บทที่ 13 (อ่านฟรีวันที่ 18 เมษายน 2564)
เปลี่ยนจาก สาวกของเทียนจี้จากที่เงียบสงบบนภูเขาใบไม้ร่วง เป็น ………………………….
--------------------------
ตัวประกอบ A ตกตะลึง “เจ้ากำลังล้อข้าเล่นรึเปล่า”
เซิ่นเทียนทำหน้าตาไร้เดียงสา “ข้าเคยพูดไปแล้ว ข้าอยู่ที่นี่เพื่อช่วยเหลือคนที่มีโชคชะตาร่วมกันกับข้าเท่านั้น เจ้าไม่ใช่หนึ่งในนั้น ข้าจะล้อเจ้าเล่นอย่างไร”
เซิ่นเทียนจ้องไปที่รัศมีสีขาวบนหัวของ ตัวประกอบ A และส่ายหัว
ห่วยมาก!
เจ้าไม่มีแสงสีเขียวแซมอยู่บนรัศมีของเจ้าด้วยซ้ำและไม่มีภาพฉายโอกาสบังเอิญบนหัวของเจ้า
เจ้ามันไม่มีโชค
เจ้าต้องการให้ข้าช่วยเลือกแร่ดีๆ?
ข้าจะหามันมาได้อย่างไร?
ตัวประกอบ A โกรธมากและกำหมัดแน่น
เซิ่นเทียนเตือนเขาอย่างอ่อนโยนว่า“พี่ชาย เจ้าไม่ควรใช้ความรุนแรงในสวนว่านหลิง ไม่งั้นเจ้าจะถูกปรับนะ”
ปากของ ตัวประกอบ A กระตุก ในท้ายที่สุดเขาก็ถอยออกไป เขาสะสมเงินอย่างยาวนานได้จำนวนหนึ่งดังนั้นจึงเป็นเรื่องน่าเสียดายที่จะต้องเสียค่าปรับไป
“ไอ้พวกต้มตุ๋น! เจ้ารอที่นี่ข้าจะไปเรียกผู้คุ้มกฏมาที่นี่!”
เขาจากไปพร้อมกับคำเตือน
เซิ่นเทียนถอนหายใจและย้ายร้านของเขาไปที่ถนนอื่น
เจ้าต้องการให้ข้ารอที่นี่โดยรู้ว่าเจ้ากำลังจะกลับมาพร้อมกับผู้บคุมกฎของสวนว่านหลิง?
ข้าดูโง่เหมือนกับเจ้าเหรอ?
…
เซิ่นเทียนได้เรียนรู้บทเรียนของเขาและตัดสินใจที่จะไม่พูดมากเกินความจำเป็น
ตราบใดที่ไม่มีภาพฉายบนรัศมีจากคนที่เข้ามาหา เขาก็แค่พูดว่า "ขอโทษที เจ้ากับข้าไม่มีชะตาร่วมกัน"
เขากลายเป็นคนลึกลับและเป็นมืออาชีพมากขึ้นด้วยวิธีนั้น
แม้จะมีหนวดเขาก็ยังหล่อมากและมีออร่าของราชวงศ์อยู่รอบตัวเขา
อย่างช้า ๆ มีคนมารวมตัวกันรอบตัวเขามากขึ้น - ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง
“เจ้าหล่อมาก ~ หนวดของเจ้าทำให้เจ้าดูเหมือนมีคิ้วสี่คิ้ว!”
“เจ้ายังเด็กอยู่เลย? เจ้ามีคนรักรึยัง? ทำไมไม่ลองคบกับข้าดูล่ะ ~”
“เราจะไม่มีโชคชะตาร่วมกันได้อย่างไร ~ เราสามารถสร้างชะตากรรมร่วมกันได้อย่างช้าๆใช่มั้ย ~”
“เจ้าต้องเหนื่อยจากการทำงานแน่ๆ ~ ให้ข้าช่วยเจ้าเช็ดเหงื่อนะ ~”
…
เซิ่นเทียนรู้สึกหนักใจมากท่ามกลางเสียงเหล่านี้
อย่างที่ข้าบอกพวกเจ้าไป พวกเจ้าไม่มีโชคชะตาร่วมกับข้า!
ทำไมพวกเขายังมารุมล้อมข้าอีก? พวกเขาทำให้ข้าไม่สามารถมองหาผู้ที่ถูกเลือกจากโชคชะตาได้!
จนถึงตอนนี้ข้าทำอะไรไปบ้าง มันจะมีเหงื่อตรงไหน?
ฮ่า ๆ!
ลูกค้ารายแรกของข้ายังไม่มีเลย ใบหน้าของข้าจะถูกเจ้าเช็ดแล้ว!
ขันทีกุ้ยและฉินเกายืนอยู่ที่ด้านข้างด้วยความชื่นชม
ช่างสมเป็นฝ่าบาทจริงๆ ช่างปราดเปรื่องยิ่งนัก
ดู!
ทำตัวเป็นวีรบุรุษช่วยสาวงาม?
เขาต้องทำไหม?
ตราบใดที่องค์ชายนั่งอยู่นิ่งๆก็มีผู้หญิงโยนตัวเข้าสู่อ้อมแขนเขาแล้ว!
แม้ว่าจะไม่มีใครสวยก็เถอะ แต่พวกนางก็ยังเป็นผู้หญิง!
เหล่าชายมุงทุกคนต่างพากันอิจฉาเซิ่นเทียน
ขันทีกุ้ยดีใจมาก “ตอนนี้องค์ชายเติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว! พระสนมหลานต้องมีความสุขมากแน่ๆถ้าพระนางทรงรับรู้!”
…
ทันใดนั้นเสียงตะโกนก็ดังมาจากท้ายถนน
“ฮ่าๆ! ข้าจับเจ้าได้คาหนังคาเขา! แต่เจ้ายังคงพยายามที่จะหนี?”
เซิ่นเทียนหันหน้าไปทางต้นเสียงและเขาก็เห็น - ตัวประกอบ A ที่เขาได้พบก่อนหน้านี้ เขาเป็นเดินนำหน้าผู้เฝึกตนในเสื้อคลุมเต๋า
ผู้นำของผู้ฝึกตนเหล่านี้คือเด็กสาวอายุประมาณ 15 หรือ 16 ปีและมีใบหน้าอ่อนหวาน
มีอะโฮะเงะ(งผมที่มีลักษณะเป็นกระจุกยื่นออกมาจากศีรษะของตัวละครในการ์ตูนญี่ปุ่น)อยู่ด้านบนของหัวยิ่งทำให้นางดูน่ารักมากขึ้น แม้จะดูเป็นเด็กสาวเยาว์วัย แต่นางกลับมีแรงกดดันที่ทรงพลัง
มันไม่ใช่สิง่ที่ขั้นกลั่นฉีควรมี อย่างน้อยนางก็อนู่ในขอบเขตรากฐาน!
“ฝ่าบาทโปรดระวัง ระดับการฝึกตนของเด็กหญิงนางนี้สูงมาก ข้ากลัวว่าข้าจะเอาชนะนางไม่ได้!” ขันทีกุ้ยมีสีหน้าจริงจัง “เราควรเปิดเผยตัวของเรา!”
พวกเขายังคงอยู่ที่อาณาจักรแห่งเพลิงและฐานะหนึ่งในราชวงศ์ขององค์ชายยังคงใช้ได้ แม้ว่า เซิ่นเทียนอาจทำผิดไปบ้าง แต่การลงโทษก็ไม่ควรรุนแรงมากนัก
เซิ่นเทียนยิ้ม "ไม่เป็นไร. พวกเขาไม่สามารถทำอะไรข้าได้”
ในไม่ช้าพวกเขาก็เดินมาถึงหน้า เซิ่นเทียน
ตัวประกอบ Aชี้ไปที่เซิ่นเทียนและตะโกนว่า“นางฟ้าหลี่โปรดดู! มันคือชายที่หลอกลวงทุกคนในสวนว่านหลิง!”
หญิงสาวมองไปที่ เซิ่นเทียนและดวงตาของนางก็สว่างขึ้น แม้แต่อะโฮะเงะของนางก็เริ่มกระเด้งไปมาบนหัวของนาง
นางพึมพำ“เขาดูไม่เหมือนคนเลวเลย! เจ้าแน่ใจหรือไม่”
ตัวประกอบ A กล่าวว่า“นางฟ้า หลี่! โปรดอย่าหลงเชื่อรูปลักษณ์ของเขา! ข้าสาบาน! เขาเป็นนักต้มตุ๋น!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้สาว ๆ ก็ไม่พอใจมาก
"อะไร? ที่รักของข้าหล่อมาก! เขาจะเป็นนักต้มตุ๋นได้ยังไง”
“เจ้ากล่าวเกินไปแล้ว! เขาหาแร่ให้กับผู้ที่มีโชคชะตาร่วมกับเขา เราทุกคนเต็มใจที่จะถูกเขา หลอก แต่เขาก็เมินพวกเราทั้งหมด เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใคร”
"ถูกตัอง! คนที่มีหน้าตาหล่อเหลาแบบนี้ จะโกหกได้อย่างไร!”
“เจ้ามีคิดบ้างไหมว่าเขาใจกว้างแค่ไหน? ทำไมเจ้าถึงกล้ากล่าวหาเขา”
“เจ้าแค่อิจฉา ที่รักของข้า ไปตายซะ!”
"ไปตายซะ!"
"ไปตายซะ!"
"ไปตายซะ!"
…
เมื่อเห็นว่าสถานการณ์เริ่มไม่สามารถควบคุมได้ในที่สุดหญิงสาวก็พูดขึ้น “เงียบลง!”
ไม่มีใครสนใจนาง - มันยังคงยุ่งเหยิง
แซ่บ!
ผู้คุมกฎที่อยู่เบื้องหลังหญิงสาวชักดาบออกมา แรงกดดันจากดาบหลายสิบเล่มแผ่ออกกว้างปกลุมทั่วท้องฟ้าขณะที่พวกเขาชี้ดาบไปที่ฝูงชน
ทุกคนเงียบลงทันที
การใช้กำลังเป็นวิธีที่รวดเร็วและน่าเชื่อถือกว่าในการทำให้ผู้คนสนใจฟัง
หญิงสาวเดินไปหาเซิ่นเทียนและยิ้ม “ข้ามีนามว่า หลี่ เหลียนเอ๋อร์ ศิษย์จากถ้ำสวรรค์สีขาว ข้าขอทราบนามของเจ้าได้ไหม”
เซิ่นเทียนรู้สึกโชคดีมากที่เขาไม่ได้ใช้ชื่อของ เซิ่นโอวในครั้งนี้
ถ้าไม่นางจะเปิดเผยเขาทันที
เขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ และพูดอย่างเคร่งขึมว่า“ข้าชื่อเซิ่นโอวเทียน ศิษย์สายตรงของเทียนจี้จากหุบเหวลึกแห่งภูเขาอากินะ ยินดีที่ได้รู้จัก.”
“ภูเขาอากินะ? หุบเหวลึก?เทียนจี้?”
หลี่เหลียนเอ๋อเกาหัวของนางและพูดว่า“อืมม ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน!”
ตัวประกอบ A เย้ยหยันและพูดว่า“มันแค่พวกขี้โกหก! อย่าเชื่อมัน นางฟ้าหลี่!”
เซิ่นเทียนตอบอย่างใจเย็น“อาจารย์ของข้าไม่ชอบมีสุงสิงกับผู้อื่น ท่านชอบอยู่อย่างโดดเดี่ยว เป็นเรื่องปกติที่เจ้าไม่เคยได้ยินนามของท่านมาก่อน”
"ข้าเห็นด้วย…"
หลี่เหลียนเอ๋อร์ไม่สงสัยในเรื่องนี้เนื่องจากถิ่นทุรกันดารตะวันออกมีขนาดใหญ่เกินไป นอกเหนือจากถ้ำสวรรค์ 36 แห่งและดินแดนชั้นสูงทั้ง 72 แห่งแล้ว ยังมีสำนักอื่น ๆ อีกนับไม่ถ้วนที่สร้างจากผู้ฝึกตนคนเดียว
ดังนั้น "เทียนจี้จากหุบเหวลึกแห่งภูเขาอากินะ " จะไม่เป็นที่รู้จัก นางจึงไม่น่าแปลกใจเลย
สิ่งที่นางต้องการยืนยันคือ เซิ่นเทียนคนนี้เป็นนักต้มตุ๋นหรือไม่
หลี่เหลียนเอ๋อร์มองไปที่เซิ่นเทียนและถามว่า“เจ้ารู้วิธีหาหินวิญญาณภายในแร่วิญญาณใช่ไหม?”
เซิ่นเทียนตอบอย่างมั่นใจ“แน่นอน”
"พิสูจน์สิ."
“ถ้าเจ้าเต็มใจ ข้าจะช่วยหาแร่ดีๆให้”
หลี่เหลียนเอ๋อร์มองไปที่ป้ายที่เซิ่นเทียนตั้งขึ้นและรู้สึกสับสน “แต่เจ้าบอกว่า จะหาให้คนที่มีโชคชะตาร่วมกับเจ้า”
เซิ่นเทียนขยิบตาให้ หลี่ เหลียนเอ๋อร์และตอบกลับ “อืม…มีโชคชะตาระหว่างเรา!”