ตอนที่ 4 - พ่นพิษ (1)
*ก่อนจะอ่านนิยาย โปรดตรวจสอบว่าท่านได้อยู่ในสถานที่ที่มีแสงเพียงพอ หรือถ้าท่านอ่านในความมืดก็อย่าลืมเปิด Night Mode หรือจอส้ม เพื่อป้องกันการปวดหัวและสายตาสั้นด้วยนะครับ*
--------------------------------------------------------------------------------------------
โบสถ์นั้นเป็นสถานที่ที่เหล่าเซ้นต์จะมารวมตัวกัน - เป็นสถานที่ที่เอาไว้จัดการเรียนการสอนและการภาวนาประจำวัน. เนื่องจากตอนนี้เที่ยงแล้วเอมิเลียจึงคิดว่าคนคงมากันเยอะแล้ว.
พอเดินถัดไปได้ไม่กี่แถว เอมิเลียก็เห็นกลุ่มคนกำลังมุงกันอยู่ด้านหน้าโบสถ์. เธอเบียดผ่านกลุ่มเข้าไปแล้วก็เห็นคนหน้าคุ้นๆ เธอจ้องเขม็งไปที่เดบราที่กำลังคุยจดจ่ออยู่.
ราวกับว่าเดบราสัมผัสได้ว่ามีคนมองเธออยู่จึงหันไปทางเอมิเลีย สายตาพวกเขานั้นปะกัน.
เอมิเลียรู้ว่าเดบราจะเล่นเธอจริงๆแน่รอบนี้. เธอจะเก็บความลับของเอมิเลียไว้ทำไมล่ะ??? เธอจะเปิดโปงเอมิเลียตรงกลางถนนตอนเช้านั่นก็ได้แต่เธอไม่ทำ. นั่นก็เพราะเดบราอยากให้เอมิเลียอยู่ตอนที่เปิดโปงด้วยยังไงล่ะ.
เดบราเจ้าเล่ห์เกินไป, เลวเกินไปจริงๆ.
เธอรู้ได้ยังไงกัน?
ถึงแม้เอมิเลียจะเกลียดชังเทพแห่งแสงและคนอื่นๆ แต่เธอก็พยายามเลี่ยงดีแล้วนะ. เธอแกล้งเป็นสาวบริสุทธิ์เหมือนที่พวกนั้นคิดและเธอก็พยายามทำตัวให้ไม่โดดเด่นด้วย.
บางทีเธออาจจะโดนตอนที่เผลอหรือไม่ก็เลี่ยงคนอื่นๆไม่ได้. เดบรามองเธอออกและตอนนี้เธออยากจะให้ทุกๆคนรู้ด้วย.
เอมิเลียมองขึ้นไปทางกำแพงที่อยู่ไม่ไกลนักแล้วยิ้มให้.
แน่นอนว่าเธอจะหนี แต่ก่อนหน้านั้นเธอจะไม่มีวันปล่อยให้คนที่ทำให้เธอซวยหนีรอดไปได้แน่.
เอมิเลียค่อยๆถอยเข้าไปในเงาต้นไม้, แขนขวาเธอค่อยๆเลื่อนลงไปหาเอวเพื่อไปจับคทา. ออร่าอาฆาตที่น่ากลัวแผดออกมาจากตัวเธอ เธออาจจะดูยิ้มอยู่แต่สายตาเธอนั้นอำมหิตมาก.
“เอมิเลีย?” มีเสียงชายคนหนึ่งดังออกมาจากทางด้านหลัง.
เอมิเลียสะดุ้งตกใจ.
อาจารย์วิชาประวัติศาสตร์และอักษรศาสตร์ผู้หล่อเหลาและสง่างามกำลังถือกองหนังสือโผล่มา, ตอนแรกเขามองเธอด้วยความตกใจจากนั้นสีหน้าเขาก็ดุขึ้น “นี่เธอจะโดดเรียนอีกแล้วงั้นหรอ?”
เอมิเลียตัวสั่น “ป่าวค่ะ! ป่าว! อย่าพูดอะไรมั่วๆสิคะ!”
อาจารย์คนนั้นมองเธอพร้อมยิ้มแสยะ “ดูจากท่าทางมีพิรุธของเธอแล้วยังจะบอกว่าไม่ได้จะโดดเรียนงั้นเหรอ? ดูคะแนนสอบครั้งก่อนเธอสิ ชั้นอายคนอื่นจริงๆเวลาบอกว่าเธอเป็นลูกศิษย์”
เอมิเลียพูดไม่ออก.
เธอไม่ค่อยเก่งเรื่องจำบทความยาวซักเท่าไหร่ วิชาปฏิบัติน่ะพอได้ แต่วิชาที่มีแต่ตัวหนังสือเยอะๆแบบนี้เธอไม่ไหวจริงๆ แค่ผ่านได้ก็เต็มกลืนแล้ว.
เธอเถียงไปเบาๆ “อาจารย์จะว่าหนูแบบนั้นก็ไม่ดีนะคะ….”
เดี๋ยว, เดี๋ยว!
นี่ไม่ใช่เวลาจะมาคุยเรื่องนี้นะ!
เอมิเลียตกใจขึ้นมาทันทีแล้วหันไปมองเดบราที่อยู่ตรงพื้นหน้าโบสถ์ ถ้าอาจารย์เหวิน ชิยังอยู่นี่เธอก็ฆ่าเดบราตรงนั้นไม่ได้สิ.
เธอต้องไล่อาจารย์เหวิน ชิไปซะก่อน.
เอมิเลียอธิบาย “อาจารย์คะ จริงๆหนูไม่ได้จะโดดหรอกค่ะ หนูจะ…”
อาจารย์พูดแทรกเธอขึ้นมา “จะเริ่มเรียนแล้ว จะทำอะไรก็เอาไว้ก่อนนะครูขอ อะไรจะสำคัญขนาดต้องโดดวิชาอีก?”
แน่นอน ชีวิตชั้นไง!
เสียดายเอมิเลียพูดแบบนั้นออกมาไม่ได้ สุดท้ายเธอก็อธิบายไม่ขึ้น จนถูกอาจารย์ลากตัวไป.
ตอนนั้นเองหลายๆคนก็มารอกันอยู่ด้านหน้าโบสถ์แล้ว. พออาจารย์เปิดประตูไปทุกคนก็ค่อยๆกรูกันเข้ามา หยอกล้อและไปหาที่นั่งกัน.
เอมิเลียนั้นได้นั่งที่นั่งพิเศษ, แถวหน้า, เพราะอาจารย์จัดไว้ให้ เธอจะได้ไม่หนี.
เอมิเลีย: ใจสลาย.jpg
ให้ตายสิโว้ย!
เดบรากับเพื่อนเธอนั่งอยู่ด้านหลังแล้วพอเห็นสาวผมยุ่งคนหนึ่ง พวกเขาก็สงสัย “เธอเป็นอะไรอีกแล้วน่ะ? ช่วงนี้เอมิเลียทำตัวแปลกๆนะ”
เซ้นต์อีกคนพูดขึ้นมา “จะไปรู้เหรอ? เธอกล้ามาแข่งหาเสียงเป็นหัวหน้าเซ้นต์ สิ่งแรกที่เธอควรทำคือไปหากระจกแล้วชะโงกดูเงาตัวเองก่อนต่างหาก!”
พวกเซ้นต์พากันหัวเราะชอบใจด้วยท่าทีเย้ยหยัน.
เดบราแสยะ แล้วไปกระซิบใส่เพื่อนๆเธอ “พร้อมรึยัง?”
พวกเขาพยักหน้าแล้วมองหน้ากันไปมา.
หลังจากผ่านไปพักนึง เซ้นต์ทุกคนก็นั่งที่ตัวเองเรียบร้อยแล้ว. อาจารย์เคาะโตะเพื่อเรียกความสนใจของนักเรียน. “เอาล่ะทุกคนเงียบๆ ได้เวลาเรียนแล้ว”
พวกเซ้นต์พากันเตรียมตัว, นั่งหลังตรง. จู่ๆเดบราก็ลุกขึ้นมา.
“อาจารย์คะ หนูมีบางอย่างอยากจะประกาศให้ฟัง. ขอเวลาซักนาทีได้มั้ยคะ?”
อาจารย์ดันแว่นขึ้นแล้วพยักหน้า “เชิญ”