ตอนที่ 16 คิดจะแย่งแฟนของฉันอีกครั้งรึไง
ด้วยความช่วยเหลืออย่างมีประสิทธิภาพของเหยาซื่อ ทำให้ฉีโย่วได้กลับมาทำงานหลังจากถูกพักงานไปสี่วัน
แทนที่จะลงโทษเธอสำหรับเรื่องรูปถ่าย บริษัทกลับเพิกถอนการหักคะแนนสามคะแนนของเธอ เพื่อชดเชยชั่วบินที่มากเกินไปของเธอ
ที่โรงอาหารของบริษัท
ฉีโย่วเห็นจีหมานชิงสวมหน้าเศร้า จงใจลุกมาทักทายเธอด้วยรอยยิ้ม “ว่าไงหมานชิง อยู่นี่ด้วยเหรอ”
“อืม” เมื่อเห็นฉีโย่วมีความสุขดี จีหมานชิงก็โค้งริมฝีปากของเธออย่างบิดเบี้ยว
‘เป็นเรื่องที่แน่นอน ฉีโย่วจะถูกลงโทษอย่างแน่นอน แม้ว่าแฟนของเธอจะโทรมาชี้แจ้งกับทางบริษัท ไม่ใช่หรือไง..?’
“โย่วโย่ว บริษัทของแฟนเธอมีความสัมพันธ์กับทางบริษัทเราด้วยเหรอ?” จีหมานชิงถามอย่างไม่แน่ใจ ทั้งที่ยังยิ้ม “ไม่มีความผิด ฉันแค่รู้สึกว่าแฟนของเธอ รักเธอมากนะ”
ฉีโย่วพยักหน้า
โชคดีที่มีเพียงผู้จัดการอาวุโสในบริษัทเท่านั้นที่รู้ ไม่งั้นฉีโย่วก็ไม่รู้ว่าจะปกปิดด้วยเรื่องโกหกอะไร
“เขาอยู่บริษัทไหนเหรอ?” จีหมานชิงถามด้วยรอยยิ้ม
“เธออยากจะแย่งแฟนของฉันอีกงั้นเหรอ?” ฉีโย่วจ้องไปที่จีหมานชิง ด้วยรอยยิ้มครึ่งหนึ่ง ทำให้ใบหน้าของเธอจมลง จากนั้นก็แตะที่ไหล่พลางหัวเราะ
“แค่ล้อเล่นน่ะ ฉันรู้ว่าเธอไม่ทำอย่างนั้นหรอก ได้เวลาทานข้าวแล้ว คราวหน้าค่อยเล่าให้ฟังนะ!”
จากนั้นฉีโย่วเดินจากไปโดยไม่ลังเล
เมื่อมองไปที่ด้านหลังของเธอ จีหมานชิงรู้สึกแย่มาก เธอค่อย ๆ กำหมัดแน่น
จีหมานชิงคิดว่าฉีโย่วจะถูกย้ายไปดูแลเที่ยวบินชั้นประหยัดภายในประเทศ เพราะปัญหาเรื่องรูปหลุดนั่นเสียอีก เป็นบุญอะไรของหล่อนนะ ที่ได้ติดต่อกับผู้ชายที่ยอดเยี่ยมเช่นนั้นภายในไม่กี่วัน!
แม้ว่าอาหารจะน่ากินเพียงไหน แต่จีหมานชิงรู้สึกไม่อยากอาหารเลย
ดูเหมือนว่ามีคนโต๊ะข้าง ๆ ของเธอ กำลังคุยกันว่า CA กำลังตั้งครรภ์และอาจจะลาคลอด
เมื่อจีหมานชิงบังเอิญได้ยินว่าเป็น CA ของกลุ่มฉีโย่ว เธอก็เกิดความคิด จากนั้นก็หยิบจานขึ้นมาและเดินไปสมทบกับพวกเขา “สวัสดีจ๊ะ พี่จี”
เนื่องจาก CA กลุ่มของฉีโย่วอยู่ระหว่างการตั้งครรภ์ จึงไม่สามารถบินได้ เธอลาหยุดยาว บริษัทจึงส่งคนอื่นมาช่วยพวกเขา
เป็นที่น่าประหลาดใจของฉีโย่ว ที่ CA ที่เข้ามาใหม่นั่นคือ จีหมานชิง
จีหมานชิงเป็นคนฉลาดในการเข้าสังคม และในฐานะ CA เธอไม่เคยวางท่า จึงสามารถทำความคุ้นเคยกับสมาชิกในกลุ่มของฉีโย่วเพียงแค่สองวัน
ขณะที่ฉีโย่วเมินใส่เธอ ส่วนใหญ่ฉีโย่วมักจะดูแลลูกค้าในชั้นเฟิร์สคลาสและแทบจะไม่มีโอกาสได้พบกับเธอเลย
หลังจากเที่ยวบินขากลับอีกครั้ง ฉีโย่วเคลียร์ห้องโดยสาร เซ็นชื่อในรายการตรวจสอบ จากนั้นก็ลงจากเครื่องบินพร้อมกับกระเป๋าเดินทางของเธอ ระหว่าทางโทรศัพท์มือถือของเธอดังขึ้น
ฉีโย่วหยิบโทรศัพท์ของเธอออกมา สังเกตเห็นข้อความสั้น ๆ จากหมายเลขโทรศัพท์แปลกที่ไม่ได้บันทึกไว้
: วันพฤหัสนี้คุณว่างไหม ฉันจะพาคุณไปทานข้าวเย็น? (เหยาซื่อ)
ฉีโย่วรู้สึกไม่สบายใจต่อชื่อในวงเล็บนั่น
‘อะไรกันเนี่ย! ฉันไม่อยากกินข้าวกับซีอีโอหรอกนะ’
ฉีโย่วปฏิเสธเขาทันที โดยบอกเหตุผลไปว่าเธอยุ่งเกินไปและวางโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าเพื่อจะได้ไม่รับสาย เมื่อมีคนโทรมาภายหลัง เมื่อหันหลังกลับมา เธอพบว่าจีหมานชิงและเพื่อนร่วมงานอีกคนกำลังรีบร้อน
“โยวโย่ว เธอเอาของออกมาจากเครื่องบินหรือเปล่า” จีหมานชิงมองไปที่เธอและถามอย่างลังเล ทำให้ฉีโยวงงงวย
“เอาอะไร”
เพื่อนร่วมงานที่อยู่ข้าง ๆ จีหมานชิงกล่าวว่า “เธอคิดว่าบนเครื่องบินไม่มีกล้องหรอกเหรอ เธอถึงได้กล้าปฏิเสธว่าตัวเองไม่ได้ขโมยของ? ฉันเห็นอย่างชัดเจนว่าเธอเอาไวน์จากตู้ไปด้วยหลายขวด!”
ฉีโย่วก้มหน้าลง ขณะที่เธอถูกตราหน้าว่าเป็นขโมย “ไร้สาร! ไม่เป็นที่ฉันต้องขโมยไวน์ธรรมดา ๆ ให้เสียชื่อเสียง”
เพื่อนร่วมงานส่งเสียงของเธอ “ยอมรับมาสิ! เธอได้ขโมยไวน์พวกนั้นแล้วยัดมันไว้ในกระเป๋าของเธอ! ถ้ายังปฏิเสธอีก เธอกล้าเปิดกระเป๋าให้พวกเราดูไหมล่ะ?”
ฉีโยวตอบโต้อย่างเย็นชา “กระเป๋าเป็นของส่วนตัวของฉัน ทำไมฉันต้องเปิดให้เธอดูด้วย”
“ไม่เหรอ? เธอกลัวล่ะสิ!”