ตอนที่ 416 เธอยังคงเป็นสิ่งมีค่าที่สุดในใจผม
เธอกำลังจะก้าวไปข้างหน้าเพื่อดึงไป่เสี้ยวออกไปเมื่อเธอพูดจบ
เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าไป่เสี้ยวจะสูญเสียความมีเหตุผลไป เมื่อเธอเห็นว่าเหมาเยซื่อไม่รู้สึกสะทกสะท้านกับทุกสิ่งที่เธอพูดเลย ไป่เสี้ยวสูญเสียความควบคุมตัวเองและตะโกนออกไปอีกว่า
“คุณคะ เฉียวเมียนเมียนเป็นอีตัวที่น่ารักเกียจจริง ๆ นะ เธอน่ะมุ่งแต่คบหากับผู้ชายที่ร่ำรวยและล่อลวงพวกเขา เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีอะไรหรอก...”
เพี้ย!
เธอถูกตบอย่างแรงก่อนที่เธอจะพูดจบ
การตบเข้าที่แก้มของเธออย่างแรง กระทั่งศีรษะของเธอหันไปอีกด้านหนึ่ง ใบหน้าของเธอปรากฏรอยนิ้วมือสีแดงอย่างชัดเจน
จางอี้เว่ยทำหน้าเลิ่กลัก หยุดนิ่งทันที “เฉียวเมียนเมียน เธอ...”
เฉียวเมียนเมียนดึงมือของเธอกลับมาในขณะที่ฝ่ามือของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงจากการกระแทกที่รุนแรง แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงจำนวนแรงที่เธอได้ใช้ไป
เธอจ้องไปที่ไป่เสี้ยวอย่างเย็นชาและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ไป่เสี้ยว ฉันอดทนกับเธอมามากพอแล้วนะ ไม่ใช่เพราะฉันไม่ได้ทำอะไรเธอ มันไม่ได้หมายความว่าเธอจะมาเห่าหอนเหมือนหมาบ้าและทำร้ายฉันแบบนั้นได้ นับจากนี้มิตรภาพสามปีของเราสิ้นสุดลงเพียงเท่านี้ล่ะ”
“ถ้าเธอจะพูดเรื่องไร้สาระอยู่อีกล่ะก็ ต่อไป อย่ามาโทษว่าฉันทำรุนแรงกับเธอล่ะ”
พวกเขาสองคนอยู่ด้วยกันในหอพักเดียวกันเป็นเวลาสองสามปี โดยไม่มีความขัดแย้งใด ๆ
เฉียวเมียนเมียนไม่เคยคิดมาก่อนว่าเธอจะต้องสู้กับเพื่อนร่วมห้องแบบนี้ก่อนที่พวกเขาจะเรียนจบ
และทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพียงเพราะเธอพบกับผู้ชายที่โดดเด่นมากเกินไป
ทำให้เพื่อนร่วมห้องของเธอทุกคนอิจฉาเธอ อย่างไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
เธอพบว่ามันตลกอย่างน่าขันเพียงแค่คิดถึงเรื่องนี้
ความอิจฉาของผู้หญิงเป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในโลก
ไป่เสี้ยวและจางอี้เว่ยเก็บซ่อนมันไว้หลายปี และในที่สุดทุกอย่างก็ถูกเปิดเผยออกมา
ธาตุแท้ของพวกเขาถูกเปิดเผย
เห็นได้ชัดว่าคำพูดและการกระทำที่ดีทั้งหมดของพวกเขาเป็นเพียงการเสแสร้งในขณะนั้นเท่านั้น
ถ้าจะเปรียบเทียบจางอี้เว่ยยังดีกว่าไป่เสี้ยวเสียอีก ดูเหมือนว่าสูญเสียการความคุมและมโนธรรมทั้งหมดของเธอในท้ายที่สุด
เธอดูเหมือนเป็นอีกคนที่เฉียวเมียนเมียนเคยรู้จักในช่วงสองสามปีที่ผ่านมาอย่างสิ้นเชิง
เธอกล้าเดินเข้ามาตรงหน้าเหมาเยซื่อและพูดเรื่องน่าอับอาย ไร้สาระมากมายเกี่ยวกับเธอ เพียงเพราะเธอต้องการให้เหมาเยซื่อเชื่อว่าเธอเป็นผู้หญิงเลวและใจง่าย คงหวังให้เขาเลิกกับเธอล่ะสิ
ก่อนหน้านี้เธอยังคงพยายามทำตัวง่าย ๆ ไม่ถือสาหาความกับเธอ โดยคิดว่าพวกเขาเป็นเพื่อนกันมานาน
แต่ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้นอีกต่อไปแล้ว
“เธอตบฉันเหรอ เฉียวเมียนเมียน?” ไป่เสี้ยวเรียกสติของเธอกลับคืนมา
เธอจับแก้มที่บวมของเธอ ในขณะที่เธอค่อย ๆ หันกลับมาเผชิญหน้า พร้อมกับดวงตาของเธอที่ฉายออกมาอย่างน่าหวาดกลัว
เธอดูราวกับว่าเธอกำลังจะตะครุบเฉียวเมียนเมียนและเข้าตะลุมบอนกับเธอ
เหมาเยซื่อมองเธอด้วยสายตาเย็นชาและรีบเอื้อมมือไปข้างหน้าเพื่อดึงเฉียวเมียนเมียนมาอยู่ข้างหลังเขา เขาปกป้องเธอด้วยร่างกายของเขา
เขามองไปที่ผู้หญิงที่คุกคามต่อหน้าเขาอย่างเย็นชาและพูดด้วยน้ำเสียงที่อัดแน่นไปด้วยความเย็นชา
“เฉียวเมียนเมียนเป็นผู้หญิงของฉัน ไม่ว่าเธอจะมีอดีตยังไง มันก็ไม่สำคัญสำหรับฉัน ฉันไม่สนใจเรื่องเหล่านั้นเลย”
ไป่เสี้ยวจ้องมองเขาด้วยสีหน้าว่างเปล่า ทว่าตกใจ
“และไม่ว่าเธอจะทำสิ่งเหล่านั้นในอดีตหรือไม่ มันก็ไม่สามารถเปลี่ยนความจริงที่ว่าฉันชอบเธอได้หรอกนะ”
“เธอแท้ลูก คุณ...คุณไม่สนใจเรื่องนั้นเลยเหรอคะ?”
ริมฝีปากของไป่เสี้ยวสั่น ขณะที่เธอพูด เธอไม่สามารถยอมรับทัศนคติที่ไม่ไยดีของเขาได้
เหมาเยซื่อหัวเราะอย่างเยือกเย็น
“ถึงเธอจะเคยทำแท้งมาก่อน เธอยังคงเป็นสิ่งมีค่าที่สุดสำหรับฉันอยู่ดี ผู้หญิงที่น่ารังเกียจทั้งภายในและภายนอกอย่างคุณ เทียบกับเธอไม่ได้เลยด้วยซ้ำ”
แม้ว่าเหมาเยซื่อจะไม่ได้ถูกมองว่าเป็นผู้ชายที่สุภาพ แต่เขายังคงรักษามารยาทขั้นพื้นฐานเมื่อต้องพูดคุยกับเด็กผู้หญิง
เขาไม่ค่อยจะบอกกับผู้หญิงไปตรง ๆ ต่อหน้าหรอกว่าเธอน่าเกลียดแบบนี้
คำพูดของเขาทำให้ไป่เสี้ยวสั่นสะท้านอย่างแท้จริง