ตอนที่แล้วEp.849 - ความบ้าคลั่งของไอซาน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.851 - การต่อสู้ของเลเวล S

Ep.850 - ผู้มาเยือนจากตระกูลใหญ่


2/5

Ep.850 - ผู้มาเยือนจากตระกูลใหญ่

รูปลักษณ์ที่ปรากฏของอบิลิตี้ เมื่อถูดจัดเรียงด้วยอักษรรูนแล้ว รูปทรงอย่างไรก็จะเป็นอย่างนั้น ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ง่ายๆ มิฉะนั้นอาจเกิดการคลายตัวของอักษรรูน แล้วพังทลายลงได้

อย่างไรก็ตาม สำหรับเลเวล S นี่คือเรื่องง่ายมากหากคิดทำ การควบคุมเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของรูนง่ายเหมือนกับการขยับแขนขา

ลูกไฟจู่ๆก็เกิดการระเบิดขึ้นอย่างกะทันหัน เหตุการณ์นี้เซอร์ไพรส์ผู้คน ทำให้คาดไม่ถึงอย่างสิ้นเชิง

ไอซานบ้ายิ่งกว่าแซดซะอีก แซดต้องการจับฉินเฟิงไปทดลอง ดังนั้นจึงแสดงความเมตตา ปล่อยให้ฉินเฟิงหลบหนีไป

แต่ตอนนี้ ไอซานแค่ต้องการฆ่าฉินเฟิง เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นเลเวล S แต่ก็ยังเลือกใช้วิธีนี้!

จากฝนเพลิงที่สมควรแค่ลุกไหม้ กลายเป็นระเบิดร้ายแรง

ต้องขอบอกว่า ด้านความสามารถพลิกแพลง ฉินเฟิงชื่นชมไอซานไม่น้อย แต่ขณะเดียวกัน ฉินเฟิงสัมผัสได้ถึงความรู้สึกฝาดขมในปาก

เขารู้สึกได้แค่อักษรรูนที่ตนจัดเตรียมเอาไว้เกิดระเบิดกะทันหัน พลังสมาธิได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง วิสัยทัศน์พร่ามัวคล้ายโลกหล้าถูกสั่นสะคลอน

เพียงพริบตา หัวของฉินเฟิงเกิดเสียงหึ่ง หึ่ง เกือบจะเป็นลม

แต่เอาจริงๆแล้ว การโจมตีนี้ หากสับเปลี่ยนเป็นคนธรรมดาที่โดน หัวของเขาคงแตกโผล๊ะไปแล้ว

แต่ฉินเฟิงยังไม่ถึงขั้นนั้น คลื่นกระแทกนี้ไหลเข้าสู่จักรวาลแห่งจิตสำนึกของฉินเฟิง  ลอยข้ามดาวเคราะห์เพชรทั้งสามดวง ผ่านศิลาศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองก้อน ในที่สุดหล่นลงบนดาวเคราะห์ทมิฬของฉินเฟิง แต่ด้วยระยะที่ไกล ทำให้มันไม่อาจสร้างแรงกระทบกระเทือนรุนแรงอีกต่อไป ไม่อาจทำลายจักรวาลแห่งจิตสำนึกของเขาได้

สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ พื้นที่กักเก็บพลังสมาธิของฉินเฟิงกว้างใหญ่มาก ดังนั้นเพียงพอที่จะต้านทานผลกระทบนี้

แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น ข้อเท็จจริงที่ว่าอักษรรูนจำนวนมากถูกระเบิดก็ยังคงอยู่ พวกมันได้หายไปจากดาวเคราะห์เพชรของฉินเฟิงอย่างสิ้นเชิง หากอยากได้กลับคืนมา จำเป็นต้องสะสมพวกมันใหม่อีกครั้ง

ต้องรู้นะว่า อบิลิตี้น่ะถูกสร้างขึ้นจากการจัดเรียงอักษรรูน หากไม่มีอักษรรูน ก็ไม่สามารถปลดปล่อยอบิลิตี้ได้

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ไม่มีผู้ใดสามารถมองเห็น

ในสายตาของผู้คนที่กำลังรับชมจากโลกภายนอก เห็นแค่เพียงลูกไฟร่วงตกจากฟ้า แล้วเกิดการระเบิดทันที โล่ปฐพีของฉินเฟิงสลายเป็นขี้เถ้าในพริบตา

ผลพวงจากแรงระเบิดกระจายออกไป ปะทะเข้ากับฉินเฟิงและไป๋หลี ฝ่ายหญิงไม่รอช้า เรียกลูกโลกมิติออกมา สร้างรอยแยกขนาดใหญ่เปิดขึ้นเหนือหัวพวกเขา

แทบจะในทันที เปลวไฟพวกนี้ถูกกลืนหายเข้าไปในรอยแยก ฉินเฟิง ไป๋หลี และกระท่อมเลยยังคงปลอดภัย

ใบหน้าเล็กๆของไป๋หลีตึงเครียด ภายในดวงตาสีเงินสดใส บัดนี้แผดเผาไปด้วยความโกรธ

ความโกรธนี้ แน่นอนว่าเกิดจากการที่ฉินเฟิงได้รับบาดเจ็บ!

“ฉินเฟิง ถ้าฉันฆ่าเขา คงไม่มีใครมาตามทวงหนี้แค้นทีหลังหรอกใช่ไหม” ไป๋หลีเปิดปากถาม

เนื่องจากไป๋หลีสามารถก้าวสู่ระดับสัตว์เทวะ ดังนั้นแข็งแกร่งพอที่จะสั่นคลอนเลเวล S แต่แน่นอน หากเกิดการต่อสู้ระหว่างทั้งสอง ใช่ว่าเธอจะเป็นฝ่ายชนะ 100%

แต่อย่างน้อยเธอก็สามารถรับมือกับไอซานได้!

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันพันธมิตรมนุษย์ ผู้ใช้พลังที่สามารถขึ้นเป็นเลเวล S ได้ ถือเป็นทรัพยากรล้ำค่ายากหาที่ใดเปรียบ หากคนหนึ่งถูกสังหารลง คงไม่พ้นเกิดความโกลาหล

กระนั้น ไอซานผู้นี้ เจ้าตัวไม่ต่างจากคนป่วยจิต ในสายตาของไป๋หลี หูซานมองยังไงก็เป็นคนดี แต่ไอซานผู้นี้คือคนเลว! เป็นศัตรูอย่างชัดเจน!

หากฆ่าอีกฝ่าย ไม่น่าจะมีใครทวงถามความรับผิดชอบ

ร่างของไป๋หลี เตรียมพร้อมลงมือทุกเมื่อ ตรงปลายหูของเธอ ขนสีเงินเริ่มงอกเงย ฟันจิ้งจอกเผยออกมาเล็กน้อย เล็บบนมือเริ่มยาวและกลายเป็นแหลมคม แม้จะอยู่ในกระโปรงทรงกว้าง แต่หางทั้งเจ็ดค่อยๆโผล่ออกมา กลิ่นอายของเธอ แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ

เพื่อเผชิญหน้ากับเลเวล S เป็นธรรมดาเธอต้องเปลี่ยนร่างให้อยู่ในสภาวะพร้อมรบที่สุด

“ไม่ รอก่อน!” ฉินเฟิงคว้ามือไป๋หลี ตอนนี้สติของเขากลับมาแจ่มใสแล้ว เขาไม่ต้องการให้ไป๋หลีออกไปสู้ หรือเปลี่ยนแปลงสู่รูปลักษณ์ดั้งเดิม เพราะหากเป็นเช่นนั้น แม้หลายคนจะรู้ว่าไป๋หลีเป็นสัตว์พันธสัญญา แต่สายตาเวลาที่พวกเขามองไป๋หลี จะเปลี่ยนไป

คนต่ำช้าเหล่านั้น จะไม่เคารพไป๋หลี คิดว่าเธอเป็นเพียงสัตว์เลี้ยง ดูหมิ่นเธอ!

และฉินเฟิงไม่มีวันยอมให้เป็นเช่นนั้น

หากจะให้ลงมือตอบโต้อย่างเต็มที่ ฉินเฟิงจะเป็นคนทำเอง!

“อีกเดี๋ยว ให้เธอใช้รูนมิติเทเลพอร์ตฉันไปข้างหลังคนๆนั้น ฉันจะฉวยจังหวะฆ่ามันเอง!”

แม้เอ่ยเช่นนี้ แต่ฉินเฟิงก็ตระหนักดี ว่านี่คือการต่อสู้ร้ายแรง หากพลาดพลั้งอาจถึงตาย!

มีดกษัตริย์ครามในมือเขาถูกกุมแน่น ความยากลำบากใดๆ เมื่ออยู่ต่อหน้ามัน ล้วนถูกฉินเฟิงสะบั้นสิ้น!

“ตกลง” ไป๋หลีพยักหน้า แต่ในหัวใจของเธอ ตอนนี้กำลังวางแผนว่า หลังจากส่งฉินเฟิงไปแล้ว เธอจะใช้ท่าเทเลพอร์ตไปเบื้องหน้าไอซาน โจมตีดึงดูดความสนใจจากเบื้องหน้า เพื่อรับประกันความปลอดภัยของฉินเฟิง

ช่วงเวลานี้ ทั้งสองจัดแจงแผนการ เตรียมพร้อมสู้สุดชีวิต!

จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ ลุกโชนขึ้นหลายเท่า!

อย่างไรก็ตาม ในตอนนั้นเอง บังเกิดเสียงแหวกอากาศสะท้อนมาจากเส้นขอบฟ้า สองกลิ่นอายน่าสะพรึงในเลเวล S ปรากฏขึ้นในการรับรู้ของผู้คน

ผู้มาเยือนทั้งสองยังดูเด็กมาก หนึ่งในนั้นมีรูปร่างกำยำ สูงอย่างน้อยสองเมตร ในสถานที่เช่นแอฟริกาเหนือซึ่งเต็มไปด้วยมนุษย์แข็งแกร่ง เขากลับดูไม่อ่อนแอเลย ให้ความรู้สึกเหมือนหอคอยเหล็กกล้า

อีกคนหนึ่ง มีท่าทีอ่อนโยน การแสดงออกดูสุภาพนุ่มนวล ใบหน้ายังเด็กมาก สวมแว่นตากรอบทอง

ห้ามลืมนะว่า ด้วยกระบวนการวิวัฒนาการของมนุษย์จนถึงปัจจุบัน มีโรคมากมายสามารถรับการรักษาได้แล้ว ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ว่ากลิ่นอายของอีกฝ่ายอยู่ในเลเวล S ดังนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะสายตาสั้น

ชัดเจนว่านั่นเป็นเพียงเครื่องประดับ!

สองคนนี้ หากให้คนของสหภาพสาธารณรัฐแอฟริกาเหนือมาระบุตัว เกรงว่าคงไม่มีใครรู้จัก แต่ดูจากสีผิวและรูปลักษณ์ของทั้งสองแล้ว พิจารณาได้ว่าพวกเขามีแนวโน้มที่จะเป็นคนฝั่งหัวเซี่ย

กลิ่นอายของทั้งสองพลุ่งพล่านไปตลอดเส้นทาง ใช้เวลาเพียง 5 วินาที จากเส้นขอบฟ้าไกล ก็มาถึงที่หมาย ยืนกั้นกลางระหว่างฉินเฟิงกับไอซาน

แม้จะเห็นเพียงด้านหลังของพวกเขา แต่ฉินเฟิงสามารถจดจำอีกฝ่ายได้ทันที

ระดับสูงของเมืองหลวงมังกร : หลงเยว่!

อีกคนหนึ่ง แน่นอนว่าเป็นปรมาจารย์หลง : หลงหยุนอี้!

ปรากฏว่าพวกเขาก็เดินทางมาที่นี่เช่นกัน!

อย่างไรก็ตาม นั่นก็ถูกต้องแล้ว เพราะหลายคนในตระกูลหลงอายุไม่น้อยอีกต่อไป แม้ใบหน้าผิวพรรณของพวกเขาจะดูเด็กมาก แต่ใครจะรู้ ว่าอายุจริงๆของพวกเขาจะเท่าไหร่ และภายในตระกูล ยังมีบุคคลสำคัญอีกกี่คน ที่ใกล้สิ้นอายุขัย?

หรือต่อให้ปัจจุบันทั้งสองยังไม่ต้องการมันก็ตาม แต่ใครจะรู้ ในอนาคตพวกเขาอาจจำเป็นต้องใช้มันก็ได้ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่พวกเขามาที่นี่ หากไม่มา นั่นแหละไม่ปกติ!

ณ เวลานี้ หลงเยว่ยืนหยัดอยู่เบื้องหน้าฉินเฟิงไม่ต่างจากขุนเขาไท่ซาน จิตวิญญาณการต่อสู้ของฉินเฟิงจางหายไปเล็กน้อย แม้จะไม่รู้ว่าสองคนนี้ตั้งใจมาช่วยเขา หรือเพราะผลประโยชน์ที่ได้รับจากการขายดาบอสูรฟ้า แต่จะยังไงก็ช่าง หวังว่าพวกเขาจะสะกดไอซานได้ก็พอ!

เลเวล S แต่ละคน เป็นการดำรงอยู่ที่น่าหวาดกลัวมาก ตอนนี้ มิติธารโลหิตเพิ่งเผยโฉม แต่กลับปรากฏเลเวล S ถึง 4 คน ฝูงชนที่กำลังรับชม ต่างสั่นสะท้าน รู้สึกตื่นเต้นจนหยุดไม่อยู่

มีเพียงฉินเฟิงที่ยืนอยู่ท่ามกลางสนามรบ สัมผัสได้ถึงภัยคุกคามของความตายตลอดเวลา

“ไอซาน! นี่แกกำลังคิดจะทำอะไร? ตั้งใจจะฆ่าผู้พิทักษ์หัวเซี่ยของพวกเราหรือ? เบื่อชีวิตสุนัขของตัวเองแล้วใช่ไหม!” เสียงของหลงเยว่ ก้องกังวานดั่งระฆังทอง เมื่อผสานเข้ากับกำลังภายใน กลายเป็นเสียงคำรามดังกระหึ่ม ต่อให้อยู่ไกลกว่า 3,000 เมตร ก็ยังได้ยินชัดเจน!

ท่าทีดุร้ายและบ้าคลั่งของไอซานเริ่มสงบลง แต่ลูกตายังคงกลับกลอกไม่หยุด

หากเป็นเลเวล S ทั่วๆไป เกรงว่าเมื่อเจอคำขู่เช่นนี้ แถมศัตรูยังมีมากกว่าคงตกใจ แต่สำหรับไอซานน่ะไม่!

นั่นเพราะเขามันบ้า!! ใครๆก็ขนานนามเขาว่าปีศาจ!

“เลเวล S ของหัวเซี่ยแล้วยังไง? สุดท้ายก็แค่พวกมาสอดรู้สอดเห็นที่นี่อยู่ดี อ้อ แล้วดูหน้าตาพวกแกสิ เหมือนกับเด็กยังไม่หย่านม ถ้าต้องการ สนใจให้ฉันสอนวิธีหัดพูด ร้องเรียกพ่อไหม?”

ไอซานประชดประชัน สิ้นเสียงเริ่มลงมือทันที!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด