WS บทที่ 46 การต่อสู้อันดุเดือดที่เมืองแบล็กวอเตอร์ PART 1
เลห์แมนได้นำอัศวินสองสามคนไปที่ประตูเมือง พวกเขาโล่ในมือแน่นเพื่อป้องกันเมอร์ลินในขณะที่เข้าใกล้ประตู
“มาลองดูกันเถอะ”
เมอร์ลินได้เสกลูกไฟออกมา เขาต้องการทดสอบว่าประตูมันแข็งแกร่งขนาดไหน
“ไป!!” เมอร์ลินตะโกนพร้อมกับส่งลูกไฟบินไปที่ประตูเมือง
*ตูม!! ตูม!! ตูม!!*
เขาให้ลูกไฟชนประตูโดยไม่ทำให้ลูกไฟระเบิด ลูกไฟได้ทำการเผาไหม้ด้วยความร้อนสูงเท่านั้นแต่ก็ยังไม่สามารถทำลายได้
เนื่องจากพวกมันมีความทนทานเป็นพิเศษ เป็นปราการสุดท้ายก่อนที่จะถึงเมืองดังนั้นจึงมีความแข็งแกร่งอย่างมาก
“ฉันไม่สามารถทำลายได้ในการโจมตีเพียงเดียว งั้นฉันคงต้องลองอีกหลาย ๆ ครั้ง” เมอร์ลินไม่ยอมแพ้
ถึงแม้ประตูจะไม่พังแต่มันก็มีผลอยู่บ้าง หากเขาปาลูกไฟไปซ้ำ ๆ มันต้องพังอย่างแน่นอน
*หวู่ม!*
ลูกไฟอีกสองลูกได้บินไปที่ประตูด้วยความสูงที่น่าเหลือเชื่อ เขาเล็งไปที่รอยยุบที่ลูกไฟได้ทำไปก่อนหน้านี้
เมื่อโจมตีไปซ้ำ ๆ ก็ทำให้ประตูเริ่มทนไม่ไหวและเริ่มหลอมละลายออกมา
*ฉ่า*
ตอนนี้เขาได้ยิงลูกไฟไปจำนวนหนึ่งแล้วและก็ถึงเวลาที่จะเปิดใช้งานลูกไฟยักษ์แล้ว
“ลูกไฟยักษ์!!”
ลูกไฟขนากมหึมาได้ขนาดกฎขึ้นมาจากอากาศ แค่มองไปที่มันก็ทำให้ใครต่อหวาดกลัวได้แล้ว
*ตูม!!*
ลูกไฟขนาดใหญ่ได้พุ่งชนไปที่ประตู พลังของมันรุนแรงกว่าลูกไฟปกติหลายเท่าและด้วยการระเบิดของมันทำให้เกิดรูขนาดใหญ่ที่มนุษย์สามารถลอดผ่านได้
เมื่อเลห์แมนเห็นว่าเมอร์ลินสามารถทำลายประตูได้ เขาก็ยกดาบขึ้นมาและตะโกนว่า
“ด้วยเกรียรติของอัศวิน ทำการโจมตี!!”
“ด้วยเกรียรติของอัศวิน!!”
*ตึง! ตึง!*
เหล่าอัศวินได้เคลื่อนกำลังเข้าไปในเมืองแบล็ดวอเตอร์ พวกเขากระทืบเท้าพร้อมกันทำให้แผ่นดินสั่นสะเทือนราวกับเกิดแผ่นดินไหว
เบื้องหน้าของกองทัพมีเลห์แมนนำทัพเข้าไป ในไม่ช้าพวกเขาก็ทำการบุกสำเร็จ
แม้บริเวณนั้นจะมีกองกำลังป้องกันเมืองแต่พวกเขาเลือกที่จะหนี ไม่มีใครอยากจะต่อสู้กับอัศวินเกราะเหล็กที่นำโดยเลห์แมน วิลสัน
ส่วนเมอร์ลินไม่ได้ตามพวกอัศวินไป เขารู้สึกโล่งใจที่ตัวเองได้เลือกคาถาลูกไฟเป็นคาถาแรก หากเขาเลือกคาถาแช่แข็งหรือคาถาลมกรด เขาคงไม่สามารถทำลายประตูเมืองได้แน่นอน
หลังจากที่บุกสำเร็จ เลห์แมนไม่ได้ไล่ตามพวกกองกำลังป้องกันเมืองไป เขามาหาเมอร์ลินและพูดว่า
“เมอร์ลิน พ่อจะให้แพรตต์กับอัศวิน 300นาย พาลูกไปที่ปราสาทวิลสัน ไปช่วยเมซี่ส์และคนอื่น ๆ ส่วนพ่อจะพาคนที่เหลือไปที่ปราสาทของคาสเทลแลนและจะไปฆ่าออกกัสติน!!”
เลห์แมนไม่มีทางปล่อยให้คนที่ร่วมมือกับศาสนจักรมีชีวิตรอดออกไปแน่นอน
เมอร์ลินได้ครุ่นคิดครู่หนึ่งและส่ายหัว “ท่านพ่อ พาพวกอัศวินมาเพียง 100นายก็พอ เนื่องจากที่ปราสาทคาสเทลแลนที่การคุ้มกันที่แน่นหนา ท่านพ่อจำเป็นต้องใช้กำลังพลบุกเข้าไป”
เลห์แมนเห็นด้วยกับเมอร์ลิน เมื่อตกลงกันได้เขาก็นำอัศวิน 700คนไปที่ปราสาทคาสเทลแลนทันที
“ลุงแพรตต์ ขอให้พวกอัศวินเตรียมความพร้อม เป็นไปได้ว่าจะมีการต่อสู้รอพวกเราอยู่ที่นั่น” เมอร์ลินกล่าวด้วยสีหน้าที่จริงจัง
...
ณ ปราสาทวิลสัน ตอนนี้มีคนรับใช้มากกว่าร้อยคนถูกสังหาร ไม่ว่าจะเป็นผู้ชาย ผู้หญิง คนชราหรือแม้แต่เด็กก็ไม่ได้รับข้อยกเว้น ศพจำนวนมากกองอยู่บนพื้น กลิ่นคาวเลือดกระจายไปทั่วบริเวณ แม้แต่คนที่อยู่ไกลก็รู้สึกถึงกลิ่นเลือด
ตอนนี้ทีรอธกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ในปราสาท เขาชักสีหน้าไม่พอใจ ภายหลังจากการค้นหาอย่างละเอียดเขาพบเพียงแค่คนรับใช้เท่านั้น เขาไม่พบวี่แววของเมซี่ส์เลย
“หรือว่าเธอจะหนีไปแล้ว” ทีรอธรู้สึกสงสัย เขาได้สั่งให้ทหารนำตัวของคนรับใช้มาหาเขา เขามองไปที่คนรับใช้ที่ตัวสั่นคุกเข่าอยู่บนพื้น
คนรับใช้เงยหน้าขึ้นมองทีรอธและพูดว่า “ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าคุณหนูเมซี่ส์อยู่ที่ไหน ได้โปรดไว้ชีวิตฉันเถอะ”
“ไม่รู้อย่างงั้นเหรอ” ทีรอธลุกขึ้นยืนและยกดาบแทงทะลุหน้าอกของคนรับใช้อย่างไม่ลังเล
“คนถัดไป”
จากนั้นทหารก็ได้นำตัวสาวใช้เข้ามา เธอตกใจมากเมื่อเห็นศพนอนเต็มพื้น โดยไม่ต้องรอให้ทีรอธถาม เธอก็พูดตะกุกตะกักขึ้นมาว่า “ฉะฉันเห็นพ่อบ้านพาคุณหนูเมซี่ส์กับคนอื่น ๆ ไปที่ห้องของท่านบารอน”
“ดี นำทางไปเลย”
ทีรอธเดินตามสาวใช้ไป
ไม่ช้าเขาก็ถึงที่หมาย เขามองไปรอบ ๆ และยิ้มอย่างเย็นชา “พวกมันต้องซ่อนอยู่ในห้องนี้แน่ ควานหาตัวพวกมันซะ!!”
พวกอัศวินได้กรูเข้ามาให้ห้องของเลห์แมนและเริ่มทำการค้นหา
ในขณะเดียวกันเมซี่ส์กับคนอื่น ๆ ที่อยู่ห้องใต้ดินรู้สึกได้ถึงเสียงฝีเท้าที่อยู่อีกฝั่งของกำแพง
เมซี่ส์กับพ่อบ้านได้สบตากัน เธอได้ชักดาบออกมาเงียบ ๆ เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ ตอนนี้เธอพร้อมที่จะสู้แล้ว
ในหมู่พวกเขามีเพียงเมซี่ส์เท่านั้นที่มีทักษะการต่อสู้ แม้ว่ากลไกของที่นี่จะถูกซ่อนไว้อย่างดีแต่ด้วยการค้นหาจำนวนมาก พวกเขาจะพบมันในไม่ช้า แม้ถึงตอนนั้นเธอคงทำได้แค่สู้ตายเท่านั้น
“พ่อบ้าน ถ้าทีรอธเปิดประตูได้ ฉันจะขวางพวกมันไว้ พ่อบ้านช่วยพาแม่กับกัตต์ออกไปที” เมซี่ส์พูดเสียงเบา
เมซี่ส์รู้สึกหดหู่เล็กน้อย หากเธอกลายเป็นนักดาบธาตุได้ล่ะก็ เธอก็อาจจะมีโอกาสรอดอยู่บ้าง แต่ถึงเธอจะไม่รอดแต่อย่างน้อย ๆ ก็ให้แม่กับกัตต์ออกไปได้ก็พอ
ถึงแม้โอกาสรอดจะเป็นศูนย์แต่เธอก็ไม่ขอยอมแพ้
*ตูม!!!*
ทันใดนั้นเอง ได้เกิดระเบิดขึ้นทำให้ตัวปราสาทวิลสันสั่นสะเทือนเล็กน้อย ฝุ่นผงได้กระจายไปทั่วบริเวณ
“เกิดอะไรขึ้น?” ทีรอธเงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจ สายตาของเขามองไปยังต้นเสียงที่มาจากทางเข้าปราสาทวิลสัน