ตอนที่ 12 การล่อลวงของเทพธิดา
[เผ่าพันธุ์] ก็อบลิน
[เลเวล] 99
[คลาส] ชั้นสูง, หัวหน้ากลุ่ม
[ทักษะ] <<สั่งการ>> <<ปฏิปักษ์>> <<คำรามอย่างรุนแรง>> <<ความชำนาญการใช้ดาบ C+>> <<ละโมบ>><<การจ้องมองจากปีศาจ>> <<การเชื่อมต่อจิตวิญญาณ>> <<ผู้ควบคุมแห่งปัญญา>> <<ดวงตามรกตของงู>> <<การเต้นรำแห่งความตาย>>
[การคุ้มครองจากพระเจ้า] เทพธิดาแห่งนรก อัลทีเซีย
[แอตทริบิวต์] ความมืด, ความตาย
◇◆◇
“…เจ้าเด็กน้อย”
มันเป็นเสียงที่อ่อนโยนและเต็มไปด้วยความเกลียดชังในเวลาเดียวกัน…
“ตื่น…”
มีบางอย่างเร่งให้ผมลืมตา
“ตื่นได้แล้วลูกของข้า”
มีบางอย่างพยายามครอบงำร่างกายของผม
เจ้าของเสียงอยู่ตรงหน้าเมื่อผมเปิดตา …มันคือผู้หญิงที่มาพร้อมกับงูมากมายนับไม่ถ้วน
“ในสุดก็ตื่น? ดูเหมือนเจ้าจะกล้ามากที่ทำให้แม่ของเจ้ารอ”
งูหลากสีขดรอบ ๆ ราวกับร่างกายของเธอกำลังเปลือยเปล่า นั่นเป็นร่างกายที่ถูกสร้างโดยพระเจ้า ไม่มีร่องรอยหรือตำหนิใด ๆ มีงูสี่ตาคล้ายชุดคลุมห่อหุ้มทำให้เธอน่าหลงใหลมากขึ้น จากเท้าขึ้นไปยังต้นขาถูกพันด้วยงูสีดำอยู่รอบ ๆ มีกระโปรงที่ทำมาจากงูสีเขียวแซมแดงด้านข้างตัว
ริมฝีปากแดงดั่งโลหิต จมูกและปากที่ถูกวางไว้อย่างประณีต ดวงตาสีทองส่องประกายต่อความปรารถนาบางอย่าง ด้านหลังของเธอมีงูรายล้อมอยู่นับไม่ถ้วน
“ยินดีที่ได้พบเจ้า”
เสียงอันอ่อนหวานที่ดังเข้ามาในหูทำให้เลือดลมเดือดพล่าน
“…เจ้าเป็นใคร?”
เธอมีเสน่ห์อันน่าหลงใหล แต่ถ้าผมผ่อนคลายลงสักนิด ผมคงยอมสยบให้กับตัวเธอ
ตอนนี้ผมต้องกระตุ้นความคิดเพื่อต่อต้าน
“เจ้าก็รู้อยู่แล้วว่าข้าเป็นใคร…?”
รอยยิ้มอันน่าหลงใหลที่สามารถละลายชายคนใดก็ได้ แม้มองอีกมุมหนึ่งมันจะโหดร้ายเหมือนกับปีศาจก็ตาม แต่ตอนนี้ผมทำได้เพียงกัดฟันและอดทน
“เจ้าคืออัลทีเซีย (เทพธิดาแห่งนรก) ?”
“…ข้าชอบเด็กฉลาด”
พลังจากคำพูดเหล่านั้นเกือบทำให้ผมทรุดลง ผมพยายามเติมความเกลียดชังเพื่อรักษาความสงบเอาไว้
“จิตวิญญาณที่ไม่เหมาะสมกับร่างเล็ก ๆ นั่น ช่างน่าสนุก …อย่างน้อยก็เราก็สามารถสื่อสารกันได้”
เมื่ออัลทีเซียพูด บรรยากาศผ่อนคลายก็กลายเป็นหนาวสั่น นัยตาสีทองจ้องมองมาที่ร่างกายของผมอย่างรวดเร็ว
“มีบางอย่างที่ข้าอยากถาม”
อัลทีเซียมองมาที่ผมโดยไม่ได้แสดงท่าทีใด ๆ
“เจ้า …เป็นคนที่พยายามเข้ามาในความคิดของข้า?”
“หืม แล้วมันจะยังไงล่ะ?”
รอยยิ้มที่แสดงออกมาเกือบทำให้ผมหลงเสน่ห์ แต่พอรู้ว่ามันเป็นของปลอม ผมพอที่จะต่อต้านมันได้
“ข้าจะไม่ให้อภัยอีกเป็นครั้งที่สอง”
“แล้วถ้าเจ้าไม่ให้อภัยข้า มันจะยังไง?”
ผมพยายามเอาชนะสิ่งตรงหน้าด้วยแรงจูงใจ แม้ตัวตนที่อยู่เบื้องหน้าไม่แสดงท่าทีอะไร
“แต่ดูเหมือนเจ้าจะอิจฉาซีโนเบีย (เทพธิดาแห่งการรักษา) ?”
…บรรยากาศเริ่มแข็งตัว
“เจ้าหงุดหงิดจากความริษยา?”
“หุบปาก! มันผิดหรือไง!? ข้าก็รักเขามากเหมือนกัน สายตาของเขาที่มองแต่ซีโนเนีย ทำไมกัน!? ทำไมข้าต้องถูกส่งไปยังความมืด ข้าจะไม่มีวันอภัยให้กับผู้หญิงที่ไม่ได้ทำอะไร แต่ได้ความรักจากเขาไปเพียงคนเดียว!”
ใบหน้าอสวยงามของเธอก็เปลี่ยนไป น้ำสีแดงเข้มคล้ายเลือดไหลออกมาจากหางตา ปากที่ฉีกไปใบหู …ใบหน้าของเธอกลายเป็นปีศาจ
“ทำไมอทีพ (เทพที่สร้างโลก) ถึงไม่เคยมองข้า!?”
งูเริ่มขดม้วนรอบ ๆ ตัวเทพธิดา
มันตอบสนองต่อความโกรธของเธอพร้อมกันและขู่ออกมา
“ลูกของข้า เจ้าตัวน้อยที่น่าเกลียด”
อัลทีเซียมองต่ำลงมา
“จงทำตามความปรารถนาจากมารดาเจ้า”
“จงแพร่ความชั่วร้ายไปในโลกของอทีพ-!!”
.
.
.
“…ข้าขอปฏิเสธ”
ผมส่ายหัวของตัวเอง
สักพักอัลทีเซียก็หายไป เธอปล่อยให้ผมอยู่ในความมืด …ไม่นานนักเจ้าหญิงงูก็โผล่ออกมา กลายเป็นใบหน้าของเทพธิดาที่เธอแสดงออกมาในตอนแรก
“เจ้า…”
งูที่อยู่รอบตัวเธอเลื้อยมาวนรอบตัวผม พวกมันสามารถโจมตีได้ทันทีหากมีคำสั่ง พวกมันส่งแรงกดดันอันล้นหลามมากดทับตัวผม
“เจ้าจะทรยศ แม้จะได้รับการคุ้มครองจากข้า?”
เธอจ้องมองมาที่ผมอย่างดุร้าย ผมจึงมองกลับไปในดวงตาของเธอ
“ข้าตัดสินใจแล้วว่าจะทำยังไงในขณะที่ข้ามีชีวิตอยู่!”
ผมตายไปแล้วครั้งหนึ่ง ผมปล่อยทุกอย่างไปกับความเสียใจเมื่อตอนยังเป็นมนุษย์
ผมจะทำตามความปรารถนาของตัวเองในฐานะสัตว์ประหลาด นั่นคือเหตุผลที่จะไม่ก้มหัวให้กับใครก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือพระเจ้า!
“… แต่ถ้าพวกมันเข้ามาขวางเส้นทางของข้า ข้าจะทำด้วยความตั้งใจของตัวเอง!”
งูยังคงข่มขู่ขณะที่เทพธิดาแห่งนรกกำลังถาม
“…แล้วเส้นทางของเจ้าคืออะไร?”
ทุกอย่างเป็นการเดิมพัน ยังไงซะผมก็เป็นแค่ก็อบลิน
“การพิชิตและปกครอง!”
นี่เป็นเส้นทางที่ไม่สามารถเชื่อมโยงกับความสงบสุขได้แม้แต่น้อย
“ข้าจะทำให้สวรรค์และโลกยอมรับ! ข้าจะเหยียบย่ำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อตอบสนองความต้องการของตัวเอง! เพื่อแกะสลักมันไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ที่ไม่อาจลบเลือน!”
มีเสียงพรืด ก่อนจะตามมาด้วยเสียงหัวเราะ ในที่สุดอัลทีเซียก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่งโดยเธอกอดอกทั้งสองข้าง
“ฮะฮ่าฮ่าฮ่า…. เจ้านี่ช่างน่าตลกจริง ๆ”
อย่างงั้นสิ่งที่เจ้าต้องการคือ เจ้าจะต่อสู้กับพวกเขาด้วยความตั้งใจของตัวเอง ไม่ใช่ตามคำสั่งของข้า
แต่ก็ยัง…พิชิตและปกครอง ฮ่าฮ่าฮ่า!
หยิ่งอะไรขนาดนั้น! วิถีของทรชน! การตั้งเป้าไว้สูงขนาดนั้น… ฮ่าฮ่าฮ่า!”
เสียงหัวเราะนั่นไม่เหมาะกับเทพธิดาแห่งงูจริง ๆ มันดูเหมือนว่าอัลทีเซียกลายเป็นเด็กที่หัวเราะกับสิ่งที่เธอคิดว่ามันน่าตลก
“ดีมาก …ข้าพอใจเจ้า”
อัลทีเซียกล่าวขณะที่เธอเช็ดน้ำตา
“…”
เธอเงียบ
เมื่อคิดว่าเธอหัวเราะต่อความตั้งใจของผมจริง ๆ
อย่างน้อยผมก็ไม่ตายในตอนนี้
“เด็กน้อย เจ้าชอบต่อต้านใช่มั้ย….?”
อัลทีเซียมองผมอย่างใกล้ชิด ใบหน้าของเธอราวกับเด็กสาวที่ได้รับของเล่นใหม่
จากนั้นเธอก็คว้าไปที่ลิ้นของผมเพื่อดึงมัน
“เอาล่ะ เด็กที่น่ารักแต่กลับโง่เขลาที่สุด”
ผมไม่สามารถพูดอะไรได้หากลิ้นยังถูกดึงอยู่
“…ตอนนี้เมื่อดูใกล้ ๆ แล้ว เจ้าก็ดูมีเสน่ห์ไม่ใช่รึไง?”
“…แต่มันน่าจะดูดีกว่านี้สักเล็กน้อย?”
อย่าถามเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
ผมไม่สามารถทำได้ คุณก็รู้?
“วิญญาณที่มีความปรารถนาแรงกล้าอาจจะสร้างร่างกายใหม่ได้”
ตาสีทองของเทพธิดาจ้องมองมาที่ผม
“ได้ …อย่างไรก็ตาม เราจะกลับไปประเด็นหลัก”
เทพธิดาแห่งนรกปล่อยผมและปรบมือของเธอ
ทันใดนั้นสภาพโดยรอบก็เปลี่ยนไป
ในพื้นที่เหล่านั้นไม่สามารถมองเห็นอะไรได้นอกจากรูปปั้นปีศาจในความมืด ในเวลาเดียวกันผมก็เห็นอัลทีเซียนั่งอยู่บนบัลลังก์
เธอสวมเสื้อสีขาวบริสุทธิ์ โดยปรากฏตัวอย่างสวยงามและศักดิ์สิทธิ์
“ข้าจะให้ของขวัญก่อนเจ้าจะออกไป”
หนึ่งในงูนับไม่ถ้วนของอัลทีเซียเลื้อยมาที่ผม
เป็นงูสีแดงตัวเล็กที่มีดวงตาดวงเดียว
“ข้าไม่ชอบงู”
“ก็ดีกว่าไม่มีอะไร”
เทพธิดาหัวเราะขณะพูด ทันใดนั้นงูก็เลื้อยมาตามแขนไปยังหน้าอกของผมด้วยความเร็วที่น่าสะพรึง
“… อึ๊ก!”
มันเลื้อยเข้าไปในร่างกายของผมและผสานเข้าด้วยกัน!
“เจ้าดูน่ารักขึ้นเล็กน้อย จงดูแลตัวเองให้ดี”
ผมไม่สน!
เอาผมออกไป!
“หมดเวลาแล้ว อย่าตายก่อนเราจะเจอกันครั้งต่อไป …เด็กน้อยของข้า”
ทันใดนั้นความมืดก็เข้ามาแทนที่
◆◇◆
แสงอบอุ่นล้อมรอบตัวผม
เสียงเจี๊ยวจ๊าวที่เข้ามาในหูทำให้ผมตื่น …ไม่นานผมก็ลืมตา
แสงอาทิตย์ที่สาดส่อง มันร้อนอย่างมาก ตอนนี่น่าจะเป็นเวลาประมาณเที่ยงวัน
“ราชาตื่นแล้ว!”
เสียงที่แตกตื่นของกิก้าเต็มไปด้วยน้ำตาแห่งความสุข
“บอกให้ทุกคนรู้!”
ผมได้ยินกิกูวกำลังสั่ง
และจากนั้น…
“ทำไม …ทำไมคุณถึงทำแบบนี้คะ?”
เรเชียกำลังวางมือลงบนหน้าผาก มันแทบจะทำให้หัวใจของผมกระเด็นออกมา
จากนั้นกลิ่นเลือดก็ตีเข้ามาในจมูก
“เลือด …นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
ผมถามทั้ง ๆ ที่ร่างกายยังอ่อนแรง
กิก้าก้มหัวลงอย่างช่วยไม่ได้ เรเชียจึงตอบแทน
“หมู่บ้านของคุณถูกโจมตี ผู้คนกว่าครึ่งไม่ตายก็บาดเจ็บ”
“ใครเป็นคนทำ!?”
ผมตบหน้าของตัวเองเพื่อปลุกสติให้กลับคืนมา
“ออร์ค”
เรเชียเอามือออกไป เธอดูเหมือนจะปิดกั้นอารมณ์ไว้
“…เกิดอะไรขึ้นกับนักดาบหญิงคนนั้น?”
ทันใดนั้นผมก็ถาม
“… เพราะเธอเข้ามาปกป้องฉัน”
ทันใดนั้นผมก็รู้ถึงภาพรวมและเรเชียก็ไม่ได้พูดอะไรอีก
“มันผ่านไปนานเท่าไรแล้ว?”
“ตั้งแต่ตอนเช้าของวัน”
ผมแตะไปที่หลังกิก้าเพื่อกระตุ้นเขาและผละตัวจากเรเชีย จากนั้นผมก็ส่งเสียงออกมา
“กิก้ามีก็อบลินกี่ตัวที่เคลื่อนไหวได้?”
“มีเพียง 10 ตัวเท่านั้น”
“…นั่นก็เพียงพอแล้ว และดาบของข้าล่ะ?”
“นี่ขอรับ”
เขาชี้ไปยังจุดที่ดาบอยู่
“ใครที่แตะต้องคนของข้า จะไม่ได้รับการให้อภัย!!”
ผมเอาดาบใหญ่พาดบ่า
“รอเดี๋ยวก่อนค่ะ ฉันก็จะไปด้วย”
ผมเดาะลิ้นด้วยความรำคาญเมื่อเห็นเรเชียกำลังถกแขนเสื้อขึ้น
“เจ้ายังต้องการไปด้วย!?”
“แต่คนที่รักษาให้คุณคือฉันนะ!”
เสียงที่หนักแน่นเมื่อเธอจ้องมองมาที่ผม
“… กิก้า ไปปกป้องเรเชียซะ เมื่อใดก็ตามที่มีคนบาดเจ็บ ให้เขาพาไปหาเธอ”
“รับคำสั่ง”
“ไป!!!”
◆◇◇◆◆◇◇◆
[ทักษะ] << ดวงตาของงูสีชาด >> ได้รับ