ตอนที่แล้วตอนที่ 23 ความผิดปกติ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 25 การดวล II

ตอนที่ 24 การดวล I


[เผ่าพันธุ์] ก็อบลิน

[เลเวล] 22

[คลาส] ดยุค , หัวหน้ากลุ่ม

[ทักษะ] <<สั่งการ>> <<ปฏิปักษ์>> <<คำรามอย่างรุนแรง>> <<ความชำนาญการใช้ดาบ B->> <<ความละโมบที่ไม่สิ้นสุด>> <<การจ้องมองจากปีศาจ>> <<จิตวิญญาณของราชัน>> <<ผู้ควบคุมแห่งปัญญา>> <<ดวงตามรกตของงู>> <<การเต้นรำแห่งความตาย>> <<ดวงตาของงูสีชาด>> <<การจัดการเวทมนตร์>> <<นักรบคลั่ง>>

[การคุ้มครองจากพระเจ้า] เทพธิดาแห่งนรก อัลทีเซีย

[แอตทริบิวต์] ความมืด, ความตาย

[สัตว์เลี้ยง] โคโบล (เลเวล 9)

[สถานะผิดปกติ] เสน่ห์ของนักบุญ

◇◆◇

การเดินทางของเราเป็นไปอย่างราบรื่น

หลังจากผ่านไปครึ่งวัน เราก็เดินไปถึงตอนเหนือของทะเลสาบ ระหว่างทางมานี้เราไม่พบเจอมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่ง

ตอนแรกผมยังไม่ได้ตระหนักถึงเรเชียมากนัก

แม้จะมีคนคอยนำทาง แต่การเดินป่าแบบนี้ยากเกินไปสำหรับมนุษย์ การเดินของเธอจึงค่อนข้างช้า

ถ้าเป็นเช่นนั้น เราจะใช้เวลามากเกินไป ดังนั้นผมจึงอุ้มเธอแทน

เธอบ่นทันที แต่ผมเพิกเฉยต่อมันและเร่งความเร็วของก็อบลิน

"เราจะพักกันตอนเที่ยง" ผมประกาศ

มีลมหนาวเย็นพัดผ่านทั่วดินแดนที่รกร้าง

ลมเหล่านี้อาจได้รับการเสริมพลังจากเวทมนตร์ เพื่อแสดงให้เห็นว่าดรูอิดปกครองที่นี่ แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ต้องเดินทางต่อไป

ภายใต้คำแนะนำของก็อบลินอาวุโส ผมวางเรเชียลงและออกคำสั่งให้กลุ่มอย่างระมัดระวัง

“นี่คือที่ที่ดรูอิดอยู่หรือเปล่า?” ผมถามก็อบลินอาวุโส

"ใช่ ข้างหน้าคือต้นไม้ยักษ์ที่เป็นสัญลักษณ์ของดินแดน นี่คือ ...ต้นไม้สวรรค์ซึ่งเป็นบ้านของดรูอิด"

ตามคำพูดของก็อบลินอาวุโส ดรูอิดขุดถ้ำไว้ใต้รากของต้นยักษ์เพื่อสร้างเป็นบ้านของพวกมัน

"แสดงว่านี่คือที่ที่พวกเขาอยู่" ผมพึมพำ

มองจากระยะไกล ต้นไม้สวรรค์ยืนตระหง่านอยู่เหนือทุกสิ่งรอบ ๆ เมื่อเราค่อย ๆ เข้าใกล้ต้นไม้ สภาพแวดล้อมของมันก็แผ่ขยายออกไปเรื่อย ๆ ป่าเขียวชอุ่มสามารถมองเห็นได้กระจายไปทั่ว ในขณะที่รากงอกขึ้นมาโอบรอบหินใกล้เคียง มีต้นไม้ขนาดเล็กถูกเพาะปลูกในดินแดนนั้น ราวกับว่าพวกเขากำลังพยายามที่จะสร้างผืนป่าแห่งใหม่จากพื้นที่ที่ไม่มีอะไร พวกต้นไม้แผ่ยาวไปกว่า 30 เมตรรอบ ๆ

ออกจากป่าเล็ก ๆ สิ่งที่เราเจอกลับเป็นก็อบลินตัวหนึ่ง

มันมองมาที่เราอย่างตื่นตระหนก ก่อนจะวิ่งกลับไปเพื่อเรียกพรรคพวกของมัน

"ดี มันทำให้งานของเราง่ายขึ้น "ผมตั้งข้อสังเกต

เพื่อที่จะทำให้พวกเขายอมจำนน ผมจึงสั่งให้กองพลออกมาจัดขบวน…ไม่มีอะไรเร็วไปกว่าการทำให้ศัตรูของคุณหวาดกลัว

กองทัพของกิโกไปทางขวา กองทัพสัตว์ของกิกิเดินไปทางด้านซ้ายและกองทัพของกิก้าที่อยู่ทางด้านหลังของต้นไม้ เช่นนี้เราจะล้อมต้นไม้ยักษ์ของผืนป่าเล็ก ๆ นี่

ผมยืนรอเงียบ ๆ เพื่อให้อีกฝ่ายปรากฏขึ้น แต่กลายเป็นก็อบลินอาวุโสที่เสนอตัวออกไปแทน

"ราชา ข้ามีเรื่องจะขอร้องท่าน" เขากล่าว

"มันคือเรื่องอะไร? " ผมตอบอย่างห้วน ๆ โดยสายตาของผมยังคงอยู่บนต้นไม้ยักษ์

"มันเป็นเรื่องยากที่จะพูด แต่ดรูอิดที่เป็นหัวหน้ากลุ่มนี้เป็นลูกของข้า" มีคำพูดที่ลังเลในน้ำเสียงของเขา

"เจ้าต้องการให้เขายอมจำนน เพราะเขาเป็นสายเลือดของเจ้า? "

ผมไม่เคยได้ยินเรื่องก็อบลินที่มีอารมณ์ความรู้สึกในฐานะพ่อ

การที่ก็อบลินมีอารมณ์ความเป็นพ่อ? เมื่อพวกก็อบลินเมื่อมีลูกหลาน พวกมันจะปล่อยให้ลูกล่าสัตว์ทันทีที่เกิด ดังนั้นอารมณ์ดังกล่าวจึงไม่ควรจะเป็นไปได้

สำหรับมนุษย์ พวกเขาจะพัฒนาอารมณ์ดังกล่าวผ่านการปกป้องลูกหลานของตัวเองหลังคลอด แต่สำหรับพวกก็อบลิน แม้จะเป็นเด็กแรกเกิดก็ไม่ควรมีอารมณ์ดังกล่าวอยู่ ทำไมล่ะ?

"... มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ หากมีใครบางสักคนต้องออกไป" ก็อบลินอาวุโสตอบ

ก็อบลินอาวุโสไม่ได้ถ่อมตัว หลังจากได้ยินเสียงที่ดุร้ายของผม กลับกันเขาเผชิญหน้ากับผมอย่างแน่วแน่

บางสิ่งบางอย่างดึงสติผมไว้ สิ่งที่ทำให้ผมไม่พอใจในข้อเสนอของก็อบลินอาวุโส อะไรบางอย่างที่ผมไม่รู้ ดังนั้นผมจึงจ้องไปที่เขาอย่างเย็นชาในขณะใช้ความคิด

"ได้!" ผมพูด

ผมมองเห็นความเด็ดเดี่ยวบนแผ่นหลังของก็อบลินอาวุโส เมื่อเขาเดินเข้าไปในต้นไม้ขนาดใหญ่ด้วยตัวเอง

---มีบางอย่างไม่ถูกต้อง

มันเหมือนกับว่ามีหมอกดำอยู่ในหัวควบคุมความคิดของผมไว้

หรือจะเป็นอัลทีเซีย!?

[ทักษะ] << กบฏ>> ใช้งาน

"เจ้าไม่คิดว่าก็อบลินชรานั่นจะทรยศเจ้าบ้างหรือ? เจ้าเด็กน้อย "เสียงในหัวของผมพูด

ผมสั่นศีรษะและยักไหล่ เมื่อมองไปที่ก็อบลินอาวุโสที่แยกออกไป

"ทำตามที่เจ้าต้องการซะ! " ผมตะโกนเพื่อขัดอัลทีเซีย

ก็อบลินอาวุโสหันกลับมามองผม ก่อนจะเข้าไปในต้นไม้ยักษ์คนเดียว

◇◆◆

หลังจากนั้นสักครู่ ก็อบลินอาวุโสก็ออกมาพร้อมก็อบลินอีกตัวหนึ่ง

“โอ้ มีจำนวนไม่น้อยเลยนี่”ก็อบลินตัวนั้นกล่าวอย่างยิ้มแย้ม

แต่ผมรู้ดีว่าตรงกันข้ามกับใบหน้าที่ยิ้มแย้ม เขามีความมั่นใจ ด้วยเสื้อคลุมที่ห่อหุ้มรอบตัวและไม้เท้าที่ทำให้เขาดูน่ากลัวมากขึ้น ก็อบลินตัวนี้ ... ลักษณะของเขาดูใกล้เคียงกับมนุษย์มากกว่า

กับผิวสีแดงนั่น …เขาน่าจะเป็นก็อบลินแรร์

แต่บรรยากาศที่ผมรู้สึกได้

ความรู้สึกนี้บอกว่า …เขาแข็งแกร่ง

"เจ้าคือหัวหน้า? " ผมถาม

ก็อบลินตัวนั้นยืนอยู่ตรงหน้าผมอย่างกล้าหาญ กล่าวอย่างชัดเจนคือมันจะไม่ก้มศีรษะให้กับผม

แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็ยังคงให้คำแนะนำแก่เขาเหมือนเดิม

"ถูกต้อง ข้าเป็นหัวหน้าของเหล่าดรูอิด" เขาตอบ

ระยะทางของพวกเรามีระยะห่างประมาณ 20 ก้าว มันแย่มาก …เพราะนี่ไม่ใช่ระยะที่ผมจะเข้าประชิดได้อย่างรวดเร็ว

"ยอมจำนนซะ แล้วข้าจะไว้ชีวิตแก่ข้าซะ " ผมประกาศ

"ฮ่าฮ่าฮ่า ... เจ้าก็รู้ว่ามันไม่มีความหมาย แล้วยังไงล่ะ? "

หัวหน้าดรูอิดตอบในขณะที่เขาหัวเราะ

"แต่ก็ดี ...หากเจ้าสามารถทำให้ข้าพ่ายแพ้ ข้าจะมอบทุกสิ่งทุกอย่างให้"

การต่อสู้ระหว่างราชา เช่นเดียวกับในหนังสือประวัติศาสตร์ ถ้าการต่อสู้ของราชาถูกตัดสินและจบลง ความสูญเสียที่เกิดขึ้นจะมีน้อยมาก

"ถ้าข้าชนะเจ้ามอบทุกอย่าง แล้วถ้าเจ้าชนะล่ะ? "

เมื่อผมกล่าวจบเพียงชั่วครู่ หัวหน้าของดรูอิดมองมาที่ผมอย่างว่างเปล่า จากนั้นก็เขาหัวเราะและพูดว่า

"ช่างเป็นคนที่น่าตลก ...เจ้าอยากตายงั้นเหรอ!? "

รอยยิ้มเหมือนสัตว์ร้ายปรากฏขึ้นบนใบหน้า มันเหมือนกับว่าเขาเจอเหยื่อที่น่าอร่อย ผมตอบกลับไปว่า

"การพนันจะเกิดขึ้นได้ หากมีสองฝั่งมีสิ่งที่เท่าเทียม"

ผมไม่รู้ว่าทำไมผมถึงพูดแบบนี้ อาจเป็นเพราะรูปลักษณ์ของก็อบลินตัวนี้ใกล้เคียงกับมนุษย์?

"ข้าเข้าใจแล้ว ... ในกรณีนั้น"

ขณะที่หัวหน้าของดรูอิดกำลังคิดอยู่ เรเชียก็เดินออกมา

"นี่! ขอทางหน่อยสิ ฉันมองไม่เห็นอะไรเลย! "

เสียงของเรเชียดูกระปรี้กระเปร่าตลอดเวลา แม้ในสถานการณ์ที่เคร่งเครียดเช่นนี้

ข้างหน้าผม เขาเหมือนกำลังจะหยุดคิด

"... โอ้ นั่นคืออะไรน่ะ? "หัวหน้าดรูอิดถามกับก็อบลินอาวุโสที่อยู่ข้างหลัง

"ผู้หญิงคนนั้นคือเชลยของราชา" ก็อบลินอาวุโสตอบ

"ของเล่น? หรืออีกนัยหนึ่ง? "

"ราชาไม่ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมดังกล่าว ...แต่ท่านดูเหมือนท่านจะชอบพูดคุยกับเธอมาก"

“โอ้?”

เหมือนแสงอันแหลมคมออกมาจากดวงตาของหัวหน้าดรูอิด

"ข้าตัดสินใจแล้ว ข้าต้องการผู้หญิงคนนั้น! "

เรเชียที่กระปรี้กระเปร่าแข็งค้าง

ผมมองเธออย่างและพูดกลับไปว่า

"ขอแสดงความยินดี เจ้าได้รับการร้องขอเป็นการส่วนตัว เจ้าน่าจะยินดีกับมันนะ"

"ห-ห-ห๊ะ คุณกำลังพูดถึงอะไร!? " เรเชียถาม

"รางวัลสำหรับการต่อสู้ของเรา ถ้าข้าชนะ ข้าจะยึดกองกำลังของเขา แต่ถ้าข้าแพ้ ข้าจะมอบเจ้าให้กับเขา"

" ท - ทำไม!! คุณตัดสินใจอะไรด้วยตัวเองแบบนี้! "

ผู้หญิงคนนี้ตระหนักดีว่าเธอเป็นเชลย แต่ผมแทบไม่เคยทำอะไรที่เหมือนกับเธอเป็นนักโทษเลย ดังนั้นผมจึงบอกไปว่า

"ไม่ต้องกังวล ข้าไม่ได้คิดที่จะพ่ายแพ้และข้าไม่มีเจตนาที่จะมอบเจ้าให้กับกับใครทั้งนั้น" ผมปลอบเธอ

"อึก!? " เรเชียยังคงตกใจ

เขาคงไม่ได้ยินเสียงพึมพำของเรเชีย

ใช้มือจับไปที่ดาบใหญ่ ผมจ้องมองศัตรูที่อยู่ข้างหน้า …หัวใจของผมร้อนขึ้น

จากนั้นก็เพ่งสมาธิถึงขีดสุด ผมเน้นความแรงทั้งหมดเพื่อเผชิญกับคู่ต่อสู้ที่อยู่ตรงหน้า

"มา! "

เมื่อเสียงร้องก้องกังวาน การต่อสู้ภายใต้บรรยากาศที่ตึงเครียดก็เริ่มขึ้น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด