บทที่ 14 (อ่านฟรีวันที่ 21 เมษายน 2564)
“…มีโชคชะตาร่วมกันระหว่างเรา!”
คำพูดของ เซิ่นเทียนทำให้ หลี่เหลียนเอ๋อร์หน้าแดงอย่างรวดเร็วอะโฮเงะของนางเริ่มโบกพริ้วอีกครั้ง!
อะไร…อะไร…เขาพูดตรงๆอย่างงี้เลยเหรอ!
ข้ามีโชคชะตาร่วมกันกับเขา? น่าอายจัง!
ตอนนี้ข้าควรทำอะไรดี?
มันใช่สารภาพรักหรือเปล่า?
ข้ายังไม่มีประสบการณืแบบนี้เลย!
…
ตัวประกอบ A เห็นใบหน้าของหลี่เหลียนเอ๋อแดงขึ้นและตื่นตระหนก “นางฟ้าหลี่! ท่านอย่าปล่อยให้พวกต้มตุ๋นหลอกท่าน! เขาไม่ใช่คนดี!”
"หุบปาก!" หลี่เหลียนเอ๋อร์กลับมาได้สติ “ข้าจะหาคำตอบของเรื่องนี้และให้ความยุติธรรมเอง!”
“เจ้าควรอธิษฐานว่าเขาโกหกจริงๆไม่งั้นข้าจะตั้งข้อหาหมิ่นประมาทและจับเจ้าขังคุก!”
ตัวประกอบ A น้ำตาไหลหลังจากได้ยินคำเตือน มันเป็นเขาไม่ใช่เหรอที่เป็นผู้แจ้งเบาะแส?
หลี่เหลียนเอ๋อร์มองไปที่ เซิ่นเทียนอีกครั้ง นางพยายามทำให้หัวใจที่เต้นเร็วสงบลงและพูดว่า“ท่านแน่ใจเหรอว่าเรามีโชคชะตาร่วมกัน”
เซิ่นเทียนพยักหน้า "ข้าแน่ใจ."
หลี่เหลียนเอ๋อยิ้มและกล่าวว่า“สัญชาตญาณของข้าบอกข้าว่าท่านพี่เซิ่นไม่ได้โกหก! ข้าเชื่อใจเขา!”
จากนั้นนางก็หันกลับมาและถาม ตัวประกอบ A อีกครั้ง “ทำไมเจ้าถึงกล่าวหาท่านพี่เซิ่น”
ตัวประกอบ B (╯ -_-) ╯╧╧ “…”
แค่นั้นแหละ? หัวหน้าผู้คุมกฎแห่งสวนว่านหลิงปิดคดีง่ายๆแบบนี้เลย!?
เขาหลุดจากข้อกล่าวหาเพียงเพราะว่าเขาหน้าตาดี?
เขาเพิ่งเป็นผู้ต้องหาเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้ว แต่ตอนนี้เขากลับกลายเป็น ท่านพี่เซิ่น
พวกเจ้าไปรู้จักกันตั้งแต่เมื่อไหร่!
…
รองหัวหน้าผู้บังคับใช้ตัดสินใจที่จะพูดแทน ตัวประกอบ A.
เขาเตือนหลี่เหลียนเอ๋อเบา ๆ ว่า“หัวหน้า เรายังไม่รู้ความจริง!”
แม้ว่าเด็กหญิงคนนี้จะเป็นศิษย์จาก ถ้ำสวรรค์สีขาวและเปรียบเสมือนเจ้าหญิงในสวนว่านหลิงแต่ก็มีร้านค้าและลูกค้ามากมายในสวนว่านหลิง ผู้คุมกฎจะต้องมีความยุติธรรม
แม้ว่าภูมิหลังของนางจะพิเศษ แต่นางก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น มิฉะนั้นอำนาจของพวกเขาจะถูกตรวจสอบ!
…
เซิ่นเทียนยิ้มและพูดว่า“ขอโทษที่ขัดจังหวะ แล้วนักพรตเต๋าผู่น่าสงสาร(贫道)จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของข้าได้อย่างไร?”
รองหัวหน้าตอบว่า“สหายเต๋าท่านนี้ ท่านบอกว่าท่านมีชะตากรรมกับหัวหน้าหลี่ ท่านจริงจังไหม”
เซิ่นเทียนพยักหน้า
“เยี่ยมมากถ้าอย่างนั้นท่านจะต้องหาแร่วิญญาณให้นาง 3 ชิ้น แล้วเราจะผ่าออก หากมูลค่ารวมของ หินวิญญาณในแร่เหล่านี้มีมูลค่ามากกว่าราคาที่ซื้อสองเท่าเราจะเชื่อท่าน สหายเต๋าคิดอย่างไร?”
พูดตามตรงวิธีการของผู้คุมกฎคนนี้ค่อนข้างยุติธรรม
แม้แต่ปรมาจารย์นักประเมินแร่วิญญาณก็ไม่สามารถพบหินวิญญาณได้ในทุกครั้งที่ผ่า มันเป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะทำผิดพลาดเพียงครั้งหรือสองครั้ง ดังนั้น3 ครั้ง จึงเป็นจำนวนที่ยุติธรรมมากในการตัดสินทักษะของเซิ่นเทียน
เซิ่นเทียนส่ายหัวและพูดว่า“นักพรตเต๋าผู่น่าสงสารผู้นี้กลัวว่าจะทำไม่ได้ แม้ว่าเราจะมีชะตากรรม แต่นักพรตเต๋าผู่น่าสงสารสามารถเลือกแร่วิญญาณให้แม่นางท่านนี้ได้เพียงหนึ่งชิ้นเท่านั้น”
หลี่เหลียนเอ๋อร์ถามว่า“ทำไม?”
เซิ่นเทียนเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยและมองขึ้นไปบนท้องฟ้าในมุม 45 องศา จากนั้นเขาพูดด้วยสีหน้าลึกลับ "สวรรค์มีกฎของมันและทุกๆอย่างมีกฎเกณฑ์ของตัวเอง”
“นักพรตเต๋าผู่น่าสงสารผู้นี้ไม่สามารถบอกท่านได้ทุกอย่างและท่านไม่สามารถมีทุกอย่างได้ ไม่เช่นนั้นชะตากรรมจะถึงจุดจบในไม่ช้า”
1
แสงแดดของรุ่งอรุณส่องมาที่ใบหน้าของ เซิ่นเทียนและสาว ๆ ทุกคนก็คลั่งขึ้น
“ท่านพี่เต๋าหล่อมาก!”
“พวกต้มตุ๋นจะหน้าตาดีขนาดนี้ได้ยังไง? ผู้คุมกฎปัญญาอ่อนไปหมดแล้วเหรอ”
“อันเดียวก็พอแล้ว! ทำไมต้องสามอัน?”
"ถูกตัอง! ท่านพี่เต๋าของข้าต้องเหนื่อยแน่”
"เจ้ากำลังพูดอะไร? เขาเป็นท่านพี่เต๋าของข้าตั้งหาก”
…
ขณะที่ฝูงชนเริ่มเอะอะส่งเสียงดังอีกครั้งหลี่เหลียนเอ๋อร์ครุ่นคิดถึงสิ่งที่เซิ่นเทียนพูดในตอนนี้
'สวรรค์มีกฎของมันและทุกๆอย่างมีกฎเกณฑ์ของตัวเอง'
'นักพรตเต๋าผู่น่าสงสารผู้นี้ไม่สามารถบอกท่านได้ทุกอย่างและท่านไม่สามารถมีทุกอย่างได้ '
'ไม่เช่นนั้นชะตากรรมจะถึงจุดจบในไม่ช้า'
แม้ว่าจะฟังดูเรียบง่าย แต่ก็มีความหมายที่แท้จริงในเต๋า แม้แต่ผู้อาวุโสจา ถ้ำสวรรค์สีขาวก็ยังไตร่ตรองเรื่องนี้เมื่อพวกเขาได้ยิน
หลี่เหลียนเอ๋อร์มั่นใจว่า เซิ่นเทียนไม่ใช่นักต้มตุ๋น นางไม่เชื่อว่าพวกต้มตุ๋นจะมีสติปัญญาที่ลึกซึ้งขนาดนี้และ ... รูปลักษณ์ของเขา
…
หลี่เหลียนเอ๋อไม่รู้เหตุผลที่แท้จริงว่าทำไมเซิ่นเทียนถึงเต็มใจที่จะเลือกแร่วิญญาณหนึ่งก้อนให้กับนาง
เหตุผลนั้นง่ายมาก เขาได้เห็นโอกาสครั้งหนึ่งในรัศมีของนาง ดังนั้น เซิ่นเทียนจึงมั่นใจว่าเขาจะได้รับของดีถ้าเขาเลือกแร่วิญญาณชิ้นนั้น
เขาจะถูกเปิดเผยทันทีถ้าเขาเลือกมากกว่าหนึ่ง และเขาจะถูกทุกคนประณามทันที
มันเป็นความจริงที่ว่าเขาอาจพบของดี ๆ ในแร่วิญญาณชิ้นอื่น ๆก็ได้ แต่ด้วยรัศมีสีดำที่เขามีอยู่บนหัวของเขาสิ่งใดก็ตามที่เกี่ยวข้องกับการเสี่ยงโชค มันน่าจะเป็นหายนะสำหรับเขามากกว่า
ผู้คุมกฎพูดอีกครั้ง “ท่านกลัวผิดพลาดหรือ”
เซิ่นเทียนยิ้มและตอบว่า“ไม่มี คำว่า”ผิดพลาด“ในทักษะของนักพรตเต๋าผู่น่าสงสาร”
เขาเก็บข้าวของและเริ่มออกเดิน
“นางฟ้าเหลียนเอ๋อร์มากับนักพรตเต๋าผู่น่าสงสารผู้นี้เถิด!”
หลี่เหลียนเอ๋อร์รีบเดิมตามเซิ่นเทียน
ส่วนเหล่าไทยมุงก็ตามไปด้วย
…
เซิ่นเทียนเข้าไปในสถานที่ที่เรียกว่า ร้านค้าวิญญาณศัดิ์สิทธิ์ ร้านนี้อยู่ในสวนว่านหลิงมาระยะหนึ่งและยอดขายเทียบได้กับ ศาลานภา
มีชั้นวางหลายสิบชั้นที่วางแร่วิญญาณหลายชนิด
บางก้อนดูเหมือนแรดและบางก้อนดูเหมือนนกอินทรี บางก้อนดูเหมือนขาตั้งกล้องและบางก้อนก็ดูคาดเดาไม่ได้
โดยทั่วไปลแล้ว มักมีคำกล่าว่า สมบัติหายากจะอยู่ในหินที่รูปร่างแปลกประหลาด
แร่วิญญาณอาจถูกสร้างขึ้นโดยทักษะแบบพิเศษได้เช่นกัน
การปลอมแปลงมีอยู่ในทุกธุรกิจ
เซิ่นเทียนเข้าไปในร้านวางป้ายไว้ทางซ้ายของเขา จากนั้นเขายกมือขึ้น นิ้วหัวแม่มือขวาวางอยู่บนปลายนิ้วกลางจากนั้นกระโดดไปมาที่นิ้วนางและนิ้วชี้
เขาหลับตาและเริ่มเดินไปรอบ ๆ ในขณะที่ดูเหมือนสวดคาถา “อุลตร้าแมน อวตาร ไอรอนแมน เวจีต้า คาคาล็อต…”
ภาษาเหล่านี้เป็นภาษแปลกประหลาด ที่ไม่มีใครเคยได้ยินมาก่อน!
…
รองหัวหน้าถามว่า“ท่านมาจากถ้ำสวรรค์สีขาว เจ้ารู้ไหมว่าเขาพูดอะไร”
หลี่เหลียนเอ๋อร์อธิบายว่า“มันอาจจะเป็นคาถาขั้นสูง! แค่ฟังอย่ามารบกวนข้า!”
หลี่เหลียนเอ๋อจ้องไปที่เซิ่นเทียนและตั้งใจฟัง
ในที่สุด เซิ่นเทียนก็ร่ายมนตร์ของเขาเสร็จ
“ ชาล์กเลอร์แห่งคาบูทัก,พระแม่มารีแห่งมหาวิหารน็อทร์-ดามแห่งปารีส,ซุสแห่ง Dota ข้าไม่ได้ใช้โปร!
“ข้าขอให้เจ้าแสดงตัว!”
จากนั้น เซิ่นเทียนชี้ธงของเขาไปที่แร่วิญญาณตรงกลางชั้นวาง
“นี่คือสิ่งที่นักพรตเต๋าผู้น่าสงสารเห็น!”
ทุกคนเดินตามทิศทางของเขาและเห็นแร่ขนาดเท่าฝ่ามือ
มันเป็นรูปร่างของน้ำเต้าและดูเรียบมาก ด้านซ้ายเป็นสีม่วงและด้านขวาเป็นสีเขียว มันมีเครื่องหมายลึกลับอยู่ทั่วและดูพิเศษจริงๆ
ราคาขายคือ… 100,000 หินวิญญาณ!