ตอนที่ 417 ร่ายมนต์ใส่เขา
ใบหน้าของเธอดูแย่มากที่สุด
มันเป็นเหมือนระเบิดครั้งใหญ่ที่ถูกผู้ชายที่เธอตกหลุมรักบอกว่าเธอน่ารังเกียจ
คล้ายกับเลือดทุกหยดไหลออกจากใบหน้าของเธอ
“นอกจากนี้ คุณยังเป็นเพื่อนร่วมห้องของเธอ อาศัยอยู่กับเธอมาหลายปีแล้ว มันแย่มากพอที่คุณไม่เชื่อเธอ แต่ยังล้ำเส้นไปไกล แพร่ข่าวลือเกี่ยวกับเธอ ผู้หญิงอย่างคุณ ผมล่ะรังเกียจจริง ๆ”
ใบหน้าของไป่เสี้ยวซีด “คุณค่ะ”
“ฉันให้โอกาสคุณออกไปจากชีวิตของเธอเป็นครั้งสุดท้าย ฉันไม่อยากทำให้เธอต้องเสียใจเพราะคุณเป็นเพื่อนร่วมชั้นด้วยหรอกนะ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าไม่จำเป็นต้องดีกับคุณแล้วสินะ”
ไป่เสี้ยวเข้าใจความหมายแฝงในสิ่งที่เขาพูด
เธอดูหน้าซีดลง ริมฝีปากสั่น
“ฉันไม่ได้เป็นคนพูดก่อน ใคร ๆ ก็พูดแบบนี้ ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลย! ฉันแค่...ฉันแค่เตือนคุณ”
จางอี้เว่ยหน้าซีดเหมือนกระดาษเหมือนกัน
“เฉียวเมียนเมียนนี่ไม่เกี่ยวกับอะไรกับเราเลย ทุกสิ่งที่เสี่ยวเสี้ยวพูดเป็นเรื่องที่ปรากฏในฟอรัมของมหาวิทยาลัยทั้งนั้น เธอจะมาว่าเราไม่ได้นะ ไม่ใช่แค่เราที่รู้เรื่องนี้ ตอนนี้ทั้งมหาวิทยาลัยเขารู้กันไปหมด”
“เธอไม่สามารถตำหนิเราเกี่ยวกับเรื่องนี้งั้นเหรอ!”
พวกเขาสองคนเริ่มตื่นตระหนกหลังจากได้ยินสิ่งที่เหมาเยซื่อพูด
ดูเหมือนว่าเขาต้องการเอาคืน
เมื่อคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับเซินเย่วเย่วและจ้าวหวันถิง พวกเขารู้สึกหนาวสั่น
โดยเฉพาะไป่เสี้ยว.
เธอคิดว่าการเปิดเผยอดีตที่น่าอับอายของเฉียวเมียนเมียนให้ผู้ชายคนนี้รู้ เขาจะโกรธและทิ้งเธอทันที
แต่สิ่งนี้กลับแตกต่างจากที่เธอคาดไว้มาก
ชายคนนี้ไม่เพียงแต่ไม่เชื่อพวกเขาเท่านั้น เขายังบอกด้วยว่าเรื่องเล่านี้ไม่สำคัญ แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องจริงก็ตาม
เขาจะยังคงรักเฉียวเมียนเมียนต่อไป
ไป่เสี้ยวไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะหลงรักเฉียวเมียนเมียนถึงเพียงนี้
มากกระทั่งเขาไม่รู้สึกอะไรเลย หากผู้หญิงที่เขาคบอยู่ด้วยแท้งลูกของผู้ชายคนอื่น
เฉียวเมียนเมียนต้องร่างมนตร์ใส่เขาแน่ ๆ
เหมาเยซื่อไม่ฟังใครเลย
เขาไม่แม้แต่จะเหลือบมองพวกเขาสองคนเป็นครั้งที่สอง
หลังจากพูดจบ เขาโอบแขนรอบตัวเฉียวเมียนเมียน และพาเธอเข้าไปในรถ
ไป่เสี้ยวและจางอี้เหว่ยกำลังจะพุ่งไปข้างหน้าและแก้ตัวเพิ่มเติม
ทว่าเหมาเยซื่อกระแทกประตูใส่หน้าพวกเขา
จากนั้นไม่นาน รถลัมโบกีนี่ก็เคลื่อนตัวและจากไป
พวกเขาหายไปจากสถานที่นั้นภายในเวลาไม่ถึงนาที
จางอี้เว่ยนึกถึงสิ่งที่ชายคนนั้นพูดกับพวกเขาและหันกลับมาตำหนิไป่เสี้ยว
“ฉันบอกให้เธอออกมา ทำไมไม่ยอมออกมา! ไป่เสี้ยวฉันจะต้องตกที่นั่งลำบากก็เพราะเธอ!”
จางอี้เว่ยรู้สึกเสียใจ
จริง ๆ แล้วเธอไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เลย
เธอไม่ได้พูดอะไรเลย ในขณะที่เธอยืนอยู่ข้าง ๆ ไป่เสี้ยว
ไป่เสี้ยวเป็นคนก่อเรื่องทั้งหมดเพียงลำพัง
แต่ตอนนี้เธอได้รับคำตำหนิเพียงเพราะอยู่กับเธอ
นั่นหมายความว่าเธอจะต้องเผชิญกับการลงโทษและผลที่ตามมาด้วยเช่นกัน
เหลือเวลาอีกเพียงครึ่งปี ที่พวกเขาจะเรียนจบ
หากเธอถูกไล่ออกในเวลานี้ ตลอดเวลาหลายปีของการเรียนก็ไร้ผล
และสำหรับเด็กผู้หญิงที่ต้องการมีอาชีพในวงการบันเทิง ความเยาว์วัยของเธอมีความสำคัญเป็นพิเศษ