ตอนที่ 21 ร่องรอยจากการพ่ายแพ้
[เผ่าพันธุ์] ก็อบลิน
[เลเวล] 14
[คลาส] ดยุค , หัวหน้ากลุ่ม
[ทักษะ] <<สั่งการ>> <<ปฏิปักษ์>> <<คำรามอย่างรุนแรง>> <<ความชำนาญการใช้ดาบ B->> <<ความละโมบที่ไม่สิ้นสุด>> <<การจ้องมองจากปีศาจ>> <<การเชื่อมต่อจิตวิญญาณ>> <<ผู้ควบคุมแห่งปัญญา>> <<ดวงตามรกตของงู>> <<การเต้นรำแห่งความตาย>> <<ดวงตาของงูสีชาด>> <<การจัดการเวทมนตร์>> <<นักรบคลั่ง>>
[การคุ้มครองจากพระเจ้า] เทพธิดาแห่งนรก อัลทีเซีย
[แอตทริบิวต์] ความมืด, ความตาย
[สัตว์เลี้ยง] โคโบล (เลเวล 9)
[สถานะผิดปกติ] เสน่ห์ของนักบุญ
◇◆◇
กลิ่นเลือดคละคลุ้ง
หลังจากที่ไปสมทบกับหน่วยหลัก …เมื่อเราไปถึง การต่อสู้ก็จบลงแล้ว
"ความเสียหายเป็นยังไงบ้าง? " ผมถามขณะยังหอบหายใจอย่างหนัก
"พวกสัตว์เลี้ยงและก็อบลิน 3 ตัวถูกฆ่าตาย" กิโกกล่าวพร้อมคำนับศีรษะลง
"ข้าผิดเอง" ผมพูด
เกรย์วูล์ฟ…ไม่ได้มีตัวแค่เดียว พวกมันอาจจะมีสองตัวหรือมากกว่านั้น ในขณะที่ผมกำลังต่อสู้กับเกรย์วูล์ฟตัวหนึ่ง อีกตัวก็โจมตีพวกก็อบลินจากด้านหลัง
นั่นเป็นสาเหตุที่มันทิ้งผมไปอย่างง่ายดาย
"บ้าเอ๊ย! " ผมกัดฟันและสบถกับตัวเอง ก่อนจะถามว่า
"มีใครบาดเจ็บอีกบ้าง? "
"พวกก็อบลินที่เหลือได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย" กิโกตอบ
"งั้นก็ออกเดินทางเราจะกลับไปหมู่บ้าน" ผมประกาศ
ท้ายที่สุดพวกมันก็ไม่ย้อนกลับมา …เราจึงกลับหมู่บ้านไปได้อย่างปลอดภัย
แต่ความเจ็บปวด …รสขมของความพ่ายแพ้นี่
ผมพ่ายแพ้ต่อพวกมันอย่างหมดท่า
ความอับอายนี้ ...แน่นอนว่าพวกมันจะต้องตอบแทน!
◆◇◇
--- รอยสักงูสีแดงที่ขดรอบแขนขวามีอาการคัน
มันเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ผมพ่ายแพ้ แม้แต่การออกแรงอย่างไม่หยุดพัก แต่ความเหนื่อยล้า …กลับหายไปจากความรู้สึกของผม
[ทักษะ] << นักรบคลั่ง >> ทำงานโดยปราศจากคำสั่ง
เหมือนกองไฟที่แผดเผาอยู่ในอก พลังเวทมนตร์ไหลเวียนไปทั่วร่างกายอย่างบ้าคลั่ง
"ศัตรูอยู่ที่ไหน? " เสียงร้องจากจิตวิญญาณ
"ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า! เอาศัตรูมาให้ข้า! "
มันทำให้ผมกลายเป็นคนเสียสติเมื่อมองเห็นศัตรูอยู่ตรงหน้า
"กวาดล้าง! "
ฆ่าทุกสิ่งทุกอย่าง!
“กูรูวววอาาา...”
ผมจ้องมองไปยังทางที่ผ่านมา ด้านหลังมีเสียงเข้ามาในหู
"ราชา" ก็อบลินอาวุโสกล่าว
ราชา?
[ทักษะ] <<กบฏ>> ทำงาน คุณสามารถต้านทานทักษะของคุณได้
ผมต้องการจะปลดปล่อย …สลายเวทมนตร์เหล่านี้
ทำลายทุกสิ่งที่เห็น! บดขยี้พวกมัน! ฆ่าพวกมัน! ฆ่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้า! ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า--
“โอ๊ววววว!!”
"หยุดซะ! " ผมกัดฟันแน่นและเค้นพลังทั้งหมดเพื่อใช้ทักษะ << กบฏ>>
แล้วก็อบลินอาวุโสพูดอีกครั้งว่า "ราชา"
"กองกำลังเป็นยังไงบ้าง? " ผมถามกลับ โดยในเวลาเดียวกันผมก็สงสัยว่าเสียงของตัวเองสั่นหรือเปล่า
"ในขณะนี้เรายังไม่มีปัญหาใด ๆ " ก็อบลินอาวุโสตอบ
"ข้าเข้าใจแล้ว ... ข้าต้องการอยู่คนเดียวสักพัก ให้ทุกคนออกไปซะ"
"ขอรับ"
อย่างน้อยก็จนกว่าผมจะสงบสติอารมณ์ได้
◇◆◇
เหล่าก็อบลินที่ได้รับบาดเจ็บสามารถไปถึงหมู่บ้านได้อย่างปลอดภัย
ตอนนี้การเพิ่มจำนวนไม่มีปัญหาอะไรหากเทียบกับพื้นที่ที่เหลืออยู่ ผมตัดสินใจที่จะแบ่งเขตพื้นที่ดังนี้
ตรงกลางลานโล่งมีก้อนหินและกิ่งไม้ไว้ใช้จุดไฟเป็นที่ประชุม ทางเหนือเป็นจุดขังนักโทษ ทิศตะวันออกเป็นที่อยู่ของผม ผมตัดสินใจที่จะให้พวกก็อบลินที่วิวัฒนาการแล้วพักอยู่ใกล้ ๆ ในขณะที่ก็อบลินที่เหลือจะอาศัยอยู่ข้างรั้ว
ผมตัดสินใจในแบบนี้เพื่อให้ง่ายต่อการกระจายคำสั่งได้อย่างรวดเร็ว
สำหรับพวกก็อบลินที่ต่อสู้ไม่ได้ ผมให้ทิศตะวันตกเป็นที่อยู่ของพวกเขา
แม้จะมีทั้งกำลังพลที่ต่อสู้ได้และต่อสู้ไม่ได้ก็ตาม แต่การมีก็อบลินจำนวนมากเพิ่มเข้ามา จะทำให้หมู่บ้านเกิดการเปลี่ยนแปลง
มีก็อบลินทั้งหมด 92 ตัวในหมู่บ้าน ถึงจะดูเยอะ แต่พวกเขายังไม่แข็งแกร่งมากนัก ผมส่งคนไปเรียกกิโกเพื่อหาวิธีตอบโต้กับเกรย์วูล์ฟ
ถึงพวกมันจะไม่สามารถทำลายหมู่บ้านได้ แต่มันก็อาจจะอุปสรรคในอนาคต
ในขณะเดียวกันผมสั่งให้พวกก็อบลินขยายพื้นที่ไปทางทิศตะวันตกและทิศตะวันออก
ตอนนี้ผมรู้ว่ามีเกรย์วูล์ฟอยู่สองตัว ผมต้องหาวิธีรับมือ
ผมเดินในขณะขบคิด ก่อนจะพบว่าตัวเองอยู่หน้าห้องขังของเรเชีย
“มานี่ ๆ ซิ มานี่มา”
เสียงฟังดูคุ้น ๆ
ผมขมวดคิ้วขณะมองที่ต้นเสียง ผมเห็นโคโบลและเรเชียที่กำลังป้อนอาหารให้มัน
ทันใดนั้นโคโบลวิ่งไปรอบ ๆ และสั่นหาง
มันดูมึนเมาอย่างสมบูรณ์ …สภาพที่ไม่แตกต่างจากสุนัข
โคโบลก็สังเกตเห็นผมเช่นกัน ก่อนที่มันจะสั่นหางและวิ่งมาเล่นที่เท้าของผม
แต่แม้จะทำเช่นนั้น มันก็ไม่ปล่อยกระดูกที่คาบไว้
[ทักษะ] << ดวงตาของงูสีชาด>> ทำงาน
[เผ่าพันธุ์] โคโบล
[เลเวล] 9
[คลาส] เด็ก
[ทักษะ] <<ตะกละ>> <<กินทุกอย่าง>> <<กินจุ>>
[การคุ้มครองจากพระเจ้า] ไม่มี
[แอตทริบิวต์] ไม่มี
[เจ้าของ] เป็นสัตว์เลี้ยงของก็อบลินดยุค
ผมควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ความสามารถของมันทำได้แค่กินอย่างแท้จริง
ขณะที่ผมสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก็มีเสียงร้องดังออกมาจากภายใน
"คุณกลับมาแล้วเหรอคะ? "
"ใช่ แต่มีพวกเราบางคนได้รับบาดเจ็บ"
เมื่อสงบใจลงได้ในระดับหนึ่ง ผมเข้าไปในห้องขัง
◇◆◆
"มันช่างบ้าบอจริง ๆ? "
ก็อบลินที่อยู่ข้างหน้าฉัน ตอบด้วยรอยยิ้มเหมือนกับการเยาะเย้ยตัวเอง
"ข้าสูญเสียพวกก็อบลินบางส่วน... แต่ "
กล่าวอีกนัยหนึ่งคุณรู้สึกหดหู่? แม้ว่าคุณจะเป็นมอนสเตอร์?
นับตั้งแต่ที่ฉันได้รับการคุ้มครองจากเทพธิดาแห่งการรักษา ฉันได้รับสิทธิพิเศษมากมาย การศึกษาที่ดีที่สุด การยกเว้นจากภาษีในประเทศต่าง ๆ การได้เข้าร่วมกิลด์และอื่น ๆ
หนึ่งในสิ่งที่ฉันได้รับคือความสามารถในการมองผ่านคำโกหก ไม่ว่าจะเป็นใครหรืออะไรก็ตาม ตราบใดที่พวกเขามีสติปัญญา สิ่งที่พวกเขาคิดจะแสดงออกมาทางสายตา
แต่เมื่อฉันก็มองดวงตาของก็อบลินตัวนี้...
เป็นเรื่องธรรมดาในสังคมมนุษย์ ว่ามอนสเตอร์ไม่มีนิยามอะไรนอกจากคำว่าโหดร้าย ไม่มีความรู้สึก ไม่มีความสนิทสนม พวกมันแค่ทำตามสัญชาตญาณ
แต่...ก็อบลินตัวนี้!? นับตั้งแต่ที่ฉันถูกจับมา
เขาไม่ได้ทำอะไรเลย …นอกจากทำลายสามัญสำนึกของฉัน มันช่างน่าตกใจและครั้งนี้ก็เช่นกัน
ตอนที่ออร์คโจมตีก็ด้วย แม้จะเห็นได้ชัดเจนว่าก็อบลินมีความแข็งแกร่งที่น้อยกว่า แต่เขายังคงมุ่งมั่นที่จะต่อต้านพวกมัน
เขาขอให้ฉันรักษาพวกลูกน้องก่อน …ทั้งที่ตัวเองบาดเจ็บ
ภาพลักษณ์ของเขาเมื่อเขาประกาศตัวว่าตัวเองเป็นราชา...
ถ้าเพียงเขาเป็นมนุษย์ เขาก็จะได้รับการยกย่องว่าเป็นราชาที่ดีตลอดหลายชั่วอายุคน และถูกบันทึกลงในหน้าประวัติศาสตร์
เท่าที่ฉันรู้จัก พวกขุนนางมักคลั่งไคล้ตำแหน่งจนละเลยคนข้างตัว พวกราชวงศ์ที่จะกักขังญาติตัวเองเพื่อปกป้องตำแหน่ง ข้าราชการที่ยักยอกทรัพย์และทำทุกสิ่งเพื่อตัวเอง คนธรรมดาที่ทรยศแม้กระทั่งเพื่อนสนิทของเขาสำหรับทองเพียงเล็กน้อย
ทำไม? ทำไมทุกคน?
ฉันเกลียดชังบรรยากาศแบบนั้น นี่คือเหตุผลที่ฉันหวังว่าจะทำงานที่โบสถ์หรือที่ไหนสักแห่งใกล้ชายแดน
ในฐานะคนที่ได้รับการยอมรับจากท่านซีโนเบีย ฉันมาช่วยเหลือคนที่ถูกลักพาตัวเมื่อเข้าไปในป่าทมิฬ ...ในตอนนั้นเองก็มีก็อบลินตัวหนึ่งอยู่ตรงหน้า …ผู้ซึ่งเรียกตัวเองว่าเป็นราชาก็อบลิน
ในตอนแรกฉันจึงมองโลกในแง่ร้าย
…แต่เมื่อฉันเริ่มทำความคุ้นเคยกับเขา
ก็อบลินตรงหน้าไม่ได้ทำตัวเหมือนมอนสเตอร์ทั่วไป แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง ฉันรู้สึกว่าก็อบลินตัวนี้…เป็นมนุษย์ ... ฉันรู้สึกได้ถึงคำพูด ...รู้สึกได้ถึงร่องรอยของอารมณ์ที่ซับซ้อน
นี่เป็นก็อบลินใช้สามัญสำนึกแบบกลับหัวกลับหาง
และในช่วงเวลาสั้น ๆ ที่ฉันได้อยู่ที่นี่ ... ฉันพบว่าเขามีความเป็นมนุษย์มากกว่ามนุษย์เอง
แต่อย่างไรก็ตาม ...ฉันก็ยังเป็นมนุษย์ ถ้าพวกเขาต่อสู้กัน ฉันคงไม่สามารถยืนข้างพวกเขาได้
ฉันได้แต่อธิษฐาน ข้อร้องล่ะ ได้โปรด…อย่าสู้กับมนุษย์เลย
◆◇◇
ผมฝัน
ความฝันที่ผู้หญิงคนหนึ่งใช้ดาบเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาด
มอนสเตอร์สูงตระหง่านที่มีขนาดใหญ่โต แต่หญิงสาวผู้กล้าหาญไม่เห็นด้วย เธอพยายามต่อต้านสัตว์ประหลาดด้วยดาบในมือ
หญิงสาวแลกเปลี่ยนการโจมตีกับสัตว์ประหลาดไปมา
.
.
.
เธอหอบหายใจอย่างเหน็ดเหนื่อยและดาบของเธอก็หักลง
เมื่อผมคิดว่าเธอกำลังจะพ่ายแพ้
สัตว์ประหลาดที่โหดร้ายปะทะกับหญิงสาวที่อ่อนแอ ใคร ๆ ที่เห็นก็คงเชื่อเช่นนั้น
แต่ผู้หญิงคนนี้ไม่มีร่องรอยของความหวาดกลัว
เธอพยายามต่อต้านมันด้วยดาบหักในมือ
และแล้วเธอก็มาถึง …หน้าอกของมัน
ในทันใดนั้นใบดาบใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ
ดาบของหญิงสาวแทงเข้าไปในอกของสัตว์ประหลาด
มันอาจจะเป็นความฝันที่สวยงาม ถ้าใบหน้าของสัตว์ประหลาดนั่น …ไม่ใช่ใบหน้าของผม
ดาบเปลวไฟในมือของผมก็แทงเข้าไปที่อกของหญิงสาว
จากนั้นก็มีเสียงพูด
"นี่คือโชคชะตา…โชคชะตาของคุณ"
“อึ๊ก--”
ผมตื่นขึ้นมาพร้อมกับเหงื่อที่เปียกโชก
ในยามค่ำคืนที่ดวงจันทร์และดวงดาวสว่างไสว
เสียงพูดนั่น ...เป็นของใคร?
ชะตากรรม??
จะบอกผมจะถูกฆ่า?
ขณะที่ดวงจันทร์สีแดงสองดวงสว่างไสวบนท้องฟ้า ผมลุกขึ้นยืนเพื่อปล่อยให้ลมตอนพัดผ่าน
ขณะที่ผมเดินไปอย่างไร้ทิศทาง ผมพบว่าตัวเองหวาดระแวงต่อทุกสิ่งทุกอย่าง …โดยไม่รู้ตัว ผมกลับมาอยู่หน้าห้องขังของเรเชียอีกครั้ง
นับตั้งแต่ที่ผมกลายเป็นก็อบลิน ผมสามารถมองเห็นได้ในที่มืด มันเป็นความสามารถขที่ค่อนข้างสะดวกสบาย
แต่เมื่อผมเดินเข้าไปใกล้ ๆ สิ่งที่สะท้อนกลับมา ...เธอกำลังอธิษฐาน
อธิษฐานต่อดวงจันทร์สีแดงเข้มทั้งสอง
"เจ้ากำลังสาปแช่งข้าเหรอ? " ผมถามติดตลก
ตาของเธอเปิดออกเล็กน้อย แต่ตอบสนองของเธอทำให้ผมตกใจ
"ใคร? " เธอถาม
โดยปกติ ใบหน้าของเรเชียอย่างน้อยจะแสดงความไม่พอใจบางอย่าง ความโกรธหรือความเศร้า แต่ตอนนี้ …มันว่างเปล่าอย่างสมบูรณ์
"คงไม่มีเจ็บปวดไปกว่าการถูกดาบแทงใช่มั้ย? " นั่นเป็นเสียงของเรเชีย แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง ผมรู้สึกถึงสิ่งที่ต่างออกไป …เมื่อดวงตาม่วงนั่นจ้องมองมา
ร่างกายของผมแข็งค้าง
แขนขาของแข็งทื่อ ...ความรู้สึกแบบนี้!?
ผมเรียกใช้ทักษะ <<กบฏ>> เพื่อต่อต้านอย่างเต็มกำลัง
ในตอนนั้นก็มีเสียงกรีดร้องดังก้องอยู่ภายใน
"ซีโนเบีย!! "
ความคิดของเทพธิดาแห่งนรกรุกล้ำเข้ามาในหัวทำให้ผมไม่สามารถควบคุมร่างกายได้
"ข้าวิงวอนปัดเป่าเจ้าให้มีแต่ความสงบ"
หลังจากที่เธออธิษฐาน นั่นก็ทำให้เทพธิดาแห่งนรกหายไป
ผมคุกเข่าลงโดยมีเหงื่อไหลจากหน้าผาก คนตรงหน้าคงไม่ใช่ใครอื่น …ถ้าไม่ใช่เทพธิดาแห่งการรักษา ซีโนเบีย
"เจ้าดูทรมานนะ" เธอกล่าว
"…ข้าไม่เป็นไร" ผมพยายามตอบกลับ แต่โชคร้ายที่ร่างกายไม่สามารถขยับได้
"ทำไมเจ้าถึงปฏิเสธโชคชะตาล่ะ? " เธอถาม
"แล้วทำไมข้าต้องยอมรับมัน? "
ผมคิดว่าได้ยินเสียงถอนหายใจของเธอ แต่ผมไม่สามารถคาดเดาได้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่
“พี่สาวของข้ารังเกียจโชคชะตาที่เธอได้รับ เป็นอีกครั้งที่เธอต่อต้าน... เจ้าไม่คิดว่ามันโง่เขลาหรือ?”เทพธิดากล่าว
"แล้วทำไมพวกเจ้าไม่ปล่อยพวกเราไป ทั้งข้าหรือแม้แต่เรเชียก็ด้วย! "
"... ที่มาของอำนาจที่เจ้าต่อต้าน (กบฏ) ไม่ใช่สิ่งที่จะแก้ไขได้ ในความเป็นจริงมันมาถึงขีดจำกัดของตัวมันเองแล้ว "
เป็นเทพธิดากล่าว …ขณะใช้นิ้วมือแตะไปที่หน้าผากของผม
"เจ้าจะไม่มีทางหลุดพ้นจากเสน่ห์ของนักบุญ" เทพธิดาประกาศ
…พวกเธอต้องการเหยียบย่ำผมอีกครั้ง!?
เสน่ห์ของนักบุญที่ผมละเลย ได้ปลดปล่อยพลังอันยิ่งใหญ่กดทับผมอย่างหนัก
"อ๊าาา...าาาก... " ผมกรีดร้อง
ผมพยายามลุกขึ้นยืน แต่ก็ล้มเหลวและล้มลงไปแทน
เทพธิดาผู้ซ่อนอยู่ในร่างของเรเชียมองมาที่ผม
"นี่ไม่ใช่สถานการณ์ที่ข้าจะพูดแบบนี้ แต่โปรดดูแลเด็กคนนี้ด้วย" เทพธิดากล่าว เมื่อเธอเข้ามาใกล้
"อีกนานเท่าไหร่ พวกคุณถึงจะหยุดเล่นกับชะตากรรมของเรา! " ผมตะโกน
นิ้วเรืองแสงของเรเชียหันมาทางผมอีกครั้ง เมื่อนิ้วของเธอถูกเจาะเข้าไปในทรวงอก ผมรู้สึกว่ามีบางอย่างเปลี่ยนแปลงไป
"นี่คือของขวัญจากข้า มันอาจจะปลดปล่อยเจ้าจากคำสาปจาก ... ท่านพี-พี่ ... "เทพธิดาพูดขณะที่เสียงของเธอจางหายไปอย่างช้า ๆ
"แต่คุณควรจะดูแลตัวเอง ยิ่งคุณใช้เวทมนตร์มากเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งใกล้ชิดกับพี่สาวของข้ามากขึ้นเท่านั้น พี่สาวของข้าเป็นที่รู้จักกันในนามเทพธิดาแห่งการก่อกบฏ เธอเป็นปฏิปักษ์ต่อท่านพ่อ นั่นเป็นเหตุผลที่ ... ได้โปรด... ปกป้อง... ลูกสาวที่รักของข้า... "
หลังจากนั้น สิ่งเดียวที่ผมได้ยินคือเสียงหายใจของเรเชียขณะที่เธอนอนหลับ
... ไม่นานหลังจากนั้น ผมก็สังเกตว่าแขนขาสามารถเคลื่อนไหวได้อีกครั้ง และเสียงของเทพธิดาแห่งนรกไม่ได้สะท้อนอยู่ในหัวอีกต่อไป
ผมเหยียดมือไปที่ดวงจันทร์สีแดงเข้ม
ซีโนเบีย ...
คุณบอกว่ามันเป็นเรื่องโง่เขลาของผมที่จะต่อต้านชะตากรรม และคุณที่บอกให้ผมปกป้องเรเชีย
แต่ชะตากรรมที่ผมเห็น คุณไม่รู้หรือ ...ใบหน้าของหญิงสาวคนนั้นที่คว้าดาบ?
หญิงสาวที่ร้องไห้ …นั่นเป็นใบหน้าของเรเชีย
ถ้าคุณบอกผมเพื่อปกป้องสิ่งนั้น
ผมก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต่อต้านคุณและพี่น้องของคุณเอง
ผมจะไม่ตายและผมจะไม่ฆ่าเรเชีย หากการต่อต้านพระเจ้าจะเป็นการกบฏต่อโชคชะตาก็ไม่เป็นไร
ผมยินดีที่จะต่อต้านมัน
◆◇◇◆◆◇◇◆
ผลของ [ทักษะ] <<เสน่ห์ของนักบุญ >> เพิ่มขึ้น
เนื่องจากการพรของเทพธิดาแห่งการรักษา ซีโนเบีย การควบคุมของเทพธิดาแห่งนรกจะลดลง