ตอนที่ 24 เขาใจร้ายและบ้าคลั่ง
เหยาซื่อขมวดคิ้ว ‘ฉันไม่ได้แย่ขนาดนั้น ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงรู้สึกทุกข์ทรมานกับการสูญเสียอยู่เสมอ’
ฉีโย่วแอบเสียใจกับชะตากรรมที่ไม่ยุติธรรมของเธอ เมื่อมืออันอบอุ่นคู่หนึ่งจับไหล่ของเธอ
ฉีโย่วหันหน้าไปทางเธออย่างอ่อนไหว แต่ก็พบกับดวงตาที่สดใสของเหยาซื่อ
ริมฝีปากที่เย็นและนุ่มของเขากดลงบนฉีโย่ว ทำให้ฉีโย่วรู้สึกเลือดไหลเวียนในร่างกายขึ้นมาทันที
เหยาซื่อชอบความหวานของเธอมากเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาจูบฉีโย่วในสภาพที่เงียบและชัดเจนเช่นนี้
ก่อนที่ฉีโย่วจะได้สติคืนกลับมา เหยาซื่อได้ถอนจูบออกมาอย่างช้า ๆ
“คุณ! คุณทำอะไร? คิดจะเอาเปรียบฉันเหรอ!”
ฉีโย่วเช็ดปากไปมาอย่างโกรธ ๆ ราวกับว่ารู้สึกรังเกียจจุมพิตของเหยาซื่อ
*
เหยาซื่อเลียริมฝีปากของเขาอย่างพึงพอใจกับรสชาติของฉีโย่ว
“คุณเป็นภรรยาของฉัน ฉันจะจูบคุณไม่ได้เหรอ?”
ด้วยสายตาชั่วร้ายของเขาที่จ้องมองไปที่ร่างกายลีบ ๆ ของฉีโย่ว ความรู้สึกแปลก ๆ อัดแน่นอยู่ในตัวเหยาซื่อ
“ยังไงก็ตาม คุณยังเป็นหนี้ผมอยู่” เหยาซื่อเสริมด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ฉีโย่วมองไปที่เหยาซื่อ รู้สึกตกใจและเห็นใจในชะตากรรมของตัวเองมากขึ้น
“ไม่มีอะไรหรอก! ฉันนอนกับคุณเพื่อเป็นค่าชดเชย 20,000 หยวนได้นะ!”
ฉีโย่วจับแขนของเธออย่างช่วยไม่ได้ “ใครจะไปว่าฉันต้องชดใช้เงินด้วย”
ในที่สุดเธอก็รู้ว่าเหยาซื่อเป็นคนแบบไหน เขาเป็นคนเอาแต่ใจ งกและคนดีเฉพาะต่อหน้าคุณย่าเท่านั้น…
สำหรับตัวเธอเองก่อนที่จะก้าวออกจากเงามืดของการถูกทรยศและหลอกลวง เธอก็ตกลงไปในหลุมพรางหลายอย่าง ฉีโย่ววางคางของเธอไว้ที่หน้าต่างและมองดูเงาของต้นไม้ตามข้างทางด้วยดวงตาที่ปราศจากน้ำตา
“นี่คือคืนแต่งงานของเรานะ สัตว์ประหลาดที่น่ารัก ยังไงคุณก็ต้องจ่าย”
เหยาซื่อวางแผนที่จะส่งฉีโย่วกลับบ้าน ทว่าเขาจูบนั้นกระตุ้นความปรารถนาของเขา เขาไม่ใช่สุภาพบุรุษ ดังนั้นเขาไม่มีทางปล่อยให้ลูกแกะหนีไปจากเขาได้
“อะ คุณนี่ จริงจังหรือเปล่า?”
ฉีโย่วพับแขนเสื้อขึ้นและจ้องมองไปที่เหยาซื่อ ดูเหมือนว่าเธอจะถูกมองว่าเป็นลูกแกะตลอดไปแน่ ถ้าเธอไม่แสดงพลังของเธอ
“สองหมื่น...”
เหยาซื่อชูสองนิ้วขึ้นอย่างไม่เป็นทางการ เพื่อเตือนคนที่กำลังโกรธและนั่งใบ้อยู่ข้าง ๆ
ฉีโย่วสะดุ้งเบา ๆ และกระแอมในลำคอ “คุณต้องการอะไร?”
เหยาซื่อไม่ได้พูดอะไร แต่เมื่อเขาดึงเบรก ฉีโย่วก็เดาคำตอบได้
รถขับเข้าไปในโรงแรมหรู แสงไฟระยิบระยับเต็มไปด้วยรสชาติที่เย้ายวนใจชายและหญิงหลั่งไหลเข้าออกอย่างไม่มีความอาย
“ลงรถ” เหยาซื่อดึงฉีโย่วเข้ามาในอ้อมแขนของเขาอย่างภาคภูมิใจและฮัมเพลงเบา ๆ ที่ข้างหูของเธอ
“สุขสันต์วันแต่งงานครับ คุณนายเหยา.”
......
เป็นคืนที่ไม่ได้นอนเลยจริง ๆ
วันรุ่งขึ้นฉีโย่วตื่นขึ้นมาพร้อมกับเสียงท้องร้องคำราม
แสงที่ส่องประกายทำให้เธอตาพร่า ผู้ชายที่นอนอยู่ข้าง ๆ ยังคงกอดเธอไว้แน่น
“คนวิปริต”
นายใหญ่ที่ภายนอกดูเป็นคนขี้อาย แต่ภายในไม่ดุร้ายราวกับสัตว์ป่า ไม่ใช่เพียงแค่ตั้งใจจะทำเท่านั้น แต่ยังเงี่ยนสุด ๆ อีกด้วย!
การใช้ประโยชน์จาก ‘การบริการ’ ที่ไม่ได้รับค่าจ้างครั้งที่แล้ว เหยาซื่อได้ระบายความต้องการทางเพศของเขากับฉีโย่วอย่างเต็มที่เมื่อคืนนี้กระทั่งรุ่งเช้า
เข็มนาฬิกาบนผนังกำลังชี้ไปที่เลข 10 ฉีโย่วรีบสลัดแขนของเหยาซื่อออก หยิบเสื้อผ้าที่ยับยู่ยี่ที่กองอยู่บนพื้นขึ้นมาสวม แล้วรีบออกจากโรงแรมไป
เธอนั่งแท็กซี่และพลิกดูเงินในกระเป๋าของตนเอง
“แม่สาว โอเคหรือเปล่าครับ”
คนขับรถมองผ่านกระจกมองหลังอย่างระมัดระวัง ฉีโย่วอยู่ในสภาพยุ่งเหยิงราวกับผ่านการถูกทำมิดีมิร้ายมาอย่างไรอย่างนั้น
“ให้ผม แจ้งตำรวจให้ไหมครับ”
ฉีโย่วงงงวยกับความใจดีของคนขับ เธอนิ่งเงียบสักพัก กว่าจะได้สติและตอบกลับ
“อา? ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณ”
ฉีโย่วหยิบเครื่องสำอางและกระจำออกมาเพื่อทำการแต่งหน้าใหม่ แต่ต้องตกใจกับตัวเองในกระจก
เธอตาบวม ผมยุ่งรุงรัง มีรอยแดงที่คอปรากฏชัด
“พระเจ้า!”
ฉีโย่วตกใจมาก เธอกอดอก ตระหนักถึงคำเตือนของคนขับ
‘เหยาซื่อ! จะรุนแรงเกินไปแล้ว ไม่เคยคบผู้หญิงมาก่อนเลยหรือไง?’
ฉีโย่วรีบหยิบเครื่องสำอางขึ้นมาปิดรอยบนร่างกายซ้ำแล้วซ้ำเล่า จากนั้นจัดทรงผมของเธอเสียใหม่ เมื่อเตรียมตัวพร้อมแล้วแท็กซี่ก็มาถึงสนามบิน
“ขอบคุณค่ะ!”
ฉีโย่วนวดบริเวณเอวของตัวเอง เดินกะเผลกออกจากรถด้วยความสงสัย
“ตอนนี้ร่างกายของโฮสต์นั่นร่างกายแข็งแรงขนาดไหน?”
“ฉีโย่ว!” ผู้จัดการตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวปรากฏตัวต่อหน้าฉีโย่ว ทำให้เธอกลัวแทบจะล้ม
“สวัสดีตอนเช้าคะผู้จัดการ!” ฉีโย่วกล่าวทักทายผู้จัดการ ทั้งที่หลบสายตาของเธอ
“อรุณสวัสดิ์งั้นเหรอ? ตอนนี้มัน 10 โมงครึ่งแล้ว นี่เป็นวันแรกที่เธอมาทำงานหรือไงหะ”
‘อีกแล้ว...’ ฉีโย่วกระซิบในใจ ทุกครั้งที่มีคนทำผิด ผู้จัดการจะหยิบยกเรื่องเดิม ๆ ออกมาและจู้จี้ตลอดเวลา
ฉีโยวแสร้างทำเป็นจริงจังและตั้งใจฟัง แต่สายตาของเธอมองไปรอบ ๆ
เธอเหนื่อยเกินกว่าจะฟังใครมาสั่งสอน
‘จีหมานชิง!’
‘ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่’
ก็ไหนเหยาซื่อตัดสินใจลงโทษจีหมานชิงไปแล้วนี่ ทำไมเธอถึงไม่ต้องรับโทษ
‘เธอต้องติดต่อใครสักคนที่มีอำนาจมากกว่าเพื่อเรื่องนี้แน่’ ฉีโย่วแอบคิด
“ฉีโย่ว สนใจฉันนี่!”
ใบหน้าของผู้จัดการเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความโกรธและเธออยากจะตะโกนใส่หูของฉีโย่วจริง ๆ ฉีโย่วรีบพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง เพื่อยอมรับความผิดพลาดของเธอและออกจากที่นี่
ฉีโย่วทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน เธอเป็นพนักงานที่ตรงต่อเวลาและทำงานหนักมาโดยตลอด ถ้าไม่ใช่เพราะเหยาซื่อ เธอจะไม่ละเมิดกฎวินัยซ้ำแล้วซ้ำเล่าเช่นนี้
ฉีโย่วกลับไปที่หอพัก สวมเครื่องแบบอย่างรวดเร็วและปรับตัวเองให้อยู่ในสภาพที่พร้อมสำหรับการทำงาน
เป็นเวลาเกือบเที่ยงวัน ฉีโย่วมาที่โรงอาหาร จัดอาหารของเอโดยนั่งอยู่ท่ามกลางเพื่อนร่วมงานตามปกติและฟังคำนินทาของพวกเขาโดยไม่ตั้งใจ
“เฮ้ ได้ยินข่าวหรือเปล่าจีหมานชิงกำลังจะแต่งงานกับหลี่ซือเฉิงล่ะ?”
“จริงเหรอ?”
“จริงสิ. พวกเขากำลังจะไปถ่ายพรีเวดดิ้งกันเดือนหน้าล่ะ!”
“ว้าว เรื่องจริงหรือนี่ ทำไมจีหมานชิงโชคดีอย่างนี้นะ? ถ้าฉันหากัปตันหล่อ ๆ แบบนี้มาเป็นสามีบ้าง ฉันจะเลิกทำงานไปเป็นแม่บ้านที่ดีอย่างแน่นอน”
เมื่อได้ยินที่พวกเขาพูดกัน ฉีโย่วหยิบโทรศัพท์ของเธอออกมา เปิดดูแชทกลุ่ม แน่นอนว่าจีหมานชิงและหลี่ซือเฉิงกล่าวเชิญสมาชิกทุกคนในกลุ่ม รวมถึงเธอด้วย ให้ไปรวมงานแต่งงานของพวกเขา
ฉีโย่วจ้องไปที่โทรศัพท์ของเธอ แต่ไม่ได้เศร้าอะไร เธอกล้าที่รักเสมอและยังสง่างามที่จะปล่อยมือ
ยังไงซะตอนนี้เธอเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว แม้ว่าเหยาซื่อจะโง่เขลาอย่างไร เขาก็ดีกว่าพวกจับปลาสองมือ