ตอนที่ 46 แทงข้างหลัง
ตอนที่ 46 แทงข้างหลัง
หลังจากนั่งเฉยๆและพยายามจะหายใจอยู่ครู่หนึ่งอิมพ์ก็ลุกขึ้นยืนโดยสวมเสื้อคลุมของเขากลับอย่างถูกต้องขณะที่คลีเมนไทน์เองก็ยืนขึ้นและเช็ดน้ำตาออกจากดวงตาของเธอ
เมื่อเห็นว่าเธอยังคงกลัวอยู่อย่างเห็นได้ชัด อิมพ์ก็ค่อยๆยื่นมือไปหาเธอและค่อยๆจับมัน การทำเช่นนี้มักจะทำให้เขาผ่อนคลายเมื่อตอนที่เอวาลินทำกับเขา ดังนั้นเขาจึงหวังว่ามันจะช่วยทำให้คลีเมนไทน์ผ่อนคลายได้เช่นกัน แม้ว่าเธอจะมองไปที่อิมพ์ด้วยความประหลาดใจสักครู่ก็ตาม
"ไปกันเถอะ." อิมพ์บอกเธอและคลีเมนไทน์ก็พยักหน้าช้าๆก่อนที่อิมพ์จะตรวจสอบให้แน่ใจว่าเธอสวมเสื้อคลุมอย่างถูกต้องเพื่อปกปิดร่างกายของเธอให้ได้มากที่สุด
จากนั้นทั้งสองก็เดินไปยังปราสาทถัดไปอย่างช้าๆซึ่งเป็นปราสาทที่เป็นของลอร์ดแห่งความหยิ่งทนงอยู่
และยิ่งพวกเขาเข้าใกล้ปราสาทนั้นมากเท่าไหร่การเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมก็ยิ่งแปลกไปมากขึ้นเท่านั้น ถนนแห่งนี้เต็มไปด้วยเลือดและเนื้อแทบอยู่ทุกที่ ซึ่งทำให้พื้นที่แห่งความตะกละก่อนหน้านี้เทียบไม่ติดเลยอีกทั้งที่นี่ยังมีอสูรอยู่รอบๆไม่มากอีกด้วย แม้ว่าจะมีเพียงไม่กี่ตนแต่พวกมันก็มองมาที่อิมพ์และคลีเมนไทน์ด้วยสีหน้าเหยียดหยาม
สำหรับตอนนี้อิมพ์ไม่สนใจมันเพราะเป็นเรื่องดีแล้วที่พวกมันปล่อยให้เขาเดินทางต่อโดยไม่เข้ามากวน แต่ปัญหาแรกก็เกิดขึ้นเมื่อพวกเขาไปถึงปราสาทและพบกับผู้คุมที่ยืนอยู่หน้าบันไดซึ่งเป็นเส้นทางที่จะนำไปสู่ห้องที่อิมพ์จำเป็นต้องไป
“อย่าเข้านะเจ้าพันธุ์ทาง” ผู้คุ้มกันกล่าวพร้อมกับชี้อาวุธของมันไปที่อิมพ์และคลีเมนไทน์ทันที อิมพ์ต้องการใช้โอกาสนี้โจมตีทันที แต่ก่อนที่เขาจะทำเช่นนั้นความคิดเล็ก ๆ ในหัวของอิมพ์ก็บอกให้เขาลองพูดอะไรบางอย่างดูก่อนเผื่อว่าผู้คุ้มกันคนนี้จะหลีกทางให้
“ข้า ... ไม่อยากเข้าไป” อิมพ์กล่าวและผู้พิทักษ์ก็มองไปที่อิมพ์ด้วยสีหน้าบิดเบี้ยวซึ่งดูโกรธและรำคาญ "หือ? เจ้าไม่ต้องการเข้าพบท่านลอร์ดผู้ทรงอำนาจของเรางั้นรึ ?เจ้าจะต้องโกหกอยู่แน่ๆ?" ผู้พิทักษ์ถามด้วยความโกรธ แต่อิมพ์ก็ส่ายหัวโดยไม่ลังเล
“ใครจะอยากเข้าไปพบลอร์ดที่ไร้ประโยชน์และน่าขยะแขยงเช่นนั้นกัน?” ด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยอิมพ์ก็จ้องไปที่ผู้คุมซึ่งกำลังมองลงมาที่เขาด้วยความโกรธแม้ว่ามันจะเทียบไม่ได้กับความโกรธที่เจ้าแห่งความโกรธแสดงออกมาก็ตาม
ตอนนี้คลีเมนไทน์ก็จับมือของอิมพ์แน่นด้วยความกลัวกับสิ่งที่เกิดขึ้น อิมพ์เองก็เอาแต่จ้องมองไปยังผู้คุมที่อยู่ตรงหน้าซึ่งดูเหมือนจะโจมตีอิมพ์และคลีเมนไทน์ แต่อิมพ์ก็ได้พูดสาเหตุที่ทำให้อีกฝ่ายยั้งมือไว้
"ถ้าเจ้าฆ่าข้าเจ้าจะทำให้ทางเข้าปราสามของท่านลอร์ดเจ้าสกปรก ข้าคิดว่าท่านลอร์ดคนนั้นจะต้องไม่ปลื้มแน่ เจ้าส่งข้าไปให้ท่านลอร์ดของเจ้าฆ่าไม่ดีกว่ารึไงเพราะยังไงคนที่ข้าดูถูกก็คือเขาไม่ใช่เจ้า " อิมพ์ชี้ออกไปพร้อมกับอธิบาย ดังนั้นผู้คุมจึงพยักหน้าทันทีและก้าวไปข้างหลังอิมพ์กับคลีเมนไทน์เพื่อ 'บังคับ' ให้พวกเขาขึ้นบันไดไปแม้ว่านั่นจะเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการก็ตาม และในระหว่างที่พวกเขาเดินขึ้นไปอิมพ์ก็พยายามหาคำพูดเพื่อหลอกล่อพวกมันอย่างรวดเร็วทันใดนั้นก็มีการแจ้งเตือนจำนวนหนึ่งที่อิมพ์ไม่คาดคิดปรากฏขึ้น
[ปิดการใช้งานการกระตุ้นทักษะแล้ว ทักษะ 'ความเข้าใจภาษาทั่วไประดับฝึกหัด' จะเพิ่มระดับขึ้นด้วยความเร็วทั่วไป]
[โบนัสสำหรับการอัพเกรดทักษะของคุณผ่านการกระตุ้นนี้คุณจะได้รับความเชี่ยวชาญพิเศษ]
[ทักษะความเข้าใจภาษาทั่วไประดับฝึกหัดเลเวลอัพ!]
[ทักษะความเข้าใจภาษาทั่วไประดับฝึกหัดเลเวลอัพ!]
...
...
...
[ทักษะความเข้าใจภาษาทั่วไประดับฝึกหัดเลเวลอัพ!]
[ทักษะความเข้าใจภาษาทั่วไปถึงเลเวล 100 แล้วดังนั้นจึงเปลี่ยเป็น ทักษะความเข้าใจภาษาทั่วไประดับกลาง]
ทันใดนั้นอิมพ์ก็รู้สึกถึงบางอย่างในใจของเขา คำพูดทั้งหมดที่เขาเคยได้ยินมาจนถึงตอนนี้และตัวหนังสือที่เขาอ่านมาจนถึงตอนนี้ ทุกอย่างที่เขาเคยเข้าใจผิดจู่ๆก็ได้กลายเป็นมีเหตุผลและเขาก็เริ่มรู้ถึงความหมายของพวกมัน
มันเหมือนกับว่ามีคนมาแหวกรูเล็กๆที่ติดอยู่ตรงประตูไว้จนถึงตอนนี้ออก และด้วยเหตุนี้อิมพ์จึงเข้าใจความหมายที่อยู่เบื้องหลังคำบางคำซึ่งไม่ใช่แค่ความหมายที่มีอยู่ในตัวเองเท่านั้น เขารู้อย่างแท้จริงแล้วว่าคำโกหกคืออะไรและทำไมเขาถึงต้องพูดโกหกและรู้ว่าควรใช้คำโกหกในสถานการณ์ใด
แต่แทนที่จะคิดเรื่องโกหกขึ้นมา ก็ได้มีความคิดหนึ่งปรากฏขึ้นในหัวของอิมพ์ซึ่งเขาไม่สามารถต้านทานได้ จนต้องพูดออกมาด้วยเสียงพึมพำ
“พวกทักษะมันน่าทึ่งไปเลยไม่ใช่หรือไง .. ?” อิมพ์ถามตัวเองด้วยเสียงกระซิบและในไม่ช้าพอเขามาถึงชั้นบนสุดที่มีบันไดเชื่อมต่ออยู่กลับห้องโล่งขนาดใหญ่ที่มีโครงสร้างคล้ายกับที่อิมพ์เคยเห็นในปราสาทของลอร์ดทั้งสองก่อนหน้านี้
และตอนนี้เขาก็เห็นร่างหนึ่งที่อยู่อีกด้านหนึ่งของห้องโถงกำลังจ้องมองลงมาที่ใจกลางห้องซึ่งมีเด็กสาวนั่งคุกเข่าอยู่ตรงนั้นพร้อมกับกดหน้าผากของเธอลงกับพื้นด้วยความกลัวขณะที่เธอกำลังอ้อนวอน นี่ทำให้อิมพ์นึกถึงเรื่องราวจากหนังสือ 'ตำนานเทพนิยายทั่วไป' ซึ่งเกี่ยวกับไพ่ต่างๆที่อิมสามารถรวบรวมได้แล้ว 2 ใบในตอนนี้
มันเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ เบ็กก้า ผู้ซึ่งได้รับพลังในการเปล่งเสียง เขาได้รับพลังนี้มาจากผู้แลกเปลี่ยนเร้นลับ ไพ่ที่เขาได้คือไพ่ 4 เหรียญ เบ็กก้า ใช้เสียงของเขาเพื่อหาเงินจำนวนมากจนกระทั่งกลายเป็นคนร่ำรวย จากนั้นก็มีอัศวินคนหนึ่งพาเขาไปหาราชาหลังจากที่คนเหล่านั้นค้นพบความสามารถของเขา โดยไม่ลังเล เบ็กก้า พยายามโน้มน้าวกษัตริย์ว่าอัศวินเป็นคนทรยศและนั่นจึงทำให้อัศวินถูกประหารชีวิตซึ่งนี่ทำให้ไม่มีใครรู้เรื่องเกี่ยวกับเสียงของเขาอีก จากนั้นเขาก็ขอประทานตำแหน่งอันสูงส่งและที่ดินพร้อมกับเงินทองมากมายมหาศาลเท่าที่ทุกคนจะจินตนาการได้ ต่อมาเขาก็ถูกคนรับใช้คนหนึ่งฆ่าตายเพราะเขาปฏิบัติกับคนเหล่านั้นอย่างโหดร้าย และนั่นก็คือประเด็น อิมพ์นั้นสามารถจดจำคำพูดที่เขาอ่าน ได้ทุกคำ ดังนั้นเขาจึงคิดว่าจะลองใช้คำพูดเหล่านั้นโน้มน้าวลอร์ดแห่งความหยิ่งทะนงด้หากเขาพยายามมากพอ
เมื่อลอร์ดแห่งความหยิ่งทนงห็นอิมพ์ คลีเมนไทน์และผู้คุม การแสดงออกของเขาก็เปลี่ยนไป “เจ้าคิดจะทำอะไรถึงได้มาขัดจังหวะข้าแบบนี้” ลอร์ดถามและผู้คุมก็เริ่มพูดทันทีในขณะที่อิมพ์จับมือของคลีเมนไทน์และเริ่มวิ่งไปข้างหน้า
"เจ้าพันธุ์ทาง-"
"นายท่านของข้า ข้ามาเพื่อเตือนท่าน!" อิมพ์พูดขัดจังหวะผู้คุมขึ้นทันที นี่ทำให้ผู้คุมและคลีเมนไทน์รวมถึงแซมมี่เองกลายเป็นตกตะลึง พวกเขานั้นไม่คิดเลยว่าจู่ๆอิมพ์จะพูดขึ้นมา
โดยใช้ประโยชน์จากความสับสนชั่วขณะ อิมพ์ก็จับมือของคลีเมนไทน์ให้แน่นขึ้นและวิ่งต่อไปโดยผลักคลีเมนไทน์ไปด้านหน้าตัวเอง "ข้ารู้ว่าข้านั้นไม่อยู่ในสายตาของท่านลอร์ด แต่ได้โปรดฟังข้าด้วย! ข้าไม่ได้เป็นเพียงแค่อิมพ์เท่านั้น เมื่อข้ามองขึ้นไปยังท่านซึ่งเป็นผู้ปกครองแห่งความหยิ่งทรง ข้าก็ได้เข้าใจว่าสิ่งที่ข้าควรทำคือทำให้คนอื่นๆรวมถึงอสูรเหล่านั้นรับรู้ถึงความต่ำต้อยเมื่อมองมาที่ท่าน เพื่อการนั้นข้าจึงได้นำของขวัญอันสมบูรณ์แบบมามอบให้แก่ท่าน! " อิมพ์ตะโกนออกมอาย่างเต็มที่ เขาพยายามเปลี่ยนแปลงคำพูดบางอย่างจากที่จำได้ในหนังสือจากนั้นก็เอามือออกจากคลีเมนไทน์ ก่อนจะจับดันเธออกไป ตอนนี้เองคลีเมนไทน์ก็มองไปที่อิมพ์ด้วยความกลัวและสับสน กระทั่งแซมมี่เองก็จ้องมองเขาด้วยความรังเกียจ
"มนุษย์คนนี้มีความสามารถที่สามารถแบกรับอาการบาดเจ็บแทนผู้อื่นได้ และไม่ว่าบาดแผลนั้นจะร้ายแรงเพียงใดเธอก็จะไม่ตาย! นี่ไม่เพียงแต่เป็นความกล้าหาญเท่านั้น แต่มันเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงภาคภูมิใจอันบริสุทธิ์! ท่านคงจะเข้าใจความหมายของค่าใช่หรือไม่นายท่าน?” อิมพ์ถามด้วยความตื่นเต้นและยิ้มกว้างในขณะที่ผู้คุมที่พาพวกเขามาเริ่มมองไปที่อิมพ์พร้อมกับส่ายหัวด้วยความฉุนเฉียว
"นั่นไม่เป็นความจริงขอรับท่านลอร์ด! อิมพ์ตัวนี้เป็นคนพูดดูถูกท่าน!" ผู้คุมอุทานด้วยความโกรธ แต่ลอร์ดแห่งความหยิ่งทรงกลับดูเหมือนขบขันและจ้องมองไปที่อิมพ์ด้วยความขบขัน “ตอนนี้ไม่ว่ามันจะสมเหตุผลหรือไม่แต่มันก็เป็นเรื่องจริงที่ของขวัญเช่นนี้เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความน่าภาคภูมิใจอย่างน่าอัศจรรย์” ลอร์ดพูดออกมาเช่นนั้น ซึ่งนี่ทำให้อิมพ์เกือบจะดูถูกอีกฝ่ายออกมาเพราะเขาไม่คิดเลยว่าลอร์ดคนนี้จะเชื่อคำพูดที่สร้างขึ้นมาจริงๆ
"ตอนนี้เพราะเจ้ามาพร้อมกับเครื่องบูชา ดังนั้นข้าจะให้สิทธิ์เจ้าพูดก่อน" ลอร์ดพูดด้วยความเมตตา ถึงแม้อิมพ์จะรู้สึกงงแต่เขาก็คิดว่าควรพูดออกไป ดังนั้นอสูรหนุ่มจึงรับโอกาสนี้ไว้
"ข้าไม่มีทางดูถูกท่านที่เป็นเหมือนพระเจ้าของข้าแน่นอน แต่เป็นอสูรตนนี้ต่างหาก! เมื่อข้าบอกว่าข้าต้องการเข้าพบท่านเพื่อมอบของขวัญชิ้นนี้ให้แก่ท่าน ผู้คุมคนนี้ก็พยายามพาเธอไปจากค่าโดยอ้างชื่อของท่าน และยังบอกอีกด้วยว่าท่านซึ่งเป็นพระเจ้าของข้าไม่ควรได้รับของขวัญอันยอดเยี่ยมเช่นนี้ ! " อิมพ์อธิบายและตอนนี้เองการแสดงออกของผู้คุมก็เปลี่ยนไปเป็นหวาดกลัวในขณะที่ลอร์ดแห่งความหยิ่งทะนงจ้องมองผ่านอิมพ์มาที่เขา แม้แต่คลีเมนไทน์และแซมมี่เองก็ยังมองไปที่ผู้คุม
“เป็นเช่นนั้นจริงหรือ?” ลอร์ดถามพลางค่อยๆลุกขึ้นยืนจากบัลลังก์ที่เขานั่งอยู่ก่อนที่เขาจะเริ่มเดินตรงไปยังผู้คุมคนนั้นด้วยท่าทางข่มขู่
เมื่อลอร์ดอยู่ไกลออกไปเกินกว่าจะได้ยินเสียงกระซิบของเขา ทันทีอิมพ์ก็คุกเข่าลงข้างๆแซมมี่และตรวจสอบดูว่าเธอสามารถยืนได้หรือไม่ แต่เธอกลับแสดงออกต่อเขาอย่างรังเกียจ แต่เธอก็ต้องหยุดแสดงออกเช่นนั้นทันทีเมื่อได้ยินสิ่งที่เขากระซิบข้างหูเธอ
"ข้าจะโจมตีมัน เมื่อข้าลงมือเจ้ากับคลีเมนไทน์ก็วิ่งออกไปที่ประตูทันที ข้าจะระวังหลังให้ แต่เจ้าระวังด้วยเพราะคลีเมนไทน์ยังบาดเจ็บอยู่และบันไดก็สูงชัน "อิมพ์บอกเธอก่อนที่จะลุกขึ้นยืนตามปกติทันทีและเดินตามหลังลอร์ดแห่งความหยิ่งทนงไปพร้อมกับทิ้งแซมมี่ที่งุนงงไว้ข้างๆคลีเมนไทน์
อิมพ์ใช้โอกาสที่เขาคุกเข่าลงเพื่อเล่นกับบางสิ่งและซ่อนดาบสามเล่มไว้ใต้ผ้า สิ่งที่อิมพ์ต้องทำคือการโจมตีลอร์ด แม้จะเพียงเล็กน้อยแต่เขาก็ต้องทำให้อีกฝ่ายไม่สามารถขยับได้สักครู่ อิมพ์เคยทำได้ผลมาแล้วกับลอร์ดแห่งความโกรธดังนั้นเขาจึงคิดว่ามันต้องได้ผลกับลอร์ดคนนี้ด้วยเช่นกัน
“อย่าไปฟังเจ้าพันธุ์ทางเช่นนั้นเด็ดขาดขอรับท่านลอร์ด!” ผู้คุมกล่าวออกท่และทันทีเขาก็ได้รู้ว่าประโยคนี้คือความหายนะของเขา ลอร์ดบิดหัวไปมาและดวงตาของเขาก็มองไปที่ผู้คุม จากนั้นเขาก็ยื่นมือไปจับหัวของผู้คุมอย่างสมบูรณ์ด้วยมือเดียว “อย่ามาสั่งข้า” ลอร์ดพูดออกมาและตอนนี้เองเมื่ออิมพ์ก็ได้ยินเสียงแตกหักจากกระโหลกของอสูรที่เป็นผู้คุม เขาก็ส่งมานาของเขาออกมาจากมือเพื่อสร้างการโจมตีรุนแรงแบบเดิมอีกครั้ง
"แซมมี่ คลีเมนไทน์!" อิมพ์ร้องอุทานออกมาในขณะที่แสงสีทองสีขาวปรากฏขึ้นรอบๆมือของอิมพ์ในขณะเดียวกันมันก็เริ่มเชื่อมต่อเข้ากับกริชและแหวนบนนิ้วของเขา จากนั้นเขาก็ผลักมันลึกเข้าไปในหลังของลอร์ดแห่งความหยิ่งทนง
[-436 พลังชีวิต]
ด้วยสีหน้าตกใจ ลอร์ดก็จ้องมองไปที่อิมพ์ซึ่งอยู่ข้างหลังเขาในขณะที่ได้ยินเสียงฝีเท้าดังกระทบกันของแซมมี่และคลีเมนไทน์ซึ่งกำลังวิ่งผ่านพวกเขาไปที่บันได เพราะไม่มีผู้คุมคนอื่นอยู่ในห้องนี้แล้วดังนั้นเด็กๆจึงสามารถไปถึงบันไดได้ทันที
และเมื่ออิมพ์ดึงกริชกลับออกมาจากหลังของลอร์ด เขาก็มีความคิดว่าจะเบี่ยงเบนความสนใจของอีกฝ่ายไปจากตัวเองและเหล่าเด็กหญิงโดยการโยนความผิดให้ศัตรูคนอื่น
"นี่คือสาส์นจากลอร์ดแห่งความโกรธจงตอบรับมันหากเจ้ายังหลงเหลือความภาคภูมิใจ "