ตอนที่ 23 เธอเป็นหลานสะใภ้ของฉัน
ฉีโย่วมองไปรอบ ๆ อย่างไร้จุดหมาย ทันใดสายตาสบเข้ากับสายตาของเหยาซื่อ
เธอหันหน้าไปทางอื่น อย่างรู้สึกผิด
ดิ่ง.
ประตูห้องผู้ป่วยเปิดออก หมอเดินออกมา ขณะถอดหน้ากาก ดูผ่อนคลาย
“หมอครับ คุณย่าของผมเป็นไงบ้างครับ” เหยาซื่อถามด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วง
เขาคิดว่าหน่ายนายกำลังเล่นละครเสียอีก แต่เธอกลับเป็นจริง จิตใจเขาเต็มไปด้วยความเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอ
แพทย์เพียงแค่ตบไหล่ของเหยาซื่อ
“ไม่ต้องกังวลครับ เธอเคลื่อนไหวมากเกินไป และต้องการพักผ่อนให้เพียงพอ ระวังอย่าทำให้คุณย่าตกใจอีกต่อไป ผู้สูงอายุไม่เหมือนกับคนหนุ่มสาว”
“ครับ ผมจะจำไว้”
เหยาซื่อก้มหน้าด้วยความอับอาย มองเข้าไปที่เตียงของคุณย่าของเขา คุณหมอถอนมือออกจากไหล่ของเขาและเดินจากไป
ทันทีที่หมอจากไป เหยาซื่อเดินเข้ามาที่เตียงของเจียงเฟิงอี้
“หน่ายนาย” เหยาซื่อพยายามเรียกเธอ แต่เจียงเฟิงอี้ไม่ตอบสนอง เธอยังคงหลับตาแน่น
“ทำไมล่ะ หมอบอกว่าย่าไม่เป็นอะไรแล้วนี่?”
เมื่อรู้ว่าเธอทำผิด ฉีโย่วเดินตามหลังเหยาซื่อเข้ามาด้วยอย่างเงียบ ๆ และไม่กล้าส่งเสียง กระทั่งเธอได้ยินหมอบอกว่าเจียงเฟิงอี้ไม่เป็นอันตรายแล้ว เธอจึงรู้สึกโล่งใจ
อย่างไรก็ตาม เธอเกรงว่าอาการของเจียงเฟิงอี้จะกลับมาอีกครั้ง
เธอไม่อยากถูกหัวหน้าใหญ่ไล่ออกจากบริษัท
เปลือกตาที่สั่นไหวของเจียงเฟิงอี้ขยับ เหยาซื่อจึงรู้ว่าเธอตื่นมาได้สักพักแล้ว
เขาโค้งงอริมฝีปากอย่างช่วยไม่ได้ แม้ไม่เต็มใจ ทว่าเขาได้เล่นตามบทของเธอต่อไป
“มันเป็นความผิดของคุณ คุณจะต้องดูแลคุณย่าจนกว่าท่านจะฟื้น”
เหยาซื่อผลักหญิงสาวที่อยู่ข้างหลังเขาไปที่ข้างเตียง แต่ตัวเขาเองก็ยืนอยู่ไม่ไกลนัก
“อะ ฉันไม่ได้...ไ
ด้วยสภาพของเจียงเฟิงอี้ ฉีโย่วไม่กล้าโต้เถียงกับเขาและทำให้เธอโกรธ
เหยาซื่อโบกมือของเขาและยิ้มด้วยการแสดงท่าทางเสมองออกไปทางอื่น
ฉีโย่วร้องไห้ครู่หนึ่งนั่งลง เธอร้องไห้และจับมือของเจียงเฟิงอี้
“คุณย่าค่ะ ได้โปรดตื่นเถอะนะคะ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับคุณ เหยาซื่อฆ่าฉันแน่”
“คุณย่าไม่รู้หรอกว่าเขาปฏิบัติต่อฉันแย่แค่ไหน ฉันไม่กล้าขัดขื่นแม้ว่าเขาจะข่มเหงฉันที่บริษัททุกวันไ
ฉีโย่วสะอื้นและม้วนแขนเสื้อขึ้นเพื่อเช็ดน้ำตาตนเอง
เหยาซื่อดูการแสดงที่เต็มไปด้วยน้ำตาของฉีโย่วอย่างเชื่องช้า และถอนหายใจ ในที่สุดหน่ายนายได้พบกับคู่ที่เหมาะสมกับเธอแล้ว
‘ด้วยฝีมือการแสดงที่ยอดเยี่ยมของเธอ ไม่ใช่เรื่องเกินจริง ถ้าจะเรียกเธอว่านักแสดงรางวัลออสก้าร์’
“คุณย่าต้องนึกไม่ถึงแน่ ๆ ว่าฉันน่าสังเวชแค่ไหน ชีวิตฉันจะดำเนินต่อไปได้ยังไง ถ้าคุณย่าไม่ฟื้น”
ราวกับต้องทนทุกข์ทรมานกับความผิดมากมาย ฉีโย่วหลั่งน้ำตาออกมาเป็นสาย
“เขาไม่กล้าทำแบบนั้นอีกเป็นแน่! ฉันนี่แหละจะกำราบปีศาจในตัวเขาเอง”
ฉีโย่วกำลังคิดว่าจะร้องไห้แล้วพูดอะไรต่อ ก็ต้องตกใจกับเสียงของเจียงเฟิงอี้
“เจ้าเด็วนี่ ไม่แปลกใจเลยที่โย่วโย่ว ไม่อยากแต่งงานกับเธอ หลานกลั่นแกล้งเธอเกินไปแล้ว มานี้สิ!”
เจียงเฟิงอี้โกรธเมื่อได้ยินที่ฉีโย่วพูด
เหยาซื่อรู้สึกสนุกกับการแสดงของฉีโย่ว ทว่าเสียงเรียกของเจียงเฟิงอี้ทำให้เขาตกใจ
“หน่ายนาย ผมไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น”
เหยาซื่อลากเท้าของเขาไปใกล้เจียงเฟิงอี้ เหมือนเด็กที่ทำผิด แทนการทำตัวเผด็จอย่างที่ผ่าน ๆ มา ทำให้กรามของฉีโย่วลดลง
“ยอมรับมาซะ! ทำน้องร้องไห้ขนาดนี้แล้ว” เจียงเฟิงอี้ทำเสียงดัง ขณะที่จ้องมองเหยาซื่ออย่างผิดหวัง โดยไม่ได้สังเกตว่าฉีโย่วกำลังพยายามกลั้นหัวเราะอยู่
“โย่วโย่ว”
“อะ?”
ฉีโย่วปรับสีหน้าให้น่าสงสารลงทันที เจียงเฟิงอี้จับมือเล็ก ๆ ของเธออย่างเศร้า ๆ
“มันจะไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว ถ้าฉันรู้ว่าใครรังแกหลานสะใภ้ฉัน ฉันสัญญากับเธอว่าฉันจะจัดการเขา!”
“หลานสะใภ้?”
ฉีโย่วก้มหน้าด้วยความอาบ ‘ฉันแค่แสร้งทำเป็นรับปากเธอไปอย่างนั้น ไม่คิดว่าเธอจะคิดเป็นจริงเป็นจัง’
“ใช่. เธอไงล่ะ หลานสะใภ้ของฉัน หลังจากจดทะเบียนสมรส เธอไม่สามารถกลับคำได้แล้วนะ”
“จดทะเบียนสมรส?”
ฉีโย่วประหลาดใจจ้องมองไปที่เหยาซื่อผู้ทำหน้าไร้เดียงสาอย่างเหม่อลอยด้วยความสงสัยว่าพวกเขาจะต้องจดทะเบียนเมื่อไหร่ เธอเคยนอกกับเหยาซื่อหลายครั้ง
“ท่านผู้หญิงขอรับ นี่ครับทะเบียนสมรสของคุณชายกับคุณหนู”
พ่อบ้านเข้ามาพร้อมกับยื่นหนังสือสีแดงสดสองฉบับ ส่งให้กับคุณย่าทันที
เจียงเฟิงอี้หยิบมันอย่างร่าเริง พิจารณาซ้ำไปซ้ำมา
ฉีโย่วและเหยาซื่อได้มองหน้ากันอย่างระมัดระวัง
เมื่อเห้นตราประทับ ฉีโยวเกือบจะล้มทั้งยืน ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือของเธอส่งเสียงดังเตือนขึ้นมา เป็นเสียงจากข้อความแม่ของเธอ
[แกสัญญากับคุณย่าไว้แล้วนะ ฉันส่งเอกสารทะเบียนบ้านให้แกแล้ว สุขสันต์วันแต่งงาน ลูกสาวของแม่]
ฉีโย่ววางโทรศัพท์ลงรู้สึกกระอักที่ลำคอ
เหยาซื่อขมวดคิ้วมองทะเบียนสมรสด้วยความประหลาดใจกับประสิทธิภาพของเจียงเฟยอี้
‘ในที่สุดหน่ายนายก็ทำให้เป็นจริงจนได้’
แต่มันไม่ใช่เรื่องน่าเศร้าที่ได้แต่งงานกับสัตว์ประหลาดที่น่ารักตัวนี้
ฉีโย่วทรุดตัวลงบนเก้าอี้อย่างสูญเสีย ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะตกตกกระไดพลอยโจนถึงขั้นแต่งงาน
เมื่อเธอหายจากความประหลาดใจ เธอถูกเหยาซื่อลากออกจากห้องพักผู้ป่วย
“มา! ฉันจะไปส่งคุณที่กลับบ้าน”
เหยาซื่อเปิดประตูให้ฉีโย่วอย่างสุภาพตามปกติที่เขามักจะทำ แต่ฉีโย่วรู้สึกว่ามันแปลกกว่าปกติเล็กน้อย
“คุณไม่สนใจเลยเหรอค่ะ?”
ฉีโย่วพึมพำขณะที่เธอเอนตัวพิงหน้าต่าง