Ep.853 - ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของฉินเฟิง
5/5
Ep.853 - ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของฉินเฟิง
ชั่วเวลานั้น สายตาของทุกคนต่างจับจ้องมายังร่างของฉินเฟิง
ฉินเฟิงยังคงพัวพันกับฝูงสัตว์ร้าย แต่คำพูดของไอซานกับเหอเทียนสิง เขาก็ได้ยินมันเช่นกัน
แม้ในสายตาของตัวตนทรงอำนาจเลเวล S ทั้งสอง หรือในสายตาของคนอื่นๆ การเดิมพันดังกล่าว ฉินเฟิงไม่มีทางประสบความสำเร็จแน่นอน 100% แต่สำหรับฉินเฟิง เงื่อนไขนี้ช่วยให้เขาได้เปรียบมาก
อย่างไรก็ตาม ฉินเฟิงมิได้เอ่ยอะไรออกไป ก็หากจู่ๆเขากระโดดออกมารับปากเป็นมั่นเหมาะ นั่นจะไม่ทำให้เหอเทียนสิงสงสัยขึ้นมาหรอกหรือ? แล้วแบบนี้ฉินเฟิงจะได้เห็นคำพูดของเหอเทียนสิงตบหน้าตัวเองได้อย่างไร?
ตอนนี้ปล่อยไปก่อน ถึงเวลาเมื่อไหร่ เดี๋ยวพวกมันจะรู้สึกเสียใจเอง!
มีดกษัตริย์ครามของฉินเฟิงโบกสะบัด สังหารสัตว์ร้ายตัวหนึ่ง เมื่อสัตว์ร้ายตายลง พลังงานในศพของพวกมันก็ถ่ายเทมายังร่างของฉินเฟิง ค่อยๆรักษาบาดแผลของเขา
อาการบาดเจ็บที่ได้รับจากฝ่ามือของเหอเทียนสิงเมื่อครู่ เมื่อไล่ล่าสัตว์ร้ายอย่างต่อเนื่อง มันค่อยๆฟื้นตัวอย่างช้าๆ
เมื่อเห็นการล่าอย่างเป็นระบบของฉินเฟิง ขณะเดียวกันไม่มีสิ่งมีชีวิตใดสามารถคุกคามเขาได้ หัวใจของหลงหยุนอี้ก็สงบลงเล็กน้อย
“ก็ดี ฉันตกลง”
เหอเทียนสิงแสยะยิ้มเย็น แม้เขาจะรู้ว่าหลงหยุนอี้คิดอะไรอยู่ แต่ตอนนี้เหอเทียนสิงอีกฝ่ายจับตามองตลอดเวลา ดังนั้นไม่สามารถลงมือ ได้แต่ฝากวิธีเสี่ยงโชค เดิมพันในครั้งนี้เท่านั้น
เขาได้แต่หวังว่า ในรอยแยกมิติ สิ่งมีชีวิตทรงพลังจะปรากฏตัวขึ้น
และในความเป็นจริง มันเป็นไปตามที่เหอเทียนสิงคาดไว้
มีสัตว์ร้ายบุกเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เลเวลก็เริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รูปร่างของสัตว์ร้ายต่างมิติ ยิ่งนานยิ่งตัวใหญ่ มังกรกะโหลกก่อนหน้านี้ถูกสังหารลงแล้วโดยฉินเฟิง แต่สิ่งมีชีวิตที่น่าหวาดกลัวยิ่งกว่า ก็เข้ามาแทนที่มัน ปิดล้อมฉินเฟิงเหมือนเดิม
“จงก่อตัวขึ้น!”
เพื่อต้องการหยุดสัตว์ร้ายรอบตัวเขา ฉินเฟิงตัดสินใจยกระดับพื้นใต้เท้า สร้างเป็นเนินเล็กๆให้เขาใช้ต่อสู้ เหมือนดั่งศิลาแกร่งในทะเล ที่ต่อให้ถูกคลื่นซัดสาด ก็ยังยืนหยันอยู่ที่เดิม
สิ่งที่ฉินเฟิงต้องการ ก็คือถ่วงเวลาต่อไปเรื่อยๆ
เขาไม่รู้ว่าจะมีสัตว์ร้ายชนิดใดโผล่ออกจากรอยแยกมิติ แต่อย่างน้อยสัตว์ร้ายเหล่านี้ก็ไม่สามารถทำอะไรฉินเฟิงได้ ตราบใดที่หูซานสามารถดูดซับผลึกโลหิตได้สำเร็จ ถึงเวลานั้นกำลังรบจะอยู่ในรูปแบบ 3 - 2 ฉินเฟิงก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป
การสังหารหมู่ ดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง
สัตว์ร้ายโผล่ออกมาจากรอยแยกมิติ และเนื่องจากฉินเฟิงได้สังหารพวกมันไปเป็นจำนวนมาก สถานที่แห่งนี้เลยเต็มไปด้วยเลือดสดๆ สาบเลือดยิ่งกระตุ้นสัตว์ร้ายที่เพิ่งปรากฏตัวขึ้นในมิตินี้ ดึงดูดพวกมันเข้ามาไม่หยุดยั้ง ไม่มีสัตว์ร้ายตัวใดวิ่งไปที่อื่นเลย ทั้งหมดกรูกันไปยังทิศทางของฉินเฟิง พยายามกดดัน สังหารเขา
แต่ผลลัพธ์น่ะหรือ เป็นฉินเฟิงที่ฆ่าพวกมันทั้งหมด!
ดวงอาทิตย์กลางฟ้าค่อยๆหย่อนคล้อย เวลาไหลผ่านไปทีละนิด
ฉินเฟิงยังคงกวัดแกว่งคมมีด ไล่สังหารสัตว์ร้ายที่เข้ามารุมล้อมเขา
หากมีคนกล่าวว่าบุคคลใดที่สามารถหยุดยั้งกระแสกองทัพสัตว์ร้ายได้ บุคคลคนนั้นจะต้องแข็งแกร่งมาก ในขณะที่กองทัพสัตว์ร้ายคงไม่พ้นเป็นสัตว์ร้ายระดับต่ำ
แต่หากมีใครบอกว่าเลเวล B คนหนึ่ง สามารถหยุดยั้งกระแสกองทัพสัตว์ร้ายขนาดใหญ่เลเวล B ได้ เกรงว่าคงไม่มีใครเชื่อ
แต่ตอนนี้ ข้อเท็จจริงได้ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าพวกเขาแล้ว
“ฮูว ….”
กลางคืนได้มาเยือน สัตว์ร้ายส่งเสียงร้องแหลม ดวงตาสีฟ้าครามทอประกายยามราตรีกาลอันมืดมน--
--กลิ่นอายของสัตว์ร้ายเลเวล A ได้ปรากฏขึ้นแล้ว
หน้าผากของหลงหยุนอี้ขมวดมุ่น
ในหัวใจของเขา เริ่มบังเกิดความกังวลขึ้นเล็กน้อย
“คุณเป็นคนจากตระกูลหลง คงไม่ใช่เรื่องใหญ่ถ้าจะรักษาคำพูดใช่ไหม?” เหอเทียนสิงย้ำเตือนหลงเยว่ทันที
แม้จะรอมานาน แต่ก็เกือบได้เก็บเกี่ยวผลไม้ที่เรียกว่าชัยชนะแล้ว การได้เฝ้าดูศัตรูถูกฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย หรือหมดแรงไร้ที่พึ่งพิงจะต้านไหว มันให้อารมณ์สุนทรีซะจริงๆ
ไม่เพียงแค่นั้น แต่หลงเยว่กับหลงหยุนอี้ต้องการปกป้องเจ้าเด็กนี่ หากมันตาย เหอเทียนสิงจะสะใจมาก
ลึกๆในหัวใจเขาเริ่มเปี่ยมล้นไปด้วยความสุข เฝ้าคาดหวังว่าฉินเฟิงจะตายลงเร็วๆ
ปัจจุบัน สัตว์ร้ายเลเวล A ได้ปรากฏขึ้นแล้ว ฉินเฟิงจะสามารถทนต่อไปได้อีกนานแค่ไหนกัน?
อย่างไรก็ตาม ในเวลานั้นเอง กระท่อมน้ำแข็งเบื้องหลังฉินเฟิง ประตูของมันถูกผลักออก
หูซานรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อพบว่าตัวเองอยู่ในห้องกระจก และห้องกระจกนี้คือเขตแดนมิติของไป๋หลีนั่นเอง
เมื่อไป๋หลีสังเกตเห็นว่าหูซานออกมา เธอก็ถอนเขตแดนมิติทันที เสียงรบกวนจากภายนอก สะท้อนเข้ามาในพลังสมาธิของหูซาน
บนท้องฟ้า ปรากฏผู้ใช้พลังเลเวล S ถึงสี่คน บนพื้นดิน กองไปด้วยซากศพสัตว์ร้ายนับไม่ถ้วน หูซานฉุกคิดได้ว่าช่วงเวลาที่ตนหลับลึก คงเกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้น
“ทั้งหมดนี้มันเรื่องอะไรกัน?”
หูซานกล่าวเสียงหม่น ผมของเขาแม้ยังเป็นสีขาว แต่มันต่างจากสีขาวอมเหลืองก่อนหน้านี้ ปัจจุบันเป็นสีขาวโพลน ดูแวววาวมาก มันเหมือนกับสีของหิมะ ริ้วรอยตามผิวหนังเขา ลดลงไปมาก
หลังที่เคยค่อมก็หายแล้วเช่นกัน ทำให้เขาดูเป็นชายชราที่แข็งแรงและเปี่ยมไปด้วยพลัง
ผลสะท้อนของผลึกโลหิต มีประโยชน์มากทีเดียว
ไม่เพียงยืดอายุขัย แต่หูซานยังใช้ผลึกโลหิตชำระล้างโรคเรื้อรังในร่างเขา เลยเสียเวลาไปบ้าง แต่ไม่นึกเลย ว่าพอออกมา สภาพแวดล้อมจะเปลี่ยนไปมากขนาดนี้
ไป๋หลีเห็นหูซานออกมา ดวงตาจิ้งจอกหรี่เล็กลงทันใด จากนั้นถือโอกาสสาดเกลือใส่ศัตรู
“เจ้ามืดเลเวล S นั่นจู่ๆก็โผล่จากฟ้า ตรงมาที่นี่เพื่อสร้างปัญหา ฉันกับฉินเฟิงพยายามหยุดมัน แล้วสองคนนี้มาช่วยไว้ แต่จู่ๆเหอเทียนสิงก็เข้ามาผสมโรง!”
ไป๋หลีอธิบายรวบยอด ส่วนเรื่องเดิมพันอะไรซักอย่าง หลังหูซานปรากฏตัวขึ้น มันก็ไม่จำเป็นอีกแล้ว!
“เพื่อนตัวน้อยฉิน ครั้งนี้ดูเหมือนฉันจะติดหนี้คุณอีกแล้ว ขอบคุณมากจริงๆสำหรับเรื่องในวันนี้” หูซานกล่าวด้วยความจริงใจ
หากไม่ใช่เพราะฉินเฟิงคอยหยุดศัตรูเอาไว้ การดูดซับผลึกโลหิตของหูซานคงถูกขัดขวางไปแล้ว แม้มันจะไม่ทำให้เขาสูญเสียร้ายแรงอะไร แต่ประสิทธิภาพการรักษาคงไม่ดีเท่านี้แน่นอน
เห็นได้ชัดว่าไอซานมาที่นี่เพื่อหาเรื่องหูซาน
ด้วยเหตุนี้ หูซานเลยรู้สึกขอบคุณฉินเฟิงมาก ที่คอยรับแรงกดดันมหาศาลแทนเขา อย่าลืมนะว่า ที่อยู่ที่นี่ หากไม่นับสัตว์ร้าย ทุกคนล้วนเป็นเลเวล S !
ฉินเฟิงเห็นหูซานปรากฏตัว แรงกดดันในใจเขาลดลงไปมาก มันเป็นความรู้สึกราวกับว่าถูกปลดปล่อยจากพันธนาการ
“ในเมื่อท่านผู้ใหญ่หูตื่นขึ้นแล้ว ผมก็คงไม่ต้องเสแสร้งอีกต่อไป!” ฉินเฟิงกล่าวอย่างไม่แยแส
“เอ๋?” หูซานอุทานเป็นเชิงถาม และเห็นแค่เพียงฉินเฟิงอัดฉีดกำลังภายในเข้าไปในมีดกษัตริย์ครามอย่างรุนแรง
วินาทีต่อมา เสียงวิญญาณร้ายร้องโหยหวน ดังขึ้นมาจากภายในมีดกษัตริย์คราม เสียงนี้ ทำให้จิตวิญญาณของผู้คนสั่นไหว ปรากฏร่างเงานับไม่ถ้วน โผล่ออกมากระจายตัวไปไกลกว่า 100 เมตร!
มิใช่ใดอื่น พวกมันคือวิญญาณสัตว์ร้ายที่ถูกขังไว้ในศิลาตรึงวิญญาณ
“กระบวนท่าวรยุทธ : หมื่นวิญญาณสะบั้น!”
ทันใดนั้น ฉินเฟิงระเบิดการโจมตีในระดับ 100 ทะเลสาบกำลังภายใน เงาที่เดิมยาวร้อยเมตร ยืดขยายยาวออกไปเป็น 1,000 เมตรในพริบตา
มีดกษัตริย์ครามตัดกวาดเป็นวงพระจันทร์ ร่างเงาวิญญาณเคลื่อนที่เป็น 180 องศา กลืนไปทั้งสนามรบเบื้องหน้าเขา
สัตว์ร้ายนับหลายหมื่น ต่อให้พวกมันจะเป็นเลเวล A แต่ทั้งหมดล้วนถูกสังหารลงโดยกระบวนท่าวรยุทธเลเวล S ของฉินเฟิง!
เสียงคำรามเกรี้ยวกราด เสียงฝีเท้าที่ดังก้อง เหือดหายไปครึ่งหนึ่งทันที
ผู้คนที่รับชมจากระยะไกล หรือกระทั่งเลเวล S ที่ก้มมองจากบนฟ้า ในเวลานี้ต่างตกอยู่ในความเงียบงัน
อย่างไรก็ตาม เสียงของคนๆหนึ่ง ดังก้องขึ้นอีกครั้ง ฉากเมื่อครู่ คล้ายถูกเล่นซ้ำอีกคราว
“หมื่นวิญญาณ … สะบั้น!”
ตัดกวาดสังหารเป็นระลอกที่สอง!
สัตว์ร้ายที่โผล่ออกมาจากในรอยแยกมิติ กองทัพมหาศาลที่กระจัดกระจาย ถูกล้างบางจนเกลี้ยง!
นี่แหละ--
--คือความแข็งแกร่งที่แท้จริงของฉินเฟิง!