ตอนที่ 2 เอาชนะ
ถึงจะลดความหิวไปได้ไม่มาก แต่มันก็พอจะทำให้ผ่านคืนนี้ไปได้
จำนวนของเหยื่อที่ผมล่าได้ในวันนี้ คือกระต่าย 2 ตัว กบและจิ้งจกอีกอย่างละ 1 ตัว
การกินอาหารแบบนี้ …ถ้าผมยังเป็นมนุษย์อยู่ …
แต่ตอนนี้ …ผมกลายเป็นสัตว์ประหลาดไปแล้ว
การเห็นรูปร่างที่น่าเกลียดนี่กลายเป็นเรื่องที่ชินได้บ้าง …อย่างน้อย มันก็ไม่ทำให้ผมสั่นเมื่อเห็นตัวเอง
นอกจากนี้ ไม่ใช่ว่ามันจะมีแต่เรื่องที่แย่ ผมสังเกตเห็นตั้งแต่ตอนที่ออกล่าว่า …ร่างกายของก็อบลินแข็งแรงกว่ามนุษย์
ดวงตาที่มองเห็นในความมืด กรงเล็บที่สามารถฉีกกระชากเหยื่อ ความสามารถดังกล่าวไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกับมนุษย์ที่อ่อนแอได้เลย
นอกจากนี้ยังไม่ต้องกลัวเมื่อกินของสกปรก ภูมิต้านทานของก็อบลินเป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อ
จริง ๆ แล้วผมอาจจะสามารถใช้ชีวิตที่เหลืออยู่แบบไม่มีปัญหาเลย …ร่างกายนี้เอาตัวรอดง่ายกว่ามนุษย์ซะอีก
ถึงจะคิดอย่างนั้นก็ตาม …แต่ไม่ใช่ว่าผมอยากจะเป็นมอนสเตอร์หรอกนะ
ตอนนี้ผมต้องคิดว่าควรทำอะไรต่อไปดี
ผมเคยอ่านบางอย่างที่ใกล้เคียงกับสถานการณ์เช่นนี้ มันเป็นนิยายเกี่ยวกับชายคนหนึ่งที่กลายเป็นสัตว์ประหลาด
ในเรื่องชายคนนั้นกลายเป็นบ้า เขาไม่ได้กลายเป็นสัตว์ประหลาดเพียงแต่ร่างกาย เขาเจอเหตุการณ์เลวร้ายต่าง ๆ นา ๆ จนกระทั่งจิตใจของเขากลายเป็นสัตว์ประหลาดจริง ๆ
ผมไม่ต้องการที่จะจบลงเช่นนั้น…
ผมคิดทบทวนถึงเรื่องราวเมื่อเช้า ไม่ใช่ว่าก็อบลินตัวนั้นพูดได้?
“อาหาร จับ…”
ไม่สิ มันพูดแน่นอน ถ้าเป็นแบบนั้นแสดงว่าผมก็สามารถพูดได้?
นอกจากนี้เป็นไปได้มั้ยว่า ยังมีก็อบลินตัวอื่นอยู่อีก? เพราะถ้าพวกมันอยู่ที่นี่ คงมีทางที่ผมจะหาข้อมูลเพิ่มเติม?
ด้วยข้อสรุปดังกล่าว ผมหยิบกระต่ายและกำลังจะเดินเข้าไปในถ้ำ
มีความรู้สึกหนาวเย็นไหลผ่านกระดูกสันหลังทำให้ผมหยุดเดิน ขณะที่ความรู้สึกดังกล่าวกำลังลุกลาม ผมก็รีบกระโดดหลบเข้าไปในพุ่มไม้
ความหวาดกลัวปกคลุมทั่วร่างกาย
ความอยากรู้อยากเห็นปะปนไปกับความเครียด มีเสียงแหลมเข้ามาในหู …ในเวลาเดียวกันผมเห็นแมงมุมยักษ์ขนาดประมาณสองเมตรเดินมาอย่างช้า ๆ
หัวใจอันหนาวเหน็บ แขนขาผมกลับสั่นอย่างช่วยไม่ได้
ผมมีคำถามเกี่ยวกับมอนเตอร์นั่น…แต่สัญญาชาติญาณบอกให้ผมหยุดนิ่ง
ดวงตาสีแดงทั้ง 6 ข้างมองไปรอบ ๆ ขณะที่มันมองหาเหยื่อโดยใช้ขาทั้ง 6 ที่เหมือนกับของมนุษย์
“คะซ่าาาา!”
ขณะที่ผมคิดแบบนั้น มันกระโดดไปยังพุ่มไม้ที่อยู่ตรงกันข้ามกับผม
“กูว~!”
สิ่งมีชีวิตที่อยู่ในพุ่มไม้ตรงข้ามร้องอย่างตกใจ สัตว์ที่มีหัวคล้ายหมูป่าและมีขาสองข้างเหมือนมนุษย์ หรือพูดอีกอย่างมันคือ ‘ออร์ค’
ออร์คพยายามวิ่งหนีด้วยความตกใจ แต่แมงมุมยักษ์เร็วเกินกว่าที่จะหลบได้
มันลากออร์คไปยังมุมหนึ่งด้วยขาทั้งหกข้าง จากนั้นมันก็ใช้ปากกัดเข้าไปที่หัวของออร์คด้วยเสียงอันดัง
“กร๊วบ”
กะโหลกที่ถูกบดขยี้ น้ำไขกระดูกและเลือดที่ไหลเข้าไปในปาก ขณะเดียวกันที่ชิ้นส่วนต่าง ๆ ของออร์คก็ถูกฉีกกระชาก
ก่อนที่มันจะจากไปหลังจากอาหารมื้อนี้จบลง
เมื่อเห็นการล่าของมอนสเตอร์ที่อยู่สูงสุดของห่วงโซ่อาหารด้วยตัวเอง …ร่างกายของผมจึงไม่หยุดสั่น
อย่างไรก็ตาม ผมรวบรวมความกล้าเพื่อจากไปเงียบ ๆ และวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดเท่าที่จะทำได้
ผมที่ใช้ชีวิตแบบมนุษย์มาตลอด ตอนนี้ผมได้รู้จักกับกฎของป่าแล้ว
△▼△
“กี๊ ๆ!”
เสียงที่ไม่อาจเข้าใจได้ออกจากปากผมขณะกำลังวิ่ง
เมื่อถึงปากถ้ำ ช่วยไม่ได้ที่ผมจะรู้สึกลังเลกับการเข้าไปในที่มืด ๆ และแคบนี้ แต่ผมไม่สามารถเสียเวลาสำหรับแมงมุมยักษ์ที่อาจจะเข้ามาเมื่อใดก็ได้ เมื่อไม่มีเวลาพอที่จะสงสัย ผมก็รีบเข้าไปในถ้ำก่อนที่จะเจอก็อบลินตัวเดิม
“อาหาร”
ใบหน้าและสายตาที่น่ากลัวจ้องมองมาที่ผมอย่างเกลียดชัง แต่สิ่งหนึ่งที่ผมประหลาดใจคือความสูง
แม้ว่าจะผ่านไปเพียงหนึ่งวัน แต่ร่างกายผมจะโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ผมส่งกระต่ายไปให้ก็อบลินตัวนั้นและมองไปที่มันโดยไม่พูดอะไร มันหยิบอาหารของผมไป ก่อนที่จะหายตัวเข้าไปในถ้ำ
ผมไม่รู้ว่าควรตามไปหรือไม่ แต่หลังจากนั้นมันก็ตะคอกใส่ผม
“เข้ามา! ศัตรู!”
ก็อบลินตัวนั้นดึงแขนผมและลากเข้าไปในถ้ำ
ก่อนจะโยนผมเข้าไปในห้องเล็ก ๆ มันเดินไปหยิบกระบองไม้
“รับ”
มองไปรอบ ๆ เพื่อสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง ห้องเล็ก ๆ นี่น่าจะเป็นห้องสำหรับเก็บอาวุธ
ในกรณีนี้ผมควรจะเลือกมันสักอันถูกมั้ย?
ขณะยังงุนงง ผมมองหาอาวุธสักชิ้นที่น่าจะใช้ได้ แต่น่าเสียดายที่พวกมันมีคุณภาพที่ไม่ดีนัก
ไม่มีของที่เหมือนในนิยายอย่างดาบคาตานะหรือหอกเหล็กกล้า แต่ผมยังหวังว่าจะมีอาวุธบางอย่างที่คล้ายกัน
ผมพบแค่กระบองยาวนิดหน่อย …มันมีหนามแหลมเล็กอยู่รอบ ๆ
อย่างน้อยก็ดีกว่าไม่มีอะไรเลย
“ตามมา”
ผมขบคิดสักพักก่อนที่จะตามมันออกไป
△▼△
“วิ่ง”
ก็อบลินนั่นสั่งให้ผมเดินเร็วขึ้น ขณะที่ผมถือกระบองที่ใกล้จะพังไปด้วย ผมคิดว่ามันต้องการให้ผมฝึกใช้อาวุธ แต่กลับกัน มันสั่งให้ผมวิ่งอย่างสุดกำลังเพื่อมายังหมู่บ้านร้าง
จริง ๆ ผมไม่รู้หรอกว่านั่นเป็นหมู่บ้านร้างจริง ๆ หรือเปล่า เพราะผมแค่มองจากระยะไกล
อะไรน่ะ?
ที่นั่นเต็มไปด้วยก็อบลินจำนวนมาก ตรงกลางนั่นมีก็อบลินสีแดงตัวหนึ่ง
“มา!”
ก็อบลินที่มาด้วยกันลากผมไปข้างหน้าของก็อบลินสีแดง
มันมีร่างกายและดวงตาสีแดง …ก็อบลินตัวนี้สวมเกราะขึ้นสนิมและสะพายดาบด้านหลัง
ผมมองไปอย่างงุนงงโดยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น?
“ราชา นี่ พิพสคีก (pipsqueak)”
เมื่อได้ยินคำพูดที่ไม่เป็นประโยคเหล่านั้น ผมก็พอเดาความสัมพันธ์คร่าว ๆ ของพวกมันออก
ก็อบลินแดงเป็นหัวหน้าของพวกก็อบลินสีเขียวพวกนี้ แสดงว่าไอ้ตัวที่ลากผมมาต้องเป็นผู้คุ้มกันหรือไม่ก็อะไรบางอย่างที่มียศต่ำกว่า
ทันใดนั้นราชาก็อบลินก็มองมายังผม
“แกมาถึงเป็นตัวสุดท้าย ช้ามาก เอามันไปลงโทษ”
ผมถูกลงโทษเพราะว่ามาช้า?
อย่ามาล้อเล่นนะไอสารเลว …แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร?
ขณะที่คิด ก็อบลินที่อยู่ข้าง ๆ ก็เข้ามาตรึงผมไว้
“แต่ข้ามีเมตตา ข้าจะไม่ฆ่าเจ้า”
ผมสบสายตากับก็อบลินแดงโดยไม่ตั้งใจ
ดวงตาของมัน นั่นเป็นสายตาที่ผมจะไม่มีวันลืม
ดวงตาที่มองต่ำลงมา …ความรู้สึกที่เหนือกว่า สายตาที่เต็มไปด้วยความหยิ่งผยองและดูถูก
…ความรู้สึกของบางอย่างที่สัมผัสหลังผม
“กูกี๊ๆ!”
ความเจ็บนี่ …เป็นไปไม่ได้ที่ผมจะไม่ร้อง
ก็อบลินสีแดงตีผมด้วยกระบอง เหมือนมันกำลังสนุกกับการกระหน่ำตี ก่อนจะหยุดมันเอาเท้าเหยียบหัวผมและพูดว่า
“ข้าคือราชา …แกต้องเชื่อฟัง”
กูจะฆ่ามึง
นี่เป็นครั้งแรกที่อารมณ์ของผมระเบิดออกมา
ความรู้สึกที่แตกต่างจากความปรารถนาที่จะกิน
บางทีคุณอาจจะบอกว่าอารมณ์ดังกล่าวไม่ควรเกิดขึ้น เมื่อมาอยู่ในโลกที่อาศัยด้วยกฏแห่งป่า …ในโลกที่ความแข็งแกร่งถูกต้องเสมอ
“ตอบ”
เมื่อความเกลียดชังทำให้ผมเต็มไปด้วยอารมณ์เหล่านั้น
“อึก”
…เลือดสีฟ้าไหลออกจากร่างกาย แต่สักวันผมสาบานว่าจะฆ่าไอ้เวรนี่อย่างแน่นอน
△▼△
ขณะที่ผมสาปแช่ง มีเสียงแปลก ๆ ดังมาจากที่ไกล ๆ
“ศั… ศัตรู!”
ทันใดนั้นผมก็ถูกเตะทิ้งโดยก็อบลินนั่น มันแผดเสียงคำรามออกมา
ผมที่ถูกเตะไปราวกับขยะจ้องมันโดยไม่ละสายตา
ข้าง ๆ ราชามีก็อบลินมากมายล้อมรอบ อีกฝั่งคือออร์ค 3 ตัว
เมื่อออร์คบุกทะลวง …ฝูงก็อบลินก็ถูกแหวกออกเป็นทางจนพวกมันเข้าถึงราชาก็อบลิน
แม้จะมีก็อบลินจำนวนมหาศาล แต่กับออร์คที่มีขนาดใหญ่กว่าถึง 2 เท่า …มันเป็นเรื่องง่ายดายที่พวกออร์คจะฆ่าก็อบลินเหล่านั้น
แตกต่างกันเกินไป ไม่มีคำว่าสูสีเลย
นั่นคือความรู้สึกของผม ความแตกต่างอันยิ่งใหญ่ พวกมันชนะการต่อสู้นี้อย่างท่วมท้น
แค่การฟาดของมัน มีหัวและกระดูกมากมายที่ถูกบดขยี้ พวกก็อบลินโจมตีออร์คอย่างไม่ลดละ แต่ด้วยใบมีดขนาดใหญ่ที่เหวี่ยงไปมา แม้ก็อบลินบางตัวจะไม่ตายแต่ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส
ตลอดเวลาราชาก็อบลินทำแค่จ้องไปยังก็อบลินที่ถูกกวาดล้าง
ราชาก็อบลินมองไปยังออร์คที่ถูกรายล้อม มันสั่งให้ก็อบลินที่เหลืออยู่ให้เข้าร่วมการต่อสู้
แต่ไม่มีความหมาย พวกมันไม่สามารถหยุดยั้งออร์คได้เลย
…ในที่สุดพวกมันก็สามารถฝ่าไปได้
เหล่าก็อบลินล้มลงโดยไม่สามารถทำอะไรได้ เมื่อมีตัวหนึ่งล้ม ตัวต่อไปก็จะล้มตามมา เทียบกับออร์คที่มีบาดแผลทั่วร่าง ดวงตาพวกมันเต็มไปด้วยความโกรธและความบ้าคลั่งเท่านั้น
----หนึ่งในออร์คที่ฝ่าวงล้อมมาปะทะกับราชาก็อบลิน
แม้ว่ามันจะเป็นการปะทะกันของมอนเตอร์ระดับท็อปสองตัว…แต่การต่อสู้นี้จบลงอย่างรวดเร็ว
สิ่งที่เหลืออยู่ก็ตามคาด
ออร์คถูกฟันด้วยเข้าที่ไหล่ซ้ายแลกกับการซัดราชาก็อบลินกระเด็นเข้าไปในป่า
สำหรับราชาก็อบลิน …ผมคิดว่ามันคงหมดสติแล้ว
คงจะขยับไม่ได้อีกสักพัก
ผมที่คิดอย่างนั้นก็สังเกตเห็นดาบที่หล่นอยู่ข้าง ๆ
ตุ ตุบ ตุบ
ในเวลานั้นหัวใจผมเต้นอย่างบ้าคลั่ง…
ผมรวบรวมความกล้า โดยไม่สนใจก็อบลินที่อยู่ข้าง ๆ
“กี๊ กิกิ๊–––”
นี่ไม่ใช่โชคชะตาเหรอ?
ถึงแม้จะหวาดกลัวนิด ๆ แต่แสงสะท้อนนั่นดึงดูดผมอย่างมาก
…แสงจากดาบยาวอันแหลมคม
ผมเข้าไปใกล้ราชาก็อบลินที่นอนอยู่
มันอาจจะยังไม่ตาย แต่…
“กิ๊ๆๆ”
––––ไปตายซะไอ้สารเลว
ผมเอาดาบแทงเข้าไปที่คอของราชาด้วยแรงทั้งหมด
จนดาบทะลุไปอีกด้าน ผมก็กรีดดาบไปตามแนวนอน
“กี๊ กี๊ ก๊าาาา!”
“กี๊ ––”
เสียงของมันค่อย ๆ แผ่วลงจนลมหายใจสุดท้าย
“กู …” ผมฆ่ามันสำเร็จ
“กิกิกูกูกู”
นี่มันอะไรกัน? ...รู้สึกสบายกว่าที่คิด
“กิ๊ กิกู!?”
ขณะที่คิด ผมสัมผัสถึงพลังงานบางอย่าง ความเจ็บปวดที่ทำให้ผมต้องคุกเข่า
“กิกิ๊ กู!?”
บางอย่างแปลกๆ ภายใน เจ็บจนทำให้ผมจับไปที่หัวของตัวเอง บางอย่างกำลังจะเกิดขึ้น…ความรู้สึกที่น่าสะพรึงจากภายใน
“อาา… อ๊าาาาก…”
ด้วยความเจ็บปวดอันเนิ่นนานที่ค่อย ๆ ผ่านไป ทำให้ผมค่อย ๆ ลืมตาและมองออกไปยังรอบ ๆ
…เงียบสงบ
ก็อบลินทุกตัวจ้องมองมายังผม
ผ - ผมมีอะไรแปลกไปงั้นเหรอ?
น่าเสียดายแต่ผมไม่มีแรงแล้ว
ผมที่กังวลว่าจะเกิดเหตุการณ์เลวร้ายขึ้น ก็มีก็อบลินตัวหนึ่งเดินมาข้างหน้า
“ราชา”
อะไรนะ?
“ห๊ะ?”
ไอ้ก็อบลินนี่พูดบ้าอะไรของมัน? ราชา?
“คำสั่ง คุณ”
ด้วยความสงสัย ผมมองไปที่แขน ผิวของผมกลายเป็นผิวสีแดงที่น่าเกลียด
ผมจะอธิบายสถานการณ์นี้ว่าไงดี?
ผมค่อนข้างมึนงง…