Ep.846 - ข้อสันนิษฐานของชูฟ่าน
3/5
Ep.846 - ข้อสันนิษฐานของชูฟ่าน
อย่างไรก็ตาม ความร้อนแรงยังไม่จางหายไป ไม่เหมือนกับชายชราคนก่อนหน้านี้ ที่ทำแค่แช่แข็งแม่น้ำสติกซ์ การเยือนของอีกคน เดือดพล่านราวกับดาวหาง โจมตีไปทั่ว คนธรรมดาหลายคน เมื่อต้องเผชิญกับอุณหภูมิสูงขนาดนี้ ต่างกรีดร้องสยดสยอง สุดท้ายสลายกลายเป็นขี้เถ้า
ชายที่ทั้งเนื้อตัวถูกปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิง ร่อนลงเหนือผิวแม่น้ำสติกซ์ แม่น้ำระเหยเป็นไอทันที ก้อนน้ำแข็งก่อนหน้าที่หูซานแช่ทิ้งไว้ มลายหายไปอย่างสิ้นเชิง
“ฝีมือใครกัน? หรือจะเป็นไอแก่นั่น? สงสัยจะหลับไม่สนิท กล้าคลานออกจากฝาโลงน้ำแข็งแบบนี้ ไม่กลัวตายเลยรึไง?”
ผู้เอ่ยปากมีผิวกายดำทั้งตัว เหลือแค่ฟันที่สีขาวสดใส เวลานี้ใบหน้าของเขาดูดุร้ายเป็นอย่างยิ่ง
ไม่รอช้า ชายผิวดำก้าวเดิน จมหายไปในรอยแยกมิติทันที
เฝ้ารอจนกระทั่งเขาจากไป มนุษย์ที่ยังโชคดีรอดชีวิต ค่อยๆอ้าปากที่กำลังสั่นหงึกๆ เอ่ยชื่อออกมา
“เทพเพลิงกัลป์ไอซาน!”
“ไอซาน ต้องเป็นไอซานแน่ๆ”
“นี่ … พวกเราควรรายงานพวกหัวหน้าดีไหม ไอซานเป็นตัวอันตรายเกินไป”
“ช้าก่อน … รออีกสักชั่วโมงเถอะ ใครจะรู้ บางทีไอซานอาจดักรอคนอยู่หน้าประตูก็ได้”
ฝูงชนตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว ในบรรดาสมาชิกพันธมิตรองค์กรมืดแห่งแอฟริกาเหนือ ไอซานถือเป็นหนึ่งในการดำรงอยู่ที่แข็งแกร่งที่สุด
จากนั้น ก็มีเลเวล S อีกหลายคนเดินทางมา ทั้งหมดปลดปล่อยแรงกดดันมหาศาล แต่เกือบทั้งหมดไม่มีฝูงชนคนใดรู้จัก
ไม่นาน ข่าวการมาเยือนของเลเวล S ก็ถูกส่งต่อไปยังผู้คนในมิติธารโลหิต
…
ในมิติธารโลหิต พันธมิตรแอฟริกาเหนือรวมตัวกันเป็นกลุ่ม เข้าต่อกรกับอสูรโลหิตและพืชกลายพันธุ์ มีผู้แข็งแกร่งเดินทางเข้ามามากมาย แต่ละกลุ่มค่อยๆสร้างฐานที่มั่นของตัวเอง คาดว่าพวกเขาทั้งหมดคงได้รับแรงบันดาลใจมาจากฉินเฟิง
อย่างไรก็ตาม เฟิงหลีคือกลุ่มแรกที่เข้าสู่รอยแยกมิติ ดังนั้นเรือเหาะของพวกเขาได้มุ่งไปยังโซนลึกของมิติธารโลหิตตั้งนานแล้ว แม้จะอยู่นอกสมรภูมิธารโลหิตก็ตาม แต่ก็ถือว่าได้ล่วงล้ำเข้าไปในเขตที่ยังมีอสูรโลหิตอาศัยอยู่
ที่นี่ แม้เทียบกับบริเวณที่เกิดรอยแยกมิติขึ้นบ่อยครั้งแล้ว มันค่อนข้างปลอดภัยกว่าก็จริง แต่ทรัพยากรก็ลดลงเป็นเงาตามตัว
อย่างไรก็ตาม นั่นเป็นสิ่งที่พวกเขาคาดหวังไว้
เพราะท้ายที่สุดแล้ว หากมีรอยแยกขนาดใหญ่ปะทุขึ้นในตำแหน่งที่พวกเขาอยู่ มันย่อมดึงดูดความสนใจจากผู้คนจำนวนมากอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่นเดียวกับสมรภูมิธารโลหิต ที่ยิ่งนานยิ่งมีอสูรโลหิตกำเนิดขึ้นเรื่อยๆ ไม่ก็มุ่งตรงไปยังทิศทางนั้น
ด้วยเหตุนี้เอง ส่งผลให้สถานที่อื่นมีอสูรโลหิตไม่มากนัก แต่ยังพบพืชกลายพันธุ์ในมิตินี้อยู่ประปราย และพวกมันทรงพลังมาก
บนท้องฟ้า ท้องฟ้าเริ่มกลายเป็นบิดเบี้ยว ประตูมิติถูกเปิดออก เรือเหาะอีกลำปรากฏขึ้นกลางอากาศ ฉินเฟิงเชื่อมต่อสะพานระหว่างเรือเหาะทั้งสอง
ไม่นาน กลุ่มคนในชุดขาวก็ก้าวออกมา คนกลุ่มนี้ไม่ได้มีกลิ่นอายแข็งแกร่งอะไร แต่การแสดงออกกลับดูมั่นใจและสติเฟื่องแบบสุดโต่ง
มิใช่ใครอื่น ทั้งหมดคือนักวิจัยของเฟิงหลี
แต่หัวหน้ากลุ่ม เป็นแค่เด็กวัยรุ่นตัวเล็กเท่านั้น
--ชูฟ่าน!
เรือเหาะลำใหม่ที่ตามมา ได้ถูกดัดแปลงให้กลายเป็นห้องวิจัย ชูฟ่านมาเยือนในครั้งนี้ ก็เพื่ออธิบายผลงานของเขา
ฉินเฟิงกับชูฟ่านทักทายกันเพียงครู่ เด็กหนุ่มก็ยื่นผลสรุปออกไป
ฉินเฟิงพลิกอ่าน แต่ยิ่งอ่าน สีหน้าของเขาก็ยิ่งดูจริงจังขึ้นเรื่อยๆ
ชูฟ่านเป็นอัจฉริยะอย่างไม่ต้องสงสัย เขาไม่ด้อยไปกว่า Z เลย ตัวยาปลุกพลังเวอร์ชันใหม่ เด็กหนุ่มสามารถสกัดมันได้จริงๆ มีกระทั่งการทดลองให้คนธรรมดากลุ่มหนึ่งใช้ แต่อัตราการตื่นจนถึงตอนนี้ ยังคงเป็น 100%
อย่างไรก็ตาม ผลการประเมินในช่วงท้าย ทำให้ฉินเฟิงต้องขมวดคิ้ว
“หรือถ้าให้พูดก็คือ ยาปลุกพลังประเภทนี้ ไม่สามารถแจกจ่ายให้กับพนักงานทุกคนได้? ไม่อย่างนั้น สุดท้ายพวกเราก็จะกลายเป็นเหมือนกับในมิติต้องห้าม หลังจากนี้ไป จะไม่สามารถใช้กำลังภายในและพลังสมาธิได้ กลายเป็นคนที่ต้องใช้แค่พละกำลังเพียงอย่างเดียว”
ศพของสัตว์ร้ายที่ถูกนำกลับมาจากมิติต้องห้าม หลังจากศึกษาทดลอง พวกเขาก็ค้นพบเชื้อราชนิดพิเศษ เจ้าสิ่งนี้สามารถกักเก็บพลังงานได้ เปลี่ยนแปลงร่างกายให้สามารถดูดซึมพลังงานได้ทุกวัน เมื่อพลังเข้าสู่เนื้อหนัง ความแข็งแกร่งทางกายภาพของสิ่งมีชีวิตนั้นๆจะทรงพลังยิ่งขึ้น ยังไงก็ตาม ในส่วนของกำลังภายในและพลังสมาธิ มันจะไม่ถูกปลุกขึ้นตามมา
กระนั้น สิ่งที่ดีที่สุดก็คือ การปลุกพลังด้วยวิธีนี้ มันสามารถยกระดับได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการตัดผ่านใดๆ ตราบใดที่ได้รับการเติมเต็มพลังงานอย่างต่อเนื่อง!
และการเติมเต็มพลังงานที่ว่า วิธีที่ง่ายดายที่สุด ก็คือการกิน!
กินต่อไปเรื่อยๆ!
แน่นอน ร่างกายยังสามารถดูดซับพลังงานฟ้าดินได้โดยตรงเช่นกัน แม้จะอยู่ในระดับที่อ่อนแอมาก แต่ผลลัพธ์ชัดเจน จับต้องได้
กระนั้น ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่มีทั้งพลังสมาธิและกำลังภายในเหมือนกับในมิติต้องห้าม ยังสร้างความกังวลให้แก่ผู้คน ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงต้องเร่งทำการทดลองต่อไป
สิ่งที่เรียกว่าเชื้อราชนิดพิเศษสามารถหล่อหลอมและช่วยปลุกพลังให้ตื่นขึ้น มันได้เปลี่ยนแปลงมิติต้องห้าม ทำให้พลังงานทั้งหมดถูกกักขังอยู่ในร่างกายของสิ่งมีชีวิต ดังนั้นจึงไม่มีอักษรรูนในอากาศอีกต่อไป ไร้ซึ่งกำลังภายใน มีแต่การกลืนกินเท่านั้น
ในมิติต้องห้าม ผู้ที่ครอบครองพลังสมาธิ , อักษรรูน , กำลังภายใน , กระบวนท่าวรยุทธ เมื่อย่างกรายเข้าไป จะรู้สึกเหมือนกับว่าถูกจับมัดไปทั้งตัว
โลกแบบนั้น มันน่าหดหู่เกินไป
หากพวกฉินเฟิงปล่อยยาปลุกพลังที่ได้ผลลัพธ์เช่นนี้ออกไป หลายปีจากนี้ มิติของพวกเขา จะไม่กลายเป็นแบบเดียวกับมิติต้องห้ามหรือ?
แต่ชูฟ่านไม่สนใจเรื่องนี้ กล่าวด้วยรอยยิ้มเย็นชา “อย่าลืมสิว่าตอนนี้พวกเราเป็นมนุษย์ ไม่ใช่ผู้ที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหารอีกต่อไป อย่ามัวเสียเวลาใส่ใจเรื่องเล็กน้อยเลย มันก็แค่การคาดเดาในอนาคต มองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าก็พอ เหมือนกับในยุคก่อนรอยแยกมิติครั้งใหญ่ไง ตอนนั้นผู้คนเอาแต่ศึกษาว่าเหลือเวลาอีกกี่ปีดวงอาทิตย์ถึงจะดับสูญ สุดท้ายโลกมนุษย์ก้าวเข้าสู่โลกาวินาศ ยังไม่ทันถึงเวลานั้นด้วยซ้ำ ตอนนี้เป็นยุครอยแยกมิติครั้งใหญ่แล้ว บางที ต่อให้เกิดสถานการณ์เหมือนกับในมิติต้องห้ามขึ้นจริงๆ แต่ผมว่าคุณคงไม่มีชีวิตอยู่จนได้ดูมันหรอก!”
ฉินเฟิงกล่าว “เอาล่ะๆ อาจจะจริงที่พวกเราไม่ต้องไปคำนึงถึงอนาคตที่อาจเกิดขึ้นแบบเดียวกับมิติต้องห้าม แต่เรื่องนี้มันไม่มีทางแก้เลยจริงๆหรอ?”
ชูฟ่านไม่แปลกใจเลยที่ฉินเฟิงเอ่ยถามคำนี้ออกมา เขาเอ่ยว่า “จริงๆแล้วปัญหานี้มันง่ายมากที่จะแก้ และคำตอบของมัน คือเหตุผลที่ผมมารายงานด้วยตัวเองในครั้งนี้”
“โอ้?”
“มิติทับซ้อน! มิติล่มสลาย!”
“นี่เป็นหัวข้อวิจัยที่น่าสนใจจริงๆ มิติของพวกเรา ทำไมมันถึงก้าวเข้าสู่ยุครอยแยกมิติครั้งใหญ่ ใช่เป็นเพราะกักตุนพลังงานเอาไว้เป็นจำนวนมากหรือไม่? ในขณะที่มิติล่มสลาย เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นเป็นเพราะความไม่สมดุลของพลังงานรึเปล่า? มีแต่หัวข้อน่าสนใจทั้งนั้น!”
ฉินเฟิงถึงกับพูดไม่ออก ไอ้พวกนักวิทยาศาสตร์ บางทีก็บ้าเกินไป!
“เรื่องพวกนี้ เชิญนายไปศึกษาด้วยตัวเองได้เลย”
เห็นได้ชัดว่าฉินเฟิงไม่ต้องการเสวนาเรื่องนี้กับชูฟ่าน หากแซดอยู่ที่นี่ แล้วทั้งสองไม่มีปัญหากัน คงเถียงกันสนุกน่าดู
ชูฟ่านเห็นท่าทียอมแพ้ของฉินเฟิง ใบหน้าเด็กหนุ่มก็เชิดขึ้นเล็กน้อยอย่างภาคภูมิใจ กล่าวเสียงหนักแน่นว่า “อันที่จริง ครั้งนี้ผมเอาของดีมาให้คุณด้วย แต่ดูจากท่าทีแล้ว ดูเหมือนคุณจะไม่สนใจหรอกมั้ง”
ฉินเฟิงเลิกคิ้ว แต่ไม่เร่งรีบไถ่ถาม ก็ในเมื่อชูฟ่านจงใจมาส่งถึงที่ อีกฝ่ายอย่างไรก็ต้องมอบมันแก่เขาอย่างแน่นอน
ชูฟ่านมองฉินเฟิงครู่หนึ่ง เห็นอีกฝ่ายนิ่ง สุดท้ายถอนหายใจ ก่อนเปิดพื้นที่มิติ หยิบปืนออกมา
ปืนนี้ ลักษณะเหมือนกับปืนฉีดน้ำของเล่นสำหรับเด็กๆ แต่สิ่งที่อยู่ข้างใน เป็นน้ำยาสีฟ้า
“เทคโนโลยีคือสิ่งที่เปลี่ยนแปลงชีวิต ประธานฉิน มิติแห่งนี้ ผมเชื่อว่าไม่มีอะไรดีไปกว่าอาวุธตรงหน้าคุณ!”
ฉินเฟิงก้มลงมองไปในน้ำยาสีฟ้า และฉุกคิดได้ทันทีว่ามันคือออะไร
--สารพิษที่ช่วยให้เลือดแข็งตัว!
ชูฟ่านสามารถพัฒนาเจ้าสิ่งนี้ได้เร็วขนาดนี้เลยงั้นหรอ?