ตอนที่ 36 บ้าคลั่ง
[เผ่าพันธุ์] ก็อบลิน
[เลเวล] 61
[คลาส] ดยุค , หัวหน้ากลุ่ม
[ทักษะ] <<สั่งการ>> <<ปฏิปักษ์>> <<คำรามอย่างรุนแรง>> <<ความชำนาญการใช้ดาบ B->> <<ความละโมบที่ไม่สิ้นสุด>> <<การจ้องมองจากปีศาจ>> <<จิตวิญญาณของราชัน>> <<ผู้ควบคุมแห่งปัญญา>> <<ดวงตามรกตของงู>> <<การเต้นรำแห่งความตาย>> <<ดวงตาของงูสีชาด>> <<การจัดการเวทมนตร์>> <<นักรบคลั่ง>> <<Third Impact>>
[การคุ้มครองจากพระเจ้า] เทพธิดาแห่งนรก อัลทีเซีย
[แอตทริบิวต์] ความมืด, ความตาย
[สัตว์เลี้ยง] โคโบลชั้นสูง (เลเวล 1) เกรย์วูล์ฟ (เลเวล 1) x2
[สถานะผิดปกติ] <<เสน่ห์ของนักบุญ >>
◇◆◇
[ก็อบลิน] กีก้า
ก็อบลินที่อาศัยอยู่ผู้นำคนก่อนพ่ายแพ้ให้กับออร์ค แต่ปัจจุบันเขาเป็นก็อบลินที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาผู้ใต้บังคับบัญชาของผม เขาเป็นผู้ใช้หอก
[ก็อบลิน] กิกูว
อดีตผู้นำหมู่บ้าน เขาถูกกดดันเพื่อสละตำแหน่งให้กับผม เขาใช้ดาบยาวและค่อนข้างฉลาดถ้าเทียบกับก็อบลินแรร์ทั่วไป
[ก็อบลิน] กิกิ
เป็นที่รู้จักในฐานะผู้ฝึกสัตว์ เขาเลื่อนคลาสในหลังจากการล่ากวางเอเรล เป็นความสามารถที่ค่อนข้างหายากและเขาชอบที่จะใช้ขวาน
[ก็อบลิน] กิโก
ก็อบลินที่มีบาดแผลมากมายทั่วร่าง อาหารส่วนใหญ่มักถูกขโมยโดยเกรย์วูฟ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะติดตามผม เขาเป็นคนที่มีประสบการณ์มากที่สุดในหมู่พวกก็อบลินแรร์
[ก็อบลิน] กิซาร์
ดรูอิด (ก็อบลินแรร์) ผู้ใช้เวทย์ลม ที่เพิ่งเข้ากลุ่มมา
◇◆◇
พวกเราล่าดับเบิ้ลลิซาร์ดและพิคเคิ้ลสแนปในขณะที่มุ่งหน้ากลับบ้าน
ความกังวลของผมยังไม่คลี่คลาย แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรที่ทำได้
ผมควรมุ่งเน้นไปที่สิ่งที่สามารถทำได้ในตอนนี้ นั่นคือการยกระดับของก็อบลิน
ผมเฝ้าดูการต่อสู้ของพวกก็อบลินขณะที่ตัวเองคิด
เหยื่อในวันนี้คือดับเบิ้ลลิซาร์ด
กิโกและก็อบลินสามตัวล้อมรอบเหยื่อจากด้านซ้าย ในขณะที่กิกูวและก็อบลินอีกสามตัวอยู่ด้านขวา ทั้งสองกลุ่มโจมตีดับเบิ้ลลิซาร์ดจากด้านข้างซ้ำๆ
ดับเบิ้ลลิซาร์ดมีขนาดประมาณหกฟุต
การโจมตีของทั้งสองกลุ่มเล็งไปที่เท้าในเวลาเดียวกัน การโจมตีจากทั้งสองทิศทางทำให้มันทำอะไรไม่ถูก
ดาบโค้งคล้ายดาบคาตานะของกิโกและดาบยาวของกิกูวฟันเข้าไปและเลือดพุ่งออกไปในอากาศ บาดแผลที่เพิ่มขึ้นจากการโจมตี มันถูกโจมตีอย่างต่อเนื่องโดยดาบของพวกก็อบลิน
ในขณะที่ดับเบิ้ลลิซาร์ดกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ดาบสองเล่มก็ฟันไปที่คอของมันทำให้การต่อสู้สิ้นสุดลง
ดูเหมือนพวกก็อบลินจะคุ้นเคยกับการประสานงานแล้ว
ในระดับนี้พวกเขาน่าจะจัดการกับออร์คได้อย่างน้อยสองตัว ...
เราเร่งเดินทางเมื่อพวกก็อบลินกินอาหารเสร็จ
เราไปถึงถึงหมู่บ้านในเวลาเที่ยงคืนและกิซาร์ออกมาต้อนรับพวกเรา
“ข้ารู้สึกว่าท่านกำลังรีบ” กิซาร์กล่าวขณะที่มองก็อบลินที่ล้มลงอยู่บนพื้น ถึงเขาเป็นดรูอิดและก็อบลินแรร์ แต่เขามีความคล้ายกับมนุษย์มาก
“มีบางอย่างรบกวนข้า” ผมตอบ
“อืม…ข้าไม่รู้ว่าท่านหมายถึงอะไร แต่อย่างน้อยท่านน่าจะมาดูบ้านใหม่ก่อนเป็นไง?” เขาพูดกลับ
อะไร?
“สร้างใหม่เหรอ”
“มนุษย์ที่ท่านพามาพวกเขาทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างบ้านให้กับก็อบลิน” กิกิตอบ ในขณะที่เขาพาไปที่บ้านหลังใหม่ของผม
ขณะที่เราเดิน ผมฟังรายงานเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นตอนที่ผมออกไปข้างนอก
เส้นทางที่นำไปสู่บริเวณกวางเอเรลนั้นขยายขึ้น ก็อบลินล่ากวางหอกมาระยะหนึ่งแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงมองหาวิธีที่จะทำให้การเดินทางสะดวกสบาย
ฝูงกวางเอเรลอาศัยอยู่ในทิศตะวันตกเฉียงเหนือของทะเลสาบ ก็อบลินชอบล่าพวกมันเพราะมีขนาดร่างกายที่มีขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังล่าเพื่อเพิ่มเลเวล แต่เนื่องจากขนาดของร่างกายมันเช่นกันจึงต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการพาเนื้อกวางกลับมา เมื่อถนนกว้างขึ้นมันน่าจะสะดวกกว่านี้มาก
เมื่อผมฟังรายงานของกิซาร์ จนในที่สุดเราก็มาถึงบ้านที่กล่าวถึงก่อนหน้า
มันให้ความรู้สึกเหมือนบ้านที่ผมเคยอยู่จะใหญ่ขึ้น สิ่งที่เพิ่มขึ้นไม่ใช่สิ่งที่คาดหวังจากงานสามขณะที่ผมจากไป
“นี่มันฟุ่มเฟือยเกินไปรึเปล่า” ผมถาม
“ท่านไร้เดียงสาเกินไป อย่างน้อยเราควรจะใช้ทรัพยากรบ้าง” กิซาร์ตอบ
ผมรู้ แต่ ...
“ข้ามีวิธีของข้า” ผมบ่น
“ก็อาจเป็นเช่นนั้น” กิซาร์ยักไหล่ ขณะที่เขาเปิดประตู
ข้างในผมเจอเรเชียที่นอนกับกัสต้าและซินเธีย ขดตัวเป็นลูกบอลกลมๆ ในอ้อมแขนของเธอ พวกมันดูโตขึ้นกว่าตอนที่ผมจากไป
ลิลลี่อยู่ที่นั่นพร้อมกับผู้หญิงคนอื่นด้วย
ทันทีที่เราเดินเข้าไป เสียงของการเปิดประตูทำให้ลูกเกรย์วูล์ฟทั้งสองมองมาทางผม
“โฮ่ง!”
เสียงของทั้งสองปลุกเรเชียขึ้นมา
“โอ้…ยินดีต้อนรับกลับบ้าน” เรเชียพูดขณะที่เธอขยี้ตา จากนั้นเธอก็กลับไปนอน
ตรงกันข้ามกับท่าทีของเรเชีย ผู้หญิงคนอื่นมองมาที่ผมด้วยสายตาหวาดกลัว
ซินเธียและกัสต้าวิ่งมาเล่นที่เท้าของผม
“…เจ้าอธิบายมาสิ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่นี่” ผมถามอย่างหงุดหงิด
รอยยิ้มซุกซนปรากฏบนใบหน้าของกิซาร์
◆◇◇
ผมอธิบายผลลัพธ์ของการสอดแนมให้กิซาร์และก็อบลินอาวุโสฟัง
“…ข้าไม่รู้แน่ชัด” กิซาร์กล่าว “แต่ฟังจากที่ท่านพูด อาจจะมีราชาคนใหม่กำเนิดขึ้นท่ามกลางเหล่าออร์ค”
ราชา? อืม…ถ้าก็อบลินมีราชาแล้วล่ะก็ พวกมันนก็น่าจะทำได้เช่นกัน…
มันไม่แปลกขนาดนั้น
“ก็อบลินมีเผ่าขนาดใหญ่ทั้งหมดสี่เผ่า แต่พวกออร์คก็มีเช่นกัน” ก็อบลินอาวุโสเริ่มอธิบาย
ตามตำนาน เมื่อมีราชาออร์คกำเนิดขึ้น พวกออร์คทั้งหมดจะรวมตัวกันภายใต้ราชาออร์ค
“ราชาออร์คเป็นที่รู้จักในฐานะภัยพิบัติ มันเกิดมาเพื่อนำพาออร์คออกจากป่าไปโจมตีโลกมนุษย์”
แต่ส่วนที่น่ากลัวที่สุดคือออร์คจะไม่หยุดโจมตี จนกว่าราชาแห่งออร์คจะตาย พวกมันจะเดินหน้าต่อไป แม้แขนขาของพวกจะบาดเจ็บหรือขาด ต่อให้ถูกโจมตีด้วยเวทมนตร์พวกมันก็ไม่หยุด
ราชาออร์ค ... นี่เป็นปัญหายิ่งกว่าการเดินทางไปป้อมปราการแห่งนรกซะอีก
“แบบนี้นี่เอง” ผมพยักหน้า
มีความเป็นไปอย่างมากว่าเหล่าออร์คที่อาศัยอยู่ในพื้นที่หายไปเนื่องจากการกำเนิดของราชาองค์ใหม่
พวกออร์คที่อยู่ภายใต้มันจะกลายเป็นบ้าคลั่งและรวมกันเป็นฝูง
ผมไม่รู้ว่าเป้าหมายของพวกมันคืออะไร
––– แต่นี่ไม่ใช่สถานการณ์ที่ดี
ผมสาปแช่งตัวเองกับความโชคร้ายนี้
“เผ่าออร์คทั้งหมด” ผมพึมพำ
โดยปกติแล้วออร์คจะเคลื่อนที่เป็นกลุ่มๆ ละ 2 ถึง 6 แต่ด้วยการปรากฏตัวของราชาพวกเขาจะรวมกันเป็นฝูงเดียว
หากการต่อสู้เกิดขึ้น พวกเขาแข็งแกร่งพอที่จะคุกคามแม้แต่โลกมนุษย์ ถ้าพวกมันโจมตีหมู่บ้านแห่งนี้…เราคงไม่มีแม้แต่โอกาสรอด
“เจ้าสามารถระบุเส้นทางที่พวกมันผ่านได้หรือไม่” ผมถาม
ก็อบลินอาวุโสส่ายหัว
“ไม่ว่ากรณีใด มันก็ไม่ใช่สิ่งที่เราสามารถต้านทานได้” กิซาร์ยักไหล่
ไม่มีความหวังเลยเหรอ? ถ้าเจอกับมันจริงๆ เราจะต้านทานพวกมันยังไง?
“เจ้ารู้อะไรอีกบ้าง เกี่ยวกับความบ้าคลั่งของออร์ค” ผมถาม
กิซาร์และก็อบลินอาวุโสต่างก็ส่ายหัว
เราขาดข้อมูลมากไป
อย่างน้อยที่สุด เราจะต้องเสริมกำลังการป้องกัน
“ขุดหลุมนอกหมู่บ้านในวันพรุ่งนี้ เราจะสร้างกับดัก” ผมสั่ง
ถ้าเป็นแค่ผมการหลีกเลี่ยงนั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่ถ้ารวมก็อบลินทั้งหมด เราทำได้เพียงสอดแนมและหลีกเลี่ยง
แต่หมู่บ้านเรามีทั้งมนุษย์และก็อบลินเพศเมีย พวกเขาช้าเกินไป การวิ่งหนีจึงไม่ใช่สิ่งที่เราทำได้
“เข้าใจแล้ว” กิซาร์และก็อบลินอาวุโสพยักหน้าอย่างเงียบๆ
ถึงกระนั้น ... สำหรับราชาที่จะเกิดในหมู่ออร์ค ...
ผมจะพ่ายแพ้และถูกล่า …ด้วยความบ้าคลั่งนี่?
หากนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อมอนสเตอร์กลายเป็นราชา... ถ้าสัญชาตญาณทำให้พวกมันบ้าคลั่ง
ก่อนผมจะหลับตาเพื่อยืนยันว่าทักษะ << กบฏ >> เขียนไว้ในค่าสถานะ
หากปรากฏการณ์นั้นเกิดขึ้น ผมจะต่อต้านมันได้หรือไม่
ความรู้สึกราวกับว่าเวทมนตร์ของผมเพิ่มขึ้น เมื่อผมได้ยินเสียงของผู้หญิงคนนั้น จากความมืด แม้ตอนนี้อำนาจของเธอถูกลดออกไปเนื่องจากพรของซีโนเบีย ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วการแทรกแซงของเธอก็จะแข็งแกร่งขึ้นในครั้งต่อไป
ผมต้องการพลังมากขึ้น
พลังที่ไม่ได้เป็นของคนอื่น พลังที่เป็นตัวของผมเอง
“ขอโทษด้วย ข้าขอเวลาท่านสักครู่” เสียงหนึ่งพูด
ลืมตาขึ้น กิกิยืนอยู่ตรงหน้าผมอย่างอ่อนโยน
“ว่ามา” ผมพยักหน้าและเก็บความกังวลไว้กับตัว
“ลอร์ดกิซาร์ กล่าวว่าไม่จำเป็น แต่…”
ผมถามเขาว่ากำลังพูดถึงเรื่องอะไร เมื่อเขาอธิบายผมก็ตกใจ
เห็นได้ชัดว่ามีออร์คพยายามโจมตีมนุษย์ผู้หญิง ในขณะที่ผมหายไป
“อันที่จริงผู้ที่ฆ่ามันคือลอร์ดกิซา” กีก้ากล่าว “ลอร์ดกิซากล่าวว่าเขาจะเป็นผู้ดูแลหมู่บ้านตอนที่ท่านไม่อยู่”
ผมหลับตาและขบคิด
ผมคิดว่าสถานการณ์เช่นนั้นอาจจะเกิดขึ้นวันหนึ่ง แต่เห็นได้ชัดว่า ... ผมไร้เดียงสาเกินไป
ผมระลึกถึงคำปฏิญาณของกิซาร์และรอยยิ้มอันขมขื่นของเขา
“ข้าไม่อยากให้ลอร์ดกิซาร์เป็นคนเดียวที่รับผิดชอบในเรื่องนี้ ข้าจึงจะรับผิดชอบด้วย เป็นพวกข้าที่ตัดสินใจโดยพลการ ดังนั้นข้าจึงมาเพื่อยอมรับความผิด”กิก้าขอร้องและหมอบลงหน้าผม
นั่นเป็นเหตุผลที่เขาสร้างบ้านใหม่
ดูเหมือนว่าพวกก็อบลินจะดูแลเชลยและเห็นได้ชัดว่าผมได้รับการเคารพจากผู้ใต้บังคับบัญชาดีกว่าที่ผมคิด
" ข้าเข้าใจ ข้าจะทำเป็นไม่ได้ยินเรื่องในครั้งนี้” ผมบอกเขา
“ข้ารู้สึกเป็นเกียรติในความใจกว้างขององค์ราชัน” กีก้ากล่าวขอบคุณ
“เจ้าทำได้ดีมากที่แจ้งให้ข้าทราบ”
“ไม่…และเกี่ยวกับการลงโทษของข้า…”
“เนื่องจากข้าจะไม่ถูกลงโทษกิซาร์ เข้าจึงจะไม่ลงโทษเจ้าเช่นเดียวกัน”
“ขอบคุณองค์ราชัน”
ผมให้กิก้ากลับไป แล้วคิดกับตัวเอง
––– ผมต้องกระชับสายบังเหียนให้แน่นกว่าเดิม
ผมมองไปที่เรเชียที่นอนใกล้กับลูกเกรย์วูล์ฟ
ผมจะไม่ประนีประนอมกับพวกเขาในครั้งหน้า
แต่เรื่องนี้จะต้องมีการตรวจสอบ
มีความเป็นไปได้ที่เขาจะไม่พูดความจริงทั้งหมด
ผมมีความหวาดระแวงในก้นบึ้งของหัวใจ ถึงแม้มันจะเป็นแค่เพียงแค่ความเป็นไปได้ก็ตาม
เมื่อคิดดังนั้น …มันทำให้ผมรังเกียจตัวเอง