ตอนที่ 5 ความทะเยอทะยาน
ท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ ทะเลสาบและลมที่พัดผ่านราวกับกำลังเต้นรำ
บางครั้งโลกก็สวยงามจนผมพูดไม่ออก
อย่างไรก็ตาม…
เมื่อเทียบกับความงามนั้น …สิ่งที่สะท้อนบนทะเลสาบอันสวยงามนี้คือใบหน้าของผม
คมเขี้ยวที่งอกยาวราวกับสัตว์ร้ายและใบหน้าที่น่าเกลียดเกินจะบรรยาย
ผมได้แต่คิดกับตัวเอง
ผมกลายเป็นมอนเตอร์อย่างสมบูรณ์
ริมฝีปากที่บิดงอด้วยความเกลียดชัง …ภาพที่ถูกสะท้อนกลับเป็นก็อบลินที่ยิ้มอย่างชั่วร้าย
“ฝ่าบาท พวกเราจะถึงแล้ว”
ในที่สุดพวกเราก็กลับมายังหมู่บ้าน
◆◇◇
เวลาผ่านไม่นานหลังจากเราล่าออร์คสำเร็จ ในช่วงนั้นผมฝึกเพื่อทำความคุ้นชินกับร่างกายใหม่และสั่งให้ลูกน้องสร้างกับดักเพิ่ม
ผมสอนถึงวิธีทำหลุมพลางและล่าเหยื่อที่ตกลงไปด้วยหอก
แม้มันจะเป็นกับดักง่าย ๆ แต่ความเสียหายที่เราได้รับนั้นลดลงอย่างมาก
ร่างกายของผมมีขนาดใหญ่ขึ้นเมื่อเทียบกับตอนที่เป็นก็อบลินแรร์
เมื่อผมทดสอบร่างกายนี้ มันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทั้งความสามารถในการได้ยิน การมองเห็นและความแข็งแกร่ง
ตัวอย่างเช่น ผมสามารถบีบทริปเปิ้ลบอร์ให้ตายได้ด้วยมือเดียวและฟันดับเบิ้ลเฮดให้ตายในทีเดียว
ยังได้ข้อสรุปอีกด้วยว่า ผมไม่ได้วิวัฒนาการไปเป็นสิ่งมีชีวิตต่างสายพันธุ์
“ก็อบลินยังไงก็เป็นก็อบลิน”
ความจริงที่ผมวิวัฒนาการเป็นก็อบลินชั้นสูงหลังจากฆ่าออร์คนั่นเป็นข้อพิสูจน์ สิ่งที่เหลืออยู่คือการเพิ่มความแข็งแกร่งเพื่อวิวัฒนาการขั้นต่อไป
▲▽▲
ผมถามถึงสิ่งที่ผมกำลังสงสัย …ก็อบลินเพิ่มจำนวนยังไง?
เมื่อเร็ว ๆ นี้ ความทะเยอทะยานของผมเพิ่มมากขึ้น
ความต้องการในการสร้างอาณาจักร
พูดง่าย ๆ คือกองทัพ
ผมไม่พอใจเท่าไหร่กับสถานะในตอนนี้ ผมต้องเพิ่มจำนวนประชากรและพลังของตัวเองด้วย
เพื่อปัจจัยอื่น ๆ เช่น ถ้าลูกน้องของผมหนีไปตั้งกลุ่มเอง การทรยศหักหลัง?
ถึงแม้ …มันจะเป็นเพียงแค่การคาดเดา แต่ผมต้องเตรียมพร้อม
ผมจะเพิ่มประชากรยังไง? คนที่ตอบได้คือผู้อาวุโสสูงสุดในหมู่ก็อบลิน
เมื่อได้ยินที่ก็อบลินอาวุโสอธิบาย ผมจึงเข้าใจว่าก็อบลินกลุ่มนี้คือก็อบลินที่อพยพมาจากจากหมู่บ้านอื่น
ในหมู่บ้านนั้นก็มีก็อบลินเพศเมียและผู้หญิงต่างสายพันธุ์ที่ถูกลักพาตัวมาเพื่อใช้เพิ่มจำนวนประชากร
––– คิดแล้วว่ามันต้องเป็นโลกแฟนตาซีที่โหดร้ายแน่ ๆ
ก่อนหน้านี้ ก็อบลินแรร์ตัวเก่าได้ตั้งกฎว่าห้ามก็อบลินที่ลำดับชั้นต่ำกว่าไม่ให้มีส่วนร่วมในการผสมพันธุ์ ทำให้เกิดความไม่พอใจในหมู่ก็อบลินอายุน้อย ๆ
จริง ๆ แล้วมันเป็นแค่เรื่องไร้สาระ
หมู่บ้านที่เราอพยพมา มันอยู่ใกล้อย่างไม่น่าเชื่อและมีจำนวนเพียง 50 ตัว
ก็อบลินชราและก็อบลินที่เกิดใหม่ประมาณ 30 ตัว
โดยปกติการออกล่าไม่มีการแบ่งแยกชายหญิง
ดูเหมือนก็อบลินกลุ่มนี้จะไม่มีผู้หญิง พวกเขาจึงแยกออกมาเพื่อค้นหามัน
ผมพาลูกน้องกว่า 20 ตัวไปยังหมู่บ้านนั้น
นี่เป็นการสำรวจเพื่อให้รู้ว่ามีใครแข็งแกร่งกว่าผมหรือไม่ในหมู่บ้านแห่งนั้น
ผมสงสัยว่าผู้นำก็อบลินเหล่านั้นจะเป็นยังไง …ยิ่งเรื่องการแยกกลุ่มก่อนหน้า ความสามัคคีของกลุ่มคงไม่ดีนัก แต่ถ้าหากผู้นำอ่อนแอ ผมจะใช้กำลังเข้ายึดครอง
▲▽▲
หมู่บ้านนี้เคยเป็นที่อยู่ของมนุษย์มาก่อนแน่ ๆ สังเกตจากรั้วที่ล้อมอยู่และบ้านที่ใหญ่โตเกินไปสำหรับพวกมัน
พวกมันคงยึดหมู่บ้านนี้มาจากมนุษย์ไม่ก็เผ่าที่อาศัยอยู่ก่อนหน้า
นอกจากนี้ยังมีประตูทิศเหนือ ทิศใต้เป็นทางเข้าออก
หมู่บ้านล้อมรอบไปด้วยป่าที่หนาทึบ ผมเห็นก็อบลินที่โตเต็มวัยเพียงไม่กี่ตัว
สำหรับผู้หญิงก็เช่นกัน เดาว่าพวกเขาอาจจะถูกขังไว้ในบ้านบางหลัง
สำหรับพวกที่หายไป พวกเขาอาจจะไปออกล่า?
อยู่ ๆ ก็มีเสียงดังขึ้น
เมื่อมองไปยังทิศใต้ ผมเห็นพวกก็อบลินเดินผ่านประตูนำโดยก็อบลินแรร์ที่สวมเกราะและถือดาบยาว
หางแถวยังมีก็อบลินประมาณ 20 ตัวและมีสัตว์บางตัวที่คล้ายหมาป่า
อาจจะมีกลุ่มอื่น ๆ อีก ดังนั้นผมควรจะจัดการก่อนที่กำลังเสริมจะมาถึง
ผมยิ้มกว้างจนเขี้ยวเผยออกมาขณะออกคำสั่ง
“เราจะยึดหมู่บ้านนี้”
◇◆◇
ตอนที่ก็อบลินเห็นผมก็เกิดความโกลาหลขึ้น ผมเพียงแค่มองและเดินผ่านอย่างสงบ
ผมตั้งใจให้เป็นแบบนั้น ไม่จำเป็นต้องช้าหรือเร็วเกินไป
ผมเหลือบมองพวกมัน
“กู กุกุรุรู!”
ก็อบลินแรร์กรีดร้องด้วยความหวาดกลัว
“เจ้าเป็นหัวหน้าของกลุ่มนี้?”
ผมถามด้วยเสียงอันน่ากลัว
มันก้าวถอยหลัง …ผมเงยหน้ามองก็อบลินแรร์อีกตัวที่ไม่กล้าแม้แต่จะตอบคำถาม
“งั้น …เจ้า?”
ผมตกใจเล็กน้อยเมื่อมองไปรอบ ๆ และพบว่าพวกก็อบลินเหล่านั้นหวาดกลัวจนไม่สามารถแม้แต่ยืนขึ้นได้
ก็อบลินแรร์ที่อยู่ตรงหน้า ผมไม่แน่ใจว่าพวกมันได้รับผลกระทบแค่ไหน แต่มันแสดงท่าทีหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด
“ช…ใช่”
แม้จะหลีกเลี่ยงการจ้องมอง แต่ชุดเกราะของมันยังสั่นอยู่
“เลือกซะ ยอมแพ้หรือว่าตาย?”
วิธีที่ดีที่สุดที่จะให้ยอมรับ คือยิ่งดุร้ายเท่าไรยิ่งดี เหมือนที่ผมกำลังทำอยู่ตอนนี้
นี่เป็นการสอนให้รู้ถึงลำดับชั้น
“กูรูรรร”
ขณะที่ปล่อยเสียงร้องออกมา พวกมันก็ไม่เหลือความตั้งใจที่จะต่อสู้อีก
อย่างไรก็ตาม ผมดึงดาบยาวออกมาพาดบ่าเพื่อแสดงให้เห็นว่าผมสามารถฆ่ามันได้ตลอดเวลา
…มันวางดาบและหมอบลงกับพื้น มันยอมแพ้อย่างสมบูรณ์
“ข้าขอคำนับแด่ท่าน”
“ได้ ข้ายอมรับ”
ผมมองไปยังพวกที่อยู่ทั้งหมดก่อนจะพูดว่า
“จากนี้ไป ข้าคือราชาของที่นี่!”
นั่นคือก้าวแรกในความทะเยอทะยานของผม