ตอนที่ 11 ฉันควรจะเกลียดดีใหม
*กริ้ง! *กริ้ง
ชิชิโอะก็ยื่นมือไปปิดนาฬิกาปลุก จากนั้นเขาก็ขยี้ตาและเงยหน้ามองซึ่งเขาพบว่าตอนนี้ 6 โมงเช้าแล้ว แม้ว่าเขาจะติดนิสัยตื่นเช้าแต่มันก็ไม่ขนาดนั้น ที่เขาตื่นเร็วนั่นเพราะเขาอยากจะอาบน้ำเนื่องจากเขารู้ว่าเขานั้นตัวเหม็นมากๆ
แต่ที่น่าแปลกคือ เมื่อคืนชิชิโอะไม่ได้ฝันร้ายซึ่งแทบเรียกได้ว่าเขานั้นฝันดีซะมากกว่า ดังนั้นแล้วเขาก็บีบหน้าผากตัวเองและสงสัยว่าทำไมเขาถึงฝันว่าตัวเองได้มีชีวิตแบบฮาเร็มและกลายเป็นชายที่ทรงพลังที่สุดในโลกกัน
“เอาน่า ชิชิโอะ แกเลิกเป็น จูนิเบียวแล้วนะ”
ชิชิโอะก็ถอนหายใจออกมาในขณะนั่งอยู่บนขอบเตียงสักครู่ก่อนจะลุกขึ้นยืนหยิบของบางส่วนเพื่อไปอาบน้ำและรวมไปถึงเสื้อผ้าที่เขาใช้เปลี่ยนหลังอาบน้ำด้วย เขานั้นรู้ดีว่าฮาเร็มนั้นคือความฝันของชายหนุ่มทุกคนและในประเทศนี้ที่เขาใช้ชีวิตอยู่เมื่อชาติที่แล้วนั้นการมีภรรยาหลายคนนั้นถืได้ว่าถูกกฏหมายแต่ในประเทศนี้ กลับเป็นสิ่งผิดกฏหมาย ดังนั้นแล้วสิ่งที่เกิดขึ้นในความฝันของเขานั้นก็เป็นไปไม่ได้แน่ๆ นอกเสียจากว่าเขาจะให้พวกเธอมาเป็นผู้หญิงของเขาโดยไม่ได้แต่งงานกับพวกเธอ
หลังจากเขาเตรียมตัวเสร็จแล้ว เขาก็เดินออกไปจากห้องและทันใดนั้นเขาก็จำได้ว่าห้องน้ำนั้นอยู่ที่ชั้น 1แถมมันยังใหญ่มากด้วย
ความจริงแล้ว ผู้คนส่วนใหญ่ในประเทศนี่ไม่ค่อยจะนิยมอาบน้ำกันในตอนเช้าเท่าไหร่นักซึ่งนั่นก็รวมถึงเขาด้วย
ถ้าหากชิชิโอะไม่ได้เจอรุยเมื่อคืน เขาก็คงจะนอนหลับอย่างมีความสุขไปแล้ว
แต่ทว่าชิชิโอะก็ทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะเขากำลังจะต้องไปสอบสำหรับเข้าเรียนต่อและถ้าหากเขาไปโรงเรียนโดยไม่ได้อาบน้ำหล่ะก็….
“….”
ชิชิโอะก็เดินเข้าห้องน้ำพร้อมกับถอดเสื้อผ้าแล้วจึงอาบน้ำ เมื่อเขาเปิดฝักบัว ร่างกายของเขาก็สั่นสะท้านเนื่องจากน้ำมันช่างหนาวมากซึ่งนี่เองก็เป็นเหตุผลที่คนส่วนใหญ่ในประเทศนี้ไม่ได้อาบน้ำตอนเช้า
โชคดีที่ มีเครื่องทำความร้อน ดังนั้นแล้วน้ำจึงค่อยๆอุ่นขึ้นอย่างช้าๆ และเมื่อน้ำอุ้นเข้ากระทบร่างกายของเขา เขาก็รู้สึกสบายขึ้นมาทันทีแต่ทว่าจู่ๆเขากลับรู้สึกผิดขึ้นมาในใจซะอย่างนั้น
จากนั้นชิชิโอะก็จ้องมองดูรางวัลจำนวนมากที่เขาได้รับมาจากรุยและตัดสินใจรับรางวัลบางส่วนเนื่องจากมันอาจจะมีประโยชน์ต่อการสอบของเขา
เมื่อเห็นรายการรางวัลนี้ ชิชิโอะก็กดรับรางวัลซึ่งนั่นทำให้เขามีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมาใหม่ เช่น ร้านอาหารวักนาเรีย(Wagnaria) โรงแรม Royal Okura และบริษัทลงทุนที่มีทรัพย์สิน 2หมื่นล้าน
หลังจากชิชิโอะรับรางวัลพวกนี้ เขาก็ตรวจสอบข้อมูลของรางวัลพวกนี้ในระบบ แม้ว่าเขาเหมือนจะเคยได้ยินเรื่องเช่น ร้านอาหารวักนาเรีย(Wagnaria) มาก่อนแต่เขานั้นไม่เคยได้ยินเรื่องโรงแรม Royal Okura และบริษัทลงทุนที่มีทรัพย์สิน 2หมื่นล้านมาก่อนเลย
สิ่งแรกที่เขาทำการตรวจสอบก็คือร้านอาหารวักนาเรีย(Wagnaria)เพราะเขาจำได้ว่าเขาเคยเห็นร้านอาหารนี้ในเกียวโตก่อนที่เขาจะย้ายออกมา
ร้านอาหารวักนาเรีย(Wagnaria) นั้นเป็นร้านอาหารที่มีหลาสาขาทั่วประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมันมีมากกว่า 200 สาขาที่ในจังหวัดต่างๆทั่วประเทศ
ชิชิโอะนั้นไม่เคยคิดว่าเขาจะได้รับร้านอาหารที่มีหลายสาขาขนาดนี้ซึ่งนั่นทำให้เขาได้กลายเป็นร้านอาหารทั้งหมด 200 สาขานี้ที่ตั้งอยู่ทั่วประเทศในทันที
แม้ว่าชิชิโอะจะรู้สึกรังเกียจระบบ แต่เขาก็ยอมรับเว่ารางวัลที่เขาได้นั้นช่างยอดเยี่ยมมาก
จากนั้นชิชโอะก็สูดหายใจเข้าลึกๆและสงบสติอารมณ์ตัวเอง ในชาติก่อนเขานั้นชินกับการดูแลธุรกิจของครอบครังอยู่แล้วและแม้ว่าเขาจะไม่เคยททำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจร้านอาหารมาก่อนแต่ธุรกิจที่เขาดูแลในชาติก่อนนั้นกลับมีขนาดใหญ่กว่าร้านอาหารวักนาเรีย(Wagnaria)ที่เขาได้รับเสียอีก
ชิชิโอะก็ถอนหายใจออกมาอีกคร้งและรู้สึกเศร้าขึ้นมาเพราะเขานั้นได้ทอดทิ้งครอบครัวในชาติแล้วของเขา ซึ่งตอนนี้เขาก็จำเป็นต้องยอมีรับชีวิตใหม่ในโลกนี้
จากนั้นหลังจากเขาทำการสงบสติอารมณ์ เขาก็หันไปตรวจสอบโรงแรม Royal Okura และบริษัทลงทุนที่มีทรัพย์สิน 2หมื่นล้าน
โรงแรม Royal Okuraนั้นเป็นโรงแรมขนาดใหญ่ 4 ดาว ซึ่งมันตั้งอยู่ในโตเกียวและชิบะ
ชิชิโอะก็ได้ทำการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มและพบว่าโรงแรมนี้มันใหญ่กว่าที่คิดไว้แต่เขาก็ไม่ได้คิดจะไปดูแลมันเนื่องจากเขิคดว่าควรจะปล่อยให้ผู้เชี่ยวชาญดูแลจะดีกว่า
การถูกแทรกแซงโดยคนที่ไม่มีความรู้แม้แต่พื้นฐานนั้นเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุดในการทำธุรกิจ
จากนั้นชิชิโอะก็ไปดูบริษัทลงทุนที่มีทรัพย์สิน 2หมื่นล้านซึ่งดูเหมือนว่ามันจะตั้งอยู่ในเกียว และไม่เพียงเขาจะเป็นเจ้าของบริษัทนี้แต่เขายังเป็นเจ้าของอาคารสำนักงานด้วยซึ่งนั่นทำให้เขาอึ้งจนพูดไม่ออกเนื่องจากอาคารสำนักงานนั้นมีขนาดใหญ่มากแถมเขายังได้รับ Passive Income(รายได้ที่ได้มาโดยไม่ต้องทำงานซึ่งก็คือปล่อยเงินทำงานให้)จากคนและบริษัทที่เช่าอาคารของเขา
ไม่เพียงแค่นั้น ทรัพย์สิน 2 หมื่นล้านของบริษัทนั้นก็เป็นของเขาทั้งหมดด้วยนั่นหมายความว่าเขามีทรัพย์สินเพิ่มอีกแล้ว
“…..”
เมื่อเห็นแบบนั้นแล้ว ชิชิโอะก็รู้สึกซับซ้อนมากซึ่งแม้ว่าเขาจะรู้อยู่แล้วว่าการเล่นกับความรู้สึกผู้หญิงนั้นเป็นสิ่งที่ผิด แต่รางวัลที่เขาได้รับนั้นกลับสุดยอดอลังการมากจนเขาไม่แน่ใจว่าจะทำตัวอย่างไรต่อไปดี
ตามการตั้งค่าที่ระบบทำไว้ให้เขา ชิชโอะนั้นอัจฉริยะทางด้านการเงินซึ่งลูกน้องที่คอยดูแลบริษัทลงทุนของเขานั้นเป็นคนคอยดูแลธุรกิจต่างๆที่เขาถือครองอยู่จนกระทั่งเขาเดินทางมาโตเกียว
“….”
ชิชิโอะก็อึ้งไปในทันทีแต่สุดท้ายแล้วเขาก็ตัดสินใจยอมรับทุกอย่าง เขารู้ดีว่าเขาไม่ควรจะคิดมากขนาดนั้น มิฉะนั้นมันอาจจะทำให้เขาเครียดได้ สิ่งเดียวที่เขาทำได้คือยอมรับ ตรวจสอบ และต่อยอดทรัพย์สินจของเขาเพื่อทำให้มันเพิ่มพูนมากขึ้นไปอีก
สิ่งเดียวีท่เขากังวลก็คือเขาจะอธิบายเรื่องนี้กับพ่อแม่ของเขาอย่างไรดี
‘เก็บไว้เป็นความลับแล้วกัน’
ถ้าหากพวกเขาไม่พบเรื่องนี้ เขาก็คิดว่าจะเก็บเรื่องทั้งหมดไว้เป็นความลับ
‘แล้วรางวัลที่เหลือหล่ะ?’
‘ ‘ความเชี่ยวชาญในการทำอาหาร’ เสริมแกร่งสายตา เสริมแกร่งความทรงจำ และ ได้รับ วิชา‘ปราณอัสนี’’
ชิชิโอะนั้นมั่นใจว่ารางวัลพวกนี้จะทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้นแต่ว่า เขาคิดว่าไม่ควรจะรับมันในทันทีเพราะเขากลัวว่าเขาจะไม่ชินกับความสามารถพวกนี้และนั่นอาจจะทำให้เกิดปัญหาขึ้นในตอนที่เขาทำข้อสอบได้
อย่างไรก็ตาม
<คุณยินยอมที่จะรับ ‘เสริมแกร่งความทรงจำ’ ใหม?>
<ใช่/ไม่>
ชิชิโอะก็กดรับรางวัลนี้ในทันทีและทันใดนั้นก็มีข้อมูลมากมายเข้ามาในหัวของเขา เขาจึงหลับตาลงและจำได้แล้วว่าทำไมเขาถึงเคยเห็นใบหน้าของเขามาก่อน และทำไมเขาถึงรู้สึกว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเห็น เซ็นโกคุ จิฮิโระ ทาจิบานะ รุยและนั่นก็รวมไปถึงว่าทำไมชื่อหอพักซากุระโซวถึงคุ้นหูของเขา
‘อย่างนี้นี่เอง….’
ชิชิโอะก็ยอมรับทุกอย่างด้วยความสงบแต่นั่นไม่ใชเพราะเขาสงบจริงๆแต่มันเป็นเพราะเขาชินชาแล้วซึ่งหากว่าเขาประหลาดใจทุกครั้งหล่ะก็ เขาคงอยู่ได้อีกไม่นานแน่และเขาก็รู้ว่าระบบโกงนี้ไม่ได้ส่งผลเสียต่อเขาแต่ว่ามันกลับทำให้เขาใช้ชีวิตได้สบายขึ้นต่างหาก
แม้ชิชิโอะจะรู้สึกรังเกียจในวิธีได้รับรางวัลของระบบ แต่เขาก็ยอมรับเว่าระบบมันช่วยเหลือเขาได้มากเลย
ซึ่งชิชิโอะนั้นไม่มีสิทธิจะเกลียดระบบเพราะแม้เขาจะคิดแบบนั้น แต่เขาก็รู้สึกมีความสุขกับรางวัลที่ได้รับ
‘หรือว่าฉันควรจะเป็นเศษสวะดูสักหน่อย?’
“…”
เมื่อความคิดนี้ปรากฏขึ้นในใจของเขา เขากลับไม่รู้สึกผิดหรือรู้สึกหนักอกราวกับมีก้อนหินทับเหมือนแต่ก่อนแต่ว่า….
ชิชิโอะก็ส่ายหัวในทันทีเพราะเขาไม่อยากจะเป็นเศษสวะ!!
ชิชิโอะก็ได้ทำการตัดสินใจและด้วยทรัพย์สินจำนวนมากขนาดนี้ที่เขาได้รับมานั้น เขามั่นในใจว่าเขาจะได้กลายเป็นมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลก โดยเฉพาะที่ตอนนี้เขาอยู่ในปี 2005 ด้วย
จากนั้นในขณะที่ชิชิโอะอาบน้ำเสร็ตจและเตรียมจะออกจากห้องน่ำเพื่อไปหยิบผ้าขนหนู ทันใดนั้น…
“ชิชิโอะ เธออยู่ในห้องน้ำหรือเปล่า?”
ชิชิโอะนั้นก็ไม่มีโอกาสจะได้ตอบเพราะจู่ๆประตูห้งน้ำก็ถูกเปิด
“อยู่นี่เอง”
จิฮิโระก็จ้องมองชิชิโอะและตกใจในทันที เธอจับจ้องไปที่ผมที่เปียกปอน ใบหน้าและร่างกายอันแข็งแกร่งที่เปียกปอนแล้วก็….
“….”
จิฮิโระก็จ้องมองชิชิโอะโดยไม่หันหน้าหนี
*สะอึก!!
“….”
ทางชิชิโอะก็ตกใจเหมือนกันเพราะเขาไม่คาคิดว่าจิฮิโระจะเข้ามาให้น้องแบบนี้ เขาจึงยิ้มออกมาอย่างเก้ๆกังๆแล้วหยิบผ้าขนหนูอย่างสงบแล้วนำไปคลุมน้องชายของเขา
“…พี่จิฮิโระ ผมใกล้เสร็จแล้วหล่ะแต่ก่อนอื่นช่วยปิดประตูก่อนได้ใหม?”
จิฮิโระก็พยักหน้าด้วยใบหน้าอันว่างเปล่าแล้วปิดประตูลงอย่างช้าๆ
ทางชิชิโอะก็ถอนหายใจออกมาอย่างแรงและสังสัยว่าทำไมหลังจากที่เขามาถึงโตเกียวแค่เพียงวันเดียว เขาถึงได้พบกับฉากห้องน้ำในตำนานได้กันหล่ะเนี่ย