Ep.839 - สามเขตแดน
1/5
*ป้องกันความสับสน เปลี่ยนแปลงคำ (เสื้อคลุมจักรพรรดิเพลิงศักดิ์สิทธิ์ => เสื้อคลุมราชวงศ์เพลิงศักดิ์สิทธิ์)
Ep.839 - สามเขตแดน
พลังสมาธิของฉินเฟิงลุกฮือ ปลดปล่อยกลิ่นอายน่าสะพรึงออกมา
ผลแห่งปัญญาทำให้ฉินเฟิงสามารถใช้งานได้อีกสามอบิลิตี้ ได้แก่ ไฟ , น้ำ และดิน ขณะเดียวกัน ยังช่วยให้พลังสมาธิของเขา ซึ่งจากเดิมเทียบเท่ากับจักรพรรดิสัตว์ร้าย ทวีอานุภาพมากกว่าเดิมสามเท่า
และสำหรับผู้ใช้อบิลิตี้ เทคนิคที่ทรงพลังที่สุด ก็คืออบิลิตี้เขตแดน
“ปลดปล่อยเขตแดนที่หนึ่ง!”
บนพื้นดิน รูนไฟกระจุกรวมกันแน่น แปรสภาพเป็นลาวาหนืด หลอมละลายลงไปรวมกับทะเลสาบเลือด
“ปลดปล่อยเขตแดนที่สอง!”
บนท้องฟ้าอุกกาบาร่วงตกลงมาด้วยความเร็วสูง ไม่เพียงแค่นั้น แต่พวกมันยังส่งกลิ่นอายของเปลวไฟ เปลี่ยนอุกกาบาตหินธรรมดาๆให้ลุกไหม้ อำนาจทำลายเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
ตูม ตูม ตูมมมม!
อุกกาบาตไฟตกเข้าใส่ร่างของอสูรโลหิต กระแทกพวกมันหน้าหงาย กระเด็นกลับลงไปทะเลสาบเลือด และในเวลานี้ทะเลสาบเลือดได้ผสมเข้ากับรูนไฟไปแล้ว มิใช่ดินแดนของพวกมันอีกต่อไป
“ปลดปล่อยเขตแดนที่สาม!”
ในมือของฉินเฟิง ปรากฏดอกไม้สีดำเบ่งบาน พร้อมกันนั้นเขาได้คลายมือ ปล่อยมันลอยออกไปอย่างอ่อนโยน ดอกไม้พริ้วในอากาศ ลุกไหม้ติดไฟ เริ่มขยายตัวกลายเป็นดอกไม้แห่งความตายขนาดใหญ่ กลีบดอกค่อยๆร่วงโรย
“อ๋า? นี่มันอะไรกัน?”
อสูรโลหิตกรีดร้องน่าเวทนา เลือดของพวกมันเมื่ออยู่ภายใต้รัศมีทำลายของดอกไม้แห่งความตาย ก็ถูกริดรอนพลังชีวิต ไหนจะสระลาวาบนพื้นและดาวตกจากบนท้องฟ้า ท่ามกลางการโจมตีสามเท่า พวกมันไม่อาจทำได้แม้แต่เงยหน้าขึ้น
นี่มันหายนะชัดๆ!
แน่นอน อสูรโลหิตพวกนี้ทรงพลังมาก แม้อบิลิตี้ของฉินเฟิงจะรุนแรง แต่ยังไม่ถึงขั้นกำจัดพวกมันได้ อสูรโลหิตดิ้นรนหลบหลีกการโจมตีของอุกกาบาตไฟ ลากสังขารร่างกายที่ยิ่งนานยิ่งอ่อนแอของพวกมัน จนในที่สุดสามารถประชิดตัวฉินเฟิง
“ไปลงนรกซะ!”
อสูรโลหิตระเบิดตัวเองใกล้กับฉินเฟิง ตัวมันแตกกระจายกลายเป็นฝนเลือด กระจายห่อหุ่มร่างของฉินเฟิงเอาไว้
หึ่ง หึ่ง!
โล่ปราณกำลังภายในถูกเปิดใช้งาน เลือดไม่สามารถทะลวงผ่าน รุกล้ำเข้ามาในร่างของฉินเฟิงได้
อสูรโลหิตที่เปลี่ยนสภาพตัวเองเป็นฝนเลือด ย่อมสามารถรับรู้ถึงการดำรงอยู่ของโล่ปราณกำลังภายใน ส่งเสียงคำรามประโยคหนึ่ง
“ข้าไม่เชื่อหรอก ว่าเจ้าจะทานรับมันได้ อยากรู้เหมือนกันว่าจะทนได้นานแค่ไหน!”
ตึง ตึงงงง!
อสูรโลหิตโจมตีอย่างบ้าคลั่งเมามัน ปรารถนาจักทำลายโล่ปราณกำลังภายในของฉินเฟิง บุกเข้าไปข้างใน หากทำสำเร็จ ไม่เพียงสามารถสังหารฉินเฟิงได้ แต่มันยังสามารถเข้าควบคุมร่างกายของฉินเฟิงได้เช่นกัน ถึงเวลานั้น เสื้อคลุมราชวงศ์เพลิงศักดิ์สิทธิ์จะตกเป็นของพวกมัน!
เสื้อคลุมราชวงศ์เพลิงศักดิ์สิทธิ์ไม่เข้ากับอสูรโลหิต แต่อสูรโลหิตสามารถใช้ศพของมนุษย์เพื่อควบคุมเกราะสมบัติระดับเทวะชิ้นนี้ได้ และที่พวกมันหมายจะช่วงชิงสมบัติเลเวล S ชิ้นนี้ เป็นเพราะภายในเผ่าพันธุ์ ก็กำลังเกิดการต่อสู้ช่วงชิงเช่นกัน ผู้ใดแข็งแกร่งที่สุด ผู้นั้นจะได้รับทรัพยากรมากขึ้นเป็นเงาตามตัว และเมื่อสามารถยกระดับสู่เลเวล S ถึงเวลานั้นโลกทั้งใบจะตกอยู่ภายใต้การควบคุมโดยสิ้นเชิง
มีเหตุผลหนักแน่นถึงขนาดนี้ แล้วจะไม่ให้พวกมันรุกรานเผ่าพันธุ์อื่นได้อย่างไร?
ฉินเฟิงก็พอจะเข้าใจพวกมันอยู่เหมือนกัน เพราะเสื้อคลุมศักดิ์สิทธิ์คือสิ่งใด? หากคนอื่นๆในมิติของฉินเฟิงรู้ข่าวว่ามีเกราะเทวะปรากฏขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคนของพันธมิตรมนุษย์หรือคนจากองค์กรมืด พวกเขาย่อมตรงเข้าสังหารฉินเฟิง เพื่อช่วงชิงมันไปเหมือนกัน
ฉะนั้น ฉินเฟิงเลยเข้าใจพวกมันดี แต่ขณะเดียวกัน เขาก็ไม่คิดหลีกทาง มอบสมบัติแก่พวกมันเช่นกัน
สมบัตินี้น่ะมีชิ้นเดียว และผู้ที่สามารถเป็นเจ้าของมันได้คือเขา หากผู้อื่นคิดช่วงชิง ก็ต้องผ่านศพเขาไปก่อน!
สำหรับศัตรู คนอย่างฉินเฟิงไม่เคยคิดออมมือ!
ฉินเฟิงวาดมือ อักษรรูนไฟน่าสะพรึงผุดพรายใต้ฝ่าเท้าของเขา ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว
เสาลาวากว่า 7 - 8 เสาปะทุเดือด พุ่งกระแทกเข้าใส่ร่างของอสูรโลหิต
ฟุ่มมม!
ซี่ ซี่ ซี่ ซี่ …!
เลือดจำนวนมากถูกความร้อนระเหยเป็นหมอกเลือด อสูรโลหิตส่งเสียงกรีดร้องน่าเวทนา ในที่สุดยอมผละออกจากฉินเฟิง ถอยร่นและหลบหนีไป
อสูรโลหิตตัวอื่นๆ เมื่อเห็นฉากนี้ก็แตกกระเจิง สุดท้ายไม่เหลือใจสู้ แยกย้ายกันหลบหนีอย่างสิ้นหวัง
หนึ่งในนั้นอยู่ใกล้กับศูนย์กลางของดอกไม้แห่งความตาย โดนไปกว่าห้ากลีบซึมเข้าสู่ผิวหนัง ส่งผลให้ร่างของมันกำลังจะตาย กระทั่งเลือดก็ดูแห้งเหือด เผยให้เห็นถึงร่างอสูรโลหิตสูงปรระมาณสองเมตรโผล่ออกมา
ฉินเฟิงไม่สนใจอสูรโลหิตตัวอื่นๆ มีดกษัตริย์ครามในมือเขา เปลวเพลิงปะทุเดือดขึ้นทันใด
“กระบวนท่าวรยุทธ : พลุไฟสงคราม!”
กำลังภายในผสานเข้ากับรูนไฟ บวกกับเสื้อคลุมราชวงศ์เพลิงศักดิ์สิทธิ์ที่คล้ายตระหนักถึงปฏิกิริยา มันปลดปล่อยเปลวไฟอันน่าสะพรึงออกมา หลอมรวมเข้ากับปราณมีด กระบวนท่าพลุไฟสงคราม เพิ่มพูนอำนาจขึ้นเป็นอย่างมาก
ปราณมีดกว้างกว่าสองเมตร ปะทุออกมาจากมีดกษัตริย์ครามของฉินเฟิง กรีดตัดอากาศในระยะ 100 เมตร สับลงบนร่างอสูรโลหิตที่กำลังอ่อนแอ
ฟุ่บบบ!
อสูรโลหิตถูกสับลงกลางหัวอย่างโหดเหี้ยม ร่างของมันถูกตอกลึกลงในธารลาวา กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด เลือดตามตัวระเหยเป็นลิ่มแห้ง ไม่สามารถทานทนต่ออุณหภูมิสูงจากการถูกเผาอีกต่อไป สลายกลายเป็นขี้เถ้า
มีเฉพาะผลึกโลหิตที่ยังคงเหลือ ฉินเฟิงเหยีดแขนออก ส่งพลังสมาธิเรียกมันลอยเข้ามาในมือ แล้วเก็บใส่อุปกรณ์รูนมิติ
หลังจบปัญหาอสูรโหลิตตัวนี้แล้ว หันกลับมาอีกที เขาก็พบว่าอสูรโลหิตตัวอื่นๆหนีออกไปไกลนับ 1,000 เมตร หลุดจากรัศมีเขตแดนของตนไปเรียบร้อย
ในเวลานั้นเอง อสูรโหลิตได้ระเบิดเขตแดนของพวกมันออกมา
“เขตแดนโลหิต : สระอสูรโลหิต!”
อสูรโลหิตหลายตนปลดปล่อยเทคนิคเขตแดนของพวกมันออกมา ในพริบตา สระเลือดสี่แห่งยาวหลายร้อยเมตรผุดขึ้นรอบตัวพวกมัน ปะทะเข้ากับเขตแดนของฉินเฟิงอย่างรุนแรง
อย่างไรก็ตาม แม้รวมพลังกันปลดปล่อยเขตแดนโลหิต แต่เขตแดนของฉินเฟิงแค่คนเดียว ยังยิ่งใหญ่กว่าพวกมันซะอีก กินวงกว้างนับ 1,000 เมตร เมื่อถูกโจมตีโดยเขตแดนที่กว้างเพียง 400 เมตร เลยไม่สั่นไหว ได้รับผลกระทบใดๆแม้แต่น้อย
ตูม ตูม ตูม ตูมมม!
สี่เทคนิคเขตแดนเมื่อเกิดการปะทะ ก็เริ่มพังทลายจากกัน อักษรรูนสีเลือดอันเป็นเอกลักษณ์ และอักษรรูนไฟ , ดิน , ความมืดของฉินเฟิง ต่างฝ่ายต่างสลายไปอย่างรวดเร็ว พังทลายลง
“เทคนิคหนามพิภพ!”
ฉินเฟิงปลุกเร้าอบิลิตี้ดิน อัญเชิญหนามแหลมผุดงอกจากใต้ดิน ทิ่มแทงศัตรูอย่างรุนแรง เสาปฐพีขนาดใหญ่เจาะทะลุขึ้นมาในสระโลหิต สูบเลือดนับไม่ถ้วนไหลลงธรณี และปล่อยให้ลาวาไหลเข้ามาแทนที่ อุณหภูมิพุ่งสูง ล้างผลาญสระเลือดแห้งเหือดไปอย่างรวดเร็ว
ร่างกายของฉินเฟิงวูบไหวทันใด ทะยานเข้าหาอีกฝ่าย รัศมีเขตแดนเคลื่อนตามตัวเขาตามธรรมชาติ ปกคลุมหนึ่งในอสูรโลหิตได้ในพริบตา
เขตแดนขนาดใหญ่บดขยี้กันและกัน ทันใดนั้นสระโลหิตของอสูรโลหิตพังทลายลงในคราวเดียว
ร่างของอสูรโลหิตจากเดิมใหญ่ถึง 30 เมตร ถดถอยกลายเป็น 15 เมตรทันที หดเล็กลงเหลือครึ่งเดียว!
ต้องขอบอกว่า แม้จะเป็นเลเวล A เช่นเดียวกัน แต่อสูรโลหิตเหล่านี้ ไม่ได้ทรงพลังเทียบเท่ากับอสูรโลหิตที่ปรากฏขึ้นตรงทางเข้าประตูมิติเลย
อสูรโลหิตตนแรกที่ฉินเฟิงพบ มันมีความแข็งแกร่งประมาณเลเวล A8 แต่อสูรโลหิตตรงหน้า เป็นเพียงเลเวล A2 เท่านั้น
ในขณะที่ฉินเฟิง เขาเพิ่งสามารถยกระดับพลังสมาธิขึ้นรวดเดียวได้ถึง 2 ขั้น นอกจากนี้ยังได้รับเสื้อคลุมราชวงศ์เพลิงศักดิ์สิทธิ์ ช่วยหนุนเสริมอบิลิตี้ธาตุไฟเป็นเท่าทวี ทำให้อสูรโลหิตพวกนี้ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาอีกต่อไป!
“กระบวนท่าวรยุทธ : มีดเปลวเพลิง!”
ฉินเฟิงวูบกายมาปรากฏตัวบริเวณปลายขอบเขตแดน ตวัดหนึ่งคมมีด เข้าสังหารศัตรู
แม้ฉากนี้ดูเหมือนเชื่องช้า แต่ในความเป็นจริง ตั้งแต่ฉินเฟิงได้ครอบครองเสื้อคลุมเพลิงศักดิ์สิทธิ์ จนสังหารอสูรโลหิตทั้งสองตัวนี้ เขาใช้เวลาไปเพียงห้านาทีเท่านั้น ยังไงก็ตาม ระยะเวลาดังกล่าว มันมากพอให้มนุษย์ที่โดนผลพวงจากคทากัมปนาทก่อนหน้านี้ สามารถฟื้นฟูความแข็งแกร่งของตนกลับคืนมาได้
“เสื้อคลุมราชวงศ์เพลิงศักดิ์สิทธิ์ทรงพลังก็จริง แต่จำเป็นต้องใช้พลังสมาธิมหาศาลในการควบคุม ไปเถอะพวกเรา! ร่วมมือกันชิงเสื้อคลุมศักดิ์สิทธิ์กลับคืนมา!”
สิ้นเสียงตะโกน คนในชุดโบราณอย่างน้อย 30 คนกระโดดเข้ามา และทั้งหมดล้วนเป็นผู้ใช้พลังเลเวล A
กว่า 30 เขตแดน ระเบิดออกในคราวเดียว
เหนือใต้ออกตก ท่วมท้นสวรรค์และปฐพี การโจมตีจากทุกทิศทางระดมเข้าใส่ฉินเฟิง
ดาวเคราะห์เพชรในจักรวาลแห่งจิตสำนึกของฉินเฟิง เริ่มหมุนวนอย่างบ้าคลั่ง ต่อต้านเขตแดนเหล่านี้ ในเวลาเดียวกัน มีดกษัตริย์ครามในมือเขา ถูกอัดฉีดไปด้วยกำลังภายใน
“ดูเหมือนพวกชอบแส่หาที่ตาย--
--จะมีเยอะซะจริง!”