ตอนที่ 50 โง่เง่า
ตอนที่ 50 โง่เง่า
"รออยู่ที่นี่ "อิมพ์บอกเด็กหนุ่มตรงหน้าและเขาก็พยักหน้าตอบรับอย่างช้าๆ" กลับมาเร็ว ๆนะ ... "รูดี้บอกเขาและอิมพ์ก็ปั้นริมฝีปากเล็กน้อยเป็นรอยยิ้มพยายามที่จะสร้างความมั่นใจให้กับเขาแม้ว่าเขาจะไม่แน่ใจว่ามันได้ผลในแบบที่ต้องการหรือไม่เพราะรูดี้ดูเหมือนจะกระวนกระวายมากขึ้นเมื่ออิมพ์หันกลับมาและจากไปยังสิ่งก่อสร้างที่อยู่ไม่ไกลจากพวกเขา
อย่างช้าๆอิมพ์ก็เดินตรงไปที่บันได้านหน้าซึ่งมีผู้คุมรักษาการณ์เหมือนเช่นเคยและเพื่อล่อให้มันออกไปอิมพ์ก็หยิบเหรียญออกมาจากกระเป๋าและโยนมันออกไปให้ผู้พิทักษ์ได้ยินและมันเห็นเหรียญบนพื้นมันก็รีบวิ่งตามไปเก็บอย่างรวดเร็ว
และอีกครั้งหนึ่งก็พยายามใช้ร่างเงาของเขาขึ้นบันไดไปยังห้องที่อยู่ด้านบนสุดของปราสาทที่มีลักษณะคล้ายหอคอย
ในขณะที่อิมพ์มาถึงนั้นเขาสังเกตเห็นบางสิ่งที่แตกต่างไปจากปราสาทอื่น ๆ ประตูถูกปิดไว้และดูเหมือนว่าอิมพ์จะไม่สามารถเปิดมันได้ง่ายๆเลย อิมพ์เคาะประตูให้แรงที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อพยายามทำให้ใครบางคนมาสนใจเขาและเห็นได้ชัดว่าจากด้านในมีใครบางคนกำลังมีปฏิกิริยาตอบสนองอยู่ แม้ว่าจะรู้สึกประหม่าในขณะที่ยืนอยู่หน้าประตูแต่เขาก็ถอนหายใจออกมาและเริ่มคิดถึงสิ่งที่เขาควรทำที่สุดเพื่อที่จะเข้าไปข้างใน
"ข้ามีของขวัญมาให้" จากนั้นเขาก็ตะโกนออกมาในขณะที่หยุดส่งมานาเข้าไปในหินเวมย์มนต์ และตอนนี้เองก็มีเสียงจากด้านในอีกครั้งแม้ว่าคราวนี้มันจะเข้ามาใกล้ประตูมากขึ้นแล้วก็ตาม
"ห๊ะ - ของขวัญอะไร" เสียงจากด้านในถามและอิมพ์ก็หยิบกระเป๋าในมือของเขาและขยับไปรอบ ๆ เพื่อให้เสียงเหรียญดังขึ้น จากนั้นประตูก็เปิดขึ้นโดยไม่ลังเลและมือบาง ๆ ก็เอื้อมออกมา ผิวหนังของมันดูเหมือนจะเสียหายเป็นอย่างมากและเหมือนเพิ่งจะฟื้นฟูได้ไม่นานซึ่งนี่หมายความว่านักบวชน้อยยังคงอยู่ในนั้น ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตามตอนที่มือกำลังเอื้อมออกมาอิมพ์ก็มีความคิดว่าเขาควรทำอะไรบางอย่าง เขาหยิบผ้าที่พันอยู่รอบนิ้วที่ฉีกขาดก่อนหน้านี้แล้วพันมันไปรอบ ๆ มือนั้นทันที
ทันใดนั้นเสียงดังฉ่าก็ปรากฏขึ้นและควันก็เริ่มลอยขึ้นมา จากนั้นอิมพ์ก็ดันกริชของเขาให้ทะลุผาสนผ้าเพื่อปักเข้าไปในผิวหนังของลอร์ดกันไม่ให้ผ้าหลุดออกไป
ทันทีแขนของลอร์ดก็เกร็งขึ้นและเส้นเลือดก็โผล่ขึ้นมาทั่วตอนนี้เองอิมพ์ก็รู้ว่าทุกอย่างเป็นไปด้วยดีและตอนนี้ลอร์ดก็ไม่สามารถขยับได้แล้ว
ผ่านช่องว่างบาง ๆ ของประตูอิมพ์รีบวิ่งเข้าไปในห้องและมองไปรอบ ๆ ทันที เขาสามารถมองเห็นภูเขาเหรียญและภูเขาที่มีหินแวววาวหลายอย่างกองกันอยู่มากมายอย่างที่ไมาเคยเห็นมาก่อน มีหนังสือวางซ้อนกันพร้อมกับเครื่องประดับและกระติกน้ำที่ดูมีค่าเกินกว่าจะวางไว้รอบ ๆ แบบนี้ได้ และแน่นอนตรงกลางของหนังสือนั้นมีนักบวชน้อยนอนอยู่ในชามสีทองซึ่งอิมพ์ก็วิ่งเข้าหาทันทีโดยไม่มีสนใจสิ่งใด
แน่นอนว่าลอร์ดแห่งความโลภไม่ชอบใจเรื่องนี้เลย “อย่าแตะต้องมันเด็ดขาดมันคือของข้า ! ของข้าคนเดียวเท่านั้น!” ลอร์ดอุทานด้วยความโกรธ แต่อิมพ์ไม่ฟังและทำเพียงแค่อุ้มเด็กสาวขึ้นมา เมื่อเห็นเขาเด็กสาวก็เริ่มหัวเราะคิกคักทันทีและยื่นมือไปทางใบหน้าของเขาดังนั้นอิมพ์จึงยิ้มให้เธอเล็กน้อยและจับชามให้แน่น จากนั้นก็ค่อยๆพยายามกลับไปที่ประตูโดยที่ลอร์ดกำลังใช้แขนทั้งหกข้างของเขาพยายามดึงกริชที่แทงอยู่ในมือข้างหนึ่งออก
ระหว่างทางออกไปอิมพ์ก็พยายามเปิดประตูให้กว้างที่สุดและรีบวิ่งออกไปพร้อมกับคว้ากริชในขณะที่วิ่ง
เร็วที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้อิมพ์รีบวิ่งลงบันไดผ่านผู้คุมเพื่อไปหารูดี้ซึ่งรออยู่อย่างประหม่า แต่เมื่ออิมพ์กำลังจะมาถึงรูดี้เพื่อเข้าไปในเมือง เด็กหนุ่มก็เริ่มจ้องมองบางสิ่งที่อยู่ห่างออกไปด้านหลังอิมพ์ด้วยความกลัว
และเพียงครู่เดียวอิมพ์ก็หันกลับมาและเห็นว่ามันคือลอร์ดแห่งความโลภซึ่งกำลังปีนลงมาด้านข้างของหอคอยตามบันไดโดยใช้แขนมากมายของมัน
ทันใดนั้นอิมพ์ก็พยายามคิดว่าจะทำอย่างไร จากนั้นก็เขาจับเด็กผู้หญิงคนนั้นแล้วดันเข้าไปในแขนของรูดี้เปลี่ยนผ้าสีขาวที่เธอห่อไว้เป็นผ้าสีดำที่อยู๋ในกระเป๋าของเขา จากนั้นก็มัดผ้าสีขาวขึ้นการจะส่งให้รูดี้และเขาก็หยิบชามไว้
"วิ่งเข้าไปในเมืองให้เร็วที่สุด ข้าคงไปกับเจ้าไม่ได้แล้ว ขอโทษด้วย "อิมพ์บอกรูดี้ที่จ้องมองเขาอย่างหวาดกลัว" อะไรนะ ทำไมคุณถึงพูดแบบนั้นหละ - "
" ข้ารู้ว่าข้าพูดอะไร ข้าต้องการให้เจ้าไปถึงห้องอย่างปลอดภัย เอากุญแจนี่ไป เร็วเข้า "ในขณะที่กดกุญแจห้องของโรงเตี๊ยมไปที่มือของรูดี้ อิมพ์ก็พยายามผลักรูดี้ให้วิ่งไปข้างหน้า แต่ดูเหมือนเด็กคนนี้จะกลัวเกินกว่าจะไปได้
อิมพ์ก็ทำบางอย่างที่เขารู้สึกเหมือนกับว่าเขาต้องทำ เขาขยับเข้าไปใกล้รูดี้อีกก้าวนึง“ถ้าเจ้าอยู่ที่นี่อีกต่อไปข้าบอกได้เลยว่าชีวิตของเจ้าจะเหมือนตกนรกทั้งเป็น ออกไปจากที่นี่ซะเจ้าเด็กไร้ประโยชน์” อิมพ์พูดด้วยน้ำเสียงที่น่ากลัวที่สุดเท่าที่จะทำได้ จากนั้นร่างของรูดี้ก็เริ่มสั่นอย่างรุนแรงก่อนที่อิมพ์จะกดฟันเข้าหากันและจ้องเข้าไปในดวงตาของเด็กชาย
"ไสหัวไปซะเจ้าโง่!" อิมพ์สบถตะโกนดังออกมามากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เห็นได้ชัดว่าสิ่งนี้ดึงความสนใจของอสูรบางตัวจนมันเดินเข้ามาหาเขา แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่เขาต้องการให้เป็นอยู่พอดี เขาต้องการให้พวกมันสนใจมาที่เขาแทนรูดี้ และเมื่อรูดี้ตระหนักได้ว่าสถานการณ์เลวร้ายขนาดไหนเขาก็เริ่มวิ่งไปยังเมืองของมนุษย์ทันที
และในขณะที่รูดี้กำลังวิ่งไปที่นั่นอิมพ์ก็หันกลับมาเพื่อดูว่าลอร์ดอยู่ที่ไหนและด้วยความประหลาดใจมันก็ได้มาอยู่ตรงหน้าเขาแล้วพร้อมกับอ้าปากกว้างขึ้น
"เจ้า - เจ้าเอา! คืนมาเดี๋ยวนี้!" ลอร์ดอุทานและผลักมือของเขาไปข้างหน้าและอิมพ์ก็พยายามเปิดใช้งานดาบสามเล่นในทันทีและแหวนก็ปรากฏขึ้นรอบนิ้วกลางของเขาในขณะที่พลังงานศักดิ์สิทธิ์ไหลเข้าไปในใบมีดนั้น และในขณะที่ลอร์ดพุ่งเข้ามาหาอิมพ์ดายสามเล่มก็พุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วเช่นกันและตัดผ่านผิวหนังของลอร์ด
เห็นได้ชัดว่าสิ่งนี้ทำให้เกิดฟองและร้อนขึ้นอีกเหมือนกับที่อิมพ์คาดไว้และที่สำคัญที่สุดคือมันทำให้ลอร์ดตัวแข็งขึ้นทันที นี่จึงทำให้เขามีเวลาพอจะวิ่งหนีอีกครั้ง
ความปรารถนาลึก ๆของเขานั้นคือต้องการให้ลอร์ดใช้เวลาฟื้นตัวนานที่สุดเพราะผ้าเพื่อที่เขาจะได้เดินทางไปยังปราสาทถัดไปได้ อย่างน้อยนั่นคือสิ่งที่อิมพ์คิด แต่ก่อนที่เขาจะเดินเข้าไปในตรอก อสูรสองสามตัวก็มายืนอยู่จรงหน้าและจ้องมาที่ชามในมือของเขา
มันทำจากทองคำหนิ เขาจะทำอะไรกับมันดี ? อิมพ์กัดฟันของเขาและหันไปรอบ ๆ และเมื่อเห็นว่าลอร์ดเริ่มฟื้นตัวแล้วอิมพ์ก็ตระหนักถึงสิ่งที่อาจเกิดขึ้น ดูเหมือนมันจะสร้างความต้านทานได้เช่นเดียวกับอิมพ์ถึงแม้จะเห็นได้ชัดว่ายังไม่มากเท่าไหร่ อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าลอร์ดจะฟื้นตัวได้ไวกว่าเดิมมากเลยทีเดียว
ก่อนที่เขาจะรู้ตัวอิมพ์ก็สัมผัสได้ถึงมือของลอร์ดที่โอบรอบคอของเขาในขณะที่คนอื่น ๆ จับร่างของเขาส่วนต่างๆไว้ หลังจากนั้นทันทีอิมพ์ก็ถูกดึงกลับไปที่หอคอยและจากนั้นก็เห็นว่าเขากำลังอยู่ห่างจากพื้นดินมากขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่มือรอบตัวของเขารู้สึกอึดอัด
จากนั้นประตูก็ถูกผลักปิดต่อหน้าเขาและอิมพ์ก็ถูกโยนเข้าไปในกองสมบัติ
"ตอนนี้เจ้าต้องอยู่ที่นี่ ตอนนี้เจ้าเป็ฯของข้าแล้ว ... มีเพียงของข้าเท่านั้น ของข้าเท่านั้น ... " ลอร์ดพึมพำอย่างเงียบ ๆ ขณะที่คลานขึ้นไปที่บัลลังก์ก่อนที่จะมันจะกอดตัวเองไว้แล้วดึงขาของมันไว้บนหน้าอกในขณะที่มองไปรอบๆอย่างประหม่า
จากนั้นอิมพ์ก็มองไปรอบๆ นี่ข้าจะไม่ถูกฆ่ารึ? อย่างงี้เขาก็ไม่จำเป็นต้องกังวลว่ารูดี้จะไปถึงเมืองหรือไม่แล้วสินะ ? ตราบใดที่เขามีโอกาสหลบหนีอีกครั้ง อิมพ์ก็สามารถวิ่งไปที่ปราสาทของลอร์ดแห่งความปรารถนาและรับตัวอาร์คได้ทันที
แล้วทุกอย่างจะสมบูรณ์แบบ! อิมพ์ต้องหาวิธีที่ดีที่สุดเพื่อออกไปจากสถานที่แห่งนี้ให้ได้ก่อน ในหนังสือเกี่ยวกับลอร์ดอิมพ์ก็ได้รู้ว่าเมืองอสูรนั้นจะปรากฏขึ้นทุกคืนและจะหายไปเมื่อไม่สามารถมองเห็นจันทร์สีแดงเลือดบนท้องฟ้าได้แล้ว และในขณะที่ดวงจันทร์นี้ลอยอยู่กลางท้องฟ้ามันก็ได้ผ่านมาแล้วเป็นเวลาครึ่งคืน
จากสิ่งที่อิมพ์อ่านดูเหมือนว่าลอร์ดแห่งความปรารถนาหรือตัณหานั้นจะเป็นอสูรที่ให้ความสำคัญกับเชลยเป็นอย่างมากแต่พวกเขาก็ต้องเป็นสิ่งที่มัน 'พอใจ' ด้วย ซึ่งอาร์คนั้นดูเหมือนจะสร้างความสบายใจให้คนที่อยู่รอบตัวเขาอยู่เสมอและนั่นอาจทำให้อาร์คเป็นที่พอใจ อิมพ์คิดว่าเด็กคนนี้คงไม่เป็นอะไร
ดังนั้นเขาจึงคิดว่ามันคงไม่ใช่เรื่องยากที่จะพาตัวอาร์คกัลบมาจากที่นั่นและกลับไปยังเมืองเพื่อรอให้สถานการณ์กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง
ด้วยการพยักหน้าพอใจอิมพ์ก็ค่อยๆลุกขึ้นยืน แม้ว่าลอร์ดจะจ้องมองเขาตลอดเวลาในขณะที่เขาเคลื่อนไหว แต่เขาก็ไม่ได้ทำอะไรเลย ดูเหมือนว่าตอนนี้อิมพ์จะสามารถเคลื่อนที่ไปมาในห้องนี้ได้โดยไม่มีปัญหา
แต่ที่น่าแปลกใจคืออิมพ์กลับก้าวไปข้างหน้าลอร์ดและค่อยๆพูดขึ้น
"เจ้าช่วยเล่าให้ข้าฟังเกี่ยวกับของที่เจ้าเป็นเจ้าของได้ไหม " อิมพ์ถามอย่างช้าๆพยายามใช้ประโยชน์จากสิ่งที่ลอร์ดเป็นซึ่งก็คือความ 'ชอบอวด' ตามที่กล่าวไว้ในหนังสือ ดูเหมือนลอร์ดจะสงสัยเล็กน้อย แต่อิมพ์ก็พยายามยิ้มก่อนที่ลอร์ดจะเอ่ยถามอย่างช้าๆ
“อะไร ... เจ้าอยากรู้เรื่องอะไร?” มันถามอย่างเงียบ ๆ จากนั้นก็มองไปที่อิมพ์ผ่านหว่างนิ้วของเขาและอิมพ์ก็พูดอย่างรวดเร็ว "ของชิ้นใดกันที่มีประโยชน์ต่อเจ้ามากที่สุด
ลอร์ดเอื้อมมือไปยังกองสิ่งของด้านหลังกองหนึ่งที่อยู่ติดกับบัลลังก์ของเขาอย่างจะช้าๆจากนั้นก็ดึงกระเป๋าใบเล็กๆออกมา "นี่ ... มันคือกระเป๋าอวกาศ ... มันจุของได้เยอะกว่าที่ที่เห็นนัก ... " ลอร์ดอธิบายพลางพลิกกระเป๋าคว่ำลงจากนั้นเหรียญและอัญมณีก็หลั่งไหลออกมาจากมัน ส่วนอิมพ์ก็มองไปยังจำนวนสิ่งของต่างๆมากมายอย่างที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน จากนั้นลอร์ดก็จะวางกระเป๋าลงบนกองและอิมพ์ก็จ้องไปที่มันด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย
"อะไรคือสิ่งที่อันตรายที่สุดในหมู่สิ่งของที่เจ้ามี" อิมพ์ถามต่อไปและลอร์ดก็ชี้ไปทางอีกด้านหนึ่งของห้อง มันชี้ไปที่ชามซึ่งดูเหมือนกับชามที่เคยใส่นักบวชน้อย
"มันคือสิ่งนั้น" เขาอธิบายและอิมพ์ก็พยักหน้าช้าๆ
"ทำไมกัน" อิมพ์ตอบกลับจากนั้นเขาก็ค่อยๆดึงลูกกลมขนาดเล็กออกจากกระเป๋า "นี่คือสิ่งที่น่าสนใจที่สุดในหมู่สิ่งของที่ข้าครอบครอง เจ้าอยากลองหน่อยไหม " อิมพ์ถามและลอร์ดก็พยักหน้าช้าๆก่อนที่อิมพ์จะมอบหินเวทมนตร์พลังงานศักดิ์สิทธิ์ขนาดเล็กให้กับเขา
"ตอนนี้มันยังไม่มีอะไรแต่วิธีใช้มันนั้นง่ายมาก แต่ว่ามันอาจทำให้เจ้าบาดเจ็บได้ เจ้าเห็นจุดสีทองเล็กๆนี่หรือไม่ ถ้าเจ้าใส่มันเข้าไปในหัวใจของเจ้าและส่งมานาทั้งหมดเข้าไปที่มันเจ้าก็จะได้รับความสามารถในการเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งที่สัมผัสให้กลายเป็นทองคำ! " อิมพ์อธิบาย ดูเหมือนว่าไม่มีลอร์ดคนใดฉลาดเป็นพิเศษดังนั้นเขาจึงหวังว่าสิ่งนี้จะได้ผลโดยเลือกที่จะแสดงให้เห็นกับตาว่าเขาหมายถึงอะไร อิมพ์กัดฟันแน่นอย่างระวังและผ่าหน้าอกของเขาเล็กๆก่อนจะส่งหินเวทย์มนต์เข้าไปด้านใน
[-189 พลังชีวิต]
นี่อาจจะดูโง่เง่าแต่ดูเหมือนว่าพวกลอร์ดเองก็เป็นคนโง่เง่าด้วยเช่นกัน ดังนั้นอิมพ์เพียงแค่ต้องแสดงให้ดูว่ามันทำได้ จริงๆ
"ตอนนี้เจ้าก็ลองใส่มานาทั้งหมดเข้าไปในหินก้อนนั้นดู " อิมพ์อธิบายด้วยรอยยิ้มและลอร์ดก็ค่อยๆทำตามที่บอก ดูเหมือนมันจะโลภทองเกินกว่าจะคิดเรื่องอื่นได้
จากนั้นอิมพ์ก็ถอนหายใจช้าๆด้วยความโล่งอกพร้อมกับดึงหินเวทย์มนต์ออกมาก่อนที่จะใช้หินเวทย์มนต์ไฟเผาแผลอีกครั้ง ตอนนี้เองร่างกายทั้งหมดของลอร์ดเริ่มมีฟองปรากฏและเสียงฉ่าก็ดังขึ้นทันทีเพราะทำตามคำโกหกของอิมพ์