ ไม่เลย ผมสิต้องขอบคุณมากกว่า”
“ฮิฮิ งั้นให้ฉันเรียกคุณว่าพี่ด็อกกูได้ไหมคะ?”
“ถ - ถ้าคุณต้องการ…”
“พี่เป็นผู้ชายที่ดีมาก”
ปาร์คด็อกกูผู้ไร้เดียงสาถูกดึงเข้าสู่กับดักน้ำผึ้งที่ลีจีฮเยวางไว้ไปครึ่งทางแล้ว เขาคงรู้สึกดีอย่างแน่นอนเมื่อมีผู้หญิงที่แก่กว่าถึงหกปีเรียกว่า "พี่"
“แล้วคุณล่ะคะ คุณกียอง?”
“ไม่ต้องเป็นทางการมากนักก็ได้ครับ เรียกผมตามที่คุณต้องการได้เลย”
จากมุมหางตา ผมสังเกตเห็นการแสดงออกของจองฮายันที่ดูไม่ดีนัก
“งั้นให้ฉันจะเรียกคุณว่าพี่กียอง ฮิฮิ อ่า! ฮายันคะ คุณต้องมาทางนี้ เราไม่มีกฎเกณฑ์ในการใช้ชีวิตที่นี่ แต่พี่ฮยอนซึงจะบอกทุกอย่างที่คุณควรรู้ ส่วนฉันจะพาฮายันไปและสอนเธอสักสองสามอย่าง ตอนนี้โปรดพักผ่อนให้เพียงพอนะคะ”
" ค่ะ คุณกียองแล้วเจอกันใหม่นะคะ ขอบคุณมากสำหรับวันนี้”
“ครับ แล้วเจอกันใหม่”
" ค่ะ! "
จองฮายันก้มหัวแล้วเธอก็ไปพร้อมกับลีจีฮเย
ดูเหมือนที่นี่จะมีกฎที่ไม่ได้พูดถึงอยู่มากมาย แต่พูดตามตรงผมไม่ได้สนใจมัน
สิ่งที่ผมสนใจคือตอนนี้เราจะดำเนินการอย่างไร
“พี่ไม่คิดว่าที่นี่จะมีชีวิตชีวาเหรอ?”
“นั่นเป็นเรื่องจริง…”
" แล้วมันมีปัญหาอะไรหรือเปล่า? "
“ไม่หรอก มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ แค่…”
" แค่…? "
" อืม ไม่มีอะไรหรอก"
“อย่างนั้นเหรอ…”
ผมไม่พอใจกับการเป็นโล่เนื้อเพื่อให้ที่นี่ปลอดภัย แต่ถ้าผมเปลี่ยนมุมมองของตัวเองสักเล็กน้อย จริง ๆ แล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย
‘ผมจะได้สิ่งที่ต้องการในลักษณะนี้’
สถานที่แห่งนี้จะมอบโอกาสอันไม่มีที่สิ้นสุด
การออกล่าอย่างปลอดภัยกับคิมฮยอนซึงเพื่อช่วยให้ได้คลาสและการพาจองฮายันมาอยู่ข้าง ๆ ผม
บางทีมันอาจจะไม่ใช่การเดินทางที่ราบรื่น แต่นั่นเป็นปัญหาเพียงเล็กน้อย
เช้าวันรุ่งขึ้น คิมฮยอนซึงเรียกหาปาร์คด็อกกูและผม
" หลับสบายดีไหมครับ? "
“ครับ”
ปาร์คด็อกกูตอบคำถามของคิมฮยอนซึงสั้น ๆ
ตอนที่มีเพียงผมกับด็อกกู ผมนอนไม่ค่อยหลับ ดังนั้นนี่เป็นคืนแรกที่เราสามารถพักผ่อนได้เล็กน้อย
ผมรู้คร่าว ๆ ว่าผู้ชายคนนี้พยายามจะทำอะไร แทนที่จะโดนเขาลากเข้าไป ผมจึงเริ่มพูดก่อน
“แต่ที่นี่ผมแทบจะไม่เห็นคนที่สามารถต่อสู้ได้เลย ส่วนใหญ่ไม่เป็นผู้หญิงก็ผู้บาดเจ็บ ไม่ก็คนที่ไม่มีความตั้งใจที่จะต่อสู้นะครับ”
“ครับ มันค่อนข้างน่าอายที่จะยอมรับ”
“สถานที่แห่งนี้เป็นยังไงบ้างครับ?”
นี่เป็นคำถามที่ผมอยากรู้จริง ๆ
หลังจากนั้นไม่นาน คิมฮยอนซึงก็เริ่มพูดอย่างช้า ๆ
“อันที่จริงเราทำได้ไม่ดีนัก”
ตามที่คาดไว้
ผมลูบคางและพูดว่า
“การขาดอาหาร น้ำและการห้ามไม่ให้ใครทะเลาะกัน คุณที่ต้องดูแลเด็กกว่า 30 คนและมันอาจจะมากขึ้นในอนาคต”
“…”
“จนถึงตอนนี้ คุณยังคงพึ่งพาอาหารและน้ำที่คุณสะสมไว้ แต่ทรัพยากรเหล่านี้จะลดน้อยลงและต้องหาวิธีแก้ไขปัญหาอื่น ๆ ทรัพยากรจากจุดเริ่มต้นที่กระจัดกระจาย เรายังต้องจัดการกับมอนสเตอร์ที่อยู่ตรงหน้า แต่ภาระที่อยู่ด้านหลังมีแต่จะเพิ่มขึ้น”
“พวกเขาไม่ใช่ภาระครับ”
“พวกเขาอาจจะไม่ใช่ แต่ในอนาคตพวกเขาจะเป็นเช่นนั้นครับ”
คิมฮยอนซึงไม่ตอบ บางทีเขาอาจจะเห็นด้วยกับผมในระดับหนึ่ง
“พูดตามตรง เมื่อพิจารณาถึงสถานการณ์ที่นี่ ดูเหมือนจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดี”
“พี่จะออกไปงั้นเหรอ?”
ผมส่ายหัวกับคำพูดของปาร์คด็อกกูและพูดว่า
“ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น แต่ถ้าเราอยู่ที่นี่ มันจะไม่ส่งผลดีต่อเรา”
" อา…"
“คุณฮยอนซึง ผมจะไม่พูดว่าเพื่อนคนนี้และผมยอดเยี่ยมขนาดนั้น ที่จริงแล้วทั้งหมดที่ผมทำได้คือยื่นหอกแล้วแทงมันออกไปข้างหน้า”
“…”
“แต่ถึงกระนั้นผมก็สามารถต่อสู้ร่วมกับคนอื่น ๆ ได้ ผู้ชายคนนี้ก็เช่นกัน”
" ขอบคุณ"
ผมแสร้งทำตัวสบาย ๆ แต่ดูเหมือนมันจะค่อนข้างยาก
เราเหนื่อยล้าทั้งร่างกายและจิตใจ ผมสงสัยว่าเราอาจจะถึงขีดจำกัดในไม่ช้า
แม้ว่าคุณจะไม่รู้จักผมและปาร์คด็อกกู แต่คุณคงดีใจที่ได้พบเรา
“ผมไม่ใช่อาสาสมัครครับ”
" อา…"
“ผมคิดว่าผมรู้คร่าว ๆ แล้วว่าคุณต้องการอะไร บางทีสิ่งที่คุณต้องการทำคือให้ทุกคนอยู่รอด ผมเข้าใจวิธีคิดนี้ แต่ผมไม่เหมือนคุณ ผมไม่ใช่คนที่เต็มใจจะเสียสละเพื่อคนอื่น ที่ไม่แม้แต่จะแบ่งปันความยากลำบากกับพวกเรา คุณอาจเรียกมันว่าความเห็นแก่ตัว แต่นั่นคือสิ่งที่ผมคิดครับ…”
“ไม่เลยครับ ผมเข้าใจ แน่นอนว่าทุกคนมีความต้องการของตัวเอง”
การสื่อสารกับเขาราบรื่นกว่าที่ผมคาดไว้
ผมกังวลว่าเขาจะยึดติดกับความชอบธรรม แต่โชคดีที่เขาไม่เป็นเช่นนั้น
“เอาล่ะ ประการแรกเราต้องการทรัพยากรบางส่วนที่เราค้นพบระหว่างเดินทาง”
เขาพยักหน้าเล็กน้อย
เขาคงคิดว่านั่นไม่ใช่ความต้องการที่มากนัก
" และ…"
“…”
“เราอยากจะถูกรวมไว้ในแผนสำหรับอนาคตของคุณด้วย”
ใบหน้าของคิมฮยอนซึงแข็งขึ้นเล็กน้อย
ครู่ต่อมาเขามองมาที่ผมด้วยสีหน้าแปลก ๆ ดูเหมือนเขาจะแปลกใจเล็กน้อย
ไม่นานรอยยิ้มจาง ๆ ก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
“คุณรู้อยู่แล้ว”
“ผู้หญิงแปลกหน้าคนนั้น ตั้งแต่จุดเริ่มต้นให้เบาะแสสองประการแก่เรา : โจมตีและเอาชีวิตรอด นี่อาจเป็นเพียงความคิดส่วนตัวของผมนะครับ แต่ตัวเลือกที่สองนี้ดูเหมือนจะไม่สามารถบรรลุได้ ถ้าคนจำนวนน้อยผูกขาดทรัพยากรจำนวนมาก บางทีมันอาจจะได้ผล แต่ผมจำไม่ได้ว่าเธอพูดอะไรเกี่ยวกับระยะเวลาที่เราจะต้องอาศัยอยู่ที่นี่”
“…”
“หากไม่มีการจำกัดเวลา การรวบรวมผู้รอดชีวิตไว้ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก แน่นอนว่าพวกเขาจะไม่ถูกมอนสเตอร์กิน แต่พวกเขาจะอดตาย มันเป็นข้อสรุปที่ผมได้รับ”
ผมรู้ว่าเขาเป็นผู้ย้อนกลับ ดังนั้นผมแค่บอกทุกอย่างที่เขาควรรู้อยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ผู้ชายคนนี้ดูเหมือนจะชื่นชมในเหตุผลของผมและความจริงที่ว่าผมสามารถสรุปเรื่องราวได้จากการรวบรวมข้อมูลเล็ก ๆ เข้าด้วยกัน
ในความเป็นจริงเมื่อเงยหน้าขึ้น ผมก็เห็นเขาก้มหน้าลงเล็กน้อย
ผมพูดถูก
“ในกรณีนี้ผมยินดีที่จะทำงานร่วมกับคุณ”
“เช่นเดียวกันครับ…”
มือที่ยื่นออกมาของเขาและความรู้สึกไว้วางใจในดวงตาของเขา
เขารู้ว่าผมเข้มแข็งไม่พอ
แต่ในความคิดของเขา ผมอาจจะมีพรสวรรค์ที่เป็นประโยชน์
ตัวอย่างเช่นบุคคลประเภทหนึ่งที่เหมาะสมในการวิเคราะห์หรือเป็นผู้ดูแล
***
“พี่!”
" ฉันรู้แล้ว"
นับตั้งแต่ที่คิมฮยอนซึงเข้าร่วมกับเรา การล่าก็ง่ายขึ้นมาก
แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมด
ตอนนี้ผมมีความเชื่อมากขึ้นในสิ่งที่ดวงตาแห่งจิตใจแสดงให้เห็น
“ด็อกกู!”
" ผมกำลังไปพี่"
เห็นได้ชัดว่าคิมฮยอนซึงมีประสบการณ์ในการใช้ดาบ
บางครั้งเขาจงใจทำผิดพลาดราวกับว่าเขาต้องการซ่อนทักษะของตัวเอง แต่วิธีที่เขาตอบโต้ทุกครั้งที่ปาร์คด็อกกูตกอยู่ในอันตรายทำให้ยากที่จะมองว่าเขาเพิ่งเริ่มใช้ดาบ
'ดี'
ในขณะที่ปาร์คด็อกกูป้องกันมอนสเตอร์หลายตัว ผมกับคิมฮยอนซึงก็จัดการกับพวกมันจากด้านข้าง
พวกมันไวต่อเสียง ดังนั้นเพื่อดึงดูดความสนใจ ปาร์คด็อกกูจึงใช้ดาบกับฟาดโล่ของเขา
ผมยังไม่ชินกับการถือหอกและมือของผมก็สั่น
ตอนแทงมอนสเตอร์ที่วิ่งเข้าใส่ปาร์คด็อกกู หอกก็หลุดออกจากมือของผม
แต่ปาร์คด็อกกูป้องกันมันสำเร็จด้วยโล่ของเขา
“ฮ่า!”
“ดูเหมือนว่าจะเหลืออีกไม่กี่ตัว ให้ฉันดูแลพวกมันเองเถอะ…”
" เข้าใจแล้ว ด็อกกูไปหาอาหารกันเถอะ”
“พี่…คุณคิดว่าเขาทำอะไรเมื่อเขาอยู่บนโลก?”
"ฉันไม่มีความเห็นต่อเรื่องนี้ แต่ฉันสงสัยว่าเขาอาจจะเคยใช้ดาบเมื่ออยู่ที่นั่น ส่วนทักษะของเขาน่าจะเป็นผลมาจากการได้คลาส”
“โอ้ พี่ก็ยอมรับว่าเขาเก่งเรื่องนี้”
คิมฮยอนซึงใช้ความคล่องตัวสูงเพื่อหลบหลีกและโค่นศัตรูด้วยความแม่นยำ
ถ้ามองจากที่ไกล ๆ มันดูเรียบง่าย แต่ในทางปฏิบัติมันยากมาก
สาเหตุที่คิมฮยอนซึงไปข้างหน้าคนเดียว อาจเป็นเพราะว่าปาร์คด็อกกูรู้อยู่แล้วว่าเขามีคลาส
นับตั้งแต่ได้ยินเรื่องนี้ ปาร์คด็อกกูก็ดูเหมือนจะกังวลเล็กน้อย
เขายังไม่ได้ปลดล็อกคลาสใด ๆ และเขารู้สึกเครียดกับมัน
“ฮ่า!”
ในขณะที่คิมฮยอนซึงฆ่ามอนสเตอร์ที่เหลือ ปาร์คด็อกกูสังเกตเขาอย่างเงียบ ๆ
ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
“มีมอนสเตอร์น้อยกว่าที่ผมคาดไว้รอบ ๆ จุดเริ่มต้นนี้”
“บางทีเขาอาจจะเคลียร์พื้นที่นี้ก่อนเรามา”
“พี่หมายถึงคิมฮยอนซึงใช่ไหม?”
" ใช่ ที่นี่มีอาหารมากมาย แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครรอดชีวิต …ถ้ามีผู้รอดชีวิต มันจะไม่มีอาหารเหลือที่นี่”
“ผมไม่คิดว่าพวกเราสามคนจะรักษาความปลอดภัย ณ จุดเริ่มต้นได้”
“นายทำได้ดีแล้ว”
“ไม่เลย ผมไม่ได้ทำอะไรมากนัก ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณผู้ชายคนนั้น”
“ใช่ แต่ไม่ใช่แค่เขาเท่านั้น ถ้าไม่มีนาย มันคงยากกว่านี้มากที่เราจะมาถึงที่นี่”
ผมไม่ได้พูดคำเหล่านั้นออกมาด้วยความสบายใจเท่านั้น
จริงอยู่ที่ปาร์คด็อกกูทำให้เรามาที่นี่ได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าคิมฮยอนซึงจะเก่งแค่ไหน เขาก็เป็นชายเพียงคนเดียวเท่านั้น มันยากสำหรับเขาเช่นกันที่จะจัดการกับมอนสเตอร์ ที่โจมตีเขาทุกทิศทาง
แม้ว่าปาร์คด็อกกูจะยังอยู่ในช่วงเติบโต แต่เขาก็มีศักยภาพพอที่จะพันธมิตรอันยอดเยี่ยม
เป็นตอนที่ผมกำลังตรวจสอบหน้าต่างสถานะว่ามีค่าสถานะเพิ่มขึ้นหรือไม่ ...
"หือ? พี่ครับ”
ผมได้ยินเสียงที่ตกใจของปาร์คด็อกกู ในขณะเดียวกันผมก็เห็นข้อความใหม่ตรงหน้า
[คลาสหลายคลาสถูกปลดล็อก โปรดเลือกคลาสที่คุณต้องการ]
'ยอดเยี่ยม'
มันเร็วกว่าที่ผมคิดไว้
[ดูคลาสที่ปลดล็อกได้แล้ว]
[นักรบ (ทั่วไป) ]
[อาร์เชอร์ (ทั่วไป) ]
[วิซาร์ด (ทั่วไป) ]
[ผู้บัญชาการ (หายาก) ]
คลาสหนึ่งที่น่าดึงดูดเข้ามาในสายตาของผม