ตอนที่ 54 เปลวไฟสีเขียว
ตอนที่ 54 เปลวไฟสีเขียว
“ไปให้พ้น!” อิมพ์อุทานพร้อมกับคำรามด้วยเสียงทุ้มลึกที่เกือบจะดุร้าย เขานั้นเจอคนที่ครอบครองไพ่สองครั้งแล้วจนถึงตอนนี้ แล้วทั้งสองก็ยังอันตรายและบ้าคลั่งมากอีกด้วยดังนั้นเออิโระจึงมั่นใจแน่นอนว่าชายชราคนนี้ก็คงไม่ต่างกัน
เห็นได้ชัดจากการที่เขาสามารถหลบการโจมตีทั้งหมดของอิมพ์ได้ อย่างไรก็ตามสิ่งที่ชายชราตอบสนองต่อคำพูดของเออิโระก็คือการถอนหายใจเบาๆและเดินไปที่กล่องเครื่องมือของเขาก่อนหน้านี้ จากนั้นเขาก็ค่อยๆหยิบมันขึ้นมาและวางไว้บนหลังของเขา ด้วยเหตุผลบางอย่างอิมพ์นั้นไม่คิดว่าเขาจะสามารถยกกล่องใบนั้นขึ้นมาได้จริงๆเพราะมันดูหนักเป็นอย่างมาก แต่สำหรับชายชราที่ชื่อจูร่าแล้วมันดูเบาเหมือนกับแท่งไม้ที่อยู่ตรงเท้าของเออิโระตอนนี้เลย
ในขณะที่เริ่มบ่นอย่างเงียบ ๆ ชายชราก็หันกลับมาและเดินลึกเข้าไปในป่าก่อนที่อิมพ์จะรีบหยิบท่อนไม้ตรงหน้าเขาและรีบแบกพวกมันกลับไปยังสถานที่ที่เด็กๆรออยู่ด้วยความระมัดระวังตลอดเวลา
"ทำไมคุณใช้เวลานานจังเลย?!" แซมมี่อุทานขณะที่เธอมองไปที่เออิโระที่เพิ่งวางไม้ลงในกองตรงหน้าเขา “ขอโทษด้วย” เขาตอบอย่างเงียบ ๆ ก่อนที่จะเริ่มตั้งไม้ให้เป็นรูปแคมป์ไฟอย่างถูกต้องเหมือนที่เขาจำได้ก่อนหา้นี้ จากนั้นก็วางหินเวทย์มนต์ไฟลงบนแท่งไม้เพื่อจุดไฟ
และไม่กี่นาทีต่อมาเมื่อแคมป์ไฟกำลังลุกไหม้ได้ที่ อาร์คและรูดี้ก็จัดเตรียมทุกอย่างที่จำเป็นในการปรุงอาหารเสร็จ ตอนนี้มีชิ้นส่วนโลหะที่แตกต่างกันตั้งอยู่บนกองไฟก่อนที่รูดี้จะทำทุกอย่างจนเสร็จโดยใช้อุปกรณ์ที่ขนมา แน่นอนว่าอิมพ์เองก็พยายามช่วยรูดี้และคอยระวังให้ทุกอย่างดำเนินการไปได้ดีเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายกับเด็กๆ
ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตามเพียงไม่นานอาหารก็เสร็จและพวกเขาก็สามารถเริ่มกินหลังจากที่ให้อาการเด็กทารกทั้งสองแล้ว อย่างไรก็ตาม จากระยะไกลอิมพ์ก็ได้ยินเสียงของผู้คนที่แตกต่างกัน พวกเขากำลังเข้ามาใกล้พร้อมกับรถม้า ทันทีอิมพ์ก็รีบตะกายไปรอบๆเพื่อพยายามซ่อนตัวทันที เขานั้นแตกต่างกับพวกเด็กๆเนื่องจากเออิโระเป็นอสูร หากคนเหล่านี้เห็นเออิโระพวกเขาอาจทำอันตรายและจับเขาก็เป็นได้
ในทันใดนั้นเออิโระก็ปกปิดใบหน้าของเขาด้วยผ้าบางส่วนที่อยู่ในรถม้าและพยายามซ่อนผิวหนังสีแดงส่วนหนึ่งที่โผล่ออกมาของเขาจากนั้นก็ยืนอยู่หน้ารถม้าเพื่อให้แน่ใจว่าเขาสามารถมองเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นได้ในขณะที่รอให้คนเหล่านั้นผ่านไป
"ให้ตายเถอะ ครั้งนี้เราโชคดีจริงๆ " ชายสองคนที่นั่งอยู่ด้านหน้ารถม้าก็พูดกับอีกคนเสียงดังจนอิมพ์ที่อยู่ตรงนี้สามารถได้ยินเสียง
"นั่นหน่ะสิ! ถ้าเจอกับชายคนนั้นอีกจริงๆเราน่าจะขายไม้นี่ให้เขาอีกนะ อย่างน้อยที่สุดก็น่าจะได้เหรียญทองเล็กมา ช่างคุ้มค่าเสียจริง!" อีกฝ่ายตอบกลับด้วยเสียงหัวเราะดัง ๆ ในขณะที่คนแรกตอบอีกครั้งในขณะถือไม้รูปทรงที่อิมพ์คุ้นเคยแม้ว่าปลายอีกด้านของมันจะค่อนข้างเปื้อนเลือดก็ตาม
นั่นเป็นขาปลอมที่ชายชราคนนั้นสร้างให้หมูป่าก่อนหน้านี้
ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่ได้อันตรายถึงขั้นที่อิมพ์ต้องโจมตี ดังนั้นเขาจึงปลอยรถม้าของชายสาองคนนั้นแล่นผ่านไปตามถนน
แต่ในขณะเออิโระกำลังผ่อนคลายลง เขาได้ยินบทสนทนาอีกส่วนหนึ่งของทั้งสองคนนั้น "ทำไมมันถึงได้มีค่าเช่นนั้น มันก็แค่ไม้ ... " หนึ่งในนั้นพึมพำและอีกคนตอบกลับอย่างรวดเร็วพร้อมกับเสียงหัวเราะดังลั่น
"อ่า เพราะมันเป็นวัสดุที่นิยมใช้ไม้กายสิทธิ์ไงหละ อีกทั้งมันยังถูกกว่าวัสดุอื่น แต่ส่วนใหญ่แล้วพวกมันจะถูกใช้เผาในงานฉลองของพวกขุนนางมากกว่าเพราะไม้นี้สามารถเปลี่ยนสีของเปลวไฟได้ " เขาอธิบายและทันใดนั้นอิมพ์ก็หันกลับไปที่แคมป์ไฟเมื่อเห็นว่ารูดี้กำลังพยายามที่จะวางไม้อีกชิ้นลงไปในกองไฟซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นไม้ชนิดเดียวกันกับที่ทั้งสองพูดถึง
ในขณะที่ไม้เริ่มลุกไหม้เปลวไฟสีแดงก็พุ่งขึ้นและเปลี่ยนเป็นสีเขียวสดใส ทันทีพื้นที่รอบๆบริเวณก็สว่างขึ้นแม้ว่ามันจะเป็นตอนกลางวันและมีพระอาทิตย์แขวนอยู่บนท้องฟ้าก็ตาม “โอ้ ... มันเป็นแบบนี้เองรึ?” เออิโระก็ได้ยินชายคนหนึ่งถามในขณะที่อีกคนชะลอรถม้าลงและอิมพ์ก็หันไปหาเด็ก ๆ อย่างรวดเร็ว
"มาซ่อนในรถม้าเร็วเข้า" เขาบอกพวกเขาทันทีและแม้ว่ารูดี้จะดูลังเลอยู่บ้างเพราะยังมีอาหารเหลืออยู่บนกองไฟ แต่พวกเขาก็ลงเอยด้วยการทำตามสิ่งที่อิมพ์บอกและก้าวขึ้นไปบนรถม้าอีกครั้งเพื่อปล่อยให้อิมพ์จัดการทุกอย่างต่อ
และเมื่อเออิโระตรวจสอบแน่ใจแล้วว่าประตูหลังปิดสนิทอยู่ชายคนหนึ่งก็เดินเข้ามาที่รถม้าของพวกเขา
"อรุณสวัสดิ์ เราขอถามอะไรเล็กๆน้อยๆหน่อยสิ " เขาถามและอิมพ์ก็พยักหน้า
"ได้ มีอะไรรึ ?" เออิโระถามและชายที่พูดกับเขาในตอนนี้ก็หันไปหาอีกคนอย่างสับสนซึ่งเขากำลังถูจมูกของตัวเองอย่างรำคาญ
“อย่ามาเล่นตลกกับพวกเราที่นี่เลย พวกเรามาจากชนเผ่าทางเหนือ หากเจ้าฉลาดก็อย่าได้คิดจะมีเรื่องกับพวกเราที่นี่เลย ดังนั้นตอบมาซะว่าเจ้าเอาไม้ที่เพิ่งเผามาจากไหน ? แล้วเจ้ามาทำอะไรที่นี่ ” ชายคนนั้นถาม แต่อิมพ์ส่ายหัวทันที
เออิโระไม่เข้าใจจริงๆว่า 'ชนเผ่าทางเหนือ' คืออะไร แต่คนเหล่านี้ดูแข็งแกร่งมากดังนั้นอิมพ์จึงต้องการเพียงแค่ให้พวกเขาจากไปโดยไม่ต้องต่อสู้กันเพราะมันอาจจะเป็นอันตรายต่อพวกเขา
"ข้าเจอมันในป่าตอนหาฟืน แต่มันก็เป็นชิ้นเล็กๆเท่านั้น ที่เหลือข้าเองก็ไม่รู้แล้ว ขอโทษด้วย " อิมพ์ตอบกลับ แต่พวกผู้ชายจ้องไปที่อิมพ์อย่างรำคาญ
"เอาจริงเหรอ ! เจ้าจะบอกว่าเพิ่งเจอมันกองอยู่ที่พื้นหรือไง" หนึ่งในนั้นถาม เออิโระจึงค่อยๆพยักหน้า นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในทางเทคนิคแล้วอ่ะนะ
"เจ้าคิดว่าเราจะเชื่อหรอ ? มันเป็นเรื่องที่บังเอิญเกินไปไม่ใช่รึไง ? เจ้าจะบอกว่าเพราะมันดูแห้งเจ้าก็เลยเอามันมาใช้ทำอาหารหน่ะรึ มันไม่แปลกไปหน่อยรึไง ?” ชายคนนั้นถาม แต่อิมพ์ไม่รู้ว่าจะตอบกลับอย่างไร
มันเป็บนั้นหรอ? เขาไม่แน่ใจจริงๆเกี่ยวกับเรื่องนั้น แต่อาจจะเป็นเช่นนั้นก็ได้ แต่อิมพ์ก็ไม่ได้สนใจเพราะตอนนี้เขาก็แค่อยากนอนบ้าง ตอนนี้ร่างกายของเขารู้สึกหนักอึ้งและตาของเขาก็ยากที่จะลืมได้แล้ว
"ฟังนะ เจ้าแค่บอกเราว่าเจ้าเอจมันจากไหนแล้วเราจะไปทันที " อีกคนที่ดูรำคาญก็ถามขึ้นซึ่งเขาพูดข้าประเด็นทันที แต่อิมพ์ก็ทำเพียงถอนหายใจออกมาเล็กน้อย "ทางนั้น" เขาอธิบายและชี้เข้าไปในป่า แต่ทันทีเขาก็เริ่มตระหนักได้ว่ามีบางอย่างแปลกๆ 'ชายคนนั้น' ที่คนพวกนี้พูดถึงคือใคร?
อิมพ์ไม่ได้สังเกตว่าเมื่อใด แต่ตอนนี้เองก็มีคนๆหนึ่งแวบเข้ามาใกล้พวกเขาและนั่นก็คือชายชราตาบอดที่ชื่อว่าจูร่าซึ่งตอนนี้เขากำลังนั่งอยู่ข้างกองไฟในขณะที่ใช้มีดจิ้มเนื้อบางส่วนที่ย่างอยู่บนกองไฟขึ้นมา
"โอ้ เจ้าต้องชมเด็กคนนั้นให้มากๆนะ เขาทำอาหารได้ดีเลยทีเดียว " จูร่าพูดหลังจากที่เขี้ยวเนื้อนุ่มในปากของเขา
"แต่สำหรับเจ้า ... ข้าลำบากมากเลยนะรู้ไหม มันไม่ง่ายเลยที่จะหาไม้เหมาะสมกับสัตว์น้อยตัวนั้นได้ และมันก็บังเอิญจริงๆที่ไม้นั้นดันอยู่กับเจ้า ... " ชายชรากล่าวพร้อมกับถอนหายใจและ ยืนขึ้นค่อยๆก้าวไปหาพวกผู้ชายและเออิโระในขณะที่เอามือไพล่หลังก่อนที่หนึ่งในนั้นจะรู้ว่าจูร่าพูดถึงอะไร
"เดี๋ยวก่อน เจ้าเป็นคนทำสิ่งนี้งั้นรึ!" เขาถามและตูร่าก็พยักหน้าช้าๆพร้อมกับบ่นเล็กน้อย
"แน่นอน ข้าเป็นคนทำเองและถ้าเจ้าจะกรุณาข้าก็อยากจะขอให้เจ้าคืนมันให้ข้าด้วยเพราะข้าจะเอามันไปคืนหมูป่าตัวที่เจ้าแย่งมา"
โดยไม่สนใจคำพูดของชายชรา ชายคนนั้นก็รีบวิ่งผ่านเขาไปยังกล่องไม้ที่ตั้งอยู่ด้านหลังจูร่า“เจ้าเก็บไม้ไว้ข้างในนี้สินะ”
"โอ้ เจ้าสนใจงานฝีมือข้งข้างั้นรึ ? พอดีเลย ข้ากำลังหาเด็กฝึกงานอยู่พอดี ... เจ้าอยากเรียนรู้มันจากข้าไหมละ ดูเหมือนเจ้าจะแข็งแกร่งไม่น้อยเลย" จูร่าพูดพร้อมหัวเราะเบา ๆ ในขณะที่อิมพ์จ้องมองไปที่เขาและพยายามคิดว่าเขามาจากไหนและเขามองเห็นชายสองคนนั้นด้วยสภาพตาของเขาได้ยังไง ? มันเป็นเวทย์มนต์งั้นรึ ?
"เด็กฝึกงาน? ฟังนะ ถ้าเจ้าเป็นทำมันจริงๆงั้นก็แปลว่าเจ้าคือจูร่าใช่หรือไม่ ? ข้าจะไม่เสี่ยงชีวิตเพื่อนเป็นช่างแกะสลักขาเทียมโง่เง่าหรอกนะ บอกข้ามาว่าเราจะเปิดสิ่งนี้ได้ยังไงแล้วเราจะไปซะ อีกทั้งเราจะไม่บอกทหารยามที่เมืองถัดไปด้วยว่าเจ้าอยู่แถวนี้ " ชายคนนั้นพูดพร้อมกับยิ้มเยาะและชายชราก็ถอนหายใจออกมาลึก ๆ ในขณะที่ส่ายหัว
“อย่างนี้เองสินะ?” จูร่าตอบและค่อยๆก้าวไปหาพวกผู้ชายก่อนจะจับกล่องด้วยมือข้างหนึ่งแล้วเหวี่ยงมันขึ้นไปบนหลังของเขาด้วยท่าทางที่ว่องไวแล้วหันไปหาเออิโระ
"ขอบคุณสำหรับอาหาร บอกเด็กคนนั้นด้วยว่าอร่อยมาก" ชายชราพยักหน้าเล็กน้อยอย่างสงบ จากนั้นก็ยิ้มและหนัหน้าหนีไปแต่ตอนนี้เองชายคนหนึ่งก็คว้ากล่องของเขาไว้ก่อนที่ชายชราจะได้ไป
“หยุดนะ! เจ้าไม่ได้ยินที่พูดรึไง ?” ชายคนโง่ถามพยายามดึงชายชรากลับมาแต่เขาก็ไม่สามารถทำได้ ทันทีชายอีกคนที่ดูฉลาดกว่าก็หันกลับไปยังกองไฟและคว้าท่อนไม้ที่มีเปลวไฟลุกอยู่อีกด้านหนึ่งขึ้นมาจากนั้นก็เดินตรงไปที่รถม้า
"ถ้าเจ้าไม่หยุด ข้าจะเผาเจ้าพวกบ้านี่ให้หมดเลย !" ชายคนนั้นอุทานออกมา "เจ้าอยากให้เป็นแบบนั้นรึไง!"
อย่างช้าๆ ชายชราก็หยุดเดินและประสานนิ้วของเขาไว้ด้านหลัง "โฮโฮ ... ข้าไม่แน่ใจว่าเจ้าจะทำได้นะ ~" จูร่าหัวเราะเบา ๆ และก่อนที่ชายคนนั้นจะรู้ว่าเขาหมายถึงอะไรก็ได้มีกริชร้อนมาอยู่ที่คอของเขาแล้ว
และด้วยการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วอิมพ์ก็ผลักกริชไปข้างหน้าและตัดผ่านลำคอของชายคนนั้นทำให้เขาล้มลงกับพื้นทันทีในขณะที่ชายคนนั้นจับบาดแผลของตัวเองอย่างทรมานเพื่อหาอากาศหายใจแต่เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้และไม่นานกริชก็ได้แทงเข้ามาที่ด้านข้างศีรษะของเขาอีกครั้ง
[ท่านสร้างความเสียหายร้ายแรงแก่ อาน สเติก]
[คุณเลเวลขึ้น!]
[คุณมีแต้มสเตตัสที่ยังไม่ได้ใช้ 29 แต้ม]
ทันทีที่การแจ้งเตือนปรากฏขึ้นตรงหน้าอิมพ์ก็มีบางอย่างเกิดขึ้นกับเขา เขารู้สึกกระปรี้กระเปร่าเพียงชั่วครู่แต่แล้วโลกรอบตัวเขาก็เปลี่ยนเป็นสีดำสนิท สิ่งสุดท้ายที่เออิโระเห็นก่อนที่ร่างของเขาจะกระแทกกับพื้นก็คือร่างของชายอีกคนที่ล้มลงพร้อมกับเขาซึ่งอิมพ์ไม่ทันเห็นด้วยซ้ำว่าชายชราที่ชท่อจูร่านั้นทำอะไรกับชายคนนั้น