ตอนที่ 45 ปลาบปลื้ม
ตอนที่ 45 ปลาบปลื้ม
เสียงร่างจริงของลอร์ดแห่งความทำให้อิมพ์ชะงักทันที เขาไม่รู้ว่าทำไม แต่มันดูน่ากลัวเสียยิ่งกว่าลอร์เแห่งความโกรธเสียอีก แม้ว่าสิ่งที่ลอร์ดแห่งความตระกะพูดออกมานั้นจะเป็นการบ่นกับตัวเองและเป็นน้ำเสียงที่สงบก็ตาม
เมื่อใดก็ตามที่ลอร์ดแห่งความโกรธพูด มันไม่ได้ส่งผลกระทบกับอิมพ์มากนักมันแค่ฟังดูบ้าคลั่งเท่านั้นและก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องสนใจ สิ่งที่เขาทำตอนนั้นก็คือคิดจะว่าทำไงให้รอดพ้นจากสถานการณ์นั้น
แต่ตอนนี้ความต้องการที่จะหลบหนีกลับรุนแรงกว่าที่เคย เหตุผลที่ทำไมลอร์ดแห่งความตะกละถึงน่ากลัวนั้นก็คงเป็นเพราะความหิวโหยที่บริสุทธิ์โดยสัญชาตญานของมีนที่หลอมรวมเข้ากับกลิ่นอายที่มันระเบิดออกมา มันทำให้อิมพ์ได้รับผลกระทบอย่างหนักจนเห็นเป็นภาพหลอนเลยทีเดียว
เขารู้สึกเหมืนกับเป็นเหยื่อที่กำลังจะถูกล่าและอิมพ์ก็ไม่ชอบสถานการณ์ในตอนนี้เลยแม้แต่น้อย
เขาอยากจะวิ่งหนีให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่เพียงแค่เสียงฝีเท้าอันเชื่องช้าของลอร์ดที่กำลังก้าวเข้ามาและเสียงของเลือดกับกรดในกระเพาะอันน่ากลัวของมีนก็ทำให้อิมพ์ไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้แม้แต่ก้าว ทันทีอิมพ์ก็คิดหาหนทางที่ทำให้เขาขยับได้
ดังนั้นอิมพ์จึงต้องเลิกสนใจสิ่งที่เกิดขึ้นข้างหลังเขาและด้วยวิธีที่ได้ผลเร็วที่สุดที่เขาคิดได้ เขาพยายามขยับมือที่ถูกแผดเผาของเขาเพื่อพยายามใช้กริชของเขาทิ่มไปยังจุดที่เขาไม่ต้องการจริงๆ นั่นก็คือท้องและอย่างช้าๆกริชก็แทงเข้าไป
[-112 พลังชีวิต]
ตอนนี้อิมพ์มีสองวิธีในการเบี่ยงเบนความสนใจของตัวเอง นั่นก็ความเจ็บปวดที่ท้องของเขาและการแจ้งเตือนที่ลอยอยู่ตรงหน้าเขา มันได้ผล แต่อิมพ์ก็ยังแทบจะไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้เลยในขณะที่ลอร์ดแห่งความตะกละกำลังใกล้เข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ
แต่ในขณะที่อิมพ์วางเท้าของเขาเพื่อก้าวอีกลงบันไดอันยาวไกลขั้นแรกไป แรงมหาศาลบางอย่างก็ทำให้เขาเริ่มพุ่งข้างหน้าราวกับว่าร่างกายของเขากำลังเคลื่อนไหวด้วยตัวเองและนั่นก็ทำให้อิมพ์วิ่งไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว
ในไม่ช้าอิมพ์ก็สามารถมองเห็นจุดสิ้นสุดของบันไดได้ องค์รักษ์ที่หยุดเขาไว้ก่อนหน้านี้ยังคงยืนอยู่ตรงนั้น มันมองไปที่ด้านหลังของอสูรที่กำลังวิ่งออกไปจากสถานที่แห่งนี้ แต่อิมพ์ไม่มีเวลาลังเลดังนั้นเขาจึงวิ่งผ่านมันไปทันที
ดูเหมือนว่าลอร์ดแห่งความตะกละกำลังยืนอยู่ที่ด้านบนสุดของบันไดและเขาก็เพียงแค่จ้องมองไปยังความว่างเปล่าข้างหน้าเท่านั้น แต่อิมพ์ก็ไม่ต้องการรอจนอีกฝ่ายโกรธและเลือกที่จะหนีต่อไปทันที เขาไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่อยากจะตายในวันนี้
ดังนั้นอิมจึงพยายามวิ่งห่างออกไปด้วยความกลัว ตอนนี้เขาอยู่ระหว่างปราสาทของลอร์ดแห่งความตระกละกับปราสาทอีกหลังแล้ว จากด้านหลังของเขาเสียงดังของอสูรจำนวนมากที่กำลังวิ่งหนีก็ดังขึ้น ทันทีอิมพ์ก็ตระหนักได้ว่ามันต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกับลอร์ดตนนั้นแน่ๆดังนั้นเขาจึงเร่งความเร็วให้มากขึ้นไปอีกเพื่อออกจากที่นี่โดยเร็ว และในที่สุดเขาก็ได้มีโอกาสพักหายใจอยู่ใกล้ๆกับอาคารที่อยู่ตรงสุดขอบป่าในเมืองอสูร
ในตรอกซอกซอยที่ดูไม่น่าจะมีใครมา อิมพ์ก็วางคลีเมนไทน์ลงและนั่งลงข้างๆเธอพยายามรอให้เด็กหญิงตื่นก่อนจากนั้นเขาค่อยคิดว่าจะทำไงต่อ
ในช่วงเวลานี้เองอิมพ์ก็ได้ตรวจสอบดูบาดแผลของเขาอย่างละเอียด ด้วยเหตุผลบางอย่างดูเหมือนว่าบาดแผลของเขานั้นจะฟื้นฟูไม่เร็วเท่ากับอสูรตัวอื่นๆที่เขาเคยเห็น แต่นั่นอาจเป็นเพราะกว่าเขาอ่อนแอกว่าพวกมันในบางแง่มุมก็ได้หรือไม่ก็บางทีอาจเป็นเพราะเขาอยู่ใกล้กับพลังศักดิ์สิทธิ์มากเกินไปซึ่งต่างจากอสูรเหล่านั้นตั้งแต่แรก แต่นี่ก็ทำให้อสูรเหล่านั้นไม่สามารถต่อต้านพลังงานศักดิ์สิทธิ์ได้เลยแม้แต่น้อย
แต่อิมพ์ยังคงต้องพยายามปิดแผลที่ท้องของเขาในตอนนี้ การเสียเลือดมากเกินไปก็ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องดีเช่นกัน
ตอนนี้อิมพ์ก็ถอดเสื้อคลุมออกและจัดการเสื้อเชิ้ตที่ฉีกขาดและเปื้อนเลือดของเขาอย่างถูกวิธีโดยโยนมันไปที่กำแพงข้างหน้าเขาจากนั้นก็มองลงไปที่ร่างของเขาและสังเกตเห็นสิ่งหนึ่ง
สัญลักษณ์สีน้ำเงินบนหน้าอกของอิมพ์ก็กระจายกว้างขึ้นเล็กน้อยพร้อมกับเส้นสีน้ำเงินบางๆ ถึงมันจะไม่ได้มากนักแต่เขาก็มั่นใจว่ามันใหญ่กว่าครั้งสุดท้ายที่เขาเห็น
อิมพ์ไม่เข้าใจจริงๆว่านี่หมายถึงอะไร เขาไม่มีเวลาคิดเรื่องนั้นจริงๆ แต่อิมพ์นั้นต้องพยายามคิดว่าเขาควรจะทำอย่างไรเพื่อปิดบาดแผลนี้ดี
แต่ก่อนที่เขาจะได้ทำอะไรเขาก็รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างมาสัมผัสผิวหนังรอบๆบาดแผล จากนั้นบาดแผลก็ค่อยๆหุบลง ทันใดนั้นอิมพ์ก็คว้ามือนั้นและผลักมันออกไป จากนั้นเขาก็มองไปยังคลีเมนไทน์ที่อยู่ข้างๆซึ่งตอนนี้กำลังถูกปกคลุมด้วยเลือดอย่างช้าๆ
"เจ้ากำลังทำอะไร?" อิมพ์ถามเธอและคลีเมนไทน์ก็เริ่มจับที่ท้องของเธออย่างน้ำตาคลอ จากนั้นเธอก็มองไปที่อสูรหนุ่มตรงหน้าเล็กน้อย
"ขอบคุณ ... ที่ .. ที่... ที่ช่วยข้า ... " เธอพูดพลางเริ่มสะอื้นอย่างเงียบ ๆ แม้เธอจะเข้าใจสถานการณ์ แต่เธอก็ไม่สนใจเขา ดังนั้นอิมพ์จึงมองกลับมาที่เธอพร้อมกับขบฟันแน่น
“หยุดเดี๋ยวนี้” เขาบอกเธอแล้วก็ค่อยๆขยับเสื้อคลุมสีขาวที่เขาห่อเธอไว้ออกเพื่อดูท้องของเธอที่เต็มไปด้วยบาดแผลมากมาย แผลแรกคือแผลสดที่นางได้มาจากอิมพ์ แต่ก็มีรอยแตกที่แตกต่างกันอยู่รอบ ๆอีกซึ่งมันคล้ายกับรอยแตกที่ปรากฏอยู่บนร่างกายของลอร์ดแห่งความตะกละก่อนหน้านี้
อิมพ์ไม่แน่ใจตอนนี้เขาควรจะทำยังไงดี แต่เขายังก็ตื่นตระหนกเมื่อเห็นบาดแผลลึกมากมายบนร่างเล็ก ๆ เช่นนี้ “พลังชีวิตของเจ้าไม่ลดจริงๆใช่ไหม?” อิมพ์ถามเธอเพื่อยืนยันอีกครั้งว่าเธอไม่สามารถตายจากสิ่งนี้ได้จริง ๆ และเพียงแค่รู้สึกถึงความเจ็บปวดเท่านั้นเหมือนที่เคยอธิบายไว้ก่อนหน้านี้ จากนั้นคลีเมนไทน์ก็พยักหน้าอย่างช้าๆพร้อมกับร่างกายที่สั่นเทา แต่เธอก็ไม่ต้องการส่งเสียงร้องออกมา
แล้วอิมพ์ก็ได้ไอเดีย มีบรรทัดหนึ่งในหนังสือเกี่ยวกับลอร์ดกล่าวว่าพลังงานศักดิ์สิทธิ์นั้น ' นั้นสามารถช่วยชีวิตของมนุษย์ได้ แม้ว่ามันเป็นความตายของอสูร ' อิมพ์ไม่แน่ในเรื่องนี้ แต่อย่างน้อยที่สุดเขาก็หวังว่าสิ่งนี้จะได้ผลจริงๆ
หากพลังงานศักดิ์สิทธิ์ทำร้ายอสูรให้ถึงตายได้จริง ดังนั้นมันก็ต้องสามารถ 'ช่วยชีวิตคน' ได้จริง นี่หมายความว่าเขาก็สามารถใช้มันช่วยชีวิตคลีเมนไทน์ได้ใช่หรือไม่?
อิมพ์ค่อยๆวางกริชลงข้างๆเขาแล้วดันดาบทั้งสามเล่มกลับเข้าไปในกระเป๋าพร้อมกับดันมือของเขาไปที่ท้องของคลีเมนไทน์ตรงที่มีบาดแผล
ทันทีที่อิมพ์ทำเช่นนั้นคลีเมนไทน์ก็ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป เธอเริ่มร้องออกมาอย่างสุดเสียง แต่อิมพ์ก็รีบกดมืออีกข้างไว้ที่ปากของเธอเพื่อหยุดเธอไม่ให้ทำเช่นนั้น
"เงียบไว้" เขาบอกเด็กสาวก่อนที่จะเริ่มผลักมานาของเขาออกจากฝ่ามือและส่งมันเข้าไปในหินเวทมนต์ จากนั้นพลังงานศักดิ์สิทธิ์จำนวนมหาศาลก็หลั่งไหลออกมาจากพวกมัน
ก่อนหน้านี้ด้วยปริมาณพลังงานขนาดนี้มันสามารถทำให้มือของเขาเจ็บได้เลย แต่ตอนนี้อิมพ์กำลังพยายามปล่อยมันออกไปอย่างช้าๆเพื่อที่เขาจะได้ไม่เจ็บมืออีกต่อไปและเพื่อที่เขาจะได้แน่ใจว่าจะไม่ทำร้ายเธอ
และหลังจากผ่านไปไม่นาน เด็กสาวก็ดูเหมือนจะสงบลง เลือดได้หยุดไหลจากร่างกายของเธอแล้ว เห็นได้ชัดว่าตอนนี้เธอไม่ตายแล้วแน่นอน แต่เธอก็ยังเจ็บปวดอยู่ตราบเท่าที่บาดแผลนี้ยังไม่ถูกกำจัดออกไปและถ้าเธอยังเจ็บปวดอยู่ เธอก็จะไม่สามารถเดินไปไหนมาไหนได้ด้วยตัวเอง
อย่างระมัดระวังอิมพ์ก็ดึงมือซ้ายของเขาออกจากปากของคลีเมนไทน์และเอามือขวาของเขาออกจากท้องของเธอเพื่อดูว่าอาการของเธอดีขึ้นหรือไม่
“ยังเจ็บอยู่ไหม” เขาถามเธอโดยพยายามเช็ดเลือดจากท้องของเธอด้วยเสื้อคลุมบางส่วนเพื่อดูว่าบาดแผลนั้นดีขึ้นไหม และคลีเมนไทน์ก็พยักหน้าตอบอย่างช้าๆ "อืม ... มัน ...มันไม่เป็นอะไรมากแล้ว ... " เธอตอบดังนั้นอิมพ์จึงมองเธอด้วยสีหน้าพึงพอใจ
“เดินไหวมั้ย” อิมพ์ถามเธอ แต่คลีเมนไทร์เพียงแค่มองกลับมาที่เขาและดึงขาของเธอเข้าหาตัว “ขอ ... เราอยู่ที่นี่อีกสักสองสามนาทีได้ไหม .. อีกซักหน่อยก็ได้.. ?”
ด้วยการพยายามซ่อนใบหน้าของเธอเอง คลีเมนไทน์กดหน้าผากของเธอเข้ากับหัวเข่าและอิมพ์ก็พยักหน้าให้อย่างช้าๆ "ได้ไม่กี่นาที" เขาตอบแค่นั้นและพยายามหาทางทำให้ตัวเองหายเหนื่อย
มีคำถามที่อิมพ์อยากจะถามเธอ แต่สุดท้ายเขาก็เงียบไปเพราะคิดว่าเขารู้คำตอบอยู่แล้ว เขาอยากรู้ว่าทำไมคลีเมนไทน์ต้อง 'รักษา' ร่างของลอร์ดแห่งความตะกละ ซึ่งเธอควรปล่อยให้เขากินมากที่สุดเท่าที่จะทำได้จนทำลายตัวเองไป
ดังนั้นอิมพ์และเด็กสาวจึงนั่งอยู่ช้างๆกัน อสูรหนุ่มนั้นกำลังพยายามเตรียมการให้มากที่สุดเพื่อที่จะรับมือกับลอร์ดคนต่อไปในขณะที่เด็กสาวพยายามหยุดตัวเองจากการร้องไห้เพราะว่ากลัวและรู้สึกความเจ็บปวดบาดแปล
ในขณะที่อิมพ์กำลังเตรียมตัวเขาก็ดูหนังสืออีกครั้งจากนั้นเขาก็สังเกตเห็นหน้าหนังสือที่อยู่ด้านหลังสุดของเล่ม ซึ่งมันเป็นแผนที่ของ 'พื้นที่' ที่แตกต่างกันทั้งเจ็ดในเมืองซึ่งส่วนใหญ่อธิบายไว้ด้วยว่ามันเป็นปราสาทของใคร
ตอนนี้พวกเขามาจากจากปราสาทของลอร์ดแห่งความตะกละและเมื่อมองจากเมืองแล้ว หากพวกเขาได้เดินทางไปทางซ้ายมันก็จะเป็นปราสาทของลอร์ดแห่งความหยิ่งผยองและจากนั้นก็เป็นลอร์ดแห่งความเกียจค้านซึ่งมันคือสถานที่ที่ลีออนและแซมมี่อยู่ ส่วนด้านหลังคือลอร์ดแห่งความโกรธดังนั้นพวกเขาจะต้องพยายามอยู่ให้ไกลจากที่นั่นให้มากที่สุดและอาจจะต้องผ่านเมืองอีกครั้งเพื่อไปหารูดี้จากลอร์ดแห่งความอิจฉาจากนั้นก็ไปหานักบวชที่อยู่กับลอร์ดแห่งความโลภ ก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังปราสาทของลอร์ดแห่งตัณหาเพื่อรับอาร์ค
อย่างช้าๆอสูรหนุ่มยังคงอ่านหนังสือเกี่ยวกับเรื่องของลอร์ดแต่ละคนต่อไป คนแรกที่เขาจะไปหาก็คือลอร์ดแห่งความหยิ่งทะนง ตามหนังสือตราบใดที่คุณชมเชยพวกมันให้มากที่สุดและถ่อมตัวไว้คุณอาจโชคดีพอที่จะหนีและเอาชีวิตรอดจากพวกมันได้ นี่ฟังดูง่ายพอสมควร ... แต่ถึงอย่างนั้นอิมพ์ก็ต้องรู้ก่อนว่า 'คำชมเชย' หรือ 'ความอ่อนน้อมถ่อมตน' คืออะไร
เขาไม่เคยอ่านเจอเรื่องนี้มาก่อนดังนั้นบางทีเขาอาจจะต้องด้นสดหรือถามคลีเมนไทน์เกี่ยวกับเรื่องนี้ดูระหว่างทางไปปราสาทถัดไป
แต่ไม่ว่าจะยังไงตอนนี้อิมพ์ก็โชคดีที่พาเด็กกลับมาได้คนนึงแล้วและเขาก็รู้แล้วด้วยว่าเด็กคนอื่นๆอยู่ที่ไหน นี่ทำให้เขามีความสุขเป็นอย่างมากจนไม่รู้ว่าควรจะแสดงออกยังไง