ตอนที่ 415 ฉันจะให้คุณได้เห็นธาตุแท้ของเธอ
“พยายามจะพูดอะไร ถ้าเป็นเรื่องไร้สาระก็ไม่จำเป็นต้องพูด”
เหมาเยซื่อตัดบทเธอออกไปอย่างหงุดหงิด ก่อนที่เธอจะพูดจบประโยค
ไป่เสี้ยวชะงักไปชั่วขณะ รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแข็งกระด้างขึ้น
เธอมองไปที่ดวงตาที่เย็นชาคู่นั้นเต็มไปด้วยความน่ารำคาญกำลังจ้องมองเธอ เธอรีบพูดโพล่งออกไปอย่างรวดเร็ว “คุณคะ ฉันไม่แน่ใจว่าคุณได้เห็นกระทู้ออนไลน์ของมหาวิทยาลัยของเราหรือยัง มีหลายคนเปิดเผยเรื่องของเฉียวเมียนเมียนสมัยที่เธอเรียน ม.ปลาย อย่างเรื่องที่เธอเดทกับผู้ชายนับไม่ถ้วน เรื่องที่เธอทำแท้ง!”
ไป่เสี้ยวรู้สึกว่าอุณหภูมิรอบตัวเธอลดลงอย่างรวดเร็วในขณะที่เธอพูดจบ ราวกับว่าถูกห่อหุ้มด้วยอากาศเย็นยะเยือกในครั้งเดียว
เธอสะดุ้งเมื่อเงยหน้าขึ้น พบกับดวงตาสีเข้ม สุดแสนจะน่ากลัวคู่นั้นตรงหน้าเธอ
หากเขาสามารถฆ่าได้ คงจะมีแสงสะท้อนของน้ำแข็งที่ก่อให้เกิดมีดสั้นแหลมคมจำนวนมาก
ราวกับว่าทั้งร่างของเธอกลายเป็นภูเขาน้ำแข็งที่เยือกแข็ง ไป่เสี้ยวรู้สึกว่าตัวเองถูกอากาศเย็นปกคลุมตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
เมื่อรู้สึกถึงความกลัวที่คืบคลานเข้ามาจากภายใน เธออดไม่ได้ที่จะถอยห่างออกไปเพียงไม่กี่ก้าว ในขณะที่เธอพยายามพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“คุณ-คุณคะ ทุกอย่างที่ฉันพูดเป็นเรื่องจริงนะ คุณเข้าไปดูเองในฟอรัมออนไลน์ด้วยตัวเองก็ได้ หากว่าคุณไม่เชื่อฉัน มีโพสต์มากมายเกี่ยวกับเฉียวเมียนเมียน และเรื่องทั้งหมดนั้นเขียนโดยเพื่อนที่เรียน ม.ปลายกับเธอทั้งนั้น เธอ-เธอไม่ได้แสนดีอย่างที่คุณคิด”
“โปรดอย่าได้หลงเชื่อเธอเลยค่ะ”
“ฉัน...ฉันแค่..แค่อยากให้คุณตาสว่าง เห็นธาตุแท้ของเธอก็เท่านั้นเอง”
จางอี้เว่ยที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เธอนิ่งเงียบเหมือนลูกแกะ เมื่อเธอเห็นท่าทางที่น่ากลัวของเหมาเยซื่อ
เธอจับแขนของไป่เสี้ยวไว้แน่น พูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลและสั่นเทา
“เสี่ยวเสี้ยวอย่างพูดอะไรอีกเลย ไปกันเถอะ”
แต่ไป่เสี้ยวไม่ต้องการจากไปทั้งแบบนี้
เมื่อมองไปที่ใบหน้าสมบูรณ์แบบและมีเสน่ห์ของเหมาเยซื่อ เธอรู้สึกขุ่นเคือง
เป็นไปได้อย่างไร ที่ผู้หญิงปล่อยตัวและราคาถูกอย่างเฉียวเมียนเมียนจะได้กับผู้ชายที่โดดเด่นเช่นนี้?
ทว่าเธอไม่ได้เหมือนหล่อน
แม้ว่าเธอจะไม่สวยเท่าเฉียวเมียนเมียน แต่เธอสะอาดและบริสุทธิ์กว่าอย่างแน่นอน
อย่างน้อยเธอไม่ทำสิ่งที่น่ารังเกียจเช่นการไปทำแท้งตั้งแต่เรียน ม.ปลายหรอก
แม้ไป่เสี้ยวรู้อย่างชัดเจนว่าผู้ชายที่โดดเด่นตรงหน้าของเธอ จะไม่มีวันตกหลุมรักเธอ
แล้วไงล่ะ.
แม้ว่าจะเป็นไปไม่ได้ระหว่างเธอกับเหมาเยซื่อ แต่เธอไม่สามารถทนได้ที่จะปล่อยให้อีตัวไร้ยางอายเช่นเฉียวเมียนเมียนได้ไปหรอก
“คุณค่ะ ฉันไม่ได้โกหกนะ ฉันพูดความจริง” ไป่เสี้ยวปล่อยแสงสะท้อนที่อัดแน่นไปด้วยความอิจฉาเฉียวเมียนเมียนและสลัดแขนออกจากการเกาะกุมที่แน่นของจางอี้เว่ย แล้วพุ่งเข้าไปใกล้เหมาเยซื่อ
“ทุกคนในมหาวิทยาลัยนี้ต่างก็รู้เรื่องนั้นกันหมด”
“ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน คุณไปถามพวกเขาเหล่านั้นดูก็ได้ พวกเขารู้เรื่องนี้เช่นกัน”
เธอยกมือขึ้น ชี้ไปยังกลุ่มสาว ๆ ที่ยืมมองพวกเขา
ตอนนี้สาว ๆ กำลังนินทาเฉียวเมียนเมียนกันอยู่
อย่างไรก็ตาม เมื่อไป่เสี้ยวชี้นิ้วไปที่พวกเขา ก็พบว่าเหล่าสาว ๆ ทั้งหมดรีบถอยออกห่างสองสามก้าวอย่างรวดเร็ว แสร้งทำเป็นว่าพวกเขาไม่รู้จักเธอ
“เฮ้ นี่อย่าพูดอะไรไร้สาระ ที่เธอพูดมันเป็นเรื่องของเธอ พวกเราเกี่ยวอะไรด้วย”
แม้ว่าพวกเขาจะอิจฉาเฉียวเมียนเมียนไม่แพ้กัน และไม่พอใจที่เธอสามารถหาผู้ชายที่โดดเด่นเช่นนี้ได้ แต่พวกเขาก็ไม่ได้โง่พอจะต่อต้านกับผู้ชายที่ยืนหยัดเพื่อเฉียวเมียนเมียนก่อนหน้านี้
นอกจากนั้นเขายังเคยไล่เพื่อนร่วมห้องของเธอสองคนออกจากมหาวิทยาลัยด้วย
ใคร ๆ ก็บอกว่าชายคนนี้มีอำนาจและร่ำรวยมาก
พวกเขาทุกคนอยู่ปีสุดท้ายกันแล้ว อีกไม่นานก็จะจบการศึกษา พวกเขาไม่ต้องการสร้างปัญหาให้กับตัวเอง
พวกเขาทั้งหมดหันกลับทันทีและเดินออกไป โดยไม่ต้องการเข้าไปมีส่วนร่วมในสถานการณ์ที่ยุ่งยากนั้น
จางอี้เว่ยกลัวว่าเธอจะถูกไป่เสี้ยวลากเข้าไปด้วย จึงพูดขึ้นว่า “เสี่ยวเสี้ยว หยุดพูดเรื่องไร้สาระได้แล้ว โพสต์นั้นไม่มีหลักฐานที่เป็นรูปธรรมนะ เราไม่ควรเชื่อโพสต์พวกนั้นมากเกินไป เราควรไปหาที่นั่งในโรงอาหารก่อนที่อาหารจะมาเสิร์ฟดีกว่านะ”