Ep.848 - เลเวล S สร้างปัญหา
5/5
Ep.848 - เลเวล S สร้างปัญหา
อายุขัยของท่านผู้ใหญ่หูซาน เกรงว่าจะเหลืออีกไม่มากแล้ว!
อย่างไรก็ตาม เมื่อผลึกโลหิตปรากฏขึ้น เรื่องน่ากังวลเช่นนี้ย่อมหมดไป!
“มาแล้วหรือ?” หูซานลืมตาขึ้น น้ำแข็งค้างที่เกาะตามร่างกายเขา จางหายตามเสียง
“ครับ ขอโทษที่ทำให้รอนะครับ”
“ถ้าระยะเวลาแค่นี้ยังถือว่ารอ ฉันคงไร้เหตุผลเกินไป” หูซานกล่าว เพราะหลังจากติดต่อฉินเฟิง เขาก็ให้ไป๋หลีพาตัวเองมาที่นี่ทันที นับรวมเวลาทั้งสิ้นไม่เกินสามนาทีเท่านั้น
ฉินเฟิงยังคงยิ้มอย่างสุภาพ ในฐานะผู้เยาว์ บวกกับความเมตตาก่อนหน้านี้ของหูซาน ทำให้เขาเคารพผู้พิทักษ์แดนเหนือคนนี้มาก
จากนั้น ฉินเฟิงได้หยิบผลึกโลหิตออกมากว่า 50 ชิ้น นี่เป็นสิ่งที่ฉินเฟิงเคยพูดไว้เมื่อครู่
แม้หูซานจะได้ยินผ่านอุปกรณ์สื่อสารมาแล้วก็ตาม แต่เมื่อได้เห็นมันกับตา ก็อดตื่นเต้นไม่ได้
เพราะด้วยจำนวนเท่านี้ น่าจะเพียงพอแล้ว!
กระนั้น เขายับยั้งความคิดตัวเองอย่างรวดเร็ว ในเวลาเดียวกันยกมือขึ้น หยิบกล่องแกะสลักแวววาวและโปร่งใสออกมา ดูเหมือนกล่องคริสตัลไม่มีผิด
ทว่าพลังงานที่พลุ่งพล่านของมัน กลับมิใช่อะไรเรียบง่ายเฉกเช่นเดียวกับกล่องคริสตัล นี่คือกล่องที่สร้างขึ้นจากเหรียญพลังงาน
ภายในกล่อง เป็นบัวหิมะแปดกลีบ กลิ่นอายของมันถูกกักเก็บเอาไว้ รูปลักษณ์ไม่ต่างจากหยกสลัก แต่ละใบสดใสเหมือนจริงราวกับมีชีวิต
ฉินเฟิงย่อมรู้จักสมบัติชิ้นนี้ มันคือบัวหิมะหยกเยือกแข็ง มันมีทั้งสิ้นแปดกลีบ เป็นพืชวิญญาณเลเวล S !
หูซานกล่าว “สิ่งนี้ แลกเปลี่ยนกับของที่คุณมี!”
“นี่ …” ฉินเฟิงค่อนข้างตกใจ ในฐานะเลเวล S แม้หูซานจะมั่งคั่งและมีอำนาจล้นฟ้า แต่ก็ไม่ควรจ่ายหนักถึงขนาดนี้ นี่คือพืชวิญญาณเลเวล S การใช้มันแลกเปลี่ยนกับผลึกโลหิต แน่นอนว่าเป็นฝ่ายฉินเฟิงที่ฟันกำไรมหาศาล
หากหูซานแลกเปลี่ยนบัวหิมะหยกเยือกแข็งแปดกลีบกับผลึกโลหิตเลเวล S อันนี้สิถึงเรียกมีมูลค่าเท่ากัน แต่ฉินเฟิงไม่เคยพูดถึงมันมาก่อน ตอนนี้ยิ่งไม่สามารถเอ่ยถึงมันได้
“ท่านผู้ใหญ่หู สิ่งนี้ล้ำค่าเกินไป ท่านขาดทุนมาก อีกอย่าง ท่านเคยช่วยชีวิตผมไว้ ผมยังไม่ได้ตอบแทนบุญคุณเลย งั้นผมขอใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ทดแทนมันเลยแล้วกัน ผมฉินเฟิง ไม่ได้หน้าด้านถึงขนาดนั้น!” ฉินเฟิงกล่าว
อย่างไรก็ตาม หูซานส่ายมือปฏิเสธและกล่าว “หน้าด้งหน้าด้านอะไรกัน แล้วทำไมต้องทดแทนบุญคุณด้วย ที่ฉันช่วยเหลือ ก็เพราะต้องการสานสัมพันธ์อันดี ไม่อย่างนั้นตอนนี้พวกเราคงไม่ได้คุยกันหรอกใช่ไหม? ผลึกโลหิตมีความสำคัญสำหรับฉันมาก แต่บัวหิมะหยกเยือกแข็งนี้ ฉันเพาะเลี้ยงมัน และเคยกินไปหลายชิ้นแล้ว มันไม่มีประโยชน์กับฉันอีกต่อไป”
“แค่ได้แลกมันกับผลึกโลหิต ก็ถือว่าฉันกำไรแล้ว ในมิติแห่งนี้ อสูรโลหิตไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะล่า และเกรงว่าฉันเหลือเวลาไม่มากนักที่จะ --แค่ก แค่ก ...”
หูซานไอเล็กน้อย อันที่จริงแล้ว เขาไม่ต้องขยับแข้งขาสักก้าว เพียงใช้อบิลิตี้ก็สามารถสังหารอสูรโลหิตได้ไม่ยาก แค่นั้นก็พอให้ฆ่าพวกมันได้มากมาย ยังไงก็ตาม ทำแบบนั้นต้องเสียเวลาตอนออกค้นหา
ซึ่งหูซานในเวลานี้ เขาเลือกขาดทุน แต่ประหยัดเวลาดีกว่า
สำหรับหูซานแล้ว เวลาคือสิ่งสำคัญที่สุด
ฉินเฟิงเมื่อได้ยินแบบนี้ ก็ไม่คิดโต้แย้งใดๆอีก ประเด็นก็คือบัวหิมะหยกเยือกแข็งเองก็ทำให้ใจเขาสั่นไหวเช่นกัน เพราะอย่างน้อยที่สุดในตอนที่เขาคิดตัดผ่านสู่เลเวล A เขาสามารถใช้สมบัติฟ้าดินชิ้นนี้ได้
หลังจากคิดสักพัก ฉินเฟิงก็เอ่ยปากว่า “ท่านผู้ใหญ่หู งั้นแบบนี้เป็นไร ผมขอมอบทรายธารเวลาให้แก่ท่านจำนวนหนึ่ง ถือเสียว่าเป็นค่าชดเชยส่วนต่างของราคา”
ทรายธารเวลาคือของมีค่าที่สุดในมือฉินเฟิงตอนนี้ ทั้งยังเคลื่อนย้ายง่ายที่สุด และเป็นสมบัติที่ไม่ว่าใครๆก็อยากได้
“โอ้? คุณยังเหลือมันเก็บไว้ในมืออีกหรือ?”
ฉินเฟิงยิ้ม แต่ไม่ยอมปริปากยอมรับ เขาเคยกล่าวว่าได้มอบทรายธารเวลาทั้งหมดให้แก่ซางฮันไปแล้ว แม้คนอื่นจะรู้ว่าเขามี แม้การเปลี่ยนแปลงของเมืองเฟิงหลีจะเห็นได้ชัดสำหรับทุกคน … แต่ก็ไม่มีใครหาเจอ
ยิ่งไปกว่านั้น ฉินเฟิงไม่ขาดแคลนเงินทอง เขาจะไม่มีทางขายของดีเช่นนี้เด็ดขาด
แต่ปัจจุบัน เขายอมนำมันออกมา เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียม
ฉินเฟิงหยิบทรายธารเวลา มันถูกบรรจุไว้ในถังใบใหญ่ พลังงานที่ปลดปล่อยออกมา ช่วยให้หูซานรู้สึกสบายตัวมาก เขาเลยไม่ปฏิเสธ รับมันเอาไว้
“ฉินเฟิง ในเมื่อคุณอยู่ที่นี่แล้ว ฉะนั้นแม้จะชั่วคราว แต่ได้โปรดช่วยปกป้องฉันที”
“รับทราบครับ ไม่มีปัญหา”
ฉินเฟิงพยักหน้ารับภารกิจนี้โดยไม่เสียเวลาคิด
หูซานพอได้ยิน ก็โยนผลึกโลหิตเข้าไปในปากทันที แม้ผลึกโลหิตจะอยู่ในสถานะของแข็ง แต่เมื่อเข้าปากกลับละลาย เหมือนน้ำตาลก้อน เมื่อถูกละลายโดยน้ำลาย ผลึกโลหิตก็แปรสภาพเป็นพลังบริสุทธิ์อย่างรวดเร็ว ไหลลงตามลำคอไปยังกระเพาะอาหาร และค่อยๆถูกดูดซับไปตามส่วนต่างๆของร่างกาย
ใบหน้าของหูซานปรากฏเลือดฝาด ราวกับได้รับยาชูกำลังชั้นยอด ไม่เพียงแค่นั้น แต่ร่างกายของเขาเริ่มกำยำขึ้น หลังที่โค้งงอ บัดนี้ค่อยๆเหยียดตรง
การเปลี่ยนแปลงดังกล่าว คือสิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดจากผลึกโลหิต
ผลึกโลหิตสามารถช่วยเพิ่มอายุขัยได้ มันคือแก่นพลังชนิดที่สามารถดูดซึมได้โดยตรง ในขณะที่แก่นพลังอื่นๆ ยังต้องปรับแต่งเสียก่อนจึงจะดูดซับ อย่าลืมสิว่า ไม่ใช่ทุกคนที่มีพลังพิเศษดูดกลืนเหมือนกับฉินเฟิง
ฉินเฟิง ไป๋หลีสบตากันวูบหนึ่ง ไม่คิดรบกวนหูซาน ทั้งสองจับมือกันเดินออกจากกระท่อมน้ำแข็ง
ทว่าแค่เดินออกมา เสียงตวาดกราดเกรี้ยวก็เสียดแทงเข้ามาในรูหูฉินเฟิง มันคือเสียงคำรามที่ส่งผ่านพลังสมาธิ
ยังไม่พอ ต้นกำเนิดเสียง ดูเหมือนจะตรงมายังดินแดนหิมะและน้ำแข็งที่พวกเขายืนอยู่
สัมผัสของไอร้อนลวก ปะทะเข้าใส่ใบหน้าพวกเขา หิมะและน้ำแข็งเริ่มละลายไปพร้อมกับมัน
วินาทีต่อมา ชายผิวดำที่ดูแข็งแกร่ง ปรากฏกายขึ้นต่อหน้าฉินเฟิง “หูซาน ยังเหลือเวลามาเที่ยวดินแดนแอฟริกาเหนืออีกหรือ? กล้ามาแส่หาที่ตาย? ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ไม่ใช่ว่าแกถูกแช่แข็งจนเป็นซอมบี้ไปแล้วรึไง ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”
บนร่างกายของอีกฝ่าย โหมกระหน่ำไปด้วยเปลวเพลิง หน้าตาดูดุร้ายน่ากลัว ฉีกยิ้มเห็นฟันขาวๆ ทำท่าคล้ายตนกำลังเล่าเรื่องตลก แต่ในสายตาคนอื่นเขาราวกับคนบ้า
ซึ่งบอกตามตรงว่าเขาบ้าจริงๆนั่นแหละ!
นี่คือตัวตนทรงอำนาจเลเวล S แห่งพันธมิตรองค์กรมืดแอฟริกาเหนือ--
--เทพเพลิงกัลป์ไอซาน!
และคนผู้นี้ ชัดเจนว่ามาสร้างปัญหา!
ฉินเฟิงแค่มองแว่บแรก ก็ตระหนักได้ทันที
“รีบปิดล้อมมิติ แยกพลังสมาธิของฝ่ายตรงข้ามซะ” ฉินเฟิงสั่งอย่างร้อนรน
“จะทำเดี๋ยวนี้!” สีหน้าของไป๋หลีเองก็ดูจริงจังเช่นกัน เธอเหยียดมือออกไป ปรากฏหมอกสีเงินปกคลุมรอบกระท่อมน้ำแข็ง เปลี่ยนฉากตรงหน้าให้กลายเป็นแค่ภาพเบลอ
แต่เทพเพลิงกัลป์ไอซานได้ลงมาจากท้องฟ้าแล้ว เขาหยุดยืนอยู่ไม่ไกลจากฉินเฟิงและไป๋หลี ห่างออกไปราวๆ 50 เมตร
พลังสมาธิของเขาได้ค้นพบการดำรงอยู่ของฉินเฟิงและไป๋หลีตั้งแต่แรก อย่างไรก็ตาม เขาให้ความสนใจกับหูซานมากกว่า แต่เวลานี้จู่ๆกลิ่นอายของหูซานหายไป ไอซานร่อนลงในดินแดนหิมะ สายตาของเขาย่อมถูกดึงดูดโดยทั้งสองเป็นธรรมดา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเห็นไป๋หลี ดวงตาของไอซานสะท้อนประกายลามกชั่วร้ายออกมาทันที
สีหน้าของฉินเฟิงกลายเป็นมืดมน มือของเขา วางลงบนด้ามจับมีดกษัตริย์คราม
“ขออภัยด้วย ท่านผู้ใหญ่หูซานมีบางอย่างต้องทำ ผมเกรงว่าเขาจะไม่สามารถออกมาต้อนรับคุณได้” ฉินเฟิงกล่าวน้ำเสียงเย็นชา
ไอซานเลิกคิ้ว มองมาทางฉินเฟิง ประกายลามกชั่วร้ายในดวงตาเขา กลับกลายเป็นรังเกียจและเดียดฉันท์ ถึงขั้นที่ว่าปัดป่ายแขนด้วยความขยะแขยง
“ไอ้สารเลวน้อย ไสหัวไปให้พ้น!!”
ขณะกล่าว หนึ่งมือเหยียดออก ปลดปล่อยมังกรไฟขนาดใหญ่ ตรงเข้าหาฉินเฟิง
ประเด็นก็คือ หากฉินเฟิงหลบเลี่ยงมันในตอนนี้ หมอกสีเทาเงินเบื้องหลังเขา คงไม่พ้นถูกโจมตีแน่ๆ พลังมิติของไป๋หลี แม้แข็งแกร่งแต่ก็ยังมีขีดจำกัด!
ดังนั้น การโจมตีในครั้งนี้--
--ฉินเฟิงไม่สามารถหลบมันได้!